หลายคนน่าจะรู้แล้วว่าละครเรื่องนี้มีสองเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นที่ฉายที่ไทยและเวอร์ชั่นที่ฉายที่ต่างประเทศ
ตามที่เข้าใจ เวอร์ชั่นที่ฉายในไทยจะเหมือนละครเรื่องก่อนๆหน้าของนาดาว ที่มีการติดตามกระแสทุกอาทิตย์
และเอาแต่ละตอนที่จะออกในอาทิตย์ต่อไปมาตัดต่อใหม่เพื่อเล่นกับกระแสในโซเชี่ยลจากตอนก่อนหน้า
ในขณะที่เวอร์ชั่นต่างประเทศ น่าจะไม่ได้ตัดต่อแบบนี้เพราะต้องส่งให้ทางต่างประเทศล่วงหน้า ให้ไปทำ subtitle
ฉะนั้นเวอร์ชั่นต่างประเทศจึงเป็นเวอร์ชั่น director's cut ที่ผู้กำกับตั้งใจให้มันเป็นอย่างงี้ตั้งแต่แรก ไม่ได้เล่นตามกระแส
จากที่ตามอ่านและดูมา มีหลายฉากที่ต่างกัน รายละเอียดอาจจะเหมือนไม่มากเท่าไหร่ เส้นเรื่องยังเดินไปทางเดียวกัน
แต่จากการอ่านความเห็นของหลายๆคน การตัดต่อแบบนี้มันมีผลต่อการตีความความคิดและอารมณ์ของตัวละครเหมือนกันนะ
อย่างฉากที่เห็นชัดซึ่งเป็นฉากใหญ่มากคือฉาก ep6 ที่ทานตะวัน เต่า เล็กเจ็บหนักหมดและเป้งขึ้นรถไปกับเล็ก ทิ้งทานตะวันให้ฉลามดูแล
ฉากนี้ฉลามโดนคนดูเวอร์ชั่นไทยวิจารณ์ว่าน่าจะบอกทานตะวันว่าจริงๆเป้งอยากมาแต่มาไม่ได้ ฉลามเลยต้องมาแทน
แต่ความจริงแล้วในเวอร์ชั่นนอก เล็กไม่ได้มีอาการเปลี่ยน เป้งเลือกจะไปกับเล็กเองและจะให้ฉลามดูแลเคสทานตะวันตั้งแต่แรก
มีซีนมายืนมองก่อนรถออกและบะหมี่มาบอกให้เป้งไปช่วยทานตะวันด้วยซ้ำ เพราะอาการเล็กตอนนั้นคนที่เหลือดูแลไปจนถึงโรงพยาบาลได้
แต่เป้งเลือกเองว่าจะไปกับเล็ก ไม่ใช่จังหวะนรกสถานการณ์บังคับ จริงๆถ้าฉายเวอร์ชั่นนี้บะหมี่จะโดนด่าน้อยลงเยอะด้วย
มีฉากที่บะหมี่ปลอบเล็กว่าหนูกำลังจะขับรถพาพี่ไปโรงพยาบาลนะ เป้งเลยมองบะหมี่แบบยอมรับในความเป็น EMT
เข้าใจได้กว่าประทับใจบะหมี่แค่เพราะเห็นการยกเตียงอย่างทะมัดทะแมงเยอะเลยด้วย (แต่ก็เสียเวลาที่จะไปดูทานตะวันเพิ่มไปอี๊กกก)
ซีนนี้สำคัญมากนะ เรามั่นใจว่าคนที่ดูเวอร์ชั่นนอกเจอช็อตนี้ น่าจะเทหมอเป้งกันไม่น้อยเลยล่ะ ทานตะวันยิ่งสมควรน้อยใจกว่าเวอร์ชั่นไทยอีก
และฉลามกับบะหมี่ก็จะดูแฟร์กับคู่แข่งทางความรักมากกว่าด้วย ฉลามไม่ได้ปิดความจริงที่เป้งจะมาช่วย บะหมี่เห็นอกเห็นใจทานตะวันอยากให้เป้งไปดู
นี่ยังไม่นับความปากสุนัขขั้นสุดที่ไม่ได้พูดแค่ว่า "แกเหม่ออีกแล้วเหรอ" ด้วยนะ แต่บอกแฟนที่นอนปอดรั่วอยู่ว่า "ทำไมทำตัวเป็นภาระแบบนี้" ด้วย
ฉากที่สนามแข่งรถก็ด้วย บะหมี่มีไปโวยวายกับเป้งก่อน พูดจาไม่ดีด้วย เป้งถึงสะบัดเสื้อใส่บะหมี่
ฉากนี้ทำให้เข้าใจทั้งเป้งทั้งบะหมี่ได้ดีขึ้นนะ เป้งดูเป็นคนใจจืดใจดำกับบะหมี่น้อยลง เพราะที่สะบัดหนีแบบนั้นเพราะบะหมี่มาวีนก่อน
และการที่บะหมี่ดีใจที่เป้งมาคุยด้วยในตอนล่าสุดก็จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเพราะบะหมี่ก็รู้สึกผิดที่ไปทำแบบนั้นไม่ใช่แค่เรื่องปากโป้ง
และบทพูดที่ทานตะวันระบายกับบะหมี่ก็มีบอกว่าทานตะวันโดนเป้งตะคอกใส่แค่เพราะอยากอยู่ด้วยแค่อีก 2-3 นาทีด้วย
สาเหตุหนึ่งที่ฉลามเลือกจะถอยให้เป้งหลังจากรู้ความจริงเรื่องเป้งรับผิดแทนทานตะวันก็ตัดออก
ฉากนั้นจัดดอกไม้กันอยู่แล้วเล็กก็พูดเรื่องเป้งรับผิดแทนทานตะวันแล้วบอกว่า "พี่เป้งเค้ารักพี่ทานตะวันมากกกกกก"
แถมพูดด้วยนะ ว่าที่พี่ทานตะวันมาชอบฉลามตอนนี้ เค้าคงรู้สึกแย่เนอะที่มารู้ทีหลังว่าพี่เป้งรักเค้ามากขนาดนั้น
ซีนที่เล็กพูดแบบนั้นมันมีผลกับฉลามมากนะ เพราะฉลามพูดประโยคเดียวกัน น้ำเสียงแบบเดียวกันเลย ตอนอธิบายว่าทำไมคิดจะตัดใจ
ฉากที่จริงๆฉลามทะลุไปช่วยทานตะวันแต่ไปไม่ทันมือเป้งก็ไม่เหมือนกัน
ในเวอร์ชั่นต่างประเทศ ฉลามเลิ่กลั่กตลอดทางแต่ตัดสินใจหันมาบอกบะหมี่ตอนได้ยินว่าเป้งไปได้แค่มือและทานตะวันร้องเจ็บเสียงดัง
แสดงให้รู้ว่าที่ไม่ทะลุไปหาตั้งแต่แรกที่ครบหนึ่งนาที เพราะฉลามคิดว่าเป้งไปถึงตรงนั้นแล้วจริงๆ จนรู้ว่าไปไม่ได้เลยจะไปเอง
และจริงๆก่อนหน้านั้นฉลามก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่มาเจอเต่าวิ่งมาบอกก่อนว่าเป้งไปถึงแล้ว ฉลามเลยยอมไปกับรถแทนที่จะทะลุไป
ฉากที่ฉลามเล่าเรื่องวันเกิดอุบัติเหตุให้ไทฟังก็ไม่เหมือนกัน เพลงประกอบตอนคุยกับน้องขิมก็มาแนวซึ้งไม่ใช่แนวระทึกขวัญ
เพลงประกอบและมุมกล้องต่างกัน ส่งผลให้อารมณ์และการรับรู้ของคนดูต่างกันไปด้วย หน้าฉลามเวอร์ชั่นนอกดูเข้าใจว่าไทมีอาการทางจิตมากกว่า
แต่เวอร์ชั่นไทยดูหน้าฉลามแขยงและกลัวไทมากกว่าจะสงสารอย่างเวอร์ชั่นนอก ตอนบอกไม่มีใครตั้งใจอยากให้น้องพี่ตายเลยดูเป็นอีกอารมณ์เลย
เพลงประกอบและบทพูดตอนฉลามบอกจะรับผิดชอบเองก็ต่างกัน ฉลามเวอร์ชั่นนอกพร้อมปกป้องมาก ไม่ใช่เด็กน้อยแค่บอกให้มาคุยกับผม
(ฉะนั้นคิดว่าเป้าหลักของไทในตอนต่อไปคือน่าจะพุ่งเป้าไปที่ฉลามมากกว่าทานตะวัน เพราะฉลามประกาศศึกพร้อมรับมือเต็มที่)
ไลน์ที่คุยกับเต่าตอนเดินกลับมาก็ให้อีกอารมณ์เลย บะหมี่และคนอื่นๆเวอร์ชั่นนอกดูโกรธฉลามจริงจังมาก ให้น้ำหนักกับสถานการณ์มากกว่า
ตอนฉลามมาหาทานตะวันอีกครั้ง เวอร์ชั่นต่างประเทศฉลามก็ไม่ได้พูดว่าที่หายไปเพราะถอยให้เป้ง ซึ่งเราว่าดีกว่าแบบเวอร์ชั่นไทยมาก
เพราะมันเป็นบทพูดที่ทำให้ทานตะวันและคนดูแม้แต่ทีมฉลามเองจะแบบ "อะไรวะ พูดทำไม" แค่บอกว่าผมไม่หนีอีกแล้วเฉยๆก็มากพอแล้ว
จริงๆยังมีอีกหลายซีนเลยที่ต่างกันที่เราข้ามไป แค่เพลงประกอบและมุมกล้องต่างกันอารมณ์ของตัวละครก็สื่อสารออกมาต่างกันแล้ว
ตอนฉากที่ไปเดินตามหาไทด้วยกันที่เชียงใหม่มันก็มีความมุ้งมิ้งต่อปากต่อคำกันมากกว่าเวอร์ชั่นที่ฉายในไทย
พูดตรงๆคือจากเวอร์ชั่นต่างประเทศ มันชี้ไปทางฉลามมากกว่าเวอร์ชั่นไทยพอสมควร และเป้งดูแย่กว่าเวอร์ชั่นไทยด้วย
มันยากมากที่จะทำให้คนดูเวอร์ชั่นต่างประเทศอินถ้าสุดท้ายทานตะวันเลือกเป้ง เพราะเส้นเรื่องมันมาทางฉลามมากกว่าจริงๆ
ถ้าจะจบแบบสองเวอร์ชั่นก็เรื่องนึง แต่ถ้าสองเวอร์ชั่นจะต้องจบเหมือนกันอันนี้แหละที่จะทำให้ละครมีปัญหาในตอนจบ
การลดซีนดีๆของฉลามและลดซีนแย่ๆของเป้งทำให้ถ้าทานตะวันเลือกฉลามจริงๆ คนดูเวอร์ไทยส่วนนึงจะไม่อินและไม่ยอมรับอย่างที่เห็นอยู่
ต่อให้สองตอนสุดท้ายจะเทซีนคืนให้ฉลามไปเต็มๆ แต่คนที่เลือกทีมไปแล้ว ตัดสินใจไปแล้วจาก 14 ตอนที่ผ่านมา มันกลับมาอินยากมากนะ
นี่แอบคิดว่าจริงๆที่ซันนี่ชอบพูดเล่นว่าทีมไท เพราะตัวซันนี่เองก็ไม่เชียร์หมอเป้งเวอร์ชั่นต่างประเทศและสงสารไทที่ถูกทุกคนกระทำด้วยรึเปล่า
เลยมาหยอดมุกทีเล่นทีจริงบอกว่าตัวเองทีมไท ไม่ใช่ทีมเป้ง
ไม่ใช่เพราะเราเชียร์ฉลามมากกว่านะ แต่เวอร์ชั่นต่างประเทศเราว่ามันสมบูรณ์มากกว่าจริงๆ เหตุผลการกระทำ เพลงประกอบต่างๆมันลงตัวกว่า
ขนาดซีนแย่ๆของเป้งก็ยังทำให้เราเข้าใจเป้งมากขึ้นเลยว่านี่คือความเป็นเป้งแบบสุดทาง ซึ่งมันทำให้เห็นภาพความสัมพันธ์ของเป้งและทานตะวันชัดขึ้น
ของเวอร์ชั่นไทยบางทีเพลงประกอบก็กระชากอารมณ์หลุดไปเหมือนกันนะ อย่างฉากที่ฉลามไปบ้านไทอันนั้นเห็นชัดมากว่าเพลงประกอบต่าง อารมณ์ต่าง
ถ้าให้เดาคือกระแสการแสดงบทไทของแบงค์ดีมาก ทีมงานเลยไปขยี้เน้นความจิตของไทในฉากนี้ ดนตรีเลยมาแนวตื่นเต้นระทึกขวัญ
แต่การใช้ดนตรีช่วยเสริมการเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของฉลามและไทให้คนดูรู้สึกร่วมกับทั้งคู่ในซีนนี้มันเลยหายไปเลย เน้นแต่ความจิตอย่างเดียว
ตลกร้ายเหมือนกันนะ ละครไทยเวอร์ชั่นที่ฉายในไทยไม่ใช่เวอร์ชั่นสมบูรณ์เท่ากับเวอร์ชั่นที่ส่งไปฉายต่างประเทศ
รักฉุดใจนายฉุกเฉิน - บทดีมากไม่ได้ห่วยหรอก แต่ปัญหาคือการตัดต่อเพื่อเล่นกับกระแสมากกว่า
ตามที่เข้าใจ เวอร์ชั่นที่ฉายในไทยจะเหมือนละครเรื่องก่อนๆหน้าของนาดาว ที่มีการติดตามกระแสทุกอาทิตย์
และเอาแต่ละตอนที่จะออกในอาทิตย์ต่อไปมาตัดต่อใหม่เพื่อเล่นกับกระแสในโซเชี่ยลจากตอนก่อนหน้า
ในขณะที่เวอร์ชั่นต่างประเทศ น่าจะไม่ได้ตัดต่อแบบนี้เพราะต้องส่งให้ทางต่างประเทศล่วงหน้า ให้ไปทำ subtitle
ฉะนั้นเวอร์ชั่นต่างประเทศจึงเป็นเวอร์ชั่น director's cut ที่ผู้กำกับตั้งใจให้มันเป็นอย่างงี้ตั้งแต่แรก ไม่ได้เล่นตามกระแส
จากที่ตามอ่านและดูมา มีหลายฉากที่ต่างกัน รายละเอียดอาจจะเหมือนไม่มากเท่าไหร่ เส้นเรื่องยังเดินไปทางเดียวกัน
แต่จากการอ่านความเห็นของหลายๆคน การตัดต่อแบบนี้มันมีผลต่อการตีความความคิดและอารมณ์ของตัวละครเหมือนกันนะ
อย่างฉากที่เห็นชัดซึ่งเป็นฉากใหญ่มากคือฉาก ep6 ที่ทานตะวัน เต่า เล็กเจ็บหนักหมดและเป้งขึ้นรถไปกับเล็ก ทิ้งทานตะวันให้ฉลามดูแล
ฉากนี้ฉลามโดนคนดูเวอร์ชั่นไทยวิจารณ์ว่าน่าจะบอกทานตะวันว่าจริงๆเป้งอยากมาแต่มาไม่ได้ ฉลามเลยต้องมาแทน
แต่ความจริงแล้วในเวอร์ชั่นนอก เล็กไม่ได้มีอาการเปลี่ยน เป้งเลือกจะไปกับเล็กเองและจะให้ฉลามดูแลเคสทานตะวันตั้งแต่แรก
มีซีนมายืนมองก่อนรถออกและบะหมี่มาบอกให้เป้งไปช่วยทานตะวันด้วยซ้ำ เพราะอาการเล็กตอนนั้นคนที่เหลือดูแลไปจนถึงโรงพยาบาลได้
แต่เป้งเลือกเองว่าจะไปกับเล็ก ไม่ใช่จังหวะนรกสถานการณ์บังคับ จริงๆถ้าฉายเวอร์ชั่นนี้บะหมี่จะโดนด่าน้อยลงเยอะด้วย
มีฉากที่บะหมี่ปลอบเล็กว่าหนูกำลังจะขับรถพาพี่ไปโรงพยาบาลนะ เป้งเลยมองบะหมี่แบบยอมรับในความเป็น EMT
เข้าใจได้กว่าประทับใจบะหมี่แค่เพราะเห็นการยกเตียงอย่างทะมัดทะแมงเยอะเลยด้วย (แต่ก็เสียเวลาที่จะไปดูทานตะวันเพิ่มไปอี๊กกก)
ซีนนี้สำคัญมากนะ เรามั่นใจว่าคนที่ดูเวอร์ชั่นนอกเจอช็อตนี้ น่าจะเทหมอเป้งกันไม่น้อยเลยล่ะ ทานตะวันยิ่งสมควรน้อยใจกว่าเวอร์ชั่นไทยอีก
และฉลามกับบะหมี่ก็จะดูแฟร์กับคู่แข่งทางความรักมากกว่าด้วย ฉลามไม่ได้ปิดความจริงที่เป้งจะมาช่วย บะหมี่เห็นอกเห็นใจทานตะวันอยากให้เป้งไปดู
นี่ยังไม่นับความปากสุนัขขั้นสุดที่ไม่ได้พูดแค่ว่า "แกเหม่ออีกแล้วเหรอ" ด้วยนะ แต่บอกแฟนที่นอนปอดรั่วอยู่ว่า "ทำไมทำตัวเป็นภาระแบบนี้" ด้วย
ฉากที่สนามแข่งรถก็ด้วย บะหมี่มีไปโวยวายกับเป้งก่อน พูดจาไม่ดีด้วย เป้งถึงสะบัดเสื้อใส่บะหมี่
ฉากนี้ทำให้เข้าใจทั้งเป้งทั้งบะหมี่ได้ดีขึ้นนะ เป้งดูเป็นคนใจจืดใจดำกับบะหมี่น้อยลง เพราะที่สะบัดหนีแบบนั้นเพราะบะหมี่มาวีนก่อน
และการที่บะหมี่ดีใจที่เป้งมาคุยด้วยในตอนล่าสุดก็จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเพราะบะหมี่ก็รู้สึกผิดที่ไปทำแบบนั้นไม่ใช่แค่เรื่องปากโป้ง
และบทพูดที่ทานตะวันระบายกับบะหมี่ก็มีบอกว่าทานตะวันโดนเป้งตะคอกใส่แค่เพราะอยากอยู่ด้วยแค่อีก 2-3 นาทีด้วย
สาเหตุหนึ่งที่ฉลามเลือกจะถอยให้เป้งหลังจากรู้ความจริงเรื่องเป้งรับผิดแทนทานตะวันก็ตัดออก
ฉากนั้นจัดดอกไม้กันอยู่แล้วเล็กก็พูดเรื่องเป้งรับผิดแทนทานตะวันแล้วบอกว่า "พี่เป้งเค้ารักพี่ทานตะวันมากกกกกก"
แถมพูดด้วยนะ ว่าที่พี่ทานตะวันมาชอบฉลามตอนนี้ เค้าคงรู้สึกแย่เนอะที่มารู้ทีหลังว่าพี่เป้งรักเค้ามากขนาดนั้น
ซีนที่เล็กพูดแบบนั้นมันมีผลกับฉลามมากนะ เพราะฉลามพูดประโยคเดียวกัน น้ำเสียงแบบเดียวกันเลย ตอนอธิบายว่าทำไมคิดจะตัดใจ
ฉากที่จริงๆฉลามทะลุไปช่วยทานตะวันแต่ไปไม่ทันมือเป้งก็ไม่เหมือนกัน
ในเวอร์ชั่นต่างประเทศ ฉลามเลิ่กลั่กตลอดทางแต่ตัดสินใจหันมาบอกบะหมี่ตอนได้ยินว่าเป้งไปได้แค่มือและทานตะวันร้องเจ็บเสียงดัง
แสดงให้รู้ว่าที่ไม่ทะลุไปหาตั้งแต่แรกที่ครบหนึ่งนาที เพราะฉลามคิดว่าเป้งไปถึงตรงนั้นแล้วจริงๆ จนรู้ว่าไปไม่ได้เลยจะไปเอง
และจริงๆก่อนหน้านั้นฉลามก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่มาเจอเต่าวิ่งมาบอกก่อนว่าเป้งไปถึงแล้ว ฉลามเลยยอมไปกับรถแทนที่จะทะลุไป
ฉากที่ฉลามเล่าเรื่องวันเกิดอุบัติเหตุให้ไทฟังก็ไม่เหมือนกัน เพลงประกอบตอนคุยกับน้องขิมก็มาแนวซึ้งไม่ใช่แนวระทึกขวัญ
เพลงประกอบและมุมกล้องต่างกัน ส่งผลให้อารมณ์และการรับรู้ของคนดูต่างกันไปด้วย หน้าฉลามเวอร์ชั่นนอกดูเข้าใจว่าไทมีอาการทางจิตมากกว่า
แต่เวอร์ชั่นไทยดูหน้าฉลามแขยงและกลัวไทมากกว่าจะสงสารอย่างเวอร์ชั่นนอก ตอนบอกไม่มีใครตั้งใจอยากให้น้องพี่ตายเลยดูเป็นอีกอารมณ์เลย
เพลงประกอบและบทพูดตอนฉลามบอกจะรับผิดชอบเองก็ต่างกัน ฉลามเวอร์ชั่นนอกพร้อมปกป้องมาก ไม่ใช่เด็กน้อยแค่บอกให้มาคุยกับผม
(ฉะนั้นคิดว่าเป้าหลักของไทในตอนต่อไปคือน่าจะพุ่งเป้าไปที่ฉลามมากกว่าทานตะวัน เพราะฉลามประกาศศึกพร้อมรับมือเต็มที่)
ไลน์ที่คุยกับเต่าตอนเดินกลับมาก็ให้อีกอารมณ์เลย บะหมี่และคนอื่นๆเวอร์ชั่นนอกดูโกรธฉลามจริงจังมาก ให้น้ำหนักกับสถานการณ์มากกว่า
ตอนฉลามมาหาทานตะวันอีกครั้ง เวอร์ชั่นต่างประเทศฉลามก็ไม่ได้พูดว่าที่หายไปเพราะถอยให้เป้ง ซึ่งเราว่าดีกว่าแบบเวอร์ชั่นไทยมาก
เพราะมันเป็นบทพูดที่ทำให้ทานตะวันและคนดูแม้แต่ทีมฉลามเองจะแบบ "อะไรวะ พูดทำไม" แค่บอกว่าผมไม่หนีอีกแล้วเฉยๆก็มากพอแล้ว
จริงๆยังมีอีกหลายซีนเลยที่ต่างกันที่เราข้ามไป แค่เพลงประกอบและมุมกล้องต่างกันอารมณ์ของตัวละครก็สื่อสารออกมาต่างกันแล้ว
ตอนฉากที่ไปเดินตามหาไทด้วยกันที่เชียงใหม่มันก็มีความมุ้งมิ้งต่อปากต่อคำกันมากกว่าเวอร์ชั่นที่ฉายในไทย
พูดตรงๆคือจากเวอร์ชั่นต่างประเทศ มันชี้ไปทางฉลามมากกว่าเวอร์ชั่นไทยพอสมควร และเป้งดูแย่กว่าเวอร์ชั่นไทยด้วย
มันยากมากที่จะทำให้คนดูเวอร์ชั่นต่างประเทศอินถ้าสุดท้ายทานตะวันเลือกเป้ง เพราะเส้นเรื่องมันมาทางฉลามมากกว่าจริงๆ
ถ้าจะจบแบบสองเวอร์ชั่นก็เรื่องนึง แต่ถ้าสองเวอร์ชั่นจะต้องจบเหมือนกันอันนี้แหละที่จะทำให้ละครมีปัญหาในตอนจบ
การลดซีนดีๆของฉลามและลดซีนแย่ๆของเป้งทำให้ถ้าทานตะวันเลือกฉลามจริงๆ คนดูเวอร์ไทยส่วนนึงจะไม่อินและไม่ยอมรับอย่างที่เห็นอยู่
ต่อให้สองตอนสุดท้ายจะเทซีนคืนให้ฉลามไปเต็มๆ แต่คนที่เลือกทีมไปแล้ว ตัดสินใจไปแล้วจาก 14 ตอนที่ผ่านมา มันกลับมาอินยากมากนะ
นี่แอบคิดว่าจริงๆที่ซันนี่ชอบพูดเล่นว่าทีมไท เพราะตัวซันนี่เองก็ไม่เชียร์หมอเป้งเวอร์ชั่นต่างประเทศและสงสารไทที่ถูกทุกคนกระทำด้วยรึเปล่า
เลยมาหยอดมุกทีเล่นทีจริงบอกว่าตัวเองทีมไท ไม่ใช่ทีมเป้ง
ไม่ใช่เพราะเราเชียร์ฉลามมากกว่านะ แต่เวอร์ชั่นต่างประเทศเราว่ามันสมบูรณ์มากกว่าจริงๆ เหตุผลการกระทำ เพลงประกอบต่างๆมันลงตัวกว่า
ขนาดซีนแย่ๆของเป้งก็ยังทำให้เราเข้าใจเป้งมากขึ้นเลยว่านี่คือความเป็นเป้งแบบสุดทาง ซึ่งมันทำให้เห็นภาพความสัมพันธ์ของเป้งและทานตะวันชัดขึ้น
ของเวอร์ชั่นไทยบางทีเพลงประกอบก็กระชากอารมณ์หลุดไปเหมือนกันนะ อย่างฉากที่ฉลามไปบ้านไทอันนั้นเห็นชัดมากว่าเพลงประกอบต่าง อารมณ์ต่าง
ถ้าให้เดาคือกระแสการแสดงบทไทของแบงค์ดีมาก ทีมงานเลยไปขยี้เน้นความจิตของไทในฉากนี้ ดนตรีเลยมาแนวตื่นเต้นระทึกขวัญ
แต่การใช้ดนตรีช่วยเสริมการเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของฉลามและไทให้คนดูรู้สึกร่วมกับทั้งคู่ในซีนนี้มันเลยหายไปเลย เน้นแต่ความจิตอย่างเดียว
ตลกร้ายเหมือนกันนะ ละครไทยเวอร์ชั่นที่ฉายในไทยไม่ใช่เวอร์ชั่นสมบูรณ์เท่ากับเวอร์ชั่นที่ส่งไปฉายต่างประเทศ