นักแสดงและศิลปินไทยกับการ service แฟนคลับ

เราตัดสินใจตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะอยากพูดคุยเกี่ยวกับนักแสดงและศิลปินในเรื่องของการ service แฟนคลับ
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าบางกรณีไม่ได้เกิดขึ้นกับนักแสดงหรือศิลปินทุกคน
และเรามองในมุมมองของเราเองเท่านั้น เลยตั้งกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้นค่ะ
ไม่ได้ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดความเสียหายไปถึงตัวของนักแสดงและศิลปินค่ะ

ยกตัวอย่างกรณีที่ไปรับที่สนามบิน สำหรับศิลปินจากต่างประเทศเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าถึงตัวได้ เราทำได้แค่นั่งเป็นระเบียบโบกมือให้จากไกลๆ
เท่านั้นแต่ข้อดีของนักแสดงหรือศิลปินไทยคือเราเข้าถึงได้ง่ายมากกกกกกกกก selfie ได้อีกต่างหาก จับมือได้ พูดคุยกันได้
บางถ้าเวลาไม่กระชั้นชิดเกินซึ่งตารางการเดินทางส่วนใหญ่จะมีบ้านเบสที่คอยอัพเดทข้อมูลต่างๆให้
แต่ถ้าตัวของนักแสดงหรือศิลปินมีงานต่อจะเลี่ยงการให้ข้อมูลเพราะต้องรีบเดินทางหรือเพราะไม่ได้เผื่อเวลาไว้
แต่ในกรณีที่แจ้งเวลารับ-ส่งคือตัวของนักแสดงและศิลปินมักจะมาถึงก่อนอยู่แล้วและมีเวลามาพอสมควรในการ service  หรือ
take care แฟนคลับ 20-30 นาที
แต่เรามองปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะทุกคนนนน55555555555555เพี้ยนหัวเราะ
มองในมุมของแฟนคลับก็อยากไปได้ Moment ที่ดี บางคนเดินทางไกลมาแค่เพื่อมาเจอกันแค่ 15-20 นาที
แล้วด้วยความที่แฟนคลับเยอะเนี้ยแหละค่ะ การ Service มันเลยอาจจะไม่ทั่วถึงคนนั้นได้กอด คนนี้ไม่ได้กอด 
คนนั้นถ่ายรูปใกล้ชิดมาก อยากได้แบบนั้นบ้างจัง บลาาาาาๆ เพื่อนเราเคยไปส่งศิลปินที่สนามบินคนหนึ่งค่ะ
ให้เราไปส่งด้วยซึ่งเราก็โอเคไปส่ง แบบได้ไปเจอคนหล่อ เราไปได้ค่ะ5555555555 
บอกก่อนว่าเป็นครั้งแรกที่เพื่อนเราติดตามศิลปินไทยค่ะ
เพราะตามศิลปินเกาหลีตลอด แล้วก็ไม่เคยไปส่งหรือรับเพราะคิดว่าคนเยอะ ไปก็ไปเบียดกันเปล่าๆ เลยไปแค่คอน
แล้วก็วี้ดดๆกันเองเท่านั้นค่ะ5555
แต่สำหรับศิลปินไทยเข้าถึงได้ง่ายมากกว่า แฟนคลับไม่ได้เยอะจนถึงขั้นไปเบียดกัน
เข้าเรื่องกันต่อค่ะ...ไฟท์ตอนนั้นประมาณบ่ายโมงค่ะ ซึ่งเราก็ต้องเริ่มเดินทางกันไปประมาณเที่ยงนิดๆซึ่งมันร้อนมาก
แต่เพื่อผู้ชายเราก็ไปกันค่ะ พอไปถึงเพื่อนเราก็เขียนจดหมายไปให้ ให้กำลังใจ ให้ดูแลสุขภาพด้วย ประมาณนั้นแหละค่ะ 
แล้วก็ขอถ่ายรูปด้วยเพื่อนเราก็ถ่ายปกตินะคะ ถ่ายเสร็จก็คุยกันนิดหน่อย สักแปปก็เริ่มมีแฟนคลับคนอื่นๆเข้ามาคุยและถ่ายรูปเพิ่มขึ้น
พอคนเริ่มเยอะเพื่อนเรากับเราก็เริ่มเขยิบๆออกมายืนรอบนอกค่ะ
พอแฟนคลับเริ่มเยอะขึ้นการ Service มันก็เริ่มขึ้นค่ะมีถ่ายรูปใกล้ชิด มีโอบไหล่ มีเอาแก้มถูหัวอะไรแบบเนี้ยค่ะ
เพื่อนเราก็เริ่มงอแงเลยแบบ โห้ยยยยย ทำไมเมือกี้ถ่ายไม่ได้แบบนี้บ้างเลย งอแงแบบทำหน้าเศร้าๆเลยอ่ะค่ะ ตอนนั้นดูก็สงสารแล้วก็ขำเพื่อนด้วย 

เราอธิบายว่าด้วยความที่แฟนคลับเขามีเยอะใช่มั้ยคะ บางทีตัวศิลปินเองก็จำไม่ได้ด้วยว่าคนนั้นทำให้ยังไง คนนี้ทำให้ยังไง
จะให้ Service เหมือนกันทุกคนอาจจะลำบากหรือเปล่านี่คือความคิดของเราที่บอกเพื่อนนะคะ ซึ่งเราก็คิดแบบนั้นจริงๆ
เพื่อนเลยบอกว่างั้นเรากลับกันเลยก็ได้ ไม่ต้องรอส่งที่หน้าgate หรอก เราก็เลยบอกว่าตามใจจะกลับก็กลับเลย

พอออกมาเพื่อนก็แอบนอยๆ เลยตัดสินใจไปหาอะไรกินกันค่ะ เราเลยถามว่าเป็นไงมาเจอแล้วโอเคมั้ย ฟินหรือเปล่า
เพื่อนก็ตอบแบบก็ดี ตอนแรกก่อนเดินเข้าสนามบินตื่นเต้นมาก ไปเจอก็ยังตื่นเต้นอยู่
พอแฟนคลับเริ่มเยอะแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่ก็ดีใจกับเขาที่มีคนติดตามให้กำลังใจเขาเยอะแยะ
แล้วเพื่อนก็พูดขึ้นมาว่าเนี้ยถ้าเมือไรที่เราไม่ได้สวยหรือน่ารักก็จะได้ feel ประมาณเนี้ยแหละ ไม่ค่อยสนใจเท่าไร
เหมือนแบบได้ Service ไม่ค่อยดีเท่าไรประมาณนั้นค่ะ แล้วเพื่อนเลยบอกว่าเข้าใจแฟนคลับญี่ปุ่นที่เป็นข่าวช่วงก่อนเลย
ที่ไปศัลยกรรมแล้วกลับมาตีสนิทกับไอดอลที่ตัวเองชอบแล้วก็ออกมาแฉเรื่องส่วนตัวของศิลปิน
ว่าเขาคงนอยแล้วก็เสียใจแหละที่ไม่ได้รับความสนใจเพราะตัวเองไม่สวย  เห็นป่ะพอสวยแล้วก็มีแต่คนสนใจได้เป็นแฟน ได้ไปเที่ยวด้วย

เราฟังก็ได้แต่คิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็แอบเสียใจนะคะ
เพราะเราไปแบบตั้งใจกันจริงๆ เทียบกับคนอื่นที่มากจากที่ไกลๆแล้วด้วย
ลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่