คือ ประเด็นมันเป็นแบบนี้ครับ คือในตอนที่ผมยังอยู่ม.ต้น ผมไม่เคยศรัทธาในความรักเลยครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นแค่ตัณหาของมนุษย์ครับ ผมไม่ศรัทธาแล้วผมก็ไม่เชื่อด้วย ถามว่าในตอนนั้นเคยมีประสบการณ์มาก่อนไหมมันก็มีแหละครับ คือมีคนมาจีบทีนี้ด้วยความสงสัยเลยตอบคบไป แต่ก็ไม่ได้พยายามอะไรเลยเพราะไม่ได้รู้สึกด้วยที่นี้จู่ก็มีคนมาชอบอีกคนนึง เธอทักมาขอคนที่ผมคบอยุ่แล้วเธอก็ให้ไปซะงั้น ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกโกรธที่ว่าตัวเองเป็นเหมือนสิ่งของนะ แต่รู้สึกว่า แค่นี้เองหรอที่บอกว่ารักมันทำให้คนเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผมจึงขอเลิกกับเธอ เธอเสียใจมากและก็ทักมาหาผมอยู่เดือนกว่าแล้วก็เงียบไป แล้วพอผมมาถึง ม.ปลาย ก็ได้พบผู้หญิงคนนึงทัศนคติและนิสัยของเธอไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอมาก่อน เธอชอบผมเราจึงเริ่มคุยกัน เราคุยกันแค่4-5วัน จากนั้นเราจึงคบกัน ในตอนแรกที่เราคุยกันผมคิดว่าเดี่ยวมันก็คงจบแบบเดิม แต่พอเราเริ่มต้นคบกัน ก็มีความรู้สึกใหม่ๆเกิดขึ้นกับชีวิตของผมมากมายมันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นมากๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่อยากเสียคนๆนี้ในชีวิตของผมไป เราพัฒนาความสัมพันธ์นี้ไปต้นๆที่3ที่เราคบกัน เราปิดเทอมแล้วเธอก็ต้องการที่จะทำงานpast time เธอทำตั้งแต่ 17.00 ถึง 23.00 ผมเข้าใจเธอทุกๆอย่างแต่การปรับเปลี่ยนแล้วการขัดใจตัวเองแบบนี้มันเจ็บมากๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจกันได้ง่ายๆผมแค่คิดถึงเขามากๆ ตอนนี้เราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย มีแค่ มอนิ่ง กินข้าวด้วย ไปทำงานแล้วหรอ อย่าหักโหมมากนะ ผมทำให้ตัวเองยุ่งๆเข้าไว้เพื่อไม่ให้นึกถึงเธอ แต่แล้วเธอก็มาบอกกับผมว่าเธอเปลี่ยนไป เธอดูไม่สนใจผมเหมือนแต่ก่อน แต่ผมรักเธอมากกว่าที่จะถอยแล้ว ผมพยามเปลี่ยนตัวเองเรื่อยเพื่อที่จะได้อยู่กับเธอได้ แต่ในทุกๆครั้งการที่เรารู้สึกที่สุด แล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกมันเจ็บมากๆ แล้วผมก็รู้ว่าจริงๆแล้วมนุษย์ไม่มีใครที่แน่นอนเลยสักคน ตอนนี้เราคบกันมาถึงเดือนทที่4แล้ว วันนี้เป็นวันที่ 22/10/62 ผมจะเปิดเทอมในวันที่29 ในตอนนั้นผมหวังว่ามันอาจจะเป็นเพราะความเหนือยล้าจากงาน หรือ เป็นเพราะระยะทางที่เราห่างกันไป ทำให้เธอไม่เหมือนเดิม
การพยายามเพื่อคนที่เรารัก นี้ถือเป็นความรักรึเปล่าครับ