บทความนี้ไม่มีเจตนาโจมตีส่อเสียดไม่ว่าใคร หรือ กรณีใดใดทั้งสิ้นนะครับ แต่มาจากเจตนาที่อยากสื่อตีความ เรื่องความแตกต่าง ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ในทางหนึ่ง (ซึ่งในความเป็นจริงมันก็มีรายละเอียดกว่านี้มากมาย)
หลายครั้งผมจะเห็นการถกเถียงกันว่า นักเตะคนไหน เล่นได้ หรือ ไม่ได้ ในบางทีม หรือ ลีค ระดับสูง หรือ ที่สูงกว่าไทยลีค
ผมขอสมมุติเป็นแนวคิดหนึ่งที่อยากให้ผู้อ่านลองคิดตาม และ ไม่ได้ยัดเยียดนะว่ามันถูกหรือผิด แต่ เผื่อเป็นแนวคิดทางเลือก ให้มีมุมมองหลากหลายมากขึ้น
หากเกมส์ฟุตบอลเปรียบเสมือน กระดานหมากรุก ตัวผู้เล่น เหมือนตัวละครในกระดานหมากรุก นักเตะตำแหน่งต่างๆ มีหน้าที่แตกต่างกันไป
เช่น แบ้คขวาซ้าย เปรียบ ดั่งเรือ ขึ้นลง ทางยาว แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ไม่สามารถเดินในมุมทะแยงได้ ส่วนบางคนอาจจะเปรียบได้ดั่งการเดินของ ม้า ที่ เดินแนวทะแยงข้ามช่องในทิศต่างๆ แต่กลับไม่สามารถกินคู่ต่อสู้ในระยะประชิดได้ ส่วนโคน สามารถกินระยะประชิดได้ แต่ก็ไม่สามารถเดินระยะไกล และ มีข้อจำกัดในการเดิน อยู่พอสมควรเช่นกัน
แล้วในความเป็นจริงบางคนอาจจะติงว่า เอ้า มันไปเปรียบกันได้เหรอ ฟุตบอล กับ หมากรุก เพ้อเจ้อน่า
ไม่ว่ากันครับ มันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่....
มันก็ยังอยู่ในคไว่า เกมส์ และ เงื่อนไขที่คนกำหนดการเล่นมันขึ้นมา ซึ่ง ฟุตบอล มันยืดหยุ่นกว่านั้น เพราะคนสามารถทำอะไรได้มากกว่า ม้า เรือ แน่นอน
แต่ในทางหนึ่ง ผมเปรียบเพื่อให้เห็นคร่าวๆ และ ย่อยมันให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า หากคนคนหนึ่ง มีศักยภาพ แบบหนึ่ง ในบางกรณี อาจทำให้ทีมบางทีมได้เปรียบมาก แต่ ไปอยู่กับบางที่ ผิดเวลา ผิดที่ ก็อาจสร้างความเสียหายให้ทีมได้เช่นกัน
หรือ คิดเล่นๆ ถ้าทั้งกระดาน มีคนคิดว่า ถ้าฉันมีเรือทั้งกระดาน ฉันเล็งยิงไกลๆ ได้ ทุกตัวน่าจะสบายเท้า
แต่กลับกัน อีกฝั่งมีตัวละคร แตกต่างอย่างละตัวสองตัว กลับ ป้องกัน และ สมดุลย์ สามารถฆ่าเรือทั้งกระดานได้ โดยที่อาจเสียตัวเบี้ยไปไม่เท่ากับฝั่งที่มีเรือทั้งกระดาน
ดังนั้น ผมจึงมองเหมือนที่จริงๆผมมั่นใจว่าหลายๆคนเข้าใจมันอยู่แล้ว ในทีมทีมหนึ่ง ที่ต้องการนักเตะหนึ่งคน เคมี ที่ว่าดีก็อาจจะไม่ตรง ตามรูปแบบทีมก็ได้
อุ้มไป โกเบ ก็อาจจะไม่ดูหวือหวา หนักแน่น เท่าระบบ มารินอส มุ้ย ถ้าไปเจลีค ทีมอื่นก็อาจจะไม่รุ่งก็ได้
เจ ชิมิสุ ก็อาจเคยมองว่า ดี เก่ง แต่ไม่ได้แปลว่าเหมาะกัทีทของเขา
การเปรียบหมากรุก กับ ฟุตบอล ในความตั้งใจของผม จึงพอสรุปได้สั้นๆว่า “Put the right man on the right job”
ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีคำว่าเก่งที่สุด ไม่มีตายตัว มันมีแต่ เหมาะสมในเวลาไหน กับใครแค่นั้นเอง
ไม่งั้น ร้อบ ซาเวจ ,วินนี่ โจนส์ ผมเชื่อว่าทักษะจับบอลยังไม่ได้เท่า เจ ชนาธิปเลย แต่ เขาก็ยังมีทีมให้เตะ และ การงานให้ทำ ในหน้าที่ของเขา ซึ่ง ถ้าไปอยู่ บาซ่า วินนี่ ก็อาจจะเป็นส่วนเกิน หรือ กรวย ไปตั้งเกะกะทีมตัวเองก็เป็นได้ครับ
หรือ ถ้าเปรียบให้ย่อยจนง่ายลงไปอีก มันก็คงคล้าย
ค้อน(ไม่แน่ใจสะกดถูกไหม),กรรไกร,กระดาษ
เมื่อกรรไกรที่ว่าแหลม เจอค้อนทุบก็พัง แต่ ค้อน กลับแพ้กระดาษ ที่บางๆยืดหยุ่น ไปห่อค้อนได้ เป่ายิ้งฉุบ คือ การเล่น ยกตัวอย่างง่ายในกรณีนี้เช่นกัน
ทุกอย่างมีค่าในตัวของมัน แค่ ถูกที่ และ เวลา ที่เหมาะสมหรือไม่ ขอบคุณครับ
ถ้า..แล้ว...มันคือ ค้อน,กรรไกร,กระดาษ หรือ หมากที่เดินในเกมส์หมากรุก
หลายครั้งผมจะเห็นการถกเถียงกันว่า นักเตะคนไหน เล่นได้ หรือ ไม่ได้ ในบางทีม หรือ ลีค ระดับสูง หรือ ที่สูงกว่าไทยลีค
ผมขอสมมุติเป็นแนวคิดหนึ่งที่อยากให้ผู้อ่านลองคิดตาม และ ไม่ได้ยัดเยียดนะว่ามันถูกหรือผิด แต่ เผื่อเป็นแนวคิดทางเลือก ให้มีมุมมองหลากหลายมากขึ้น
หากเกมส์ฟุตบอลเปรียบเสมือน กระดานหมากรุก ตัวผู้เล่น เหมือนตัวละครในกระดานหมากรุก นักเตะตำแหน่งต่างๆ มีหน้าที่แตกต่างกันไป
เช่น แบ้คขวาซ้าย เปรียบ ดั่งเรือ ขึ้นลง ทางยาว แต่ก็มีจุดอ่อน คือ ไม่สามารถเดินในมุมทะแยงได้ ส่วนบางคนอาจจะเปรียบได้ดั่งการเดินของ ม้า ที่ เดินแนวทะแยงข้ามช่องในทิศต่างๆ แต่กลับไม่สามารถกินคู่ต่อสู้ในระยะประชิดได้ ส่วนโคน สามารถกินระยะประชิดได้ แต่ก็ไม่สามารถเดินระยะไกล และ มีข้อจำกัดในการเดิน อยู่พอสมควรเช่นกัน
แล้วในความเป็นจริงบางคนอาจจะติงว่า เอ้า มันไปเปรียบกันได้เหรอ ฟุตบอล กับ หมากรุก เพ้อเจ้อน่า
ไม่ว่ากันครับ มันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่....
มันก็ยังอยู่ในคไว่า เกมส์ และ เงื่อนไขที่คนกำหนดการเล่นมันขึ้นมา ซึ่ง ฟุตบอล มันยืดหยุ่นกว่านั้น เพราะคนสามารถทำอะไรได้มากกว่า ม้า เรือ แน่นอน
แต่ในทางหนึ่ง ผมเปรียบเพื่อให้เห็นคร่าวๆ และ ย่อยมันให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า หากคนคนหนึ่ง มีศักยภาพ แบบหนึ่ง ในบางกรณี อาจทำให้ทีมบางทีมได้เปรียบมาก แต่ ไปอยู่กับบางที่ ผิดเวลา ผิดที่ ก็อาจสร้างความเสียหายให้ทีมได้เช่นกัน
หรือ คิดเล่นๆ ถ้าทั้งกระดาน มีคนคิดว่า ถ้าฉันมีเรือทั้งกระดาน ฉันเล็งยิงไกลๆ ได้ ทุกตัวน่าจะสบายเท้า
แต่กลับกัน อีกฝั่งมีตัวละคร แตกต่างอย่างละตัวสองตัว กลับ ป้องกัน และ สมดุลย์ สามารถฆ่าเรือทั้งกระดานได้ โดยที่อาจเสียตัวเบี้ยไปไม่เท่ากับฝั่งที่มีเรือทั้งกระดาน
ดังนั้น ผมจึงมองเหมือนที่จริงๆผมมั่นใจว่าหลายๆคนเข้าใจมันอยู่แล้ว ในทีมทีมหนึ่ง ที่ต้องการนักเตะหนึ่งคน เคมี ที่ว่าดีก็อาจจะไม่ตรง ตามรูปแบบทีมก็ได้
อุ้มไป โกเบ ก็อาจจะไม่ดูหวือหวา หนักแน่น เท่าระบบ มารินอส มุ้ย ถ้าไปเจลีค ทีมอื่นก็อาจจะไม่รุ่งก็ได้
เจ ชิมิสุ ก็อาจเคยมองว่า ดี เก่ง แต่ไม่ได้แปลว่าเหมาะกัทีทของเขา
การเปรียบหมากรุก กับ ฟุตบอล ในความตั้งใจของผม จึงพอสรุปได้สั้นๆว่า “Put the right man on the right job”
ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีคำว่าเก่งที่สุด ไม่มีตายตัว มันมีแต่ เหมาะสมในเวลาไหน กับใครแค่นั้นเอง
ไม่งั้น ร้อบ ซาเวจ ,วินนี่ โจนส์ ผมเชื่อว่าทักษะจับบอลยังไม่ได้เท่า เจ ชนาธิปเลย แต่ เขาก็ยังมีทีมให้เตะ และ การงานให้ทำ ในหน้าที่ของเขา ซึ่ง ถ้าไปอยู่ บาซ่า วินนี่ ก็อาจจะเป็นส่วนเกิน หรือ กรวย ไปตั้งเกะกะทีมตัวเองก็เป็นได้ครับ
หรือ ถ้าเปรียบให้ย่อยจนง่ายลงไปอีก มันก็คงคล้าย
ค้อน(ไม่แน่ใจสะกดถูกไหม),กรรไกร,กระดาษ
เมื่อกรรไกรที่ว่าแหลม เจอค้อนทุบก็พัง แต่ ค้อน กลับแพ้กระดาษ ที่บางๆยืดหยุ่น ไปห่อค้อนได้ เป่ายิ้งฉุบ คือ การเล่น ยกตัวอย่างง่ายในกรณีนี้เช่นกัน
ทุกอย่างมีค่าในตัวของมัน แค่ ถูกที่ และ เวลา ที่เหมาะสมหรือไม่ ขอบคุณครับ