มาดูกันว่า เหตุใดจึงเกิดเหตุที่คนเล่นเกมแล้วคลุ้มคลั่ง อาละวาด คนเล่นเกมในปัจจุเล่นอะไรกัน พร้อมวิธีรับมือ

สวัสดีครับ ตอนนี้ทุกท่านคงจะพอได้ยินข่าว หรือได้เห็นคลิป น้องที่เล่นเกมยิงปืนแล้วแพ้ เกิดอาละวาดใช้มีดไล่ฟันคนในบ้าน มากันบ้างนะครับ

ซึ่งประเด็นนี้ก็ถูกวิพากย์วิจารณ์หนักทั้งจากฝั่งคนในวงการเองและคนทั่วไป

และพอมาพูดถึงข่าวทำนองนี้ ที่คนเล่นเกมแล้วไปก่อเหตุนู่นนี่ เราก็มักจะได้เห็นได้ยินเป็นระยะๆอยู่แล้ว แม้จะจริงบ้างใส่ไข่บ้างก็ตาม (แต่คราวนี้มีคลิปให้เห็นเลย)

ซึ่งผมเองเป็นคนในวงการที่พอได้ฟังก็เกิดความไม่สบายใจ ก็เลยอยากออกมาบอกเล่าในมุมมองของตัวเองบ้างเพื่อให้เกิดความเข้าใจครับ
ทั้งนี้ผมขอข้ามประเด็น เกมผิดไม่ผิด ไปเลย เพราะซ้ำมากแล้ว และจะพยายามให้สั้นที่สุดครับ ถ้ายาวเกินไปขออภัย

ก่อนอื่นเรามาพูดถึงประเภทของเกมและอาการติดเกมก่อนนะครับ

ในหัวข้อนี้ผมจะแบ่งเกมออกเป็น 2 แบบ

1."แบบเล่นคนเดียว" (รวมถึงเกมแนวปาร์ตี้ นั่งโซฟาเล่นกับเพื่อนก็รวมในนี้ด้วย)

สำหรับเกมประเภทนี้นะครับ ผมจะต้องบอกตามตรงว่า มันมีความหลากหลายและสร้างสรรค์มาก เช่น สร้างโรงพยาบาล สร้างสวนสนุก
หรือแบบแนวยิงๆก็มีเยอะ เกมประเภทนี้เล่นแล้วก็จะเหมือนขลุกอยู่กับตัวเองทำผลงานอะไรสักอย่าง หรือตะลุยเนื้อเรื่อง เล่นให้จบเกมก็ตาม

เมื่อก่อนที่อินเตอร์เนตไม่แพร่หลาย เราจะเล่นเกมแบบนี้กันเป็นส่วนใหญ่นะครับ
ซึ่งถ้าถามว่าเกมประเภทนี้ติดได้มั้ย ตอบเลยว่า "ก็ติดได้" ครับ ซึ่งจะเป็นในลักษณะ กำลังเล่นอะไรค้างอยู่ แล้วมีคนมาขัด แม่เรียก
แฟนเรียก หรือ อยากผ่านเนื้อเรื่องมาก อยากเล่นให้จบ อยากหาอาวุธเทพ จนไม่เป็นอันทำอะไร
มันก็จะคล้ายๆเราดูซีรีย์แล้วอยากดูให้จบซีซั่นรวดเดียวน่ะครับ

แต่ปัญหาติดจากเกมประเภทนี้ ส่วนมากเอฟเฟ็คมันไม่รุนแรง เพราะพอจบ มันก็ไม่มีอะไรให้ทำต่อแล้ว
แล้วอีกอย่างมันอยู่ในข่ายที่ "เล่นเอาเพลินๆ" ได้ ไม่มีอะไรมากดดันให้เล่นถึงตรงนู้นตรงนี้ นอกจากตัวเราเอง

2."แบบเล่นหลายคนเป็นสังคม"ร้องไห้เกมออนไลน์)

อันนี้แหละครับที่ผมมองว่าเป็นปัญหาหลักของสังคมเกมเลย

ผมจะท้าวความก่อนว่า คุณเคยเป็นวัยรุ่นมั้ยครับ?
ลองนึกว่า ในยุคสมัยของคุณกิจกรรมยามว่างคุณทำอะไรบ้าง ที่เป็นการทำกิจกรรมกับบุคคลอื่น

ซึ่งผมอยากจะบอกว่า วัยรุ่นเดี๋ยวนี้ บางกลุ่มใช้การเล่นเกมเหมือนเป็นการเข้าสังคมของเขาน่ะครับ

คุณนั่งอยู่หน้าคอม หรือกดมือถืออยู่ที่บ้าน กดเปิดเข้าเกม เข้าโหมดแข่งขัน
รอแค่แปบเดียวเกมก็สุ่มคนจากไหนของมุมโลกไม่รู้มาให้คุณ แล้วคุณก็ต้องแข่งกับเขาเอาแพ้เอาชนะ

แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจ เวลาแข่งคุณต้องแข่งเป็นทีม ก็คือเกมก็จะสุ่มเพื่อนมาเข้าทีมคุณเหมือนกัน
แล้วทีมเนี่ยก็ต้องร่วมมือกัน เอาชนะอีกฝั่งตรงข้าม

พอเล่นไปสักพักหนึ่ง.... เสียงลอยมา "ทำไมพวกเมิงถึงเล่นแบบนี้วะไอ**$$%#" พอนึกภาพออกมั้ยครับ ฮาๆ

นั่นยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด แต่การเล่นเกมปัจจุบัน มีสิ่งที่เค้าเรียกว่า "ชุมชนเกม"
คนที่เล่นเกมเดียวกัน จะมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน พูดคุยถึงวิธีการเล่นอะไรต่างๆ รวมกันเป็นพันๆหมื่นๆคน

ซึ่งก็ฟังดูดี.. แต่ความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
พอมารวมกันเยอะๆ เลยเกิดปัญหา อยากเด่น ข้าเก่ง เอ็งอ่อน อยากเก่งโชว์ภูมิ อยากมีตัวตน อยากให้คนรู้จัก
หรือบางทีก็ออกความเห็นขัดกัน โต้เถียงกันจนลามมาถึงหน้าเฟสจริงก็มี

ซึ่งประกอบกับปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือ เกมแนวนี้มักจะเน้นขับให้ผู้เล่นแข่งขันกัน
หรือที่เราได้ยินบ่อยๆว่า ลงแรงค์ Rank มันก็คือความหมายเดียวกัน คือไปเล่นเกมให้ชนะ แล้วอันดับจะขึ้น
ซึ่งอันดับที่ว่าเนี่ยมันเป็นสากล หมายความว่า ในคนเป็นหมื่นเป็นแสนเนี่ย เราแม่มโคดเจ๋ง ที่ขึ้นมาอยู่ท๊อปๆได้
เอาไปคุยในชุมชนก็ดูเจ๋ง มีคนอยากเล่นด้วย มีคนให้ความนับถือ อยากดึงเข้าเป็นทีม ไปแข่ง ยาวไปนู่นเลย

ยื่งเกมนั้นดังหรือมีคนเล่นเยอะคุณก็ยิ่งภูมิใจได้ เพราะไปไหน เจอใครวัยใกล้ๆกัน ก็เอามาคุยกันได้หมด
ราวกับ เป็นหน้าตาทางสังคมแบบหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้นั่นคือด้านสว่าง มีคนอันดับสูงแล้ว พวกอันดับต่ำไปไหน... ก็นั่นแหละครับ
อยากเก่ง ก็หาอุปกรณ์คอมแพงๆ หาเวลาซ้อม เล่นแล้วเล่นอีก 
พอไม่เป็นอย่างใจก็หัวร้อน ทำไมกรูแพ้ ทำไมไอนั่นมันโกงนู่นนี่
หรือแม้กระทั่ง เติมเงินจำนวนมาก เพื่อเป็นทางลัดให้เก่ง

หรือบางที ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนไม่เก่งอย่างเดียว คนเก่งก็เครียด ต้องรักษาอันดับ นู่นนี่ เจอคนอ่อนๆมาเล่นด้วย เครียดอีก

ซึ่งสุดท้าย ความไม่ได้อย่างใจ ไม่ได้อย่างที่หวัง
ประกอบกับ สังคมชุมชนเกมแย่ๆ ที่รวมคนร้อยพ่อพันแม่ แพ้ทีด่าอย่างกับไปทำอะไรผิดมา คำพูดกรากๆยิ้ม
มันก็ระเบิดเป็นความก้าวร้าว

เด็กที่จมอยุ่ในวังวนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ โดนปั่นเหมือนผ้าในเครื่องซักผ้า ซึ่งไม่รู้สีอะไรตกใส่บ้าง

แต่สุดท้าย ผมว่านั่นก็คือบทเรียนชีวิตดีๆนี่หละ
ถ้าลองวิเคราะห์ดีๆ ปัญหาความก้าวร้าวมันไม่ได้มาจาก "การเล่นเกม" แต่มาจาก "การเล่นเกมแล้วไม่ได้สิ่งที่หวัง หรือพยายามรักษาตัวตนปลอมๆไว้แล้วทำไม่ได้"

นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ผมรวบรวมมา ทีนี้ สุดแต่วิจารณญาณของผู้ปกครองแต่ละคนนะครับ ว่าจะทำอย่างไร

แต่ในคำแนะนำของผม ผมแนะนำให้ "คุยกันบ้าง" อย่ามองว่า ไอการกระทำเล่นเกมเนี่ย มันเป็นเรื่องงี่เง่า
ให้มองว่าลูกกำลังรับมือกับสังคมบางอย่างอยู่
เราจะสอนลูกให้จัดการความผิดหวังยังไง อยากชนะเค้าแต่ทำไม่ได้ ทำยังไง
ทำยังไงให้รักษาความเป็นตัวเองได้
อาจจะถามลูกไปเลยว่า "วันนี้ตั้งเป้าหมายอะไรในการเล่นเกมนี่"
คำตอบอาจจะมีหลากหลาย เช่น ก็แค่เล่นแก้เบื่ออะพ่อ (เออดี แก้เบื่อแล้วจะหัวร้อนทำเพื่อ)
หรือไม่ว่าจะตอบอะไรมา ก็อยู่ที่คุณผู้ปกครองจะจัดการตามวิถีของตนเอง
แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้หนีปัญหาโดยการ ด่าๆๆ ห้ามๆๆ
และสุดท้าย หวังว่า ปัญหาครอบครัวที่เกิดจากการเล่นเกมจะลดลง และไปในแนวทางเพื่อความบันเทิงมากขึ้น

และขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ^ ^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่