วิธีกำจัดฝุ่นในคอนโดแบบง่ายๆ ให้สะอาดหมดจด

แม้แต่ตึกสูงอย่างคอนโดมิเนียมก็มีโอกาสเจอฝุ่นได้ไม่แพ้บ้านและที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่ด้วยความที่คอนโดเป็นห้องที่มีพื้นที่จำกัด เน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบพื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุด จึงทำให้การทำความสะอาดยากขึ้นเพราะมีซอกมุมที่ฝุ่นสามารถเข้าถึงได้มากกว่าเดิม ก่อนที่เราจะไปจัดการเจ้าฝุ่นตัวร้ายที่คอยมากวนใจ เรามาไขความลับเรื่องฝุ่นๆ กันก่อน หลังจากนั้น Seekster จะแชร์เคล็ดลับ วิธีกำจัดฝุ่นในคอนโดแบบง่ายๆ ให้สะอาดหมดจด แม้ในซอกที่เข้าถึงยากให้กับทุกคนต่อไป
ฝุ่นมาจากไหน ???
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมน้า… เราก็ทำความสะอาดห้องทุกวัน แต่ฝุ่นไม่หายไปสักทีหรือบางทีมีเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฝุ่น เป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมาก ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้มันสามารถเข้าห้องเราได้จากหลายๆ ทาง เช่น หน้าต่าง, เสื้อผ้า, แป้ง หรือแม้กระทั้งการฉีกกระดาษ และวัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่นต่างๆ อีกมากมาย โดยเจ้าไรฝุ่นจะชอบซ่อนตัวอยู่ตามที่อับชื้นมืดมิดไร้แสงสว่าง
60% ของฝุ่นที่อยู่ในห้องนั้นมาจากข้างนอกห้อง! ฉะนั้นอย่าเปิดประตูทิ้งไว้เมื่อไม่จำเป็น เว้นแต่เพื่อระบายอากาศในยามเช้าหรือหลังฝนตกที่ฝุ่นไม่ค่อยฟุ้งกระจาย ไม่ใส่รองเท้าเข้าห้อง ไม่ใช้วัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่นในห้อง เช่น โซฟาผ้า ตุ๊กตา จำนวนมาก! และที่สำคัญคือควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ฝุ่นชอบไปอยู่ที่ไหน!
ซอกตู้/มุมห้อง
ปกติแล้วฝุ่นมันจะไปกองกันอยู่ตรงนี้เยอะ อย่างที่เรารู้กันว่าฝุ่นมีน้ำหนักเบา ลอยตามลม ดังนั้นเมื่อเราเคลื่อนไหว เดินไปเดินมา ทำให้เกิดกระแสลม ฝุ่นที่อยู่ในบริเวณนั้นก็จะฟุ้งขึ้นมาและจะลอยไปอยู่ที่จุดที่ไม่มีกระแสลม ฝุ่นจะตกลงมาและสะสมอยู่บริเวณนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงพบฝุ่นอยู่จุด “หลังตู้ ซอกตู้ ใต้เตียง มุมห้อง”
จอทีวี/จอคอมพิวเตอร์
เกิดจากไฟฟ้าสถิต ปกติแล้วพวกสสารต่างๆ รวมถึงฝุ่นจะตกลงบนพื้นด้วยแรงโน้มถ่วง อ้าว?? แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์และทีวีมันก็ตั้งฉากกับพื้น แล้วทำไมมันยังมีฝุ่นมาจับเต็มจอเลย เนื่องจากจอคอมพิวเตอร์และทีวีมีแรงไฟฟ้าสถิตไงล่ะ! จึงดูดฝุ่นให้ไปติดนั่นเอง ☹
วิธีกำจัดฝุ่น
จริงแล้วๆ การกำจัดฝุ่นนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นปัด,เป่า,เช็ด ,ใช้เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น ซึ่งวิธีการใช้เครื่องดูดฝุ่น เป็นวิธียอดนิยม หากใครสะดวกวิธีนี้ จะต้องเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและดี เนื่องจากหากเครื่องดูดฝุ่นมีฟิลเตอร์กรองฝุ่นไม่ดีพอ ฝุ่นก็จะฟุ้งกระจายลอยอยู่ในอากาศอยู่ดี
“การเช็ดเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่โอกาสจะเกิดฝุ่นฟุ้งน้อยที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการเช็ดด้วย”
Seekster จึงมาแนะนำวิธีวิธีกำจัดฝุ่นในคอนโดแบบง่ายๆ ด้วยวิธีการเช็ดตามจุดต่างๆดังนี้
1. เริ่มจากการทำความสะอาดพื้นที่สูงและหลังตู้

ก่อนอื่นเริ่มทำความสะอาดจากพื้นที่สูงอย่างเพดานด้วยการกวาดหยากไย่และฝุ่นที่สะสมอยู่ตามขอบมุม จากนั้นจึงเช็ดฝุ่นจากหลังตู้ หลังชั้นวางของ หรือหลังตู้เย็นออกให้สะอาดด้วยไม้กวาดขนไก่หรือผ้าขี้ริ้ว จากนั้นจึงเช็ดซ้ำด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ
เคล็ดลับ – หากเป็นฝ้าเพดานและผนังปูนทั่วไปสามารถทำความสะอาดด้วยไม่กวาดหยากไย่หรือไม้กวาดขนไก่ได้เลย แต่ถ้าต้องการทำความสะอาดผนังวอลเปเปอร์ ควรใช้ไม้กวาดขนไก่ที่มีขนอ่อนนุ่มปัดฝุ่นก่อน จากนั้นจึงเช็ดทำความสะอาดด้วยฟองน้ำชุบน้ำสบู่หรือน้ำอุ่นผสมแอมโมเนียเล็กน้อยเพื่อขจัดคราบและฝุ่น
2. เช็ดฝุ่นจากทุกซอกมุมของชั้นวางของหรือเคาเตอร์

ทำความสะอาดชั้นวางของและเคาเตอร์ในคอนโดไปทีละส่วนโดยการนำของที่อยู่บนชั้นออกมาก่อนแล้วจึงเช็ดชั้นวางให้สะอาด จากนั้นจึงค่อยจัดเรียงของกลับไปในชั้นเหมือนเดิมแล้วจึงปัดฝุ่นด้านหลังชั้นวางของ ขณะเราทำความสะอาดขั้นตอนนี้ก็ถือโอกาสเช็ดฝุ่นจากสิ่งของบนชั้นไปพร้อมกันได้เลย 😊
เคล็ดลับ - ชั้นวางของหนัก เช่น ชั้นหนังสือหรือตู้โชว์ควรวางให้ห่างจากผนังเล็กน้อยเพื่อให้ประหยัดแรงและเวลา ไม่ต้องลากชั้นเข้าออกบ่อย ๆ เวลาต้องการปัดฝุ่นที่ด้านหลัง ตัวช่วยอีกอย่างในการทำความสะอาดสำหรับมุมที่มีฝุ่นเยอะนั้นก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทุกบ้านต้องมีอยู่แล้วนั่นเอง โดยมีความสามารถที่ทำให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย! ด้วยการผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ใน 4 ของน้ำเปล่า ใส่ฟ็อกกี้ฉีดบริเวณฝุ่น แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด เท่านี้ก็จะช่วยลดฝุ่นฟุ้งเมื่อทำความสะอาดแถมได้กลิ่นหอมติดบ้านอีกด้วย
3. เช็ดตู้ ถูพื้น
เริ่มเช็ดตู้และถูพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เพื่อจัดการฝุ่นที่อาจเล็ดรอดไปและป้องกันไรฝุ่นที่จับอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ
เคล็ดลับ - ทำความสะอาดพื้นกระเบื้องให้แวววาวได้ง่าย ๆ แค่ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูเช็ดแล้วปล่อยให้แห้ง จากนั้นถูซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้นตามปกติ
– พื้นปูนแบบลอฟท์สามารถใช้น้ำผสมผงซักฟอกเจือจางหรือน้ำกับน้ำยาถูพื้นทั่วไปถูได้เลย แต่ห้ามใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดเด็ดขาดนะคะเพราะอาจทำให้พื้นคอนกรีตเสียหายได้
4. เช็ดกระจก

กระจกเป็นส่วนที่หลายคนมองข้ามเมื่อต้องทำความสะอาดคอนโด แต่ความจริงแล้วตามขอบมุมหรือกรอบหน้าต่างล้วนแต่เป็นที่ที่มีฝุ่นสะสมอยู่ ดังนั้นอย่าลืมเช็ดกระจกและใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดตามกรอบหน้าต่างด้วย
เคล็ดลับ – อย่าปล่อยให้น้ำไหลหยดลงตามกรอบหน้าต่างโดยไม่เช็ดให้แห้ง เพราะอาจทำให้เกิดสนิมหรือกรอบหน้าต่างผุพังโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ทางที่ดีควรระวังน้ำยาทำความสะอาดไหลซึมลงที่กรอบหน้าต่าง หรือจะใช้ผ้าขี้ริ้วหมั่นซับน้ำที่ไหลลงมาให้แห้งก่อนก็ได้
5. ผ้าม่าน
ผ้าม่านเป็นสิ่งสะสมของฝุ่นได้เป็นอย่างดี และทำความสะอาดยาก ดังนั้นหากต้องการให้บ้านสะอาดจากฝุ่นและไม่อยากมานั่งซักผ้าม่านบ่อยๆ แนะนำให้ลอง ใช้มู่ลี้แทนผ้าม่าน เพราะทำความสะอาดง่าย ทำความสะอาดได้บ่อย โดยไม่ต้องยุ่งยาก
เคล็ดลับ – อาวุธลับที่หลายคนอาจจะไม่รู้ เพียงนำผ้าสะอาด หรือผ้าไมโครไฟเบอร์มาพันบริเวณที่คีบอาหารทั้งสองฝั่ง จากนั้นก็นำไปหนีบรูดม่านมูลี่ทีละเส้นได้สบายๆ ทำให้ทำความสะอาดผ้าม่านง่ายขึ้นเลยล่ะ!
6. เช็ดเฟอร์นิเจอร์และซักทำความสะอาดเครื่องนอน
สุดท้ายอย่าลืมเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ขอบเตียงและหัวเตียง รวมถึงซักทำความสะอาดเครื่องนอนที่เป็นจุดสะสมฝุ่นอีกจุดหนึ่งด้วยนะคะ ซึ่งการทำความสะอาดเตียงนอนประจำ เตียงนอนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นเลย ดังนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดเตียงนอนอย่างเป็นประจำ เช่น นำผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนไปซักให้สะอาดเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
เคล็ดลับ – ผ้าไมโครไฟเบอร์ เหมาะกับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ผ้าขนหนูทั่วไป นั่นเพราะว่าผ้าไมโครไฟเบอร์มีลักษณะที่อ่อนนุ่ม อุ้มน้ำที่ผิวผ้าได้ดีและเบาบาง ทำให้ซับและบิดน้ำออกได้ง่าย ที่สำคัญตัวเส้นใยที่ใช้ผลิตนั้นยังมีประมีประจุไฟฟ้ารวมทั้งมีขนาดเล็กทำให้เข้าถึงจุดต่าง ๆ ได้ละเอียด ช่วยดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยมกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ ช่วยเช็ดฝุ่นในบ้านให้สะอาดได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งถ้าใช้ผ้าที่มีขนหลุดหลุ่ยอาจจะเป็นการเพิ่มฝุ่นได้ และควรเช็ดด้วยผ้าเปียก เพราะฝุ่นจะหลุดออกได้ดีกว่าผ้าแห้ง และไม่ควรใช้ผ้าที่สกปรกแล้วเช็ดที่อื่นหรือที่เดิมซ้ำไปซ้ำมา เพราะจะทำให้ฝุ่นไปติดตรงอื่นด้วย
– หากปลอกหมอนหรือผ้าปูของเรา เกิดคราบฝั่งแน่น ให้นำเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำไปป้ายที่คราบ ผึ่งแดดให้แห้งแล้วใช้แปรงชุบน้ำเย็นขัดออก จากนั้นนำไปซักตามปกติ เท่านี้ก็สามารถขจัดคราบและรอยเปื้อนฝังแน่นบนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนของเราได้สะอาดเอี่ยมอ่อง
ไม่ว่าเราจะบ้านของเราจะดูสะอาดดีแค่ไหน แต่ใช่ว่าฝุ่นนั้นจะไม่มี เพราะเราไม่สามารถจะมองเห็นมันได้ วิธีที่ดีที่สุด คือเราควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ถึงจะเป็นวิธีที่เหนื่อยแต่ก็เป็นทางออกที่ดีและป้องกันการเกิดภูมิแพ้อีกด้วย สุดท้ายนี้อย่าลืมมาอัพเดทเทคนิคและเกร็ดความรู้ดี ๆ จาก
Seekster กันนะคะ ^^
วิธีกำจัดฝุ่นในคอนโดแบบง่ายๆ ให้สะอาดหมดจด
แม้แต่ตึกสูงอย่างคอนโดมิเนียมก็มีโอกาสเจอฝุ่นได้ไม่แพ้บ้านและที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่ด้วยความที่คอนโดเป็นห้องที่มีพื้นที่จำกัด เน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบพื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุด จึงทำให้การทำความสะอาดยากขึ้นเพราะมีซอกมุมที่ฝุ่นสามารถเข้าถึงได้มากกว่าเดิม ก่อนที่เราจะไปจัดการเจ้าฝุ่นตัวร้ายที่คอยมากวนใจ เรามาไขความลับเรื่องฝุ่นๆ กันก่อน หลังจากนั้น Seekster จะแชร์เคล็ดลับ วิธีกำจัดฝุ่นในคอนโดแบบง่ายๆ ให้สะอาดหมดจด แม้ในซอกที่เข้าถึงยากให้กับทุกคนต่อไป
ฝุ่นมาจากไหน ???
เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมน้า… เราก็ทำความสะอาดห้องทุกวัน แต่ฝุ่นไม่หายไปสักทีหรือบางทีมีเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฝุ่น เป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมาก ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้มันสามารถเข้าห้องเราได้จากหลายๆ ทาง เช่น หน้าต่าง, เสื้อผ้า, แป้ง หรือแม้กระทั้งการฉีกกระดาษ และวัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่นต่างๆ อีกมากมาย โดยเจ้าไรฝุ่นจะชอบซ่อนตัวอยู่ตามที่อับชื้นมืดมิดไร้แสงสว่าง
60% ของฝุ่นที่อยู่ในห้องนั้นมาจากข้างนอกห้อง! ฉะนั้นอย่าเปิดประตูทิ้งไว้เมื่อไม่จำเป็น เว้นแต่เพื่อระบายอากาศในยามเช้าหรือหลังฝนตกที่ฝุ่นไม่ค่อยฟุ้งกระจาย ไม่ใส่รองเท้าเข้าห้อง ไม่ใช้วัสดุที่ทำให้เกิดฝุ่นในห้อง เช่น โซฟาผ้า ตุ๊กตา จำนวนมาก! และที่สำคัญคือควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ฝุ่นชอบไปอยู่ที่ไหน!
ซอกตู้/มุมห้อง
ปกติแล้วฝุ่นมันจะไปกองกันอยู่ตรงนี้เยอะ อย่างที่เรารู้กันว่าฝุ่นมีน้ำหนักเบา ลอยตามลม ดังนั้นเมื่อเราเคลื่อนไหว เดินไปเดินมา ทำให้เกิดกระแสลม ฝุ่นที่อยู่ในบริเวณนั้นก็จะฟุ้งขึ้นมาและจะลอยไปอยู่ที่จุดที่ไม่มีกระแสลม ฝุ่นจะตกลงมาและสะสมอยู่บริเวณนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงพบฝุ่นอยู่จุด “หลังตู้ ซอกตู้ ใต้เตียง มุมห้อง”
จอทีวี/จอคอมพิวเตอร์
เกิดจากไฟฟ้าสถิต ปกติแล้วพวกสสารต่างๆ รวมถึงฝุ่นจะตกลงบนพื้นด้วยแรงโน้มถ่วง อ้าว?? แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์และทีวีมันก็ตั้งฉากกับพื้น แล้วทำไมมันยังมีฝุ่นมาจับเต็มจอเลย เนื่องจากจอคอมพิวเตอร์และทีวีมีแรงไฟฟ้าสถิตไงล่ะ! จึงดูดฝุ่นให้ไปติดนั่นเอง ☹
วิธีกำจัดฝุ่น
จริงแล้วๆ การกำจัดฝุ่นนั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นปัด,เป่า,เช็ด ,ใช้เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น ซึ่งวิธีการใช้เครื่องดูดฝุ่น เป็นวิธียอดนิยม หากใครสะดวกวิธีนี้ จะต้องเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงและดี เนื่องจากหากเครื่องดูดฝุ่นมีฟิลเตอร์กรองฝุ่นไม่ดีพอ ฝุ่นก็จะฟุ้งกระจายลอยอยู่ในอากาศอยู่ดี
1. เริ่มจากการทำความสะอาดพื้นที่สูงและหลังตู้
ก่อนอื่นเริ่มทำความสะอาดจากพื้นที่สูงอย่างเพดานด้วยการกวาดหยากไย่และฝุ่นที่สะสมอยู่ตามขอบมุม จากนั้นจึงเช็ดฝุ่นจากหลังตู้ หลังชั้นวางของ หรือหลังตู้เย็นออกให้สะอาดด้วยไม้กวาดขนไก่หรือผ้าขี้ริ้ว จากนั้นจึงเช็ดซ้ำด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ
เคล็ดลับ – หากเป็นฝ้าเพดานและผนังปูนทั่วไปสามารถทำความสะอาดด้วยไม่กวาดหยากไย่หรือไม้กวาดขนไก่ได้เลย แต่ถ้าต้องการทำความสะอาดผนังวอลเปเปอร์ ควรใช้ไม้กวาดขนไก่ที่มีขนอ่อนนุ่มปัดฝุ่นก่อน จากนั้นจึงเช็ดทำความสะอาดด้วยฟองน้ำชุบน้ำสบู่หรือน้ำอุ่นผสมแอมโมเนียเล็กน้อยเพื่อขจัดคราบและฝุ่น
2. เช็ดฝุ่นจากทุกซอกมุมของชั้นวางของหรือเคาเตอร์
ทำความสะอาดชั้นวางของและเคาเตอร์ในคอนโดไปทีละส่วนโดยการนำของที่อยู่บนชั้นออกมาก่อนแล้วจึงเช็ดชั้นวางให้สะอาด จากนั้นจึงค่อยจัดเรียงของกลับไปในชั้นเหมือนเดิมแล้วจึงปัดฝุ่นด้านหลังชั้นวางของ ขณะเราทำความสะอาดขั้นตอนนี้ก็ถือโอกาสเช็ดฝุ่นจากสิ่งของบนชั้นไปพร้อมกันได้เลย 😊
เคล็ดลับ - ชั้นวางของหนัก เช่น ชั้นหนังสือหรือตู้โชว์ควรวางให้ห่างจากผนังเล็กน้อยเพื่อให้ประหยัดแรงและเวลา ไม่ต้องลากชั้นเข้าออกบ่อย ๆ เวลาต้องการปัดฝุ่นที่ด้านหลัง ตัวช่วยอีกอย่างในการทำความสะอาดสำหรับมุมที่มีฝุ่นเยอะนั้นก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทุกบ้านต้องมีอยู่แล้วนั่นเอง โดยมีความสามารถที่ทำให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย! ด้วยการผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ใน 4 ของน้ำเปล่า ใส่ฟ็อกกี้ฉีดบริเวณฝุ่น แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด เท่านี้ก็จะช่วยลดฝุ่นฟุ้งเมื่อทำความสะอาดแถมได้กลิ่นหอมติดบ้านอีกด้วย
3. เช็ดตู้ ถูพื้น
เริ่มเช็ดตู้และถูพื้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เพื่อจัดการฝุ่นที่อาจเล็ดรอดไปและป้องกันไรฝุ่นที่จับอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ
เคล็ดลับ - ทำความสะอาดพื้นกระเบื้องให้แวววาวได้ง่าย ๆ แค่ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูเช็ดแล้วปล่อยให้แห้ง จากนั้นถูซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้นตามปกติ
– พื้นปูนแบบลอฟท์สามารถใช้น้ำผสมผงซักฟอกเจือจางหรือน้ำกับน้ำยาถูพื้นทั่วไปถูได้เลย แต่ห้ามใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรดเด็ดขาดนะคะเพราะอาจทำให้พื้นคอนกรีตเสียหายได้
4. เช็ดกระจก
กระจกเป็นส่วนที่หลายคนมองข้ามเมื่อต้องทำความสะอาดคอนโด แต่ความจริงแล้วตามขอบมุมหรือกรอบหน้าต่างล้วนแต่เป็นที่ที่มีฝุ่นสะสมอยู่ ดังนั้นอย่าลืมเช็ดกระจกและใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดตามกรอบหน้าต่างด้วย
เคล็ดลับ – อย่าปล่อยให้น้ำไหลหยดลงตามกรอบหน้าต่างโดยไม่เช็ดให้แห้ง เพราะอาจทำให้เกิดสนิมหรือกรอบหน้าต่างผุพังโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ทางที่ดีควรระวังน้ำยาทำความสะอาดไหลซึมลงที่กรอบหน้าต่าง หรือจะใช้ผ้าขี้ริ้วหมั่นซับน้ำที่ไหลลงมาให้แห้งก่อนก็ได้
5. ผ้าม่าน
ผ้าม่านเป็นสิ่งสะสมของฝุ่นได้เป็นอย่างดี และทำความสะอาดยาก ดังนั้นหากต้องการให้บ้านสะอาดจากฝุ่นและไม่อยากมานั่งซักผ้าม่านบ่อยๆ แนะนำให้ลอง ใช้มู่ลี้แทนผ้าม่าน เพราะทำความสะอาดง่าย ทำความสะอาดได้บ่อย โดยไม่ต้องยุ่งยาก
เคล็ดลับ – อาวุธลับที่หลายคนอาจจะไม่รู้ เพียงนำผ้าสะอาด หรือผ้าไมโครไฟเบอร์มาพันบริเวณที่คีบอาหารทั้งสองฝั่ง จากนั้นก็นำไปหนีบรูดม่านมูลี่ทีละเส้นได้สบายๆ ทำให้ทำความสะอาดผ้าม่านง่ายขึ้นเลยล่ะ!
6. เช็ดเฟอร์นิเจอร์และซักทำความสะอาดเครื่องนอน
สุดท้ายอย่าลืมเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ขอบเตียงและหัวเตียง รวมถึงซักทำความสะอาดเครื่องนอนที่เป็นจุดสะสมฝุ่นอีกจุดหนึ่งด้วยนะคะ ซึ่งการทำความสะอาดเตียงนอนประจำ เตียงนอนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นเลย ดังนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดเตียงนอนอย่างเป็นประจำ เช่น นำผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนไปซักให้สะอาดเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
เคล็ดลับ – ผ้าไมโครไฟเบอร์ เหมาะกับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ผ้าขนหนูทั่วไป นั่นเพราะว่าผ้าไมโครไฟเบอร์มีลักษณะที่อ่อนนุ่ม อุ้มน้ำที่ผิวผ้าได้ดีและเบาบาง ทำให้ซับและบิดน้ำออกได้ง่าย ที่สำคัญตัวเส้นใยที่ใช้ผลิตนั้นยังมีประมีประจุไฟฟ้ารวมทั้งมีขนาดเล็กทำให้เข้าถึงจุดต่าง ๆ ได้ละเอียด ช่วยดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยมกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ ช่วยเช็ดฝุ่นในบ้านให้สะอาดได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งถ้าใช้ผ้าที่มีขนหลุดหลุ่ยอาจจะเป็นการเพิ่มฝุ่นได้ และควรเช็ดด้วยผ้าเปียก เพราะฝุ่นจะหลุดออกได้ดีกว่าผ้าแห้ง และไม่ควรใช้ผ้าที่สกปรกแล้วเช็ดที่อื่นหรือที่เดิมซ้ำไปซ้ำมา เพราะจะทำให้ฝุ่นไปติดตรงอื่นด้วย
– หากปลอกหมอนหรือผ้าปูของเรา เกิดคราบฝั่งแน่น ให้นำเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำไปป้ายที่คราบ ผึ่งแดดให้แห้งแล้วใช้แปรงชุบน้ำเย็นขัดออก จากนั้นนำไปซักตามปกติ เท่านี้ก็สามารถขจัดคราบและรอยเปื้อนฝังแน่นบนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนของเราได้สะอาดเอี่ยมอ่อง
ไม่ว่าเราจะบ้านของเราจะดูสะอาดดีแค่ไหน แต่ใช่ว่าฝุ่นนั้นจะไม่มี เพราะเราไม่สามารถจะมองเห็นมันได้ วิธีที่ดีที่สุด คือเราควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆ ถึงจะเป็นวิธีที่เหนื่อยแต่ก็เป็นทางออกที่ดีและป้องกันการเกิดภูมิแพ้อีกด้วย สุดท้ายนี้อย่าลืมมาอัพเดทเทคนิคและเกร็ดความรู้ดี ๆ จาก Seekster กันนะคะ ^^