โดนบอกขนาดนี้ ผมบื่อหรือผมโง่ครับ และผมควรทำอย่างไรต่อกับความรักครั้งนี้ ช-ช

สวัสดีครับ สมาชิกพันธ์ทิพย์ทุกท่าน
นี่เป็นกระทู้แรกของผมที่จะมาแชร์เรื่องราวของความรักของผมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆแต่ผมรู้สึกว่า มันมีความหมายมาก
ซึ่งผมได้ทุกอารมณ์กับทุกๆโมเม้นที่เกิดขึ้นทั้งหมด  ผมอาจจะอ่อนต่อโลกในเรื่องแบบนี้นะครับ 

เรื่องราวของผมเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 62 โดยผมได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งผ่าน Application หาคู่แห่งหนึ่ง
ผมอายุ 20ปลายๆ ส่วนเค้า อายุ 30ปลายๆ (ขอแทนว่าผมกับเค้า ในการดำเนินเรื่องนะครับ)
ผมและเค้าได้ทำความรู้จัก ดูใจกันในช่วงสองอาทิตย์ โดยที่เราทั้งคู่ รู้จักบ้านของกันและกัน (ใกล้ๆกันครับ)
จนกระทั่งผ่านไปประมาณสองอาทิตย์ เค้า ได้ขอผมเป็นแฟน (ณ.ตอนนั้นผมมองว่า มันเป็นเวลาที่เกิดขึ้นไวมาก แต่ด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย ผมจึงตอบตกลง)

จนเวลาผ่านมาผ่านไป เราได้ตกลงในไปเที่ยวกันภายในประเทศ(ภาคใต้ ที่มีทะเลสงบๆ) ในช่วงเวลากลางกันยายน 62
ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ทั้งการไปเที่ยว การใช้ชีวิตด้วยกัน เราแทบไม่ค่อยทะเลาะกัน (อาจเป็นเพราะผมเป็นคนเงียบ)
แต่เหตุการณ์หลังจากเที่ยวนั้นทำให้ผมต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด

หลังจากกลับมาจากทริปเที่ยวในประเทศ เค้ามีไอเดียเสนอว่าเราสองคนควรไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งผมก็ตอบตกลง 
เพราะงานที่ผมทำอยู่ก็เครียดๆและอยากผ่อนคลายช่วงปลายปีด้วย
จนกระทั่งช่วงปลายเดือน กันยา ผมและเค้า จึงตกลงกันซื้อตั๋ว ที่จะไปเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม 62.
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ ตามปกติ เค้าจะเป็นคนไปส่งผมที่บ้าน 
เค้าได้เกริ่นๆเกี่ยวกับการไปเที่ยวครั้งนี้วในขณะที่อยู่บนรถว่า : มีคู่รักบางคู่ที่รักกันมานานหลายปี พอไปเที่ยวปุ้บ กลับมา เลิกกันเลย
ผมฟังก็รู้สึกแปลกๆแต่ไม่คิดอะไร เพราะผมคิดว่า เรื่องนี้ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับเราสองคน

หลังจากเรื่องนี้จบไม่นาน ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์  ก็มีเรื่องใหม่โผล่ขึ้นมา 
ระหว่างที่เค้าไปส่งผมที่บ้าน เค้ามีเรื่องจะบอกผมตรงๆว่า :พี่ไม่แน่ใจว่าควมสัมพันธ์ของเราจะไปได้ไกลมากกว่านี้ไหม แต่อย่าเพิ่งรักพี่ไปมากกว่านี้
ผมรู้สึกเริ่มไม่สบายใจ แต่ก็ยังคิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะผมก็ทำในส่วนของผมให้ดีที่สุด 
จึงบอกกับเค้าไปว่า เอ้า ก็ขอเป็นแฟน ก็ทำแบบปกติ คิดอะไรมาก
แต่เพื่อความสบายใจเค้า ผมเลยบอกเค้าว่า ถ้ารู้สึกฝืนหรือไม่โอเครกับตัวผม หรือ คุยกับใครอยู่ ให้ผมออกไปจากชีวิตก็ได้นะครับ
ซึ่งเค้าบอกผมเองว่า ผมยังเป็นคนดีที่โอเคอยู่ เคายังไม่ได้มีคนคุยจริงจังอะไรแบบนั้น

จนกระทั่งช่วงต้นตุลา 62
ซึ่งผมเพิ่งจะมีเวลาในการจัดทริปไปเที่ยว โดยปรึกษากับเค้า ในทุกๆความเห็นเพราะ เค้าเคยไปมาก่อน 
ผมทำให้เค้ารู้สึกว่าเค้าอยากไปที่ไหน และผมอยากไปที่ไหน เราจะได้มาปรึกษาในทุกๆส่วน
ทุกอย่างดูราบรื่น จนกระทั่ง...

ช่วงกลางเดือน ตุลา 62
ผมเสนอที่เที่ยวว่าจะไปตรงจุดๆดังกล่าวนี้นะครับ ผมกลับได้คำตอบที่ผมไม่คิดว่าจะมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมา
เค้าตอบว่า : พี่ไม่สามารถร่วมทริปนี้กับน้องได้เเล้วนะครับ 
ความรู้สึกผม ณ ตอนนั้น ยังมีความอึน หัวร้อน งุนงง กับสิ่งที่เค้าพูด 
วันถัดมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 
ผมได้สอบถามเค้าว่า: เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้
เค้าให้คำตอบผมว่า : ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป เค้ารู้สึกไม่เหมือนเดิม 
ณ.ตอนนั้นผมเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ ผมร้องไห้โฮต่อหน้าเค้า เหมือนคนที่ผมรู้สึกเคารพรักคนๆนึงทำกับผมได้ขนาดนี้
ผมถามเค้าว่า: ผมทำอะไรผิดตรงไหน ผมไม่เคยมีความรู้สึกคิดที่จะคุยหรือนอกใจเค้าเลย 
เค้าบอกว่า : เค้าเป็นคนที่ผิดเอง ความรู้สึกเค้าเปลี่ยน ผมเป็นคนที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ เคมีไม่ตรงกัน
ผมถามเค้าต่อว่า : มีคุยกับคนอื่นในขณะที่คุยกับผมรึเปล่า
เค้าตอบกลับว่า : ก็มีอยู่ แต่ไม่จริงจัง
ณ จุดนี้ ผมทานข้าวไม่ลง ทำงานไม่ได้ รู้สึกเหมือนโลกเป็นสีเทา เป็นโรคซึมเศร้า (อารมณ์ประมาณว่า ถ้าถนนมีรถวิ่งไปมา คงวิ่งไปให้ชนตายแล้ว)
เค้าบอกว่า : เค้ารู้สึกว่าถ้าเป็นเพื่อนกับผม ความรู้สึกมันน่าจะโอเคกว่า และเค้าไม่ได้คิดอะไรกับผม มีแต่ผมรักเค้ามากไปคนเดียว เค้าขอSpace ส่วนตัวมากขึ้น(ทั้งที่ผมไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวเค้าเลย)  เรื่องค่าตั๋วเค้ารับผิดชอบเอง 

ผม นึกในใจ : แล้วขอผมเป็นแฟนทำไมวะ แต่ก็พูดไปว่า ควมรู้สึกอ่ะ มันเกิดแล้ว พังแล้ว มันใช้เวลานาน กว่าจะเป็นปกติ
สืบเนื่องจากจิตใจที่ผมโดนทำร้ายจากการบอกเลิก เค้าเสนอออฟชั่นว่า ผมกับเค้า ควรห่างกันสักพัก 1 เดือน แล้วมาคุยกันใหม่ เพื่อปรับจูนสถานะให้ชัดเจน 
ผมที่ยังเชื่อว่า เราสองคนรู้สึกดีต่อกัน จะพยายามทำตามที่เค้าต้องการ
แต่... การโดนคนหักอก บอกเลิก ณ.ตอนนั้น หัวใจ ร่างกาย มันหยุด ไม่ยอทำตามที่สมองบอก
ผมต้องโทรหา เพื่อน แฟนเก่า(คนแรก) ที่บ้าน เพื่อช่วยเยียวยาในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ (ซึ่งผมรู้สึกมันช่วยได้ เวลาที่เรารุ้สึกท้อแท้)
ในขณะเดียวกัน ขณะที่จิตใจผมบอบบาง ผมก็โดนที่บ้านดุ ด่า ว่า กับเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้ผมต้องไปปรึกษาเค้าในเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเค้าก็เข้าใจ
จนจิตใจผมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกว่า เป็นแค่เพื่อน ก็ยังคุยกัน รู้สึกดีๆต่อกัน เพียงแต่บรรยากาศรอบข้างที่ผมต้องผ่านทุกวัน มันทำให้นึกถึงเค้า
จิตใจเริ่มจะเป็นปกติ (95%)

จนวันนี้ ผมทำเรื่องที่ผิดพลาดไปคือ ผมขับรถไปส่องดูบ้านเค้า (เเค่ดูให้ จิตใจมันโอเคและชินๆกับสิ่งที่เป็นอยู่)
สิ่งที่บังเอิญคือ ผมเห็นเค้าออกมาจากบ้าน 
ด้วยความที่ผมพยายามที่จะทำตัวเป็นปกติ ผมจึงถามเค้าว่า ติดรถไปมั้ย ผมต้องไปทางนั้นอยู่ดี
เค้าบอกว่า :  ไม่เป็นไร พี่ไม่สะดวก
ผมเริ่มรู้สึกว่า การที่เค้าปฏิเสธผม แสดงว่าผมดูแย่ จนเค้าไม่อยากเข้าใกล้มากๆเลย
ผมจึงโทรคุยกับเค้าในอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ผมทำไปเพราะอะไร
เค้ากลับตอบมาว่า : เค้ารู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัย และเค้ากำลังเริ่มต้นจริงจังกับความสัมพันธ์ใหม่ (แฟนใหม่) ซึ่งเค้าไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันดูสับสน ทั้งที่ตัวผม ทั้งที่ตัวเค้า และ แฟนใหม่เค้า
ผมเลยตอบเค้าว่า : ผมเข้าใจและยอมรับว่าเราเลิกกันแล้ว แต่การที่เค้าให้เงื่อนไขไม่เจอผม 1 เดือน แล้วมาคุยใหม่ในฐานะเพื่อน ผมบอกว่ามันทำยากอยู่นะ เหมือนเค้าไม่อยากให้ผมมีตัวตนในชีวิตเค้า
เค้าตอบว่า : ประเด็นตอนนี้มันไม่ใช่ 1 เดือน แล้ว เราอาจจะไม่ต้องคุยกันยาวเลย เพราะเค้าจริงจังกับความสัมพันธ์กับแฟนใหม่แล้ว (ซึ่งเค้าน่าจะคุยกับแฟนใหม่ ขณะที่คบกับผมอยู่)
ผมเลยถามกลับ : สรุป ไม่ว่าจะตอนนี้หรือ 1 เดือน ถ้าพี่จะให้ผมกลับไปคุยเป็นเพื่อน พี่ก็คงต้องจริงจังกับความสัมพันธ์ใหม่ดิ แล้วจะให้ผมอยู่ทำไม
เค้าตอบว่า : น้องกัอควรmove on เเละ get over กับพี่ เหมือนที่พี่ทำกับน้องได้แล้ว
ตอนนั้น ผมรู้สึกผมโง่มาก เหมือนผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่
ผมอยากจะพูดว่า : ถ้าผมคุยซ้อนเหมือนที่เค้าทำกับผม ผมคงmove on แบบไม่ต้องร้องไห้หนักมากๆ
ผมยังโดนเค้าตอกกลับมาว่า :  นี่ก็เป็นบทเรียนอีกบทนะ เวลาที่น้องจะคบใครอย่าปล่อยให้เค้าไปคุยกับคนอื่น
ผมนึกในใจ : ..... อายุ30 ปลายๆ ผมต้องมานั่งเช็คเรื่องแบบนี้หรอครับ แล้ว การเป็นแฟนกันเราต้องเคารพซึ่งกันและกันไม่ใช่หรอครับ
ผมเลยพูด : เอางี้ละกัน เพื่อความสบายใจ ผมจะไม่ติดต่อ ไม่โทรหา ให้รบกวนเวลาของพี่ละกัน
เค้าตอบ : ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

คำถามที่ผมจะถามทุกคนในวันนี้
1.ผมจะmove on ได้อย่างไร
2.ช่วงเวลานี้ผมจะผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไร เมื่อก่อนเสียใจเพราะเค้าบอกเลิก ตอนนี้โกรธตัวเองเพราะดูโง่มาก
3.คำว่า ความรู้สึกที่ดี ถ้ามองในมุมมองคนนอก เค้าพูดจริงจังหรือเค้าอยากให้ผมสบายใจ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะครับ 
ปล. ตั้งกระทู้ครั้งแรก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่