สวัสดีค่าาาา วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปตะลอนกรุงเทพฯ ฝั่งพระนคร ด้วยงบไม่ถึง300฿ ไปดูกันเลยว่าเราจะพาไปไหนบ้างงงง
จุดเริ่มต้นของการเดินทางของพวกเราเริ่มที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง แบบงงกันเลยจ้าาาไปทางไหนต่อล่ะงานนี้
มารอดูและลุ้นไปพร้อมๆๆพวกเรากันนะเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะจ๊ะะะะะะะ

จากนั้นพวกเราได้พาตัวเองขึ้นรถเมล์สาย 49 ไปวันสระเกตุหรือเรียกอีกวัดหนึ่งว่า วัดภูเขาทอง ค่าโดยสาร 8 บาท

แผนที่วัดสระเกตุ (เห็นครั้งแรกก็จะงงหน่อยเด้อ 55555)

เราก็พากันเดินเที่ยวชมวัดสระเกตุวันนี้ท้องฟ้าก็โอนะขอให้ฝนอย่าตกก็พอจ้าาาาาา

พวกเราก็เข้ามาไหว้พระองค์ใหญ่พอมองขึ้นไปข้างบนในถ้ำก็สวยนะเย็นสบายเลยทีเดียว (หน้านอนพักจริงๆๆ)

ว้ายบันไดเยอะจัง!!! เห็นและเหนื่อยเลยแต่ทำไงได้เราก็ต้องขึ้นเพราะอยากเห็นวิว (สู้ๆๆๆนะตัวเรา 55555)

ข้างบนก็อากาศใช้ได้เลยนะ (แวะพักแปป)เดินต่อจ้าาาา

หายใจทางปากเลยจ้าาาาา(แต่อากาศเย็น ลมเย็นๆๆช่วยไว้)

ถึงสักทีกว่าจะถึงเล่นเอาเหนื่อยเลยนะ (เห้อ)อ้าวยังขึ้นไม่ถึงยอดอีกหรอ!! อ้าวงั้นไปต่อสิจ๊ะรอไร

ว้ายๆๆๆสวยจังเห็นแต่ในรูป

ถึงยอดสักทีนะเจ้าวัดสระเกตุเล่นเอาเหนื่อยกันเลยนะ ขอนั่งพักให้หายเหนื่อยสักหน่อยเดินชมวิวรอบๆๆสักหลายรอบเพราะไม่อยากลงเลย
ข้างบนอากาศดีวิวก็สวยแต่จริงๆแล้ว(เห็นบันไดก็ท้ออีกและ 555555)

แว๊ปปปปป(หายตัวมาและ 55555)ล้อเล่นเดินลงสิค่ะ บายๆๆๆไว้มีโอกาสมาเที่ยวใหม่

อ้าว(พวกเราหายตัวเก่ง 55555)ล้อเล่นเดินมา และแล้วเราก็ถึงวัดราชนัดดา แต่จริงๆแล้วเราก็จะมาไม่ถูกหลอกแต่เป็นเพราะเราสายตายาวเลย
ทำให้เรามองเห็นชื่อป้ายวัดจากข้างบนวัดสระเกตุ(แนะนำให้ทุกคนกินผักบุ้งเยอะจะได้สายตาดี 55555555)

ยังไม่ได้ชมวิวอะไรเลยก็พักอีกและ 55555 วัดสวยอยู่นะร่มเย็นดีนะ อ้าวนั่งพักแปปเดียวท้องฟ้าเริ่มไม่เป็นใจ (ขออย่าให้ตกนะ สาธุๆๆๆ)

วัดราชนัดดานับเป็นวัดที่เอาโลหะมาสร้างเป็นปราสาทแห่งแรกของไทย
โหว้ายเรื่องราวหน้าสนใจนะอยากให้ทุกคนมาเห็นแบบพวกเราบ้างก็มาตามได้นะ (ของจริงสวยนะจ๊ะ)

เห็นฝนยังอยากถ่ายรูปอีกไปกันดีกว่าก่อนฝนจะตก

บายๆๆไว้มีโอกาสมาใหม่ต้องรีบไปเพราะเจ้าแม่ฝนมาจ้าาาาาา

ระวังรถนะจ๊ะ(ในกทมรถเยอะแถมขับเร็วด้วยเด้อ)ทายสิเราจะเดินไปไหนกัน ???

ถึงแล้วเฉลย พิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เกือบไม่ทันแล้วฝนตามมาเลยพวกเราก็วิ่งสิรอไรจ้าาาาาาา(ตากแอร์หลบฝนสะหน่อย)

ในพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พอพวกเราถึงหน้าพิพิภัณฑ์ก็มีพี่ใจดีเปิดประตูต้อนรับและแนะนำการเข้าชมอย่างแรกพอ
พวกเราเข้าไปก็เอาสัมภาระไปเก็บ(แต่เสียดายกล้องเรามีแฟลต์เลยไม่ได้ถ่ายข้างใน)แต่เดียวเราจะเล่าให้ฟัง พิพิภัณฑ์มีด้วยกันกัน 2ชั้น
ชั้นที่1 พระราชประวัติ (แต่ต้องรีนเดินหน่อยเพราะเขาทาสีชั้น 1 กลิ่นใช้ได้เลยทีเดียว ไปต่อชั้นต่อไป
ชั้นที่ 2 เครื่องแต่งกายหรือของใช้ของพระองค์(ชั้นนี้จะหน้าากลัวหน่อยนะเห็นเพื่อนกลัว 555555 แต่ไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่คิดแต่เปลี่ยนเป็น
หน้าสนใจแทน เราก็ใช้เวลาเดินในนั้นนานอยู่เพื่อรอให้ฝนหยุดตก ลืมๆๆๆชั้น 2 มีโรงหนังด้วยพวกเราไปไม่ทัน

ฝนหยุดตกก็เดินต่อก่อนที่จะตกอีกสิจ๊ะ เราจะไปไหนต่อนะ(เลื่อนต่อสิจ๊ะ)

ถึงแล้ววัดอะไรอ่านเองนะ 555555 ล้อเล่น วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแค นางเลิ้ง ก็ไม่มีอะไรเลย แต่ได้ยินรถอะไรไม่รู้วิ่งเข้ามาพวกเราต้อง
รีบออกสิค่ะ(อาจมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ 55555555) เสียใจได้ดูแปปเดียวฝนก็จะตกอีกและ เพราะพวกเรามาหน้าฝนไง

เดินไปหลงไปกว่าจะถึงก็ถามจนงงไปหมดและแล้วก็ถึงสักทีนะเจ้าวัดสิตาราม หรือวัดคอกหมู ที่ชาวบ้านเขาเรียกกัน (ฝนตกได้ตกดีจัง)

พอเราเดินถึงหน้าตัววัดฝนก็ตกอีกและแต่รอบนี้ตกนานเป็นชั่วโมงจนเราเดินไปไหนไม่ได้ต้องรอจนฝนหยุดตก(หน้าเบื่อจนไอ่เจ้าฝน)
ภายในวัดก็มีตามรูปและค่ะเพราะว่าวัดเงียบมากๆๆๆๆๆแถมไม่มีคนด้วย (หน้ากลัวเด้อ)

หายตัวมาหาของกินแปป อ้าวคนเยอะจัง ร้านเขาดังจริง ชื่อร้าน ผัดไทยประตูผี แต่เราอดกินเพราะตังคงไม่เหลือค่ารถแน่(เลยไม่รับประทานอดเลย)
กว่าร้านจะเปิดก็เย็นคนมาต่อคิวก็เยอะถ้าเรารอรถเมล์คงหมด

เห็นร้านและหิวจะตายอยู่แล้ว 5555555

เราก็มาถึงร้านสุดท้ายของทริปเราแล้วนั้นคือร้านโตก๋วยจั๊บ (พี่ค่ะเมนูมาให้หน่อยหนูหิว)พอกินเสร็จพวกเราก็ขอตัวกลับไปที่หัวลำโพง
ไว้เจอกันทริปหน้าค่ะ ทริปนี้ถ้าฝนไม่ตกก็จะสนุกกว่านี้แน่แนะนำอย่าไปหน้าฝนนะค่ะ
ค่าเดินทางทั้งหมด
ค่ารถเมล์2คน คนล่ะ8บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวจานล่ะ40บาท 2จาน
ค่าน้ำ1ขวด12บาท
ค่าเสื้อกันฝน2อัน 40บาท
ค่าข้าวเหนี่ยวไก่ทอด50บาท
ค่าเกาเหลา50บาท
ค่าก๋วยจั๊บ60บาท
ค่ารถกลับคนล่ะ15บาท
รวมทั้งหมด298บาท
แผนที่ ที่พวกเราไปกันนะอาจจะดูงงหน่อย แต่พวกเราก็ทำเต็มที่สุดๆๆไปเลย
[CR] One Day Trip
จุดเริ่มต้นของการเดินทางของพวกเราเริ่มที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง แบบงงกันเลยจ้าาาไปทางไหนต่อล่ะงานนี้
มารอดูและลุ้นไปพร้อมๆๆพวกเรากันนะเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะจ๊ะะะะะะะ
จากนั้นพวกเราได้พาตัวเองขึ้นรถเมล์สาย 49 ไปวันสระเกตุหรือเรียกอีกวัดหนึ่งว่า วัดภูเขาทอง ค่าโดยสาร 8 บาท
แผนที่วัดสระเกตุ (เห็นครั้งแรกก็จะงงหน่อยเด้อ 55555)
เราก็พากันเดินเที่ยวชมวัดสระเกตุวันนี้ท้องฟ้าก็โอนะขอให้ฝนอย่าตกก็พอจ้าาาาาา
พวกเราก็เข้ามาไหว้พระองค์ใหญ่พอมองขึ้นไปข้างบนในถ้ำก็สวยนะเย็นสบายเลยทีเดียว (หน้านอนพักจริงๆๆ)
ว้ายบันไดเยอะจัง!!! เห็นและเหนื่อยเลยแต่ทำไงได้เราก็ต้องขึ้นเพราะอยากเห็นวิว (สู้ๆๆๆนะตัวเรา 55555)
ข้างบนก็อากาศใช้ได้เลยนะ (แวะพักแปป)เดินต่อจ้าาาา
หายใจทางปากเลยจ้าาาาา(แต่อากาศเย็น ลมเย็นๆๆช่วยไว้)
ถึงสักทีกว่าจะถึงเล่นเอาเหนื่อยเลยนะ (เห้อ)อ้าวยังขึ้นไม่ถึงยอดอีกหรอ!! อ้าวงั้นไปต่อสิจ๊ะรอไร
ว้ายๆๆๆสวยจังเห็นแต่ในรูป
ถึงยอดสักทีนะเจ้าวัดสระเกตุเล่นเอาเหนื่อยกันเลยนะ ขอนั่งพักให้หายเหนื่อยสักหน่อยเดินชมวิวรอบๆๆสักหลายรอบเพราะไม่อยากลงเลย
ข้างบนอากาศดีวิวก็สวยแต่จริงๆแล้ว(เห็นบันไดก็ท้ออีกและ 555555)
แว๊ปปปปป(หายตัวมาและ 55555)ล้อเล่นเดินลงสิค่ะ บายๆๆๆไว้มีโอกาสมาเที่ยวใหม่
อ้าว(พวกเราหายตัวเก่ง 55555)ล้อเล่นเดินมา และแล้วเราก็ถึงวัดราชนัดดา แต่จริงๆแล้วเราก็จะมาไม่ถูกหลอกแต่เป็นเพราะเราสายตายาวเลย
ทำให้เรามองเห็นชื่อป้ายวัดจากข้างบนวัดสระเกตุ(แนะนำให้ทุกคนกินผักบุ้งเยอะจะได้สายตาดี 55555555)
ยังไม่ได้ชมวิวอะไรเลยก็พักอีกและ 55555 วัดสวยอยู่นะร่มเย็นดีนะ อ้าวนั่งพักแปปเดียวท้องฟ้าเริ่มไม่เป็นใจ (ขออย่าให้ตกนะ สาธุๆๆๆ)
วัดราชนัดดานับเป็นวัดที่เอาโลหะมาสร้างเป็นปราสาทแห่งแรกของไทย
โหว้ายเรื่องราวหน้าสนใจนะอยากให้ทุกคนมาเห็นแบบพวกเราบ้างก็มาตามได้นะ (ของจริงสวยนะจ๊ะ)
เห็นฝนยังอยากถ่ายรูปอีกไปกันดีกว่าก่อนฝนจะตก
บายๆๆไว้มีโอกาสมาใหม่ต้องรีบไปเพราะเจ้าแม่ฝนมาจ้าาาาาา
ระวังรถนะจ๊ะ(ในกทมรถเยอะแถมขับเร็วด้วยเด้อ)ทายสิเราจะเดินไปไหนกัน ???
ถึงแล้วเฉลย พิพิธภัณฑ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เกือบไม่ทันแล้วฝนตามมาเลยพวกเราก็วิ่งสิรอไรจ้าาาาาาา(ตากแอร์หลบฝนสะหน่อย)
ในพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พอพวกเราถึงหน้าพิพิภัณฑ์ก็มีพี่ใจดีเปิดประตูต้อนรับและแนะนำการเข้าชมอย่างแรกพอ
พวกเราเข้าไปก็เอาสัมภาระไปเก็บ(แต่เสียดายกล้องเรามีแฟลต์เลยไม่ได้ถ่ายข้างใน)แต่เดียวเราจะเล่าให้ฟัง พิพิภัณฑ์มีด้วยกันกัน 2ชั้น
ชั้นที่1 พระราชประวัติ (แต่ต้องรีนเดินหน่อยเพราะเขาทาสีชั้น 1 กลิ่นใช้ได้เลยทีเดียว ไปต่อชั้นต่อไป
ชั้นที่ 2 เครื่องแต่งกายหรือของใช้ของพระองค์(ชั้นนี้จะหน้าากลัวหน่อยนะเห็นเพื่อนกลัว 555555 แต่ไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่คิดแต่เปลี่ยนเป็น
หน้าสนใจแทน เราก็ใช้เวลาเดินในนั้นนานอยู่เพื่อรอให้ฝนหยุดตก ลืมๆๆๆชั้น 2 มีโรงหนังด้วยพวกเราไปไม่ทัน
ฝนหยุดตกก็เดินต่อก่อนที่จะตกอีกสิจ๊ะ เราจะไปไหนต่อนะ(เลื่อนต่อสิจ๊ะ)
ถึงแล้ววัดอะไรอ่านเองนะ 555555 ล้อเล่น วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแค นางเลิ้ง ก็ไม่มีอะไรเลย แต่ได้ยินรถอะไรไม่รู้วิ่งเข้ามาพวกเราต้อง
รีบออกสิค่ะ(อาจมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ 55555555) เสียใจได้ดูแปปเดียวฝนก็จะตกอีกและ เพราะพวกเรามาหน้าฝนไง
เดินไปหลงไปกว่าจะถึงก็ถามจนงงไปหมดและแล้วก็ถึงสักทีนะเจ้าวัดสิตาราม หรือวัดคอกหมู ที่ชาวบ้านเขาเรียกกัน (ฝนตกได้ตกดีจัง)
พอเราเดินถึงหน้าตัววัดฝนก็ตกอีกและแต่รอบนี้ตกนานเป็นชั่วโมงจนเราเดินไปไหนไม่ได้ต้องรอจนฝนหยุดตก(หน้าเบื่อจนไอ่เจ้าฝน)
ภายในวัดก็มีตามรูปและค่ะเพราะว่าวัดเงียบมากๆๆๆๆๆแถมไม่มีคนด้วย (หน้ากลัวเด้อ)
หายตัวมาหาของกินแปป อ้าวคนเยอะจัง ร้านเขาดังจริง ชื่อร้าน ผัดไทยประตูผี แต่เราอดกินเพราะตังคงไม่เหลือค่ารถแน่(เลยไม่รับประทานอดเลย)
กว่าร้านจะเปิดก็เย็นคนมาต่อคิวก็เยอะถ้าเรารอรถเมล์คงหมด
เห็นร้านและหิวจะตายอยู่แล้ว 5555555
เราก็มาถึงร้านสุดท้ายของทริปเราแล้วนั้นคือร้านโตก๋วยจั๊บ (พี่ค่ะเมนูมาให้หน่อยหนูหิว)พอกินเสร็จพวกเราก็ขอตัวกลับไปที่หัวลำโพง
ไว้เจอกันทริปหน้าค่ะ ทริปนี้ถ้าฝนไม่ตกก็จะสนุกกว่านี้แน่แนะนำอย่าไปหน้าฝนนะค่ะ
ค่าเดินทางทั้งหมด
ค่ารถเมล์2คน คนล่ะ8บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวจานล่ะ40บาท 2จาน
ค่าน้ำ1ขวด12บาท
ค่าเสื้อกันฝน2อัน 40บาท
ค่าข้าวเหนี่ยวไก่ทอด50บาท
ค่าเกาเหลา50บาท
ค่าก๋วยจั๊บ60บาท
ค่ารถกลับคนล่ะ15บาท
รวมทั้งหมด298บาท
แผนที่ ที่พวกเราไปกันนะอาจจะดูงงหน่อย แต่พวกเราก็ทำเต็มที่สุดๆๆไปเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้