[SR] ทริปสบายกระเป๋าตามวิถีเด็กโลจิส

    สวัสดีคะวันนี้เราจะมาแบ่งปันและแชร์ประสบการณ์ที่ได้เดินทางไปเที่ยวในกรุงเทพแบบ ONE DAY TRIP ตามวิถีเด็กโลจิสติกส์ การรีวิวหรือการเรียบเรียงคำอาจจะยังไม่ค่อยถนัดเท่าไรนะคะผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ กระทู้นี้เราเขียนขึ้นมาเพื่ออาจจะเป็นประโยชน์หรือเป็นแนวทางให้กับมือใหม่ที่จะไปเที่ยวกรุงเทพแบบประหยัดและครั้งแรกแบบเราส่วนตัวเราก็หาข้อมูลต่าง ๆ ด้วยโดยหลัก ๆ จะเป็นการเล่าเรื่องแบบภาพและคำพูดเชิญชวนซะส่วนใหญ่นะคะ เพราะชอบให้เพื่อนถ่ายรูปให้ (เพื่อนถ่ายรูปสวย) โดยถ่ายจากมือถือเลยแล้วแต่งรูปเอา และการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราที่เข้าเมืองก็ว่าได้แถมมีความสุขที่สุดเพราะมีผู้ร่วมเดินทางมีเพื่อนไปด้วย เอาละเปิดเรื่องมายาวมากแล้ว เริ่มกันเลยดีกว่า

พอเรากับเพื่อนถึงหัวลำโพงต่างคนก็ต่างจะสนุกด้วยความที่เราอยากเที่ยวกันมากตัดภาพมาเจอคุณตาที่นั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียว เพื่อนเราก็แอบถ่ายรูปคุณตาเอาไว้ แล้วก็รีบเดินไปมุ่งหน้าถามคุณลุงยามว่าพิพิธภัณฑ์รถไฟอยู่ไหนคะ ตอบทันทีออกไปเลี้ยวขวาเลยหนู เดินๆไปกับเพื่อน ในใจคิดว่า พิพิธภัณฑ์รถไฟต้องใหญ่แน่ๆพอไปถึงเป็นของจิ๋วนี่เองแถมน่ารักได้ความรู้อีกด้วย


ในส่วนของพิพิธภัณฑ์มี2ชั้นมีทั้งแบบจำลองรถไฟมีเที่ยวการเดินทางของรถไฟมีประวัติความเป็นมาของรถไฟและที่เป็นของชอบคือตั๋วรถไฟขนาดเล็กๆแปะอยู่ในพิพิธภัณฑ์แถมมีคุณตานั่งขายของที่ระลึกอยู่มีข้อห้ามในการขึ้นรถไฟแปะอยู่ติดเต็มเลยแถมน่ารักมากเป็นที่ถ่ายรูปของคนที่มาเยี่ยมชมแน่ๆ วิถีของเราก็คืองานฟรีอีกนะคะไม่เสียค่าชมเลยแถมบรรยากาศจากการนั่งรถไฟแอบร้อนๆได้ไปเดินพิพิธภัณฑ์เย็นๆ ค่อยข้างดีเลยนะคะลองไปเยี่ยมชมกัน

เสร็จจากพิพิธภัณฑ์รถไฟที่หัวลำโพงแล้วเราก็เดินกันไปยังวัดไตรมิตรคนเยอะมากไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวจีนชาวต่างชาติก็มาไหว้มาเยี่ยมชมวัดกันเราก็ขึ้นไปไหว้ด้านบนบรรยากาศดีมองวิวบริเวณรอบๆสวยๆชิวๆๆแต่กว่าจะเห็นพระพุทธรูปสวยๆวิวสวยๆบันไดของทางวัดสูงมากจ้าแต่ถือว่าคุ้มอยู่นะ

ต่อไปเราก็เดินไปยังวัดศาลเจ้าเชียงคุง เป็นที่เล็กมากๆๆถ้าใครไม่รู้ว่ามีศาลเจ้าไม่เคยได้อ่านหรือเจออะไรก็คือจะไม่มีทางรู้เลยเพราะเป็นที่เหมือนส่วนตัวเลยตอนเราไปถึงเรายังแอบงงๆๆเลยว่ามีศาลเจ้าอยู่ตรงนี้ได้ยังไงแต่ว่าเราก็แวะเข้าไปไหว้ แอบเจออาม่านอนอยู่พร้อมเปิดให้เราได้เข้าไปไหว้ แต่ศาลเจ้าที่นี้คนไม่ครึกครื้นเหมือนศาลเจ้าทั่วๆไปแต่คงจะคนเยอะถ้าหากมีงานหรือเทศกาลคนจีนก็คงจะมาไหว้กันเยอะอยู่นะคะเราว่าแบบนั้น


เสร็จจากการไหว้มา2วัดเราก็คงยังเป็นสายบุญกันเรื่อยๆเข้าวัดที่3กันเลยจ้าเป็นวัดปทุมคงคาวัดนี้แอบเหงาเลยบรรยากาศรอบวัดเงียบสงบมากเลยให้รูปภาพบรรยายความเงียบของวัดกันดีกว่านะ555 เราก็ไหว้พระนั่งคุยนั่งพักกับเพื่อนกันไปเรื่อยหลังจากเดินทางหลายวัดกันแล้ว ท้องเริ่มจะร้องแล้วก่อนทางเข้าวัดเห็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำลูกชิ้นปลาน่ากินมากอยู่ตรงทางเข้าวัดเลยเลยคุยกับเพื่อนว่าจะกินเลยไหมหรือเดินๆไปเรื่อยเผื่อว่าเจอร้านอื่นพอคุยไปมาสรุปคือเดินทางไปหาที่อื่นกินกัน

เราเป็นวิถีคนเดินเดินจนเจอร้านก๋วยเตี๋ยวจ้า ผู้ช่วยชีวิตของพวกเราก๋วยเตี๋ยวต้มยำราคาไม่แรงตอนแรกคิดว่าอยู่ในกรุงเทพต้องราคาแพงแต่ก็ราคาไม่แพงอย่างที่คิดแถมถ่ายภาพสวยๆลงFacebook ลดอีกด้วย โปรโมชั่นสุดๆไปเลย ถามถึงรสชาติ(ส่วนตัว)เราคิดว่าอร่อยแต่แอบเปรี้ยวๆเปรี้ยวน้ำมะนาวนี่แหละแล้วแต่รสสัมผัสแต่ละคนนะเราว่า แต่ลูกชิ้นปลาหรือส่วนประกอบในก๋วยเตี๋ยวคือดีเลยกินกันแบบก้มหน้าก้มตาหลังจากถ่ายอาหารปุ๊บเริ่มลงมือกินกันอย่างไม่คุยกันเลย

คิดว่าต้องกินของคาวแล้วต้องมีของหวานใช่ไหมละเดินไปขึ้นรถตุ๊กๆกันสักหน่อยเดินไม่ไหวแล้วจ้าแอบอิ่ม พอเรียกตุ๊กๆคนขับบอกเดินไปก็ได้นะแค่นี้เอง แต่เราเดินไม่ไหวแล้วอิ่มบวกการเดินทั้งวันขอขึ้นรถหน่อยนะ

พอลงรถก็เดินนิดเดียวถึงหน้าร้านลอดช่องสิงคโปร์อร่อยมากราคาถูกน้ำแข็งอร่อยเลยป่นมากโดยรวมโครตดีเลยจ้ามีทั้งกินในร้านกับกลับบ้านใส่แก้วส่วนตัวอยากนั่งกินในร้านนะแต่คนเยอะมากขอยืนชิมหน้าเลยละกันนะ รสชาติไม่หวานมากพอดีๆจัดว่าอร่อยลองไปชิมกันนะแนะนำเลย

เดินทางกลับบ้านกันดีกว่าทุกคนกลับมายันจุดที่หัวลำโพง วิถีของทริปของเราคือประหยัดต้นทุนต่ำเราเลยใช้วิธีการเดินกันไม่เหนื่อยเลยนะชิวกับเพื่อนแปปๆก็ถึงจุดหมายพอมาถึงหัวลำโพงก็ไปซื้อตั๋วไปลงสถานีรถไฟแต่ระหว่างรอรถไฟพลังหมดกันผู้ร่วมทริปของเราแอบนั่งหลับกันเลย มีความสุขนะทริปนี้สนุกแถมใช้เงินกันน้อยมากเลยเดี๋ยวเราจะบอกราคาแต่ละอย่างว่าทั้งหมดเท่าไหร่นะ แต่บอกเลยว่าสามารถเข้ากรุงเทพแบบไม่ถึง1000แน่นอน

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทริปนี้เรามี (ผู้ร่วมทริป 7 คน) 
ค่ารถไฟขาไป 7 คน คนละ 6 บาท = 42 บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 496 บาท 7 คน ตกคนละ 71 บาท
ค่าดอกไม้ทำบุญเราไม่ได้ทำเพราะเราทำด้วยใจ 0 บาท
ค่ารถตุ๊กๆ 7คน 60 บาท
ค่าลอดช่องสิงค์โปร 50 บาท 2 แก้ว
ค่ารถไฟขากลับ 7 คน คนละ 6 บาท เป็น 42 บาท
รวมทั้งหมดของทริปนี้ 690 บาท

ปล. แผนที่นี้เราตั้งใจทำให้เห็นว่าแต่ละที่ใกล้กันมากสามารถเดินถึงกันได้ทั้งหมด ไม่ต้องนั่งรถตุ๊กๆแบบที่พี่คนขับแนะนำที่เรานั่งตุ๊กๆเพราะว่าเราอิ่มจากกินข้าวแถมเพื่อนร่วมทริปของเราเริ่มจะไม่ไหวกันแล้วและไม่รู้ว่าต้องเดินไกลแค่ไหนเราเลยเลือกนั่งรถตุ๊กๆ แต่ถ้าเลือกเดิน ต้นทุนของเราก็จะถูกลงไปอีกนะคะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   One day trip
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่