ความเครียดมีผลทำให้สายตาสั้นมากขึ้นด้วยไหมครับ

คือผมจะชอบนอนเล่นโน๊ตบุ๊คท่าประจำของผมคือนอนหัวสูงๆพิงกำแพงหรือหัวเตียง ชันเข่าแล้วเอาโน๊ตบุ๊ควางหน้าขา หน้าจอโน๊ตบุ๊คก็จะอยู่ห่างจากตาไปฟุตครึ่ง หรือบางทีถ้าต้องดูหรือเพ่งรายระเอียดมากๆก็จะขยับมาไว้บนหน้าอก ระยะห่างก็จะเหลือฟุตเดียว ซึ่งผมก็เล่นท่านี้มาตลอดไม่ว่าจะพิมพ์งาน เล่นเกมส์ เล่นเฟส แต่งรูปภาพ รวมๆแล้วประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่สมัยมัธยมอายุประมาณ 17 - 18 จนตอนนี้อายุ 25 แล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นผมก็สายตาปกติมาตลอด จนช่วงอายุ 20 ผมเริ่มเล่นกล้อง DSLR แล้วไม่รู้ว่าที่หมุนปรับสายตามันตั้งยังไง เห็นว่าหมุนไปทางขวาสุดแล้วมันมองภาพชัดดีไม่ต้องเพ่งมาก ก็เลยใช้แบบนั้นมาจนเริ่มรู้สึกว่าสายตาข้างซ้ายมันสั้นลงเรื่อยๆ ถามคนที่เล่นกล้องด้วยกันถึงได้รู้ว่ามันเป็นปุ่มปรับสายตา ถ้าสายตาเราปกติก็ไม่ต้องปรับ แต่ถ้าสายตาไม่สั้นแล้วปรับมันก็จะดึงสายตาเราให้สั้นตามไปด้วย แต่คงจะสายไปแล้วเพราะวัดดูตอนนั้นข้างซ้ายผม -250 แต่ข้างขวายังปกติ แต่บางทีก็เห็นเป็นภาพซ้อน ก็เลยสลับตามองเอาถ้าต้องมองใกล้ๆมองตาซ้ายหลับตาขวา ถ้ามองอะไรไกลๆแล้วภาพซ้อนก็หลับตาซ้ายแล้วมองตาขวา ซึ่งผมก็มองแบบนี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน แต่ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมาผมเริ่มเล่น Forex (คล้ายๆหุ้นแต่จะใช้ส่วนต่างของค่าเงินเป็นตัวแปรของกำไร) ผมก็เล่นรวมๆกันประมาณ 4 - 5 ชั่งโมงเหมือนเดิม แต่บางครั้งก็มีแรงกดดันเพราะถ้าราคาไปในทางตรงกันข้ามกันที่เราซื้อขาย เราก็จะขาดทุน ซึ่งต่างจากหุ้นตรงที่ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับตัวเรา มีแค่ราคาที่เราซื้อขาย ณ.ช่วงเวลานั้นๆ และเงินในบัญชีที่เราจะต้องมีให้พอกับส่วนต่างที่เราซื้อขายในตอนนั้นด้วย ถ้าติดลบเกินกว่าเงินที่เรามีเมื่อไหร่เราก็จะสูญเงินทั้งหมดไปเลย (เช่นเราซื้อทองคำไว้ที่ 0.02 หน่วย คิดเป็นราคาประมาณ 18 บาท ถ้าขึ้นไปซัก 1.5 จุดก็จะได้กำไรอีก 24 บาททันที ถ้าพอใจกำไรนั้นเราก็ปิดไป ก็จะได้เงินเข้าบัญชีมาอีก 24 บาท ถ้ายังไม่พอในก็ถือต่อไป แต่ถ้าราคามันลดลงไป เราก็จะขาดทุนครับ ซึ่งจะถือไว้ก็ได้ แต่เงินในบัญชีจะต้องมีพอกับส่วนต่างในเวลานั้น ถ้ามันกลับขึ้นไปราคาสูงกว่าเดิมเมื่อไหร่ เราก็จะได้กำไรเหมือนเดิม แต่ถ้าลดลงต่ำกว่าเงินที่เรามี ก็จะถูกบังคับปิดและเงินจะเหลือ 0 ทันที) ซึ่งผมก็ไม่ได้เพ่งมากเหมือนกับตอนแต่งรูป แต่บางครั้งก็รู้สึกกดดันมากเพราะปั้นมาตั้งนานจะทำยังไงไม่ให้ขาดทุน ผ่านไปเดือนนึงเริ่มรู้สึกว่าข้างขวามันออกฟุ้ง มองได้ไม่ชัดเท่าเดิม ๆ (คล้ายๆเลนส์กล้องติด back) ซึ่งผมก็กลัวมันจะสั้นเหมือนข้างซ้ายแล้วต้องใส่แว่น ก็เลยพยายามพักตาบ้าง ปิดออเดอร์ได้งานนึงก็พักสายตาทีนึง กลับตาผ่อนคลาย พยายามมองไกลๆ ก่อนนอนก็เอาตาแช่น้ำเย็นสัก 2 - 3 นาที (ใช้ถ้วนที่แถมมากับน้ำยาล้างตาใส่น้ำเย็น) ก็รู้สึกว่ามันพอช่วยได้ แต่ก็ยังไม่ชัดเท่าเดิม ซึ่งผมก็ไม่อยากจะใส่แว่น จากเหตุการณ์ทั้งหมดผมเลยอยากปรึกษาว่า

1.ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆมันจะช่วยคงสายตาเราไว้ได้ตลอดไหมครับ หรือจะทำให้สายตาดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ไหมครับ ถ้าช่วยได้ผมจะได้ทำกับตาซ้ายด้วย สายตาจะได้ใกล้เคียงกัน

2.ถ้าไม่อยากใส่แว่น จะสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ไหมครับ แล้วจะใส่แค่ข้างที่สั้นที่สุดข้างเดียวหรือใส่ทั้ง 2 ข้างดีครับ เพราะข้างขวายังไม่สั้นจนมองไม่ชัด แค่ติด back นิดหน่อย ก็ใช้วิธีปรับสายตามองไกลๆบ่อยๆ ถ้าใช้แค่ข้างเดียวได้ก็จะประหยัดไปได้ เพราะใช้แค่ในงานที่ต้องใช้สายตามากๆ เช่น แต่งภาพ, ทำเอกสาร, มองกราฟราคาครับ นอกนั้นก็ไม่ค่อยใส่

3.และถ้าเราปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเลย มันจะทำให้สายตาเราสั้นลงเรื่อยๆไหมครับ

4.กรณีแบบนี้สามารถทำ PRK ได้ไหมครับ (คล้ายๆ Lasik แต่ไม่ต้องกรีดกระจกตา ให้ความคงทนกว่า เพราะผมออกงานภาคสนามบ่อยครับ) ทำแล้วสายตาจะสั้นได้อีกได้ไหมครับ แล้วจะทำที่ไหนดีครับ

5.อันนี้ถามสาย Forex ครับมีวิธีรักษาผลกำไรอย่างไรบ้างครับ เพราะบางเดือนเหมือนจะได้เยอะ แค่ถ้านับที่ขาดทุนไปด้วยก็เกือบจะครึ่งต่อครึ่งเลยครับ

ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณทุกคนครับ