เซียวลี้ปวยตอ : ฤทธิ์มีดสั้น
" เซี่ยวลี้ซิ่งต้อ
(มีดเทวดาของลี้น้อย)
เลิศล้ำในต่ำใต้
มีดแรกที่ซัดออกจากมือ
ไม่เคยผิดเป้ามาก่อนเลย "
เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะเคยอ่านหรือหนังหรือนิยายกำลังภายในกันมาบ้าง อย่างล่าสุดก็มีหนังกำลังภายในแฟนตาซีฟอร์มยักษ์อย่าง
Jade Dynasty (2019) กำลังจะเข้าฉายในบ้านเรา (เปิดตัวที่จีน สัปดาห์แรก ทำเงินถล่มทลายไปกว่า 300 ล้านหยวน หรือราวๆ 1,200 ล้านบาท) สาเหตุที่ถูกนำเข้ามาฉายในประเทศไทย ก็เป็นเพราะในบ้านเรามีกลุ่มคนที่ชื่นชอบในผลงานแนวนี้อยู่นั่นเอง
ความนิยมของหนังกำลังภายในมีต้นตอมาจากนิยายกำลังภายในในสมัยก่อน ส่วนหนึ่งที่เกิดความนิยมในงานวรรณกรรมประเภทนี้ในเมืองไทยอย่างแพร่หลาย (ตั้งแต่ราวๆ ปี 2500) มาจากที่เมืองไทยมีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เยอะ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากผู้แปลที่มีคุณภาพ
ผู้แปลระดับตำนานที่แปลนิยายกำลังภายในในเมืองไทย ด้วยสำนวนยุคใหม่ที่เราคุ้นเคยกัน ก็มีอยู่ 2 คน คนแรกคือ 'ว. ณ เมืองลุง' และยุคต่อมาก็คือ 'น.นพรัตน์'...
สองท่านนี้เป็นผู้แปลนิยายกำลังภายในของ 'กิมย้ง' เช่น มังกรหยก, แปดเทพอสูรมังกรฟ้า, อุ้ยเสี่ยวป้อ, กระบี่เย้ยยุทธจักร และ 'โกวเล้ง' อย่าง ชอลิ้วเฮียง, ฤทธิ์มีดสั้น, หงส์ผงาดฟ้า, ดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ เรื่องที่กล่าวมานี้จัดว่าเป็นนิยายคลาสสิคที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย (แถมยังถูกฉายวนไปวนมา หลากหลายเวอร์ชั่น)
สำหรับ ว. ณ เมืองลุง ถ้าใครสนใจ สำหรับผมแนะนำเรื่อง 'ฤทธิ์มีดสั้น' แกแปลดีที่สุดแล้ว แถมเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของ โกวเล้ง อีกด้วยที่คนยกย่องกัน (ตัวเรื่องดัดแปลงโครงเรื่องมาจากหนังคาวบอยตะวันตก)
เซียวลี้ปวยตอ หรือ
'ฤทธิ์มีดสั้น' เป็นบทประพันธ์ของ
โกวเล้ง ที่ดัดแปลงมาจากหนังคาวบอยเรื่อง
Gunfight at the O.K. Corral (1957) ชื่อไทยว่า
สองสิงห์เมืองเสือ ซึ่งมีนักแสดงชื่อดังอย่าง
Burt Lancaster และ
Kirk Douglas นำแสดง
ฤทธิ์มีดสั้น เล่าเรื่องถึงชีวิตของ
ลี้คิมฮวง ชายวัยกลางคนที่กำลังเดินทางเข้าด่าน (ดินแดนจงหยวน)...
ในอดีต... ลี้คิมฮวงเป็นชายหนุ่มที่มีทรัพย์ศฤงคาร พร้อมด้วยสติปัญญาระดับ
ถ้ำฮวย (บัณฑิตหน้าบัลลังก์ในลำดับที่ 3 ถัดจาก
จอหงวน และ
ปางั่ง) เขามีคนรักที่เขารักอย่างสุดหัวใจ มีเพื่อนสนิทที่สามารถตายแทนกันได้ มีวรยุทธ์ที่เลิศล้ำ ภายใต้อาวุธที่สร้างชื่อกระฉ่อนทั่วยุทธจักร
'มีดสั้น'
ลี้คิมฮวงเคยมีทุกๆ อย่างที่มนุษย์พึงจะมี แต่ ณ บัดนี้ ลี้คิมฮวงไม่เหลืออะไรอีกต่อไป เขากำลังเดินทางเข้าด่าน เพื่อจัดการบางอย่าง และได้พบกับ อาฮุย มือกระบี่ที่เพิ่งออกท่องยุทธภพ...
นี่คือจุดเริ่มต้นในการเดินทางอีกครั้งของลี้คิมฮวง นั่นทำให้เขาได้เผชิญอะไรอีกมายมายที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจอ และบางอย่างก็เจ็บปวดเกินกว่าที่จะทนทานไหว.
ฤทธิ์มีดสั้น และเอกลักษณ์การแปลของ ว. ณ เมืองลุง
แป๊ะเฮี่ยวเซ็งถอนหายใจ กล่าว "มิว่าผู้ใดในโลก ต่างไม่มีความมั่นใจจะหลบหลีกมีดแรกที่หลุดจากมือมันได้เลย"
"ทุกผู้คนต่างว่า
มีดสั้นของท่านพอหลุดจากมือไม่เคยผิดเป้ามาเลย
มิทราบเป็นวาจาประโคมเกินความจริงหรือไม่ ?"
"เมื่อกาลก่อน
ก็มีคนมากหลายที่สงสัยต่อวลีสองประโยคนี้"
"ตอนนี้เล่า ?"
ดวงตาลี้คิมฮวงมีประกายวาวขึ้นวูบหนึ่ง กล่าวช้าๆ
"ตอนนี้พวกประดานั้นต่างตายหมดสิ้นแล้ว"
เอกลักษณ์การแปลของ ว. ณ เมืองลุง เด่นที่ความคมคายของภาษา ด้วยภาษาที่ง่าย สั้น แต่เฉียบลึก ซึ่งถูกรสกับนิยายอย่างฤทธิ์มีดสั้นที่มี
'ความคมคาย เฉียบลึก บนบรรยากาศเปลี่ยวเหงา' ฤทธิ์มีดสั้นพูดถึงความไม่แน่นอนในชีวิต ความผันแปรทางอารมณ์ ความเจ็บปวด และความแห้งแล้งโรยราในจิตใจของลี้คิมฮวง โกวเล้งบรรยายบรรยากาศเหล่านี้ออกมาอย่างคมคาย และ ว. ณ เมืองลุง ก็แปลสำนวนต่อสำนวนออกมาได้ดีมากๆ เข้ากับอารมณ์ของต้นฉบับ
ฤทธิ์มีดสั้นได้รับการยกย่องจากผู้อ่านมากมาย หลายๆ คนยกให้เป็นนิยายเรื่องที่ดีที่สุดของโกวเล้ง เพราะมันสามารถเล่าถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งความรัก โลภ โกรธ หลง ความเจ็บปวด สันดานมนุษย์ การทรยศหักหลัง และคุณธรรมน้ำมิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่คู่มากับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย
จุดเด่นอีกอย่างก็คือ การบรรยายเรื่องที่ไม่ซ้ำจำเจกับเรื่องอื่น ฤทธิ์มีดสั้นบรรยายเรื่องบนความเปลี่ยวเหงา อ้างว้าง และไร้พื้นหลังประวัติศาสตร์ใดๆ พร้อมด้วยซีนดราม่า / ซีนทางอารมณ์ที่หนักหน่วงอยู่เสมอ เป็นจุดนึงที่คงจะไม่ค่อยได้เห็นนิยายกำลังภายในที่พระเอกจะดราม่าชีวิตได้ขนาดนี้ [ แถมคือในตัวเรื่องลี้คิมฮวงตกอับแล้ว การบรรยายของโกวเล้งยังขยี้ซ้ำให้หดหู่ยิ่งกว่าเดิม... ดูๆ ไป ลี้คิมฮวงคงจะเป็นคนที่ไม่มีความสุขในชีวิตเลย ]
ฤทธิ์มีดสั้น มีสไตล์เรื่องแบบ
คาวบอย ตามฐานเรื่องที่ดัดแปลงมา อย่างภาพบรรยากาศหม่นๆ เทาๆ, การเดินทางเพียงลำพังแบบที่เห็นในหนังคาวบอย (พระเอกเดินทางควบม้าไปเรื่อยๆ แบบคนเดียวเหงาๆ),
การเฉือนกันด้วยคำคม / วิธีสู้แบบนัดเดียวจอด - คุยกันยาวๆ ตัดมาอีกทีโดนยิงลงไปนอนกองกับพื้นเฉย ! อาวุธอย่างหนังคาวบอย
ปืนคาวบอย / มีดสั้นของลี้คิมฮวง / กระบี่ไวของอาฮุยที่มีไว้แทงอย่างเดียว... (อาฮุยไม่จำเป็นต้องใช้ท่าอื่น เพราะแค่พริบตาเดียวที่อาฮุยแทงกระบี่ออกก็ไม่มีใครรับการจู่โจมนี้ได้แล้ว)
แม้ฤทธิ์มีดสั้นจะดัดแปลงมาจากนิยายคาวบอยตะวันตก แต่พอกลายเป็นนิยายกำลังภายใน โกวเล้งก็ประพันธ์ใหม่โดยไม่เหลือความเป็นตะวันตกอีกเลย คงไว้แต่ฐานเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งยังกลายเป็นนิยายที่เต็มไปด้วยปรัชญาชีวิต โดยเฉพาะ
เอกลักษณ์แนวคิดแบบเซน ที่ผสานกับความเป็นกำลังภายในได้อย่างลงตัว มีการอิงแนวคิดเซนตลอดทั้งเรื่อง เพื่อยกระด้บจิตใจมนุษย์
"ต้องอย่างไรจึงนับว่าถึงจุดสุดยอดของวิชาบู๊จริงๆ"
"ต้องให้ในมือไร้ห่วง หัวใจไร้ห่วง เมื่อถึงระดับห่วงก็คือเรา เราก็คือห่วง จึงนับว่าพอจะใช้ได้"
"พอจะใช้ได้ หมายความว่ายังด้อยอยู่อีกเล็กน้อย"
"ใช่ ยังด้อยอยู่อีกเล็กน้อย" หยุดชั่วขณะ แล้วชายชราจึงกล่าวช้าๆ
"สุดยอดของหลักวิชาบู๊ที่แท้จริงจะต้องสามารถเลิศพิสดารปานปาฏิหาริย์ถึงระดับไร้ห่วงไร้เรา ลืมห่วงลืมเราไปสิ้น นั่นจึงจะบรรลุในทุกสรรพสิ่ง ทำลายในทุกสรรพสิ่งได้'"
จากทั้งหมดที่ว่ามานี้ ฤทธิ์มีดสั้น จึงถือเป็นก้าวสำคัญของวงการนิยายกำลังภายในด้วยสไตล์ที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าฝีมือการประพันธ์นิยายหลายๆ เรื่องของโกวเล้งจะไม่คงเส้นคงวาเหมือนกิมย้ง และเรื่องนี้ก็ไม่ได้อ่านง่ายสักเท่าไร แต่ก็ต้องยอมรับจริงว่า 'ฤทธิ์มีดสั้น' ถือเป็นนิยายระดับต้นๆ ในบรรดานิยายกำลังภายในเลย ด้วยความคมคายและเฉียบลึก
ด้านล่างนี้คือ ประวัติเรื่องราวของ ว. ณ เมืองลุง ทำไมแกถึงมาเป็นนักแปลและคงความเป็นตำนานในวงการนิยายกำลังภายในได้ยืนยาวขนาดนี้ ทั้งชีวิตแกและวิธีคิด ถ้าเป็นหนังก็สนุกมากเลยทีเดียว...
Unforgiven (1992) : ภาพยนตร์คาวบอยยอดเยี่ยมจาก Clint Eastwood
ถ้าให้แนะนำหนังภาพยนตร์ยุคใหม่ที่ผมว่ามีกลิ่นอายคล้ายๆ กับ
'ฤทธิ์มีดสั้น' เผื่ออยากเข้าใจฟีลลิ่งของลี้คิมฮวง พร้อมกับสไตล์เรื่องแบบคาวบอย ผมขอแนะนำเรื่องนี้เลย
Unforgiven (1992) หนังกำกับโดย
Clint Eastwood โดยเล่าเรื่องราวถึงชีวิตของ
William Munny (Clint Eastwood) มือปืน (โจร) ยอดฝีมือวัยกลางคนที่หลีกหนีความวุ่นวายมาทำไร่ทำนา ภรรยาของวิลเลี่ยมเสียแล้ว และลูกๆ ของเขาทั้งสองยังเด็ก ทว่ากลับมีความจำเป็นให้วิลเลี่ยมต้องกลับเข้าสู่วงการมือปืนอีกครั้ง พร้อมกับคู่หูที่เคยสร้างชื่อกระฉ่อนในอดีต...
เอาจริงแค่เนื้อเรื่องก็คล้ายกันแล้ว (555) แถมบรรยากาศในเรื่องก็คล้ายกันคือ นิ่งเรียบ เปลี่ยวเหงา แต่เฉียบลึก... แนะนำจริง เป็นหนังที่ผมว่ายอดเยี่ยมเลยแหละ [ Imdb 8.5/10, Metascore 85/100, ออสการ์ 4 รางวัล - ภาพยนตร์ & ผู้กำกับยอดเยี่ยม ]
ส่วนตัวจริงๆ ก็อยากให้มีการสร้าง
ฤทธิ์มีดสั้น ใหม่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ปัจจุบันนะ คิดว่าตอนนี้ทั้งบท บรรยากาศ แอ็คชัน CG เพียงพอที่จะทำให้หนังสมจริงได้แล้ว ส่วนผู้กำกับที่เหมาะสำหรับผมก็คงไม่พ้น
หว่อง กา ไว (Wong Kar Wai) ดูจากหนังเรื่องต่างๆ ที่แกทำมาแล้ว ทรงแกเหมาะกับหนังแนวนี้จริงๆ (แต่คงเป็นหนังที่ทำยากพอดูเลย)
สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ...ไว้มีโอกาสจะมาเล่าเรื่องให้ฟังอีกนะครับ !
ในดวงตาเซี่ยงกัวกิ้มฮ้ง คล้ายดั่งมีมือพญามารสามารถคร่าวิญญาณทุกผู้คนได้
แต่นัยน์ตาของชายกลางคน กลับคล้ายเป็นมหรรณพที่กว้างใหญ่ไพศาล เพียงพอจะบรรจุภูตพรายมารร้าย
เท่าที่มีในโลกไว้ได้หมดสิ้น
หากดวงตาเซี่ยงกัวกิมฮ้งเป็นกระบี่
ดวงตาผู้นี้ก็เป็นฝักกระบี่
เมื่อเห็นดวงตาคนคู่นี้ จะไม่มีผู้ใดเข้าใจว่ามันเป็นคนธรรมดาสามัญแล้ว
มีบ้างบางคนพอจะเดาออกเลือนรางว่า ชายกลางคนซมซ่อผู้นี้คือผู้ใดแล้ว...
[ คำนำสำนักพิมพ์ ]
[ Facebook Fanpage ]
เซียวลี้ปวยตอ (ฤทธิ์มีดสั้น) : มีดแรกที่ซัดออกจากมือไม่เคยผิดเป้ามาก่อนเลย
ความนิยมของหนังกำลังภายในมีต้นตอมาจากนิยายกำลังภายในในสมัยก่อน ส่วนหนึ่งที่เกิดความนิยมในงานวรรณกรรมประเภทนี้ในเมืองไทยอย่างแพร่หลาย (ตั้งแต่ราวๆ ปี 2500) มาจากที่เมืองไทยมีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เยอะ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากผู้แปลที่มีคุณภาพ
ในอดีต... ลี้คิมฮวงเป็นชายหนุ่มที่มีทรัพย์ศฤงคาร พร้อมด้วยสติปัญญาระดับ ถ้ำฮวย (บัณฑิตหน้าบัลลังก์ในลำดับที่ 3 ถัดจาก จอหงวน และ ปางั่ง) เขามีคนรักที่เขารักอย่างสุดหัวใจ มีเพื่อนสนิทที่สามารถตายแทนกันได้ มีวรยุทธ์ที่เลิศล้ำ ภายใต้อาวุธที่สร้างชื่อกระฉ่อนทั่วยุทธจักร 'มีดสั้น'
ลี้คิมฮวงเคยมีทุกๆ อย่างที่มนุษย์พึงจะมี แต่ ณ บัดนี้ ลี้คิมฮวงไม่เหลืออะไรอีกต่อไป เขากำลังเดินทางเข้าด่าน เพื่อจัดการบางอย่าง และได้พบกับ อาฮุย มือกระบี่ที่เพิ่งออกท่องยุทธภพ...
นี่คือจุดเริ่มต้นในการเดินทางอีกครั้งของลี้คิมฮวง นั่นทำให้เขาได้เผชิญอะไรอีกมายมายที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจอ และบางอย่างก็เจ็บปวดเกินกว่าที่จะทนทานไหว.
"ทุกผู้คนต่างว่า
มีดสั้นของท่านพอหลุดจากมือไม่เคยผิดเป้ามาเลย
มิทราบเป็นวาจาประโคมเกินความจริงหรือไม่ ?"
"เมื่อกาลก่อน
ก็มีคนมากหลายที่สงสัยต่อวลีสองประโยคนี้"
"ตอนนี้เล่า ?"
ดวงตาลี้คิมฮวงมีประกายวาวขึ้นวูบหนึ่ง กล่าวช้าๆ
"ตอนนี้พวกประดานั้นต่างตายหมดสิ้นแล้ว"
เอกลักษณ์การแปลของ ว. ณ เมืองลุง เด่นที่ความคมคายของภาษา ด้วยภาษาที่ง่าย สั้น แต่เฉียบลึก ซึ่งถูกรสกับนิยายอย่างฤทธิ์มีดสั้นที่มี 'ความคมคาย เฉียบลึก บนบรรยากาศเปลี่ยวเหงา' ฤทธิ์มีดสั้นพูดถึงความไม่แน่นอนในชีวิต ความผันแปรทางอารมณ์ ความเจ็บปวด และความแห้งแล้งโรยราในจิตใจของลี้คิมฮวง โกวเล้งบรรยายบรรยากาศเหล่านี้ออกมาอย่างคมคาย และ ว. ณ เมืองลุง ก็แปลสำนวนต่อสำนวนออกมาได้ดีมากๆ เข้ากับอารมณ์ของต้นฉบับ
ฤทธิ์มีดสั้นได้รับการยกย่องจากผู้อ่านมากมาย หลายๆ คนยกให้เป็นนิยายเรื่องที่ดีที่สุดของโกวเล้ง เพราะมันสามารถเล่าถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งความรัก โลภ โกรธ หลง ความเจ็บปวด สันดานมนุษย์ การทรยศหักหลัง และคุณธรรมน้ำมิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่คู่มากับมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย
จุดเด่นอีกอย่างก็คือ การบรรยายเรื่องที่ไม่ซ้ำจำเจกับเรื่องอื่น ฤทธิ์มีดสั้นบรรยายเรื่องบนความเปลี่ยวเหงา อ้างว้าง และไร้พื้นหลังประวัติศาสตร์ใดๆ พร้อมด้วยซีนดราม่า / ซีนทางอารมณ์ที่หนักหน่วงอยู่เสมอ เป็นจุดนึงที่คงจะไม่ค่อยได้เห็นนิยายกำลังภายในที่พระเอกจะดราม่าชีวิตได้ขนาดนี้ [ แถมคือในตัวเรื่องลี้คิมฮวงตกอับแล้ว การบรรยายของโกวเล้งยังขยี้ซ้ำให้หดหู่ยิ่งกว่าเดิม... ดูๆ ไป ลี้คิมฮวงคงจะเป็นคนที่ไม่มีความสุขในชีวิตเลย ]
ฤทธิ์มีดสั้น มีสไตล์เรื่องแบบ คาวบอย ตามฐานเรื่องที่ดัดแปลงมา อย่างภาพบรรยากาศหม่นๆ เทาๆ, การเดินทางเพียงลำพังแบบที่เห็นในหนังคาวบอย (พระเอกเดินทางควบม้าไปเรื่อยๆ แบบคนเดียวเหงาๆ), การเฉือนกันด้วยคำคม / วิธีสู้แบบนัดเดียวจอด - คุยกันยาวๆ ตัดมาอีกทีโดนยิงลงไปนอนกองกับพื้นเฉย ! อาวุธอย่างหนังคาวบอย ปืนคาวบอย / มีดสั้นของลี้คิมฮวง / กระบี่ไวของอาฮุยที่มีไว้แทงอย่างเดียว... (อาฮุยไม่จำเป็นต้องใช้ท่าอื่น เพราะแค่พริบตาเดียวที่อาฮุยแทงกระบี่ออกก็ไม่มีใครรับการจู่โจมนี้ได้แล้ว)
แม้ฤทธิ์มีดสั้นจะดัดแปลงมาจากนิยายคาวบอยตะวันตก แต่พอกลายเป็นนิยายกำลังภายใน โกวเล้งก็ประพันธ์ใหม่โดยไม่เหลือความเป็นตะวันตกอีกเลย คงไว้แต่ฐานเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งยังกลายเป็นนิยายที่เต็มไปด้วยปรัชญาชีวิต โดยเฉพาะ เอกลักษณ์แนวคิดแบบเซน ที่ผสานกับความเป็นกำลังภายในได้อย่างลงตัว มีการอิงแนวคิดเซนตลอดทั้งเรื่อง เพื่อยกระด้บจิตใจมนุษย์
"ต้องให้ในมือไร้ห่วง หัวใจไร้ห่วง เมื่อถึงระดับห่วงก็คือเรา เราก็คือห่วง จึงนับว่าพอจะใช้ได้"
"พอจะใช้ได้ หมายความว่ายังด้อยอยู่อีกเล็กน้อย"
"ใช่ ยังด้อยอยู่อีกเล็กน้อย" หยุดชั่วขณะ แล้วชายชราจึงกล่าวช้าๆ
"สุดยอดของหลักวิชาบู๊ที่แท้จริงจะต้องสามารถเลิศพิสดารปานปาฏิหาริย์ถึงระดับไร้ห่วงไร้เรา ลืมห่วงลืมเราไปสิ้น นั่นจึงจะบรรลุในทุกสรรพสิ่ง ทำลายในทุกสรรพสิ่งได้'"
Unforgiven (1992) หนังกำกับโดย Clint Eastwood โดยเล่าเรื่องราวถึงชีวิตของ William Munny (Clint Eastwood) มือปืน (โจร) ยอดฝีมือวัยกลางคนที่หลีกหนีความวุ่นวายมาทำไร่ทำนา ภรรยาของวิลเลี่ยมเสียแล้ว และลูกๆ ของเขาทั้งสองยังเด็ก ทว่ากลับมีความจำเป็นให้วิลเลี่ยมต้องกลับเข้าสู่วงการมือปืนอีกครั้ง พร้อมกับคู่หูที่เคยสร้างชื่อกระฉ่อนในอดีต...
สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ...ไว้มีโอกาสจะมาเล่าเรื่องให้ฟังอีกนะครับ !
แต่นัยน์ตาของชายกลางคน กลับคล้ายเป็นมหรรณพที่กว้างใหญ่ไพศาล เพียงพอจะบรรจุภูตพรายมารร้าย
เท่าที่มีในโลกไว้ได้หมดสิ้น
หากดวงตาเซี่ยงกัวกิมฮ้งเป็นกระบี่
ดวงตาผู้นี้ก็เป็นฝักกระบี่
เมื่อเห็นดวงตาคนคู่นี้ จะไม่มีผู้ใดเข้าใจว่ามันเป็นคนธรรมดาสามัญแล้ว
มีบ้างบางคนพอจะเดาออกเลือนรางว่า ชายกลางคนซมซ่อผู้นี้คือผู้ใดแล้ว...