JJNY : 4in1 กมธ.งบ'63 ร่อนจม.ถามศาล/จ่อเรียก‘บิ๊กป๊อก-ปลัดฉิ่ง’แจงงบแก้ภัยแล้ง/ไอเอ็มเอฟหั่นจีดีพี/พิษศก.ซบเลิกจ้าง400คน

กมธ.งบ'63 ร่อนจม.ถามศาล แปรญัตติอย่างไรไม่ให้ขัดรธน.-จ่อเรียกกระทรวงพาณิชย์แจง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1726759

โฆษกกมธ.งบ’63 ร่อนจม.ถึงศาลรธน. ถามกรอบการแปรญัตติอย่างไร ไม่ขัด ม.144 ประเดิมเรียกกระทรวงพาณิชย์ แจงรายการเสนอของบประมาณ ‪จันทร์นี้‬

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ฐานะโฆษกกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า การพิจารณารายละเอียดของคำเสนอของบประมาณ กมธ.มีข้อสรุปจะเรียงลำดับการพิจารณาเป็นกลุ่มๆ โดยเริ่มจากหน่วยงานกลุ่มเศรษฐกิจ สังคม และ ความมั่นคง โดย‪วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม‬นี้ ได้เชิญ 10 หน่วยงานให้ข้อมูลและคำชี้แจง อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน, กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นต้น ขณะที่การตั้งคณะอนุกมธ.เพื่อพิจารณารายละเอียดนั้น ที่ประชุมหารือในเบื้องต้นว่า จะรอการพิจารณาไปสักระยะ ก่อนจะกำหนดตั้งอนุกมธ.ตามความเหมาะสม

นายภราดร กล่าวว่า สำหรับการทำงานของกมธ.ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ที่กำหนดเงื่อนไขห้ามส.ส. กมธ.แปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ของตน หรือผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ประชุมเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เชิญเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ มาร่วมให้ความเห็นทางกฎหมาย โดยได้ซักถามกรณีที่ผลการพิจารณารอบแรก กมธ.ได้ปรับลดงบประมาณลง ซึ่งในทางปฏิบัติฝ่ายรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรี ต้องแปรญัตติเพื่อนำงบที่ตัดออกจากหน่วยงานกลับเข้าสู่การพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะทำได้หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อมาตรา 144 วรรคสองหรือไม่ แต่เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะไม่เคยมีกรณีซักถามยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นว่า กมธ.ควรทำหนังสือถามไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีคำตอบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับกรอบเวลาทำงานของกมธ. ตามที่มีมติ คือ ให้ ส.ส.ยื่นคำแปรญัตติจนถึงวันที่ ‪18 พฤศจิกายน‬ จากนั้นวันที่ ‪13 ธันวาคม‬ จะนัดส.ส.ที่เสนอคำแปรญัตติชี้แจงคำแปรญัตติต่อกมธ. จากนั้นวันที่ ‪16 ธันวาคม‬ พิจารณารายการแปรญัตติเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณฯของหน่วยงานรับงบประมาณ และวันที่ ‪17 ธันวาคม‬ พิจารณาข้อสังเกตของ กมธ. ก่อนที่วันที่ ‪27 ธันวาคม‬ ส่งรายงานกมธ.ต่อประธานสภาฯ เพื่อบรรจุในระเบียบวาระการประชุม ทั้งนี้ได้วางกรอบการพิจารณาของสภาฯ วาระสองและวาระสาม ช่วงวันที่ ‪10 มกราคม 2563‬
 


กมธ.สาธารณภัย จ่อเรียก ‘บิ๊กป๊อก-ปลัดฉิ่ง’ แจงงบแก้ภัยแล้ง น้ำท่วม 1.58 หมื่นล้าน ส่อพิรุธ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3001925

กมธ.สาธารณภัย จ่อเรียก ‘บิ๊กป๊อก-ปลัดฉิ่ง’ แจงงบแก้ภัยแล้ง น้ำท่วม 1.58 หมื่นล้าน ส่อพิรุธ
 
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ความสำคัญมาก ล่าสุดคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย มีมติเชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการบางจังหวัด มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการใช้งบประมาณ จำนวน 15,800 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ว่าทำอะไรไปบ้างและได้ผลสัมฤทธิ์แค่ไหน เพราะคณะกรรมาธิการได้รับการร้องเรียนมาหลายจังหวัดว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
 
นายวิสาร กล่าวต่อว่า ทราบว่าที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยมีการจัดสรรงบประมาณในการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้งอย่างไม่เป็นธรรม เน้นจังหวัดที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะได้มากกว่าจังหวัดที่มี ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ จ.ระนอง ได้รับงบประมาณแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ 200 ล้านบาท เท่ากับจ.นครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่ามาก ในขณะที่ จ.ศรีษะเกษ กับ จ.สุรินทร์ ได้ไปจังหวัดละ 500 ล้านบาท
 
นอกจากนี้พบความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณหลายพื้นที่ ใช้วิธีพิเศษในการอนุมัติงบประมาณให้กับผู้รับเหมา จึงอยากให้รัฐมนตรีตอบคำถามของคณะกรรมาธิการ ว่าเหตุผลในการใช้จ่ายงบประมาณมาจากอะไร ทำไมจังหวัดเล็กได้มากกว่าจังหวัดใหญ่ ทำไมต้องใช้วิธีพิเศษในการอนุมัติงบประมาณ
 
นายวิสาร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยมีข้อร้องเรียนมาก โดยจะเก็บเป็นข้อมูลและสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อเตรียมไว้ใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.มหาดไทย เพราะในงบประมาณปี 2562 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบปัญหาที่เชื่อได้ว่ามีการใช้งบประมาณที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้นได้
 
นายวิสาร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนจะตรวจสอบการใช้งบประมาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม จากการตรวจสอบโครงการในหลายจังหวัดที่ประสบปัญหาและได้รับงบประมาณไป พบว่ามีขบวนการกินหัวคิวกับงบประมาณในโครงการขุดลอกคูคลอง จนผู้รับเหมาทิ้งงานหรือไม่กล้ารับงานเป็นจำนวนมาก ผู้รับเหมาเรียกงบประมาณนี้ว่างบไม้ไอติม ซึ่งมีการกินจนไม่เหลือแม้กระทั่งไม้ไอติม ซึ่งตนจะตรวจหลักฐานไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่