มาเลเซียผลักดันดิจิทัลอีโคโนมี
รัฐบาลมาเลเซียเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลโดยประกาศความริเริ่มใหม่และหลายมาตรการซึ่งรวมถึงการผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆและนวัตกรรมๆ
ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขยายตัวนำเศรษฐกิจรูปแบบอื่นๆ เป็นปัจจัยหลักในการสร้างรายได้ให้กับประชาชน
ดร.มหาธีร์กล่าวว่า ความริเริ่มต่างๆจะยังมีอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของประเทศที่จะร่วมและแบ่งปันความรุ่งเรือง ตลอดจนการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อยกระดับสังคมและเศรษฐกิจของชาวมาเลเซีย
ดร.มหาธีร์กล่าวอีกว่าการที่มาเลเซียเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีเอไอ การวิเคราะห์ข้อมูล และ เทคโนโลยีเสมือนจริงได้ ต้องมีการปัจจัยสนับสนุนที่ประกอบด้วย การพัฒนาคนที่มีความสามารถทางเทคโนโลยี นักการศึกษา ภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาล
Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ริเริ่มในด้านต่างๆ ระบุว่า การวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีของโลก เพื่อดึงดูดเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่มาสร้างนวัตกรรมในมาเลเซีย
MDEC จะพัฒนาฟินเทค บล็อกเชน และโดรน ต่อเนื่องเพื่อดึงคนที่มีความสามารถด้านดิจิทัลจากทั่วโลกรวมทั้งความสนใจจากนักลงทุน เช่น การริเริ่มเป็นศูนย์กลางทดสอบการบังคับโดรนจะเริ่มในเร็วนี้เพื่อแสวงประโยชน์จากการใช้โดรนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก
ทั้งนั้คาดว่าเทคโนโลยีด้านโดรนจะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจราว 127 ล้านดอลลาร์ หรือ 432.7 พันล้านริงกิตในปี 2025 ปัจจุบันบริษัทมาเลเซียหลายรายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านตลาดเทคโนโลยีโดรนระดับโลก
MDEC ได้วางกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาคนที่มีความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อสนองตอบความต้องการแรงงานที่มีทักษาทางเทคโนโลยี ด้วยการระดมกำลังคนและประสานงานกับผู้ที่มีความสามารถทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้มาเลเซียจะจัดตั้ง National Digital Inclusion Council โดยดร.มหาธีร์เป็นประธาน และมีกรรมการจากกว่า 11 กระทรวง เพื่อสร้างโอกาสทำรายได้จากเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประชาชน
https://thaipublica.org/2019/10/asean-weekly-roundup-09/
มาเลย์มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจบางอย่างที่คล้ายไทย แต่ล้ำหน้าอยู่5-7ปี เราไม่จำเป็นที่จะต้องคิดอะไรให้วุ่นวายที่อาจจะเป็นทางที่ผิดพลาด เพียงแค่ไปลอกนโยบายเค้ามา ออกกฎหมายเศรษฐกิจที่ช่วยส่งเสริมการแข่งขัน ดึงพลังศักยภาพเอกชนเลียนแบบเค้า จะได้ไม่ต้องเถียงต้องค้านอะไรกันให้วุ่นวายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย มีคนนำอยู่ข้างหน้าเห็นหลังอยู่ไกลๆแล่วก็เลียนแบบมันซะเลย อาจจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าก็ได้นะครับ
ปล.ปู่มหาเธร์จะร้อยปีแล้ว แต่ยังทันโลก คิดอ่านฉับไวมาก AI Blockchain โดรน อะไรนี่ปู่แกทันหมด(ไม่อยากพาดพิงgoogleเลย) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงออกนโยบายแบบ S curve EECได้ตั้งแต่ยุค80
เราเลิกใช้วิธีคลำทางแล้วแค่ดูว่าคนข้างหน้าทำอะไรค่อยทำตามอาจจะดีกว่านะครับ
รัฐบาลมาเลเซียเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลโดยประกาศความริเริ่มใหม่และหลายมาตรการซึ่งรวมถึงการผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆและนวัตกรรมๆ
ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขยายตัวนำเศรษฐกิจรูปแบบอื่นๆ เป็นปัจจัยหลักในการสร้างรายได้ให้กับประชาชน
ดร.มหาธีร์กล่าวว่า ความริเริ่มต่างๆจะยังมีอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของประเทศที่จะร่วมและแบ่งปันความรุ่งเรือง ตลอดจนการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อยกระดับสังคมและเศรษฐกิจของชาวมาเลเซีย
ดร.มหาธีร์กล่าวอีกว่าการที่มาเลเซียเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีเอไอ การวิเคราะห์ข้อมูล และ เทคโนโลยีเสมือนจริงได้ ต้องมีการปัจจัยสนับสนุนที่ประกอบด้วย การพัฒนาคนที่มีความสามารถทางเทคโนโลยี นักการศึกษา ภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาล
Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ริเริ่มในด้านต่างๆ ระบุว่า การวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการทดสอบเทคโนโลยีของโลก เพื่อดึงดูดเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่มาสร้างนวัตกรรมในมาเลเซีย
MDEC จะพัฒนาฟินเทค บล็อกเชน และโดรน ต่อเนื่องเพื่อดึงคนที่มีความสามารถด้านดิจิทัลจากทั่วโลกรวมทั้งความสนใจจากนักลงทุน เช่น การริเริ่มเป็นศูนย์กลางทดสอบการบังคับโดรนจะเริ่มในเร็วนี้เพื่อแสวงประโยชน์จากการใช้โดรนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก
ทั้งนั้คาดว่าเทคโนโลยีด้านโดรนจะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจราว 127 ล้านดอลลาร์ หรือ 432.7 พันล้านริงกิตในปี 2025 ปัจจุบันบริษัทมาเลเซียหลายรายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านตลาดเทคโนโลยีโดรนระดับโลก
MDEC ได้วางกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาคนที่มีความสามารถด้านดิจิทัลเพื่อสนองตอบความต้องการแรงงานที่มีทักษาทางเทคโนโลยี ด้วยการระดมกำลังคนและประสานงานกับผู้ที่มีความสามารถทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้มาเลเซียจะจัดตั้ง National Digital Inclusion Council โดยดร.มหาธีร์เป็นประธาน และมีกรรมการจากกว่า 11 กระทรวง เพื่อสร้างโอกาสทำรายได้จากเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประชาชน
https://thaipublica.org/2019/10/asean-weekly-roundup-09/
มาเลย์มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจบางอย่างที่คล้ายไทย แต่ล้ำหน้าอยู่5-7ปี เราไม่จำเป็นที่จะต้องคิดอะไรให้วุ่นวายที่อาจจะเป็นทางที่ผิดพลาด เพียงแค่ไปลอกนโยบายเค้ามา ออกกฎหมายเศรษฐกิจที่ช่วยส่งเสริมการแข่งขัน ดึงพลังศักยภาพเอกชนเลียนแบบเค้า จะได้ไม่ต้องเถียงต้องค้านอะไรกันให้วุ่นวายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย มีคนนำอยู่ข้างหน้าเห็นหลังอยู่ไกลๆแล่วก็เลียนแบบมันซะเลย อาจจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าก็ได้นะครับ
ปล.ปู่มหาเธร์จะร้อยปีแล้ว แต่ยังทันโลก คิดอ่านฉับไวมาก AI Blockchain โดรน อะไรนี่ปู่แกทันหมด(ไม่อยากพาดพิงgoogleเลย) ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงออกนโยบายแบบ S curve EECได้ตั้งแต่ยุค80