ก่อนอื่นขอชี้แจ้งที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาโอ้อวดแต่ประการใด เพียงแค่เป็นกระทู้เพื่อเป็นกำลังใจของใรหลายคนที่ต้องการอยากจะมีบ้านแต่ติดปัญหาเหมือนกับเจ้าของกระทู้
เจ้าของกระทู้เป็นหนี้บัตรเคดิตมาตั้งแต่ปี 2553 มีรวมกันทั้งหมด 8 ใบแต่ละใบถูกขายไปให้บริษัทรับทวงหนี้ บ้างก็ถูกฟ้องศาลถึงขั้นอายัดเงินเดือน
2553 เจ้าของกระทู้เริ่มผิดชำระเพราะช่วงนั้นเงินเดือนน้อยใช้เงินเกินตัว (ต้องยอมรับตัวเอง) มีขอไปปรับโครงสร้างแต่ก็ยังไม่ไหว จนต้องปล่อยทุกใบไปตามมีตามเกิด ช่วงหลังจากนั้นก็ตกงาน แต่ยังดีที่ยังมีอาชีพเสริมด้วยการขับมอเตอร์ไซร์รับจ้าง ข้อดีคือไม่มีเจ้าหนี้ทวงถามเพราะเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่ พอเริ่มมีครอบครัวก็อยากที่จะทำงานเป็นหลักแหล่งก็ได้สมัครเข้าทำงาน พอจ่ายค่าประกันสังคมเท่านั้นละ เจ้าหนี้มาครบเลยที่นี้ ทำไงละครับ สุดท้ายความลับก็ไม่เป็นความลับ (ไม่เคยบอกแฟนว่าเรามีหนี้สินเยอะขนาดนี้) จนต้องยอมบอกแฟน และตั้งใจจะเริ่มชำระหนี้ไปทีละใบเอาเท่าที่ไหว ตั้งแต่ปี 2556 ก็เริ่มศึกษาการต่อลองจากเว็บ การเจรายังไงกับเจ้าหนี้ให้เราสามารถจ่ายโดยที่ไม่เจ็บตัวมาก จากนั้นก็โทรหาเจ้าหนี้ทีละราย ต่อรองผ่อนบ้าง ปิดไปบ้างจนเหลือใบสุดท้าย คนทวงหนี้ของบริษัท มันคงแค้นเรามาก คือเราขอต่อจากยอดที่เอามา 2 หมื่น แต่บริษัทเรียกเก็บเรา 7 หมื่น เราเลยขอสัก 3 หมื่นเขาไม่ยอมเราก็เลยบอกคุณก็ไปฟ้องเอา สุดท้ายมันฟ้องจริงเราถูกจดหมายจากกรมบังคับคดี มาที่บริษัทในปี 2559 และไปต้องกลับไปต่อลองที่กรมบังคับคดีเรื่องการผ่อนจ่าย สุดท้ายกรมบังคับคดีเห็นใจลูกหนี้ให้ผ่อนเท่าที่เราไหว เราจึงตัดสินใจให้บริษัทหักเงินเดือน 4000/เดือน ผ่อนไปเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2562 ช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมา ได้โทรไปสอบถามทางกรมบังคับคดีว่าเราเหลือยอดอีกเยอะไหม ทางกรมบอกเราผ่อนเกินมาละเดี๋ยวจะทำหนังสือสั่งให้หยุดชำระ เราดีใจมาก แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าต้องรอให้ครบ 3-6 เดือนหรือ 1-2 ปี ถึงจะกู้บ้านได้ เพราะคิดเสมอว่าถ้าเกิดเช็คบูโร ยังไงมันก็ต้องขึ้นแน่ๆแต่ก็อยากรู้ว่าสถานะเคดิตจะเป็นยังไงเลยลองไปตรวจสอบดู
ในวันที่ 6 ตุลา ลองไปเช็คเคดิต....ลุ้น... พอได้รับซองมาเราก็เปิดดู ปรากฏว่าในเอกสารเคติดเรามีแค่ มอไซร์ ที่เราเพิ่งขอผ่อนมาได้ปีกว่าๆสถานะปรกติ แล้วอันที่เรากลัวมันไปไหนแล้วละ...งง แล้วความคิดที่อยากมีบ้านก็พุดขึ้นมาใสสมอง ตอนนั้นฐานเงินเดือนอยู่ที่ 3 หมื่นต้นๆ เลยตัดสินใจขับรถดูในโครงการแถวบ้าน ในวันนั้นเลย 555 ใจร้อน สรุปเจอโครงการที่ขับรถผ่านทุกวันและเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลจากที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียนลูก แถมเป็นเส้นทางที่เจ้าของกระทู้ขับมอเตอร์ไซร์รับจ้างผ่านทุกวัน (เป็นเส้นทางทำมาหากินเลย) ราคาบ้าน 2.49 ล้าน ดูแล้วถ้าไปไกลกว่านี้ ราคาบ้านต่างกันไม่มาก หักการเดินทางเอาที่สะดวกจะดีกว่าเลยตัดสินใจในวันนั้นจองเลย พอดีวันนั้นมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาอยู่ที่โครงการเขาเลยขอเอกสารเราไปดูแล
7 ตุลา เจ้าหน้าที่โทรมาขอเอกสารทั้งหมด คือวันที่ไปจองไม่ได้เตรียมอะไรไปเลยแค่จะไปดูเฉยๆแต่โครงการ แนะนำมาว่าเรามาช่วงโปรพอดีแค่ 8 หลังพิเศษ 555 โดนยั่ว ส่วนลด 1.2 แสน แอร์ 1 เครื่อง บิ้วอินเฟอร์ห้องนอน ผ้าม่านทั้งหลัง ฟรีค่าประกันน้ำ ไฟ ค่าโอน ค่าส่วนกลาง 2 ปี เจอแบบนี้อดใจไม่ไหวเลยการตลาดดีเกิน
8 ตุลา เราไปขอสเตทเม้นท์ ส่งให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร เราไม่มีเงินเก็บ เงินเดือนเข้าปุ๊บ ออกเลย อันนี้โครจกลัวเลย เจ้าหน้าที่บอกรอเช็คสถานะเคดิตเราอยู่ เล่นเอาเรานอนไม่หลับเลยเพราะเคยได้ยินมาว่าธนาคารสามารถตรวจสอบประวัติเราในถังขยะได้ ก็ลุ้นๆไปแล้วกัน ผ่านก็ผ่านไม่ผ่านก็เช่าบ้านต่อไป พอเย็นๆเจ้าหน้าที่ธนาคารไลน์มาบอกว่าสถานะบูโรเราปรกติไม่มีปัญหา ...ใจชื้นเลย แล้วบอกจะส่งเรื่องให้วันนี้เลย
11 ตุลา เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอกว่าธนาคารอนุมัติแล้วได้วงเงิน 95% ก็ 2.3 ล้านกว่าๆ ให้ผ่อนชำระ 29 ปี อันนี้เรายื่นที่เดียว ปล.เจ้าขอกระทู้อายุ 42 แล้ว ก็เลยคิดคำนวณว่ายอดที่โครงการลดให้ 1.2 แสนคงไม่เหลือ และอยากกู้ได้ 100% เผื่อจะมีเงินตบแต่งจึงลองไปยื่นอีก 2 ธนาคาร แต่คำตอบมาก็ได้ 95% ทั้งหมดด้วยเหตุผลที่บอกคือแบงค์ชาติกำหนดมาแบบนี้ แล้วธนาคารอื่นๆก็ไห้ผ่อนแค่ 23-24 ปี แถมไม่มีกู้ตบแต่งแล้วด้วย ทั้ง 2 ธนาคารควาดว่าจะรู้ผลอนุมัติไม่เกิน 7 วัน แต่ไม่เป็นไร เราจึงตัดสินใจเอาธนาคารแรกนี่ละ เลยบอกให้ทางธนาคารส่งคนมาประเมินได้ แต่เท่าที่คุยกันก็คิดว่าไม่มากไปกว่านี้ คาดว่า สิ้นเดือน ตุลาคงได้นัดเซ็นสัญญากับทางธนาคาร (สถานะบ้านตอนนี้ 16 ตุลา ทำความสะอาดรอโอน)
15 ตุลา เจ้าหน้าที่ก็แจ้งย้ำ รายละเอียดการอนุมัติ อัตราผ่อนชำระ ค่าประกันอคีภัย ค่าประกันความเสี่ยง (เจ้าของกระทู้ตั้งใจทำด้วยความสมัครใจ)
ถ้ามีส่วนไหนมาเจ้าของกระทูจะมาอัพเดทให้สมาชิกที่ได้ติดตาม หวังว่าคงเป็นแสงสว่างเล็กๆให้กับสมาชิกหลายๆคนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้นะครับ ถ้ามีส่วนไหนพิมพ์อาจจะไม่ครบบ้างขออภัยด้วยนะครับ อันนี้เป็นกระทู้ 2 ของชีวิต
ปล.ที่ไม่เอยชื่อธนาคารเนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่อยากให้มีผลกระทบกับการอนุมัติ จึงขอสงวนชื่อไว้ก่อนนะครับ
ติดบูโร 10 ปี หนี้เน่า โดนบังคับคดี...................กู้บ้านผ่านแล้ว
เจ้าของกระทู้เป็นหนี้บัตรเคดิตมาตั้งแต่ปี 2553 มีรวมกันทั้งหมด 8 ใบแต่ละใบถูกขายไปให้บริษัทรับทวงหนี้ บ้างก็ถูกฟ้องศาลถึงขั้นอายัดเงินเดือน
2553 เจ้าของกระทู้เริ่มผิดชำระเพราะช่วงนั้นเงินเดือนน้อยใช้เงินเกินตัว (ต้องยอมรับตัวเอง) มีขอไปปรับโครงสร้างแต่ก็ยังไม่ไหว จนต้องปล่อยทุกใบไปตามมีตามเกิด ช่วงหลังจากนั้นก็ตกงาน แต่ยังดีที่ยังมีอาชีพเสริมด้วยการขับมอเตอร์ไซร์รับจ้าง ข้อดีคือไม่มีเจ้าหนี้ทวงถามเพราะเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่ พอเริ่มมีครอบครัวก็อยากที่จะทำงานเป็นหลักแหล่งก็ได้สมัครเข้าทำงาน พอจ่ายค่าประกันสังคมเท่านั้นละ เจ้าหนี้มาครบเลยที่นี้ ทำไงละครับ สุดท้ายความลับก็ไม่เป็นความลับ (ไม่เคยบอกแฟนว่าเรามีหนี้สินเยอะขนาดนี้) จนต้องยอมบอกแฟน และตั้งใจจะเริ่มชำระหนี้ไปทีละใบเอาเท่าที่ไหว ตั้งแต่ปี 2556 ก็เริ่มศึกษาการต่อลองจากเว็บ การเจรายังไงกับเจ้าหนี้ให้เราสามารถจ่ายโดยที่ไม่เจ็บตัวมาก จากนั้นก็โทรหาเจ้าหนี้ทีละราย ต่อรองผ่อนบ้าง ปิดไปบ้างจนเหลือใบสุดท้าย คนทวงหนี้ของบริษัท มันคงแค้นเรามาก คือเราขอต่อจากยอดที่เอามา 2 หมื่น แต่บริษัทเรียกเก็บเรา 7 หมื่น เราเลยขอสัก 3 หมื่นเขาไม่ยอมเราก็เลยบอกคุณก็ไปฟ้องเอา สุดท้ายมันฟ้องจริงเราถูกจดหมายจากกรมบังคับคดี มาที่บริษัทในปี 2559 และไปต้องกลับไปต่อลองที่กรมบังคับคดีเรื่องการผ่อนจ่าย สุดท้ายกรมบังคับคดีเห็นใจลูกหนี้ให้ผ่อนเท่าที่เราไหว เราจึงตัดสินใจให้บริษัทหักเงินเดือน 4000/เดือน ผ่อนไปเรื่อยๆ จนมาถึงปี 2562 ช่วงเดือนสิงหาที่ผ่านมา ได้โทรไปสอบถามทางกรมบังคับคดีว่าเราเหลือยอดอีกเยอะไหม ทางกรมบอกเราผ่อนเกินมาละเดี๋ยวจะทำหนังสือสั่งให้หยุดชำระ เราดีใจมาก แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าต้องรอให้ครบ 3-6 เดือนหรือ 1-2 ปี ถึงจะกู้บ้านได้ เพราะคิดเสมอว่าถ้าเกิดเช็คบูโร ยังไงมันก็ต้องขึ้นแน่ๆแต่ก็อยากรู้ว่าสถานะเคดิตจะเป็นยังไงเลยลองไปตรวจสอบดู
ในวันที่ 6 ตุลา ลองไปเช็คเคดิต....ลุ้น... พอได้รับซองมาเราก็เปิดดู ปรากฏว่าในเอกสารเคติดเรามีแค่ มอไซร์ ที่เราเพิ่งขอผ่อนมาได้ปีกว่าๆสถานะปรกติ แล้วอันที่เรากลัวมันไปไหนแล้วละ...งง แล้วความคิดที่อยากมีบ้านก็พุดขึ้นมาใสสมอง ตอนนั้นฐานเงินเดือนอยู่ที่ 3 หมื่นต้นๆ เลยตัดสินใจขับรถดูในโครงการแถวบ้าน ในวันนั้นเลย 555 ใจร้อน สรุปเจอโครงการที่ขับรถผ่านทุกวันและเป็นเส้นทางที่ไม่ไกลจากที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียนลูก แถมเป็นเส้นทางที่เจ้าของกระทู้ขับมอเตอร์ไซร์รับจ้างผ่านทุกวัน (เป็นเส้นทางทำมาหากินเลย) ราคาบ้าน 2.49 ล้าน ดูแล้วถ้าไปไกลกว่านี้ ราคาบ้านต่างกันไม่มาก หักการเดินทางเอาที่สะดวกจะดีกว่าเลยตัดสินใจในวันนั้นจองเลย พอดีวันนั้นมีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาอยู่ที่โครงการเขาเลยขอเอกสารเราไปดูแล
7 ตุลา เจ้าหน้าที่โทรมาขอเอกสารทั้งหมด คือวันที่ไปจองไม่ได้เตรียมอะไรไปเลยแค่จะไปดูเฉยๆแต่โครงการ แนะนำมาว่าเรามาช่วงโปรพอดีแค่ 8 หลังพิเศษ 555 โดนยั่ว ส่วนลด 1.2 แสน แอร์ 1 เครื่อง บิ้วอินเฟอร์ห้องนอน ผ้าม่านทั้งหลัง ฟรีค่าประกันน้ำ ไฟ ค่าโอน ค่าส่วนกลาง 2 ปี เจอแบบนี้อดใจไม่ไหวเลยการตลาดดีเกิน
8 ตุลา เราไปขอสเตทเม้นท์ ส่งให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร เราไม่มีเงินเก็บ เงินเดือนเข้าปุ๊บ ออกเลย อันนี้โครจกลัวเลย เจ้าหน้าที่บอกรอเช็คสถานะเคดิตเราอยู่ เล่นเอาเรานอนไม่หลับเลยเพราะเคยได้ยินมาว่าธนาคารสามารถตรวจสอบประวัติเราในถังขยะได้ ก็ลุ้นๆไปแล้วกัน ผ่านก็ผ่านไม่ผ่านก็เช่าบ้านต่อไป พอเย็นๆเจ้าหน้าที่ธนาคารไลน์มาบอกว่าสถานะบูโรเราปรกติไม่มีปัญหา ...ใจชื้นเลย แล้วบอกจะส่งเรื่องให้วันนี้เลย
11 ตุลา เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาบอกว่าธนาคารอนุมัติแล้วได้วงเงิน 95% ก็ 2.3 ล้านกว่าๆ ให้ผ่อนชำระ 29 ปี อันนี้เรายื่นที่เดียว ปล.เจ้าขอกระทู้อายุ 42 แล้ว ก็เลยคิดคำนวณว่ายอดที่โครงการลดให้ 1.2 แสนคงไม่เหลือ และอยากกู้ได้ 100% เผื่อจะมีเงินตบแต่งจึงลองไปยื่นอีก 2 ธนาคาร แต่คำตอบมาก็ได้ 95% ทั้งหมดด้วยเหตุผลที่บอกคือแบงค์ชาติกำหนดมาแบบนี้ แล้วธนาคารอื่นๆก็ไห้ผ่อนแค่ 23-24 ปี แถมไม่มีกู้ตบแต่งแล้วด้วย ทั้ง 2 ธนาคารควาดว่าจะรู้ผลอนุมัติไม่เกิน 7 วัน แต่ไม่เป็นไร เราจึงตัดสินใจเอาธนาคารแรกนี่ละ เลยบอกให้ทางธนาคารส่งคนมาประเมินได้ แต่เท่าที่คุยกันก็คิดว่าไม่มากไปกว่านี้ คาดว่า สิ้นเดือน ตุลาคงได้นัดเซ็นสัญญากับทางธนาคาร (สถานะบ้านตอนนี้ 16 ตุลา ทำความสะอาดรอโอน)
15 ตุลา เจ้าหน้าที่ก็แจ้งย้ำ รายละเอียดการอนุมัติ อัตราผ่อนชำระ ค่าประกันอคีภัย ค่าประกันความเสี่ยง (เจ้าของกระทู้ตั้งใจทำด้วยความสมัครใจ)
ถ้ามีส่วนไหนมาเจ้าของกระทูจะมาอัพเดทให้สมาชิกที่ได้ติดตาม หวังว่าคงเป็นแสงสว่างเล็กๆให้กับสมาชิกหลายๆคนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเจ้าของกระทู้นะครับ ถ้ามีส่วนไหนพิมพ์อาจจะไม่ครบบ้างขออภัยด้วยนะครับ อันนี้เป็นกระทู้ 2 ของชีวิต
ปล.ที่ไม่เอยชื่อธนาคารเนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่อยากให้มีผลกระทบกับการอนุมัติ จึงขอสงวนชื่อไว้ก่อนนะครับ