สายพันธุ์นกฮูก ทั้งสวยทั้งแปลกจากทั่วโลก

 สายพันธุ์นกฮูกที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีความสวยงามและน่าค้นหา เพราะนกฮูกเป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่เราทุกคนต่างก็เข้านอนกันไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่เราจะได้เจอและทำความรู้จักนกฮูกแบบตัวเป็น ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นกฮูกเป็นนกที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด ซึ่งเหล่านี้คือภาพนกฮูก 10 ชนิด จาก Brad Wilson Photography มาให้ทุกคนรู้จักกันมากขึ้น 

1. นกฮูกเวสต์เทิร์น สครีท (Western Screech Owl)
        
ชื่อวิทยาศาสตร์ Megascops kennicottii มีขนาดเล็กเป็นนกฮูกป่าออกหากินเวลากลางคืน หูสั้นกระจุกและตาสีเหลือง สีเทาและสีน้ำตาล
  แหล่งที่อยู่อาศัย : ตั้งแต่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอะแลสกาไปจนถึงตะวันตกของแคนาดา และตั้งแต่ตะวันตกของสหรัฐอเมริกาไปจนถึงตอนกลางของเม็กซิโก
          เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่กลับสามารถพางูตาบอดกลับไปยังรังของตัวเอง เพื่อใช้ป้องกันไม่ให้สัตว์ตัวอื่น ๆ เข้ามารบกวนภายในรัง และแย่งอาหารของตัวอ่อนได้
 
 

  2. นกแสก (Barn Owl)
         
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tyto alba บ้างก็เรียกกันว่า นกแฝก เป็นนกที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ นกฮูก นกเค้า   ตัวมีขนาดกลาง หน้าสีขาวมีขอบสีน้ำตาล ไม่มีขนหูกระจุก ลำตัวสีน้ำตาล  มีจุดเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนกลุ่มดาวน้อย ๆ ซึ่งปรากฏอยู่บริเวณหัวและคอของนกแสก ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จุดเหล่านี้ยังสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของเพศเมียได้ด้วย เพราะยิ่งมีจุดเล็ก ๆ มากเท่าไร นกแสกเพศเมียก็จะมีสุขภาพดีมากขึ้นเท่านั้น และช่วยดึงดูดให้เพศผู้รู้สึกอยากเข้าใกล้มากขึ้น
ถิ่นอาศัย:  พบได้ทุกทวีปยกเว้นแอนตาร์กติกา แต่พบมากในป่าเปิดและทุ่งหญ้าป่ากว้างมักจะพักอาศัยในโพรงต้นไม้ แต่สามารถพบในถ้ำ, บ่อน้ำและนอกตัวอาคาร

 
   3. นกฮูกเบอร์โรวิ่ง (Burrowing Owl)
          
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Athene cunicularia มันเป็นนกฮูกสุดแปลกที่ไม่ยอมอาศัยอยู่บนกิ่งไม้ แต่มันกลับมาอาศัยอยู่ใต้ดิน นกฮูกขุดดินนั้นสามารถพบได้ในทุ่งหญ้าแพร์รี่และทะเลทรายในประเทศแคนาดาไปจนถึงอาร์เจนติน่า พวกมันนั้นมักจะอาศัยอยู่ตามโพรงดินหรือหินที่ถูกทิ้งร้าง แต่ถ้าหากมันไม่สามารถหาโพรงได้มันก็จะทำการขุดดินเพื่อสร้างรังของมันเอง

นกฮูกเบอร์โรวิ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร มันมีดวงตากลมใหญ่และขายาว แต่มันท้าทายต่อแบบฉบับของพวกนกฮูกทั้งหลายด้วยการล่าสัตว์บนพื้นดินในตอนกลางวัน โดยเฉพาะในฤดูไม้ไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องออกหาอาหารเพื่อเลี้ยงลูกน้อยของตัวเองด้วย ดวงตาของมันอยู่กับที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เพื่อชดเชยเรื่องนี้นกฮูกเบอร์โรวิ่งได้มีการพัฒนาคอให้ยืดหยุ่นได้มากเป็นพิเศษ มันสามารถหมุนหัวของมันได้เกือบรอบ หมุนได้กว่า 270 องศา
นกฮูกเบอร์โรวิ่งมีกระดูกคอ 14 ท่อนมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งช่วยให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนี้มันยังมี “หลอดเลือดสำรอง” ซึ่งจะให้สารอาหารกับมันเมื่อหลอดเลือดปกติถูกปิดในขณะที่หมุนคออย่างรวดเร็ว

แหล่งที่อยู่อาศัย : ถึงแม้ว่าจำนวนประชากรของนกฮูกชนิดนี้จะน้อยลง แต่ก็สามารถพบได้ตั้งแต่บริเวณมิสซิสซิปปีไปจนถึงแปซิฟิก และจากรัฐแพร์รี่ของแคนาดาไปจนถึงอเมริกาตอนใต้ รวมไปถึงฟลอริดากับเกาะแคริบเบียนด้วย

 
 
  4. นกฮูกเฟรมมูเลท (Flammulated Owl)
         
ชื่อวิทยาศาสตร์ Psiloscops flammeolus (Otus flammeolus)  เป็นนกฮูกขนาดเล็กและหูขนาดเล็กกระจุก มี มีตัวสีเทา ชื่อ flammeolus owl เป็นภาษาละตินแปลว่า”เปลวไฟสี” หมายถึงสีที่เป็นเอกลักษณ์  โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หัว และคอ มีขนสีแดงอมส้มดูคล้ายกับเปลวไฟ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของนกฮูกชนิดนี้ สำหรับชีวิตประจำวันก็จะออกหากินตอนกลางคืน โดยการกินแมลงและแมงมุมที่อยู่ในอากาศหรือบนต้นไม้เป็นส่วนใหญ่
 
 แหล่งที่อยู่อาศัย :  พบบริเวณป่าเขาสน โดยเฉพาะแถว Ponderosa นอกจากนี้ยังพบในป่าป่าผสม กับ Douglas fir อาศํญอยู่ในช่วง 400-3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในฤดูร้อนจะอาศัยบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของแคนาดา ไปจนถึงทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ก่อนจะอพยพไปยังเม็กซิโก เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว

 
  5. นกฮูกเกรท ฮอร์น (Great Horned Owl)
         
ชื่อวิทยาศาสตร์ Bubo virginianus  เป็นนกฮูกขนาดใหญ่มีลักษณะโดดเด่นที่หู  กินขนสัตว์ ขนนก และกระดูกที่ติดมากับเนื้อ รวมไปถึงอวัยวะของเหยื่อ เพราะกรดในกระเพาะของนกฮูกชนิดนี้ไม่สามารถช่วยย่อยอาหารชิ้นใหญ่ได้ ซึ่งลักษณะการกินเช่นนี้อาจทำให้ตัวของพวกมันเล็กกว่าที่เป็นอยู่ในสักวันหนึ่ง
 แหล่งที่อยู่อาศัย : ทุกพื้นที่ของทวีปอเมริกา และมีมากในทวีปอเมริกาใต้ พวกเขาจะมีถิ่นที่อยู่ตลอดทั้งปี แต่นกที่อาศัยอยู่ในภาคเหนืออาจจะอพยพลงใต้

 
  6. นกฮูกลอง เอียร์ (Long-eared Owl)
          
พันธุ์นี้มีจุดเด่นที่มีขนยาวบนศีรษะและยื่นออกมาคล้ายหูของสัตว์ ซึ่งลักษณะทางกายภาพนี้จะช่วยทำให้กลมกลืนกับธรรมชาติ นักวิจัยเชื่อว่า ขนดังกล่าวจะช่วยให้นกฮูกกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมที่อยู่มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นนักสร้างสรรค์ตัวยง เพราะแทนที่จะสร้างรังใหม่ นกฮูกพันธุ์นี้กลับเลือกที่จะใช้รังนกร้างที่นกตัวอื่นเคยสร้างไว้เป็นของตัวเอง เช่น รังของนกกางเขน หรืออีกา
 
แหล่งที่อยู่อาศัย : อเมริกาเหนือ, ยุโรป, เอเชีย และในแอฟริกาเหนือ บางครั้งก็พบในเม็กซิโกใต้และทางตอนใต้ของจีนเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว
นักวิจัยเชื่อว่า ขนดังกล่าวจะช่วยให้นกฮูกกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมที่อยู่มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นนักสร้างสรรค์ตัวยง เพราะแทนที่จะสร้างรังใหม่ นกฮูกพันธุ์นี้กลับเลือกที่จะใช้รังนกร้างที่นกตัวอื่นเคยสร้างไว้เป็นของตัวเอง เช่น รังของนกกางเขน หรืออีกา

 

  7. นกฮูกยูเรเชียน อีเกิล (Eurasian Eagle Owl)
         
 นกเค้าอินทรียูเรเซีย  (Eurasian Eagle Owl) ที่ถูกยกให้เป็นสายพันธุ์นกฮูกขนาดใหญ่ที่สุดและแข็งแรงที่สุดในบรรดานกฮูกทั้งหมด มักจะสร้างรังตามแนวหน้าผาหรือในถ้ำ ซึ่งหาได้ยากกว่ารังนกชนิดอื่น ๆ
 แหล่งที่อยู่อาศัย : สามารถพบได้ทั้งในทวีปยุโรป เอเชีย รวมไปถึงทางตอนเหนือของแอฟริกา และภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าสน ทุ่งหญ้า หรือแม้กระทั่งในเขตกึ่งทะเลทราย
          หนึ่งในไม่กี่สายพันธุ์ของนกฮูกที่มีระยะปลายปีกกว้างเกือบ 2 เมตร และดูน่าเกรงขามขนาดนี้ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ของนกฮูกพันธุ์นี้มักจะเป็นกระต่ายป่าหรือไม่ก็ลูกกวาง รวมไปถึงนกขนาดใหญ่ ได้แก่ นกกระยาง และนกแร้ง   แต่บ่อยครั้งที่สัตว์ขนาดเล็ก เช่น นก เป็ด รวมไปถึงสัตว์จำพวกหมาป่าและกวาง หรือแม้กระทั่งแมลงต่าง ๆ ก็ตกเป็นเหยื่อของนกเค้าอินทรียูเรเซียด้วยเช่นกัน

 

  8. นกฮูกนอร์ทเทิร์น ปิกมี (Northern Pygmy Owl)
          
แหล่งที่อยู่อาศัย : ตอนกลางและทางตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกา
          เนื่องจากนกฮูกนอร์ทเทิร์น ปิกมี เป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางวัน ก็เลยทำให้มีการมองเห็นที่ดีทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน แต่กลับมีความสามารถในการรับฟังเสียงต่ำ เพราะไม่ได้รับการพัฒนาในส่วนนี้นั่นเอง
  

  9. นกฮูกอีสต์เทิร์น สครีช (Eastern Screech Owl)
         
 เป็นนกฮูกที่มีขนาดเล็ก พบได้ทางภาคตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ โตเต็มที่จะมีขนาด 16-25 เซนติเมตร มีน้ำหนักหนัก 121-144 กรัม พวกมันจะหากินในเวลากลางคืนส่วนในช่วงกลางวันนั้นมักจะหลบอยู่ตามโพรงต้นไม้ พวกมันสามารถมีชีวิตได้ถึง 20 ปี หากอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ 
 
แหล่งที่อยู่อาศัย : ทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกี้, ประเทศสหรัฐอเมริกาไปจนทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก
          ถึงแม้ชื่อของนกฮูกชนิดนี้จะหมายถึง เสียงกรีดร้อง เสียงแหลมและดัง แต่เสียงจริง ๆ ของนกฮูกอีสต์เทิร์น สครีช กลับแผ่วเบาและนุ่มนวล ตรงกันข้ามกับชื่อของตัวเองโดยสิ้นเชิงเลย

 

  10. นกฮูกสเปคทาเคิล (Spectacled Owl)
         
 แหล่งที่อยู่อาศัย : เม็กซิโก และตั้งแต่ตอนกลางของอเมริกาไปจนถึงพื้นที่ 2 ใน 3 ของทางตอนเหนือของอเมริกาใต้
          ความแปลกของสายพันธุ์สเปคทาเคิลก็คือ ลูก ๆ ของนกฮูกเหล่านี้จะมีสีตรงข้ามกับพ่อแม่โดยสิ้นเชิง โดยลูก ๆ มีขนลำตัวสีขาวและหน้าดำสนิท แต่พอโตขึ้นก็จะเหลือขนสีขาวเฉพาะช่วงคอกับบางส่วนของใบหน้าเท่านั้น
  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก distractify
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Brad Wilson Photography
Cr.https://pet.kapook.com

แนะนำเหล่านกฮูกสุดน่ารักใน มหาตำนานวีรบุรุษ องครักษ์ นกฮูกผู้พิทักษ์แห่งกาฮูล
สายพันธุ์: นกแสก (Tyto alba)
โซเรนเป็นนกแสกหนุ่ม ที่เติบโตขึ้นมาบนเรื่องเล่าอันยิ่งใหญ่ของพ่อ เกี่ยวกับองครักษ์แห่งกาฮูล เทพนิยายของกลุ่มนักรบผู้บินได้ ที่มีการต่อสู้อันยิ่งใหญ่เพื่อรักษาอาณาจักรนกฮูกจาก เดอะ เพียว วันส์ อันชั่วร้าย โซเรนมีความใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้ร่วมมือกับเหล่าฮีโร่ของพวกเขา แต่กลับตกอยู่ในกรงเล็บของ เดอะ เพียว วันส์ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับโซเรนที่จะหลบหนีออกมาอย่างกล้าหาญ พร้อมด้วยความช่วยเหลือของนกฮูกน้อยตัวอื่นๆ พวกเขาร่วมกันบินทะยานข้ามทะเลและผ่านเมฆหมอกเพื่อค้นหาต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดขององครักษ์ ความหวังเดียวของโซเรนคือการสยบ เดอะ เพียว วันส์ และอนุรักษ์อาณาจักรนกฮูกเอาไว้
 Cr.https://movie.mthai.com/

จากภาพยนต์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์
สายพันธุ์ของนกฮูกที่ปรากฏในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์มีทั้งนกฮูกเหยี่ยว (ตัวใหญ่ ขนพองและดูน่าเกรงขาม ซึ่งเป็นของเดรโก มัลฟอย) นกฮูกขนาดจิ๋ว (ตัวเล็ก น่ารัก แต่อาจจะดูไม่น่าเกรงขามเท่าไร อย่างเช่นพิกวิดเจียนของรอน) และนกฮูกหิมะหรือรู้จักกันในชื่อว่านกฮูกผี (เฮ็ดวิกของแฮร์รี่)
Cr.https://www.catdumb.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่