สงครามที่โลก(ไม่)ลืม

กระทู้คำถาม

ประวัติศาสตร์ อาวุธยุทโธปกรณ์ ภาพยนตร์ต่างประเทศ ภูมิศาสตร์

Battle of Isandlwana

การศึกที่ไอแซนด์ลวานา คือการเผชิญหน้ากันครั้งแรกในสงครามแองโกล-ซูลู (Anglo-Zulu War) ระหว่างจักรวรรดิอังกฤษและอาณาจักรซูลู สงครามในครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ.1879 กองทัพอังกฤษและชาวอาณานิคมที่นำโดยเฟรเดอริค เธอไซเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนามของ ”ลอร์ดเชล์มฟอร์ด” นำกำลังพลราว 1,800 นาย ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี พร้อมทั้งปืนใหญ่และปืนไรเฟิลที่ดีที่สุดในยุคนั้น เข้าสู้รบกับกองกำลังนักรบเผ่าซูลูจำนวน 20,000 นายที่นำโดยกษัตริย์เซเตวาโย ที่มีเพียงหอก มีดสั้น ธนู และโล่เป็นอาวุธเท่านั้น

แม้ได้เปรียบทางด้านอาวุธและยุทธวิธี แต่ด้วยจำนวนที่แตกต่างกันมากเกินไป ทำให้กองทัพอังกฤษสูญเสียกำลังพลไปถึง 1,300 นาย ในขณะที่ฝ่ายซูลูเสียกำลังพลไป 2,500 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีก 2,000 นาย ความพ่ายแพ้ของอังกฤษต่อชาติที่ตนเองมองว่าต่ำต้อยอย่างอาณาจักรซูลูนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่เสื่อมเสียเกียรติและยอมรับไม่ได้
ในฐานะผู้นำกองทัพ ลอร์ดเชล์มฟอร์ดรู้สึกโกรธแค้นในความพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ ที่ต้องยอมรับว่าทั้งหมดเป็นความประมาทของตัวเอง จนนำมาสู่ความพ่ายแพ้ ลอร์ดเชล์มฟอร์ดจึงระดมพลครั้งใหญ่เพื่อกู้หน้าในการศึกครั้งต่อไปกับชนเผ่าซูลูที่กำลังฮึกเหิม

ลอร์ดเชล์มฟอร์ดระดมกำลังหลายหมื่นนายเพื่อปราบปรามอาณาจักรซูลูของกษัตริย์เซเตวาโยอยู่หลายครั้ง จนท้ายที่สุดฝ่ายอาณาจักรซูลูที่อ่อนแอลงต้องขอเจรจาสันติภาพกับฝ่ายอังกฤษที่นำโดย ลอร์ดเชล์มฟอร์ด แต่ ลอร์ดเชล์มฟอร์ดปฏิเสธและนำกำลังทั้งหมดเข้าบดขยี้กองกำลังที่เหลือของชนเผ่าซูลูจนได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดที่อูลุนดี เมืองหลวงของอาณาจักรซูลูในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1879 พื้นที่ทั้งหมดของอาณาจักรซูลูถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งกับสหพันธรัฐแอฟริกาใต้ ในขณะที่กษัตริย์เซเตวาโยถูกเนรเทศและควบคุมตัว ก่อนสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา
สำหรับความพ่ายแพ้ของอังกฤษในศึกครั้งนั้น ได้ถูกนำมาถ่ายทอดไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Zulu Dawn ที่ฉายในปี ค.ศ.1979 ที่ได้นำเสนอการสู้รบและความปราชัยของอังกฤษไว้อย่างละเอียดอีกด้วย
Cr.SpokeDark.TV

ยุทธการบ้านหาดเล็ก

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2509 เมื่อทางฝั่งประเทศกัมพูชาในตอนนั้นได้ทำการก่อกวนความเป็นอยู่ของประชากรในบ้านหาดเล็กอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการยิงปืน ทั้งจากฝั่งบนบก และ บนทะเล ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่บ้านหาดเล็กเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับสภาพพื้นที่ในตอนนั้นยังคมนาคมขนส่งไม่ดี ทำให้ชาวบ้านลำบากมากถึงกับต้องอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นจนทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นหมู่บ้านร้าง ร้อนถึงทางการต้องส่งกำลังทหารเข้าไปสกัดกั้นเอาไว้
ทางการจึงได้ผสมกองกำลังระหว่างกองทัพเรือ กับนาวิกโยธินเพื่อป้องกันบ้านหาดเล็ก อุปสรรคแรก ก็คือ การเดินทาง กองกำลังผสมต้องเดินทางอย่างยากลำบากจากที่ตั้งจนกว่าจะถึงชายแดนบ้านหาดเล็ก เอาแค่ว่าตั้งนั่งเรือถึง 56 ชั่วโมงก็เป็นเรื่องไม่ง่าย ขึ้นฝั่งต้องเดินเท้าอีก 4 ชั่วโมงถึงจะไปถึงจุดปะทะกัน
หลังจากเข้าจุดปะทะ กองกำลังผสมต้องเจอกับการต่อสู้ทั้งกลางวันและกลางคืนจากฝั่งกัมพูชาอยู่ตลอด ทำให้กองกำลังผสมต่อสู้อย่างยากลำบาก ส่วนหนึ่งมาจากเราจัดกองกำลังน้อยเกินไป เราคาดว่าทางฝั่งกัมพูชาจะมาน้อยแต่ผิดคาดฝ่ายจัดกำลังรบมาเยอะกว่า อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาใช้ยุทธวิถีบุกตอนกลางคืนเป็นหลัก บวกกับอาศัยความชำนาญพื้นที่ ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบในตอนแรก ทำให้ไทยเราต้องเปลี่ยนยุทธวิถีใหม่ให้ทหารพักผ่อนตอนกลางคืน ให้หน่อยย่อยรักษาพื้นที่และลาดตระเวนเพื่อให้ชำนาญพื้นที่เอาไว้ จากนั้นตอนกลางคืนเปลี่ยนอีกชุดลงมาต่อสู้ ตั้งรับ พอเปลี่ยนยุทธวิถีแล้ว ทำให้การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกลับมาสูสีกัน

หลังจากต่อสู้กันเป็นระยะเวลาหนึ่ง สุดท้ายทางไทยตัดสินใจทิ้งไพ่เด็ดนั่นก็คือ การนำปืนใหญ่เข้าสู่สมรภูมิรบเนื่องจากตอนนั้นได้อพยพชาวบ้านในพื้นที่ออกไปหมดแล้วทำให้สามารถต่อสู้ได้แบบเต็มรูปแบบ พอเรานำปืนใหญ่เข้าสู่สนามรบก็ทำให้อีกฝ่ายต่อสู้ได้ลำบาก แม้ว่าจะเอาปืนใหญ่มาสู้เหมือนกันแต่ความคล่องแคล่วและขีดความสามารถของอาวุธยังด้อยกว่า ทำให้สุดท้ายยุทธการครั้งนี้อีกฝ่ายก็ล่าถอยออกไป ไม่มีการส่งทหารไปรบกวนอีกเลย
Cr.angryskipper.org

สงครามฝิ่นระหว่างจีนกับอังกฤษ

สงครามนี้ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องกันถึงสองครั้งในยุคสมัยราชวงศ์ชิงของจีน ครั้งแรกอยู่ในช่วง ค.ศ.1834-1843 และครั้งที่สองอยู่ในช่วง ค.ศ.1856-1860  เว้นระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ 13 ปี

สงครามฝิ่นครั้งที่ 1

สาเหตุของการเกิดสงครามครั้งนี้มาจากการค้าขายที่ไม่เป็นธรรมที่จีนมีต่ออังกฤษ โดยจีนไม่ยอมรับข้อเรียกร้องระบบการค้าเสรีจากอังกฤษ ยังคงใช้ระบบการค้าแบบผูกขาดของตนดังเดิม มีการจำกัดเขตพื้นที่ทางการค้าให้กับพ่อค้าชาวอังกฤษแค่ในตัวเมืองกวางโจวและสุดท้ายคือการที่จีนไม่รับหรือนำเข้าสินค้าสินค้าจากอังกฤษทั้งๆที่อังกฤษก็ซื้อสินค้าจากตนไปมากมาย เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อดุลการค้าของอังกฤษเป็นอย่างมาก

ผลที่ตามมาคือ อังกฤษพยายามหาช่องทางเอาคืนจีนโดยการแอบลักลอบนำฝิ่นซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่งที่มีต้นทุนถูกและขายได้ราคาแพงมาหลอกขายให้กับชาวจีน จนชาวจีนเกือบครึ่งค่อนประเทศติดฝิ่นกันถ้วนหน้า สร้างความหนักใจให้กับรัฐบาลจีนเป็นอย่างมาก ถึงขั้นประกาศห้ามการนำเข้าฝิ่น มีการยึดและทำลายฝิ่นที่หลงเหลืออยู่ รวมทั้งออกบทลงโทษอย่างจริงจังต่อผู้ขายและผู้เสพ

เหตุการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนจีนต้องส่งจดหมายไปหาพระนางเจ้าวิคตอเรียเพื่อถามถึงสาเหตุของการนำฝิ่นเข้ามาขายยังประเทศตน แต่พระนางเจ้าวิคตอเรียกลับปฏิเสธที่จะให้คำตอบและทำการบ่ายเบี่ยงโดยเรียกร้องให้จีนคืนสินค้าของตนที่ถูกยึดไว้มาแทน    ผู้นำจีนไม่เห็นชอบเป็นอย่างมาก จึงทำการปฏิเสธและนำเอาฝิ่นที่ยึดมาได้ไปทำลายทิ้งลงทะเล      เป็นผลให้อังกฤษเริ่มประกาศสงครามกับจีนอย่างเป็นทางการ

ผลกระทบจากสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 นี้ ทำให้จีนต้องลงนามในสนธิสัญญานานกิง เนื่องจากเป็นผู้แพ้ในสงคราม และต้องจ่ายค่าปฏิกรณ์สงครามเป็นจำนวนเงินมหาศาล ทำการเปิดเมืองท่าให้อังกฤษได้มาทำการค้าขายเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ชดใช้ค่าฝิ่นที่ทำลายไป อีกทั้งยังต้องเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตอีกด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความบอบช้ำให้จีนเป็นอย่างมาก

สงครามฝิ่นครั้งที่ 2

ครั้งนี้มีสาเหตุมากจากการที่อังกฤษเรียกร้องที่จะแก้ไขสนธิสัญญานานกิง เพื่อให้ตนได้รับผลประโยชน์ทางการค้าจากจีนมากขึ้น อีกทั้งยังเกิดจากการที่จีนไปจับกุมลูกเรือชาวจีนที่อยู่บนเรือบรรทุกสินค้าที่ทำการจดทะเบียนเป็นของอังกฤษ ทำให้อังกฤษเกิดความไม่พอใจ พยายามทำการเจรจาต่อรองให้ปล่อยลูกเรือเหล่านั้นไป แต่ถึงจะทำเช่นไรจีนก็ยังปฏิเสธอยู่ดี อังกฤษจึงได้เริ่มประกาศทำสงครามกับจีนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้มีฝรั่งเศส รัสเซียและสหรัฐอเมริกาเข้ามาร่วมด้วย

ท้ายที่สุดจีนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่สงครามอีกครั้งและต้องลงนามในสัญญาเทียนจินเพิ่ม ผลกระทบที่ตามมาคือจีนต้องเปิดเมืองท่าเพิ่มขึ้นอีก 11 แห่งทำให้ชาติตะวันตกเข้ามาค้าขายในจีนได้อย่างสะดวกและเริ่มแผ่อิทธิพลมากจนจีนอยู่ภายใต้กึ่งเมืองขึ้น-กึ่งศักดินา นอกจากนี้จีนยังต้องออกนโยบายการเสียภาษีนำเข้าไม่เกินร้อยละ 2.5 แก่ชาติตะวันตกทั้ง 4 ประเทศ และต้องเสียพื้นที่เกาะฮ่องกงไป
การสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่ออังกฤษก็ยอมส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีน ในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ.1997
Cr.worldcivil14.blogspot.com

Battle of Inchon

(Cr.ที่มาภาพ: เว็บไซต์ boston.com)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 1950 เกาหลีใต้ถูกบุกอย่างหนัก และถูกยึดพื้นที่เกือบหมดแม้กระทั่งโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง
นายพล ดักลาส แมกอาร์เธอร์ (Douglas MacArthur) วีรบุรุษสงครามของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังดูแลงานยึดครองญี่ปุ่น ถูกส่งให้มาช่วยบัญชาการเพื่อยึดพื้นที่เกาหลีใต้คืนมาในนามของกองกำลังสหประชาชาติ
แมกอาร์เธอร์ตัดสินใจยกพลขึ้นบกที่เมืองอินชอน ซึ่งอยู่ห่างจากโซลประมาณ 27 กิโลเมตร บริเวณนี้คลื่นลมแรงมาก จนทำให้นายพลหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่แมกอาร์เธอร์แย้งว่านั่นยิ่งทำให้เกาหลีเหนือคาดไม่ถึง

กำลังสำคัญของแมกอาร์เธอร์ก็คือกลุ่มทหารเกาหลีใต้สิบกว่าคน ซึ่งถูกส่งเข้าไปเป็นจารชนแทรกซึมอยู่ในกลุ่มผู้นำเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้
จากการประสานงานของซีไอเอ กองทัพอเมริกัน และทหารเกาหลีใต้ที่ยอมเสี่ยงตาย (สุดท้ายก็ตายทั้งหมด) ทำให้กองกำลังสหประชาชาติสามารถยกพลขึ้นบกที่อินชอนได้สำเร็จ โดยมีทหารเกาหลีใต้แอบช่วยเหลืออยู่บนชายฝั่ง

การรบกินเวลา 5 วัน (15-19 กันยายน 1950) ชัยชนะของฝ่ายสหประชาชาติในศึกครั้งนี้เป็นตัวเปลี่ยนโมเมนตัมของสงครามเกาหลีโดยแท้ ถือได้ว่าเป็นชัยชนะเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะอีก 2 อาทิตย์ต่อมาก็สามารถยึดโซลคืนมาได้ และในที่สุดฝ่ายกองกำลังสนับสนุนเกาหลีเหนือทั้งหมดต้องถอยร่นกลับไปในเวลา 3 ปีต่อมา เป็นการสิ้นสุดสงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950-1953)

เมืองอินชอนจึงถือได้ว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของเกาหลีใต้ ถ้าไม่ได้รับชัยชนะที่อินชอน ก็มีความเป็นไปได้ว่าเกาหลีใต้จะถูกยึดครองทั้งหมด ทั้งคาบสมุทรอาจกลายเป็นประเทศเกาหลีเหนือไป
ในช่วงสงครามเกาหลีครั้งนั้น คนไทยได้รู้จักเกาหลีผ่านเพลงรัก “อารีดัง” และได้ยินเรื่องราวแห่งความทุกข์ยากลำบากของคนเกาหลี
Cr.the101.world

Battle for Castle Itter

ยุทธการยึดปราสาทอิทเทอร์ หรือ Battle for Castle Itter เกิดขึ้นที่หมู่บ้านอิทเทอร์ รัฐทิโรล ในประเทศออสเตรีย ซึ่งแยกตัวออกมาจากเยอรมนีหลังถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งกับอาณาจักรไรซ์ที่ 3 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เมื่อปี 1938 และเริ่มรบกันเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 1945 สามวันก่อนสงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรปยุติและฮิตเลอร์นั้นได้ฆ่าตัวตายไปแลัว

ปราสาทอิทเทอร์ในเวลานั้นถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษฝรั่งเศส ซึ่งมีทั้งอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนักเทนนิสชาวฝรั่งเศส
ยุทธการนี้เริ่มต้นในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488) เมื่อรถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรได้บุกมาเพื่อช่วยเหลือนักโทษ แต่ในขณะเดียวกัน ทหารเยอรมันอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้วางแผนอย่างเดียวกัน นั่นคือการช่วยปลดปล่อยนักโทษ เนื่องจากหารกลุ่มนี้เล็งเห็นว่าการยอมแพ้ต่อสหรัฐน่าจะเป็นผลดีกับอนาคตของพวกเขามากกว่า ถึงแม้จะเป็นทหารเยอรมัน ก็ต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน ยอมช่วยศัตรูก็ยอม

ทั้งคู่จึงบุกปราสาทอิทเทอร์และขับไล่ยามที่เฝ้าปราสาทออกไปได้ และเหล่านักโทษ เมื่อได้รับการช่วยเหลือ ต่างก็จับอาวุธ พร้อมปกป้องตนเองหากทหารศัตรูกลับมา
วันต่อมา ทัพนาซีก็ได้กลับมา แต่ทหารอเมริกัน ทหารเยอรมันที่แปรพักตร์ และนักโทษฝรั่งเศสต่างก็ช่วยกันต้านทัพนาซีไว้จนกระทั่งกำลังเสริมมาถึง

ยุทธการยึดปราสาทอิทเทอร์ ได้รับการบันทึกเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองว่าเป็นปฏิบัติการณ์ “ที่แปลกที่สุด” เพราะทหารสัมพันธมิตรได้จับมือร่วมรบกับทหารฝ่ายเยอรมัน เพื่อคุ้มครองและช่วยเหลือตัวประกันซึ่งเป็นดารานักเทนนิส อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพล ซึ่งล้วนเป็นสัญชาติฝรั่งเศสทั้งสิ้น
Cr.blockdit.com/