บทความนี้เป็นเทคนิคการรักษาอาการผมร่วง สำหรับผู้หญิงที่มีอาการหนังศีรษะมัน เท่านั้นนะคะ เราใช้แล้วได้ผลจริงๆ เลยอยากบอกต่อ
ส่วนผมร่วงในผู้หญิงจากอาการอื่นๆ เราไม่กล้ารับประกันนะคะ เนื่องจากโรคผมร่วงเกิดจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกันจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอเล่าเรื่องยาวนิดนึงนะคะ ตอนเด็กเราเป็นคนนึงที่มีผมเยอะมาก เรายืดผม ดัดผม และทำสีผม
อยู่มาวันนึง(อายุประมาณ27ปี) เราเริ่มสังเกตว่าผมเราปลิวร่วงลงมาติดที่มือค่ะ ก็ยังไม่ได้เอ่ะใจอะไร ใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ
แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่า เวลาโดนลมแรงๆผ่านหัว ก็จะมีผมร่วงลงมาติดที่แขนบ้าง มือบ้าง เราก็เริ่มไม่สบายใจ
เพราะที่บ้านเรา แม่เราก็ผมร่วงง่าย เรากลัวว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ค่ะ เลยเริ่มปรึกษาคุณแม่ เพราะคุณแม่มีอาการผมร่วงมาก่อน
คุณแม่ก็ซื้อแฮร์โทนิคให้เราตัวนึง มีตัวยาMinoxidill เราลองใช้2เดือน ผลที่ได้คือ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยค่ะ ร่วงจำนวนเท่าเดิม
และไม่มีผมขึ้นใหม่ เวลาผ่านไป เริ่มสังเกตว่า ผมเราบางลงเรื่อยๆ เราก็ไม่รู้จะเริ่มไปต่อยังไงค่ะ จนสุดท้ายตัดสินใจไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชน
ไปที่รพ.แรก คุณหมอวินิจฉัยว่า เราเป็นเหาค่ะ (มีก้อนๆแอบอยู่ในหนังศีรษะ ซึ่งก็มีจริงๆนะคะ เหมือนไข่เหา มีการขูดหนังศีรษะเราไปทดสอบ) เราก็งงๆ ว่าเราไปติดเหามาได้ยังไง คุณหมอก็จ่ายยาแก้เหามาค่ะ (ตอนนั้นรู้สึกอายที่เป็นเหา) เราไปหาคุณหมอทุก1สัปดาห์ เป็นเวลาหลายเดือน รักษาจากเหา ไปเรื่อยๆ อาการเม็ดๆคล้ายเหาก็หายไปค่ะ แต่อาการผมร่วงไม่หายค่ะ คุณหมอบอกต้องรักษาไปเรื่อยๆ แต่เราก็คิดมาก เพราะผมบางลงเรื่อยๆ เลยตัดสินใจไปรพ.ที่2 ปรึกษาคุณหมอเพิ่มอีกท่าน ดูว่าจะได้ทางแก้อื่นเพิ่มเติมไหม ต้องบอกว่าระหว่างที่ไปพบแพทย์สม่ำเสมอเราเริ่มจิตตกค่ะ เราเริ่มสังเกตตัวเอง นั่งอยู่เฉยๆผมก็ร่วงลงมา หลังจากที่ไปหารพ.ที่2 คุณหมอบอกเรามีอาการผมร่วงจริง เลยให้โทนิคของรพ.มาฉีด โทนิคมีส่วนผสมของ MINOXIDILL เราฉีดของรพ.ตัวนี้แล้วมีอาการแพ้ชัดเจนค่ะ คือมีตุ่มเม็ดแดงๆขึ้นที่หนังศีรษะ เลยกลับไปขอคุณหมอเปลี่ยนยาอีกครั้ง คุณหมอเปลี่ยนยาตัวใหม่มาให้ตัวนี้มาเป็นแบบเจล (มีส่วนผสมของMINOXIDILLเหมือนเดิม)
ตัวนี้เราไม่แพ้ แต่ว่ามันเหนียวจนออกไปข้างนอกไม่ได้ แล้วผมเราก็ไม่หยุดร่วงค่ะ เราเลยตัดสินใจไปหาคลีนิคเฉพาะสำหรับคนเป็นโรคผมร่วงค่ะ คุณหมอที่คลีนิคนี้วินิจฉัยว่าเราเป็นโรคเซิฟเดิร์มค่ะ คุณหมอบอกว่า โรคนี้ถ้าเป็นแล้วจะเป็นตลอดชีวิต ต้องดูแลตัวเองตลอด คุณหมอให้กำลังใจว่า เดี๋ยวจะดีขึ้นเรื่อยๆ เราได้ยาทานมา3ตัว เป็นวิตามินรวมต่างๆ ยาสระผม2ตัว (แบบหมัก) เวลาผ่านไปหลายเดือน ผมก็ยังร่วงเหมือนเดิม ช่วงนั้นถือว่าใช้ชีวิตยากมากๆ เราหยิบเส้นผมมานับทุกเส้น เราเห็นว่ามันร่วง เรานับได้วันนึงไม่ต่ำกว่า50เส้น เริ่มนับตั้งแต่ตอนสระผม เป่าผม หวีผม ระหว่างวันที่ร่วงลงมา และอื่นๆที่เราจะเห็นได้ จากนั้นเราก็ลองทุกวิถีทาง ซื้อเซรั่มมาทุกรูปแบบ และปรับวิธีการใช้ชีวิตทกอย่างเท่าที่รู้ได้ คิดได้ เพื่อจะให้ผมไม่ร่วง แล้วเราได้ข้อสรุปดังนี้ค่ะ
1.สำหรับคนที่ผมร่วง ระหว่างวัน ลองจับหนังศีรษะดูค่ะ ว่าหนังศีรษะร้อนไหม ถ้าหนังศีรษะร้อน ผมจะร่วงค่ะ
วิธีแก้คือ ต้องสังเกตอาหารที่เรากินเข้าไป เช่นพริก คืออันนี้จะเป็นแบบหยินหยางนะคะ เป็นส่วนนึงในการซัพพอร๋์ตให้ผมร่วงน้อยลงค่ะ แต่ไม่100%
2.ถ้าคนที่มีอาการผมร่วง จากหนังศีรษะมัน เราบอกเลยค่ะ ไม่มียาสระผมตัวไหนช่วยได้ สิ่งที่ดีที่สุด คือใช้ยาสระผมเด็ก ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีให้น้อยที่สุด (จะช่วยลดผมร่วงได้อีกค่ะ แต่ก็ไม่100%)
3.โทนิคที่มีส่วนผสมของMinoxildil สำหรับคนที่ใช้ได้ผลนะคะ จะต้องอดทนรอให้ผมเก่าร่วงออกก่อน แล้วถึงจะมีผมใหม่ขึ้น ข้อเสียคือ อาจมีอาการแพ้ ขึ้นแต่กับบุคคลไป อาการแพ้รุนแรงสุดคือหัวใจวาย อันนี้ให้ใช้ภายใต้การแนะนำของแพทย์นะคะ อย่าหาซื้อมาใช้เองค่ะ Minoxilillมีหลายความเข้มข้นนะคะ ควรเลือกจากความเข้มข้นต่ำก่อน เพราะถ้าใช้อันที่เปอร์เซ็นต์สูงแล้ว จะกลับไปใช้เปอร์เซ็นต์ต่ำยาก ร่างกายเราจะปรับตัวให้ดื้อยาค่ะ และผมที่ขึ้นใหม่จะเป็นผมเส้นเล็กๆนะคะ เอานี้เตรียมใจไว้ก่อนเลยค่ะ จะไม่ดกดำเหมือนเดิม
4.ควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผมทุกชนิด (หัวฟูดีกว่าไม่มีผมนะคะ) ครีมนวดจะทำให้ผมหนักขึ้น และร่วงได้ง่ายขึ้นค่ะ
5.ควรสระผมด้วยน้ำเย็นค่ะ ไม่ทำลายหรือไปกระตุ้นหนังศีรษะเพิ่ม (สตาฟผมให้อยู่แบบนั้น)
6.หลังสระผม ควรเป่าผมให้แห้งค่ะ (ใช้ไดร์เป่าแบบเย็น) ต้องแห้งสนิทแล้วค่อยเข้านอนนะคะ หากผมชื้นๆ เรานอนทับไป เชื้อราจะมาหาเราค่ะ
สำคัญมาก ถ้ามีเชื้อราที่หนังศีรษะแล้วแก้ไขยากมากกกกค่ะ (เป็นตลอดชีวิต อ่อนแอเมื่อไหร่เชื้อราจะกลับมา)
ต่อมาเป็นขั้นตอนสรุปการแก้ปัญหาของเรานะคะ
1.สระผมทุกวันตอนก่อนนอน วันละ1รอบ ยาสระผมใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ แต่ให้เน้นยาสระผมเด็ก หรือยาสระผมธรรมชาติ ตอนสระเน้นนวดๆที่หนังศีรษะ ไม่เกานะคะ
2.เราใช้แฮร์โทนิคยี่ห้อนึง หลังสระผมเสร็จ (ถ้าสนใจสอบถามหลังไมด์มาได้ค่ะ ขอไม่บอกยี่ห้อ เดี๋ยวเป็นการขายของค่ะ เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย)
3.เป่าผมให้แห้ง ย้ำต้องแห้งสนิทก่อนนอนนะคะ
4.ตื่นเช้ามา ค่อยหวีผมค่ะ โดยใช้หวีซี่ห่างๆนะคะ (ซื้อได้ที่ร้าน20บาททั่วไปค่ะ) หวีที่ปลายผมก่อน จนไม่มีผมติด ค่อยหวีมาที่โคนผม เพื่อลดแรงดึงหนังศีรษะค่ะ
5.ลองสังเกตอาการค่ะ จะพบว่าผมร่วงน้อยลงเกือบ100%
เพื่อนๆท่านไหน อยากสอบถามขั้นตอนการตรวจรักษาที่รพ., ค่าใช้จ่าย และอื่นๆ หลังไมด์มาสอบถามกันได้ค่ะ หรือแชร์ในนั้ได้ค่ะ
ปัจจุบันนี้ผมเราหยุดร่วง100%แล้วนะคะ ผมใหม่ค่อยๆขึ้นแล้วค่ะ แข็งแรง เกือบกลับมาเป็นปกติแล้วค่ะ
ปล.วิธีของเราได้ผลสำหรับคนหนังศีรษะมันเท่านั้นนะคะ คนหนังศีรษะแห้ง เราไม่แน่ใจค่ะ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม
หลักการแก้ปัญหาของเราคือ ต้องหยุดผมร่วงให้ได้ก่อนค่ะ พอผมใหม่ขึ้นยังไงก็เต็มหัวค่ะ ถ้าเน้นแต่ผมใหม่ขึ้น แล้วไม่แก้ที่ปัจจัยการร่วง
ยังไงก็ผมบางค่ะ กว่าผมจะขึ้น ค่อยๆขึ้น แต่ตอนร่วงนี้ ลงลิฟท์ร่วงเลยค่ะ แนะนำให้แก้ปัจจัยให้หยุดร่วงก่อนนะคะ เชื่อเราค่ะ เราอยู่กับโรคนี้มา6ปีละ
ปัจจุบันนี้มีความสุขขึ้นเยอะค่ะ
วิธีแก้ปัญหาผมร่วง สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาหนังศีรษะมันค่ะ เราเป็นเพิ่งหาย ขอแชร์ต่อนะคะ
ส่วนผมร่วงในผู้หญิงจากอาการอื่นๆ เราไม่กล้ารับประกันนะคะ เนื่องจากโรคผมร่วงเกิดจากสาเหตุที่ไม่เหมือนกันจริงๆค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอเล่าเรื่องยาวนิดนึงนะคะ ตอนเด็กเราเป็นคนนึงที่มีผมเยอะมาก เรายืดผม ดัดผม และทำสีผม
อยู่มาวันนึง(อายุประมาณ27ปี) เราเริ่มสังเกตว่าผมเราปลิวร่วงลงมาติดที่มือค่ะ ก็ยังไม่ได้เอ่ะใจอะไร ใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ
แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่า เวลาโดนลมแรงๆผ่านหัว ก็จะมีผมร่วงลงมาติดที่แขนบ้าง มือบ้าง เราก็เริ่มไม่สบายใจ
เพราะที่บ้านเรา แม่เราก็ผมร่วงง่าย เรากลัวว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ค่ะ เลยเริ่มปรึกษาคุณแม่ เพราะคุณแม่มีอาการผมร่วงมาก่อน
คุณแม่ก็ซื้อแฮร์โทนิคให้เราตัวนึง มีตัวยาMinoxidill เราลองใช้2เดือน ผลที่ได้คือ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยค่ะ ร่วงจำนวนเท่าเดิม
และไม่มีผมขึ้นใหม่ เวลาผ่านไป เริ่มสังเกตว่า ผมเราบางลงเรื่อยๆ เราก็ไม่รู้จะเริ่มไปต่อยังไงค่ะ จนสุดท้ายตัดสินใจไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชน
ไปที่รพ.แรก คุณหมอวินิจฉัยว่า เราเป็นเหาค่ะ (มีก้อนๆแอบอยู่ในหนังศีรษะ ซึ่งก็มีจริงๆนะคะ เหมือนไข่เหา มีการขูดหนังศีรษะเราไปทดสอบ) เราก็งงๆ ว่าเราไปติดเหามาได้ยังไง คุณหมอก็จ่ายยาแก้เหามาค่ะ (ตอนนั้นรู้สึกอายที่เป็นเหา) เราไปหาคุณหมอทุก1สัปดาห์ เป็นเวลาหลายเดือน รักษาจากเหา ไปเรื่อยๆ อาการเม็ดๆคล้ายเหาก็หายไปค่ะ แต่อาการผมร่วงไม่หายค่ะ คุณหมอบอกต้องรักษาไปเรื่อยๆ แต่เราก็คิดมาก เพราะผมบางลงเรื่อยๆ เลยตัดสินใจไปรพ.ที่2 ปรึกษาคุณหมอเพิ่มอีกท่าน ดูว่าจะได้ทางแก้อื่นเพิ่มเติมไหม ต้องบอกว่าระหว่างที่ไปพบแพทย์สม่ำเสมอเราเริ่มจิตตกค่ะ เราเริ่มสังเกตตัวเอง นั่งอยู่เฉยๆผมก็ร่วงลงมา หลังจากที่ไปหารพ.ที่2 คุณหมอบอกเรามีอาการผมร่วงจริง เลยให้โทนิคของรพ.มาฉีด โทนิคมีส่วนผสมของ MINOXIDILL เราฉีดของรพ.ตัวนี้แล้วมีอาการแพ้ชัดเจนค่ะ คือมีตุ่มเม็ดแดงๆขึ้นที่หนังศีรษะ เลยกลับไปขอคุณหมอเปลี่ยนยาอีกครั้ง คุณหมอเปลี่ยนยาตัวใหม่มาให้ตัวนี้มาเป็นแบบเจล (มีส่วนผสมของMINOXIDILLเหมือนเดิม)
ตัวนี้เราไม่แพ้ แต่ว่ามันเหนียวจนออกไปข้างนอกไม่ได้ แล้วผมเราก็ไม่หยุดร่วงค่ะ เราเลยตัดสินใจไปหาคลีนิคเฉพาะสำหรับคนเป็นโรคผมร่วงค่ะ คุณหมอที่คลีนิคนี้วินิจฉัยว่าเราเป็นโรคเซิฟเดิร์มค่ะ คุณหมอบอกว่า โรคนี้ถ้าเป็นแล้วจะเป็นตลอดชีวิต ต้องดูแลตัวเองตลอด คุณหมอให้กำลังใจว่า เดี๋ยวจะดีขึ้นเรื่อยๆ เราได้ยาทานมา3ตัว เป็นวิตามินรวมต่างๆ ยาสระผม2ตัว (แบบหมัก) เวลาผ่านไปหลายเดือน ผมก็ยังร่วงเหมือนเดิม ช่วงนั้นถือว่าใช้ชีวิตยากมากๆ เราหยิบเส้นผมมานับทุกเส้น เราเห็นว่ามันร่วง เรานับได้วันนึงไม่ต่ำกว่า50เส้น เริ่มนับตั้งแต่ตอนสระผม เป่าผม หวีผม ระหว่างวันที่ร่วงลงมา และอื่นๆที่เราจะเห็นได้ จากนั้นเราก็ลองทุกวิถีทาง ซื้อเซรั่มมาทุกรูปแบบ และปรับวิธีการใช้ชีวิตทกอย่างเท่าที่รู้ได้ คิดได้ เพื่อจะให้ผมไม่ร่วง แล้วเราได้ข้อสรุปดังนี้ค่ะ
1.สำหรับคนที่ผมร่วง ระหว่างวัน ลองจับหนังศีรษะดูค่ะ ว่าหนังศีรษะร้อนไหม ถ้าหนังศีรษะร้อน ผมจะร่วงค่ะ
วิธีแก้คือ ต้องสังเกตอาหารที่เรากินเข้าไป เช่นพริก คืออันนี้จะเป็นแบบหยินหยางนะคะ เป็นส่วนนึงในการซัพพอร๋์ตให้ผมร่วงน้อยลงค่ะ แต่ไม่100%
2.ถ้าคนที่มีอาการผมร่วง จากหนังศีรษะมัน เราบอกเลยค่ะ ไม่มียาสระผมตัวไหนช่วยได้ สิ่งที่ดีที่สุด คือใช้ยาสระผมเด็ก ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีให้น้อยที่สุด (จะช่วยลดผมร่วงได้อีกค่ะ แต่ก็ไม่100%)
3.โทนิคที่มีส่วนผสมของMinoxildil สำหรับคนที่ใช้ได้ผลนะคะ จะต้องอดทนรอให้ผมเก่าร่วงออกก่อน แล้วถึงจะมีผมใหม่ขึ้น ข้อเสียคือ อาจมีอาการแพ้ ขึ้นแต่กับบุคคลไป อาการแพ้รุนแรงสุดคือหัวใจวาย อันนี้ให้ใช้ภายใต้การแนะนำของแพทย์นะคะ อย่าหาซื้อมาใช้เองค่ะ Minoxilillมีหลายความเข้มข้นนะคะ ควรเลือกจากความเข้มข้นต่ำก่อน เพราะถ้าใช้อันที่เปอร์เซ็นต์สูงแล้ว จะกลับไปใช้เปอร์เซ็นต์ต่ำยาก ร่างกายเราจะปรับตัวให้ดื้อยาค่ะ และผมที่ขึ้นใหม่จะเป็นผมเส้นเล็กๆนะคะ เอานี้เตรียมใจไว้ก่อนเลยค่ะ จะไม่ดกดำเหมือนเดิม
4.ควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผมทุกชนิด (หัวฟูดีกว่าไม่มีผมนะคะ) ครีมนวดจะทำให้ผมหนักขึ้น และร่วงได้ง่ายขึ้นค่ะ
5.ควรสระผมด้วยน้ำเย็นค่ะ ไม่ทำลายหรือไปกระตุ้นหนังศีรษะเพิ่ม (สตาฟผมให้อยู่แบบนั้น)
6.หลังสระผม ควรเป่าผมให้แห้งค่ะ (ใช้ไดร์เป่าแบบเย็น) ต้องแห้งสนิทแล้วค่อยเข้านอนนะคะ หากผมชื้นๆ เรานอนทับไป เชื้อราจะมาหาเราค่ะ
สำคัญมาก ถ้ามีเชื้อราที่หนังศีรษะแล้วแก้ไขยากมากกกกค่ะ (เป็นตลอดชีวิต อ่อนแอเมื่อไหร่เชื้อราจะกลับมา)
ต่อมาเป็นขั้นตอนสรุปการแก้ปัญหาของเรานะคะ
1.สระผมทุกวันตอนก่อนนอน วันละ1รอบ ยาสระผมใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ แต่ให้เน้นยาสระผมเด็ก หรือยาสระผมธรรมชาติ ตอนสระเน้นนวดๆที่หนังศีรษะ ไม่เกานะคะ
2.เราใช้แฮร์โทนิคยี่ห้อนึง หลังสระผมเสร็จ (ถ้าสนใจสอบถามหลังไมด์มาได้ค่ะ ขอไม่บอกยี่ห้อ เดี๋ยวเป็นการขายของค่ะ เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย)
3.เป่าผมให้แห้ง ย้ำต้องแห้งสนิทก่อนนอนนะคะ
4.ตื่นเช้ามา ค่อยหวีผมค่ะ โดยใช้หวีซี่ห่างๆนะคะ (ซื้อได้ที่ร้าน20บาททั่วไปค่ะ) หวีที่ปลายผมก่อน จนไม่มีผมติด ค่อยหวีมาที่โคนผม เพื่อลดแรงดึงหนังศีรษะค่ะ
5.ลองสังเกตอาการค่ะ จะพบว่าผมร่วงน้อยลงเกือบ100%
เพื่อนๆท่านไหน อยากสอบถามขั้นตอนการตรวจรักษาที่รพ., ค่าใช้จ่าย และอื่นๆ หลังไมด์มาสอบถามกันได้ค่ะ หรือแชร์ในนั้ได้ค่ะ
ปัจจุบันนี้ผมเราหยุดร่วง100%แล้วนะคะ ผมใหม่ค่อยๆขึ้นแล้วค่ะ แข็งแรง เกือบกลับมาเป็นปกติแล้วค่ะ
ปล.วิธีของเราได้ผลสำหรับคนหนังศีรษะมันเท่านั้นนะคะ คนหนังศีรษะแห้ง เราไม่แน่ใจค่ะ ว่าจะได้ผลเหมือนกันไหม
หลักการแก้ปัญหาของเราคือ ต้องหยุดผมร่วงให้ได้ก่อนค่ะ พอผมใหม่ขึ้นยังไงก็เต็มหัวค่ะ ถ้าเน้นแต่ผมใหม่ขึ้น แล้วไม่แก้ที่ปัจจัยการร่วง
ยังไงก็ผมบางค่ะ กว่าผมจะขึ้น ค่อยๆขึ้น แต่ตอนร่วงนี้ ลงลิฟท์ร่วงเลยค่ะ แนะนำให้แก้ปัจจัยให้หยุดร่วงก่อนนะคะ เชื่อเราค่ะ เราอยู่กับโรคนี้มา6ปีละ
ปัจจุบันนี้มีความสุขขึ้นเยอะค่ะ