ความทรงจำที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

สวัสดี เราชื่อ ปาล์มมี่ ตอนนี้เราอยู่ ม.6 ใกล้จบแล้ว ตอนอยู่ที่โรงเรียนทุกคนอาจจะมองว่าเรามีชีวิตที่ดี ราบรื่น แต่ไม่เลย ทุกคนไม่รู้เกี่ยวกับทางบ้านของเรา ทำไมเราถึงมีชีวิตที่ลำบากละ? เพราะเราเสียพ่อไป ตอนเราเรียน ม. 3 เรารักพ่อเรามาก และเราสนิทกันมาก ไปไหนไปด้วยกัน กินข้าวด้วยกันขาดใครไปก็จะรอกินพร้อมหน้าพร้อมตา เวลาเหงาๆ เราก็จะเล่นด้วยกัน หาเกมเล่น แต่ข้อเสียของพ่อเราคือ พ่อติดบุหรี่ติดเหล้า ตอนเเรกเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงติด เพราะเรายังเด็กอยู่ ก่อนที่พ่อจะเสีย ตอนนั้นพ่อไปกินเหล้ามาตอนเช้า กลับบ้านมาก็มานั่งกินข้าวกันเป็นครอบครัวและ พ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันมีปากเสียงกัน เราเห็นตั้งแต่เด็กมาตลอดเวลาพ่อกับแม่ทะเลาะกันตีกันบ้าง โตมาก็เลยดูเป็นเรื่องปกติ วันนั้นเป็นวันที่หนักมาก ซึ่งข้างบ้านคือบ้านยาย ซึ่งที่บ้านยายนั้น มีสมาชิกคือ ยาย ตา น้า แฟนน้า หลาน1คน ตอนพ่อแม่ทะเลาะกันน้าตะโกนข้ามบ้านมาว่า อย่าเสียงดัง พ่อยิ่งเมาๆอยู่ ไม่พอใจ จึงตะโกนด่ากันไปกันมา เราไม่รู้หรอกว่าข้างนอกเป็นยังไง แต่เราอยู่ในห้องแต่ห้องเรามันไม่ได้เป็นห้องทึบ จึงได้ยินเสียงข้างนอกทะเลาะกัน น้ากับพ่อ ก็ตะโกนข้ามบ้านไปมา ด่ากัน น้าไม่พอใจ น้าถือไม้หน้าสามมา เดินมาหน้าบ้าน พ่อเราออกไปหน้าบ้านโดยไม่รู้ว่าน้าถือไม้มา ด่ากันไปมา สุดท้ายพ่อกับน้าตีกัน พ่อยิ่งเมาๆ ก็เซล้ม น้าถือไม้มายกเเขนพ่อให้พ่อยืน ทันใดนั้นน้าฟาดไม้ไปที่หลังพ่อกี่ครั้งไม่รู้ ซึ่งเป็นตอนที่เราออกมาจากห้องนอนพอดี เราเห็นเเล้วเราอึ้งยืนนิ่งทำไรไม่ถูก พูดไม่ออก ได้แต่ยืนฟังพ่อร้องอวดโอยอยู่ที่พื้น เราได้แต่ยืนนิ่งมอง ขาก้าวไม่ได้ หัวโล่ง คิดไรไม่ออก สมองอื้อไปเลย พอเราได้สติ ทุกคนก็เเยกย้ายหายไปจากตรงนั้นแลเว ส่วนพ่อกลับบ้านไปนอนบ้านที่เก่าที่ย้ายออกมาซึ่งบ้านนั้นโดนทุบไปแล้ว เหลือแต่เล้าไก่ที่เคยเลี้ยง เราก็ไม่นึกว่าพ่อจะไปนอนที่นั้น จากนั้นไม่นาน พ่อกลับมาคุยกับแม่ดีๆ แม่ขอร้องให้พ่อเลิกเหล้า พ่อก็ตัดสินใจ ว่า จะเลิกเหล้า แม่ก็ส่งพ่อไปบำบัดเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ ตอนพ่อไปที่ศูนย์บำบัดเราไม่ได้ไปด้วยติดเรียน  แต่อีกไม่กี่อาทิตย์เรากับแม่และพี่สาวก็ได้ไปเยี่ยมพ่อที่ศูนย์บำบัด ตอนไปถึงศูนย์เราดีใจมากที่ได้เห็นพ่อ ได้เห็นรอยยิ้มของพ่อ ได้รู้ว่าพ่อสบายดี ที่อยู่ที่นั้น แม่เอาขนมกับนมให้พ่องกิน เพราะยังไม่ได้กินข้าว ขนมที่พ่อกินเป็นขนมยูโร่เค้ก นมเเลคตาซอยกล่องใหญ่ เราเห็นตอนพ่อแกะขนม มือพ่อสั่นมาก เเกะขนมไม่ได้ เราสงสารพ่อมาก เรารู้ว่ามันทรมานมากขนาดไหนแต่พ่อก็พยายามเพื่อตัวเรา พอหมดเวลาเยี่ยมเราใจหวิวๆ เหมือนขาดอะไรไป เหมือนจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก จนเราเรียนหนักขึ้นๆ กิจกรรมก็เยอะขึ้น จนลืมสิ่งภายนอก มุ่งแต่จะทำกิจกรรมและเรียน ตอนแม่มารับกลับบ้าน ใกล้จะถึงบ้าน เราเห็นพ่อเราเดินข้างถนนเหมือนจะเดินกลับไปที่บ้านเก่า เราเห็นแม่ก็ขับผ่านไป เราก็หันไปดูหน้าพ่อ พ่อทำหน้านิ่งๆ เหนื่อยๆ เราก็หันกลับมา ตอนนั้นเรายังคิดไม่ได้ว่าพ่อเดินมาจากไหน ( มารู้ทีหลังว่า พ่อเดินกลับจากศูนย์บำบัดจนถึงบ้าน ระยะทาง มากกว่า 10 กิโล เราเสียใจมากที่ปล่อยให้พ่อเดินกลับ)จากนั้นเราก็ติดต่อไรพ่อไม่ได้ เพราะเราไม่คิดอะไรนอกจากเรียน ตื่นเช้าไป รร เลิกเรียน ก็ซ้อมหลีด กลับบ้าน อาบน้ำ กินข้าว นอน วนไปๆๆๆๆ นานมาก จนได้ข่าวว่า พ่อเสีย เราอึ้งมาก ช็อคที่สุด ใจสั่น หัวตันคิดไรไม่ออก หูอื้อหมด สักพักน้ำตาไหล เราร้องไห้ฟูมฟายหนักมาก ไม่คุยกับใครเลย ตอนที่ได้ข่าวว่าทางโรงพยาบาลจะเอาศพมาที่บ้าน เรากับย่าและพี่สาว ร้องไห้ฟูมฟายเกือบ1 ชั่วโมง สาเหตุที่พ่อตายคือ พ่อกินยาฆ่าหญ้า เช้ามามีคนเห็นพ่อนอนข้างถนน เรียกไม่ตื่น จึงเรียกรถพยาบาลทันที  เรารู้ทำไมพ่อถึงทำแบบนั้น เรารู้ว่าตลอดมาพ่อเครียดเเค่ไหน จนถึงขีดสุด จากนั้นเราหยุดเรียนโดยไม่ได้เขียนใบลาครูที่ รร ไปช่วยงานศพพ่อ จนคุณครูที่ รร มาตามที่งานศพ ครูมาให้กำลังใจ ตอนเเรกๆเรานั่งหน้าศพพ่อ จัดดอกไม้หน้ารูป และพูดกับตัวเอง หนูขอโทษที่เป็นลูกที่ไม่ดี ชอบทำให้พ่อเสียใจ หนูขอโทษ แล้วก็ร้องไห้  ตั้งแต่เราจำความได้ เรากอดพ่อไม่กี่ครั้ง วันพ่อ เคยครั้งนึงให้พ่อไปงานวันพ่อ ที่ รร ได้กราบเท้าพ่อแล้วกอดพ่อร้องไห้ พ่อพูดกับเราว่า ร้องไห้ทำไมอยู่บ้านเราก็กอดกัน เป็นเสียงที่นุ่มนวลมาก อ่อนโยนมาก  ครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้กอดพ่อ พอถึงวันเผา แม่ถูกยายห้ามไม่ให้ไปที่เผาศพด้วยเพราะเดี๋ยวพ่อจะตามติดแม่ เลยมีเรากับพี่สาวที่อยู่ที่ป่าช้า พิธีเริ่ม เรากับพี่สาวก็ได้ถวายผ้าไตรแก่พระสงฆ์ และแจกของชำร่วยให้แขกที่ทางลงเมรุ แจกไปร้องไห้ ไป พอถึงตอนจุดไฟ เราก็ใจหาย ร้องไห้ฟูมฟายหนักมาก ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่พ่อไม่อยู่กับเราอีกแล้ว ตั้งแต่นั้นมา เราเปลี่ยนไปลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป ไม่พูดคุยกับใคร ไม่สุงสิงกับใคร ชอบอยู่คนเดียว อีก 2ปี ต่อมา แม่มีแฟนใหม่ แม่ย้ายไปบ้านแฟน ซึ่งเราก็ต้องไปด้วย แฟนใหม่แม่ เมียเขาก็เสียเหมือนกัน เสียเพราะหัวใจวาย และป้าเขาก็อยู่ที่บ้านนั้น หวงแฟนใหม่แม่มาก เราไปอยู่ที่บ้านนั้น ได้ไม่นาน ก็ย้ายลงมาที่บ้านเดิมมาอยู่ข้างบ้านยาย ยายบอกเราว่า ที่เราต้องย้ายลงมา เพราะ ป้าเมียเก่ามันไม่พอใจที่เรากับแม่ไปอยู่ที่นั่น มันบอกจะทำร้ายแม่ แต่แม่ก็ไม่ฟัง (เราเคยแอบอ่านไดอารี่ของแม่ ที่แม่เขียนนั้นประมาณว่า แม่รักแฟนใหม่แม่มาก แม่กับแฟนใหม่ แอบชอบกันมา 11 ปี เราก็อึ้งว่าทำไม แม่ถึงทำแบบนี้? แม่ไม่รักพ่อหรอ? ซึ่งคิดไปคิดมา พ่อเราก็อาจจะรู้เรื่องนี้ จึงทำให้พ่อเครียด ) แม่จึงอยู่ที่บ้านแฟนใหม่ต่อ ไม่กี่เดือนต่อมา แม่ค่อยๆมีอาการป่วย ไปโรงพยาบาลตอนแรกๆก็ไม่เป้นอะไรมาก แม่ก็ไปถอนพิษที่ทำให้แม่ป่วยออก แต่พอกลับไปอยู่ที่บ้านแฟนใหม่อีกที แม่ป่วยหนักขึ้นอีกๆๆๆๆ จนเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ เราไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลแม่บอกไม่ได้เป็นไรมาก เดี๋ยวก็กลับบ้านได้ เราก้กังวลใจว่าแม่จะเป็นอะไรมากไหม? เริ่มคิดมาก เราโกรธที่ป้าแฟนเก่าแฟนใหม่แม่ทำแบบนี้ ตอนนั้นเราพูดขึ้นว่า ผีก็อยู่ส่วนผี ตายไปแล้วไม่ต้องมายุ่งกับแม่เรา เราพูดงี้ ผ่านไปสองสามวัน แม่อาการหนัก ทรุด ไม่มีแรง ปวดเนื้อปวดตัว ต้องดมยาดมตลอด เราเริ่มใจไม่ดีละ แม่ต้องนอนโรงพยาบาลต่อ แต่แม่บอกว่าจะกลับบ้านๆๆๆ หมอก็บอกให้แม่นอนดูอาการอีกสัก 2 3 ถ้าอาการไม่ทรุดก็กลับบ้านได้ 3 วันต่อมา แม่ได้กลับบ้าน อาการแม่เหมือนคนเป็นอัมพฤก เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เรากังวลใจขึ้น 2 เท่า เรานอนเฝ้าแม่ที่กลางบ้านนอนมองแม่ ทำไมแม่ถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตอนที่แม่อยู่ที่บ้าน แม่ก็มีอาการชัก เลยต้องส่งกลับไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการ จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมแม่บ้าง(ตอนนั้นเราไปนอนที่บ้านเพื่อน พอตื่นมาก็จะได้ไปที่โรงพยาบาล เพราะมันใกล้กว่า  ตอนนั้นเราไม่รู้เว้ยว่า พยาบาลไม่ป้อนข้าวให้เเม่ แม่ต้องกินเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แม่ลุกไม่ได้ ทรงตัวไม่ได้ ยกแขนแทบไม่ขึ้น เราไม่รู้ว่า บางวันที่เราไม่ได้ไป แม่ไม่ได้กินข้าว เราโครตรู้สึกผิดมากๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังเสียใจที่ทำแบบนั้น ) จนตอนนั้น 8 โมง น้าโทรมา บอกว่า แม่อาการไม่ดีมากๆ ไปหาแม่ที่โรงบาลด่วน! น้าบอกไปดูหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย เราใจหายวาป อึ้งๆ พอวางสาย เรากับเพื่อนรีบขับรถไปที่ รพ (จากบ้านเพื่อนไป รพ ประมาน 3 กิโล) เรารีบขับมาก ประมานเกือบ90 ได้ พอไปถึงรีบขึ้นลิฟต์ไปชั้น 4 พอเข้าไปถึง เห็นพี่สาวร้องไห้ น้าเรา ร้องไห้ ย่าร้องไห้ เราก็เดินไปที่เตียง เปิดผ้าม่านที่กั้นเตียงออก เราอึ้งไปชั่วขณะ ใจหายมาก น้ำตาไหลเหมือนเขื่อนแตก สิ่งที่คือ ผ้าสีขาวห่อร่างของแม่อยู่บนเตียง เข่าอ่อน อึ้ง ร้องไห้น้ำตาไหลมาเรื่อยๆ เพื่อนพาไปนั่งที่ระเบียงข้างนอกมาทำใจ จากนั้น ย่าเดินมาด่าเรา ว่าทำไม่รีบมาดูแม่ ทำไมไม่อยู่กับแม่ ทำไมถึงปล่อยให้แม่เป็นแบบนี้ ซึ่งก่อนที่น้าจะโทรมาหาเรา ทางรพ ได้โทรไปหาแฟนใหม่แม่ว่า แม่อาการแย่ จะให้ใส่เครื่องช่วยหายใจให้ไหม? ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครรับโทรศัพท์ แม่จึงเสีย เราโดนย่าด่ายกใหญ่ เราก็ได้แต่เงียบฟัง เพื่อนเราก็ปลอบใจ และขอโทษย่าที่ทำให้เรามาไม่ทัน ย่าโกรธมาก ลากเราไป กราบเท้าแม่ แล้วให้พูดว่าขอโทษ จากนั้น เรากับย่าก็ยืนร้องไห้กันที่ปลายเตียง ตอนเย็นทางโรงพยาบาลได้นำศพของแม่มาที่บ้าน เราก็เตรียมพิธีเหมือนเดิม ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกครั้งนึง ซึ่งเราไม่อยากไม่อยากมี ไม่อยากให้เกิดขึ้น (ตอนที่พ่อเสีย เราฝันว่า เราอยู่ที่ๆหนึ่ง โล่งๆ มืดๆ มีแค่แสงสว่างตรงบนหัวเรา เรามองไปข้างหน้า เราเห็นพ่อยืนอยู่ เรารีบเดินเข้าไปกอดพ่อ พร้อมกับถามพ่อว่า พ่อยังไม่ตายใช่ไหม? มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม? พ่อไม่ตอบ ได้แต่ยืนยิ้มให้อีกสักพักแม่เดินมายืนข้างพ่อยืนกอดเอวพ่อ แล้วส่งยิ้มมาให้เรา เราก็รีบถามแม่ไปว่า แม่ พ่อยังไม่ตายใช่ไหม? แม่ก็ตอบว่า ยัง ยังไม่ตาย เราดีใจมากๆ เเล้วเราก็สดุ้งตื่น ตอนเเรกเราก็งงๆ ว่า ทำไมแม่กับพ่อถึงอยู่ด้วยกันได้? ทั้งๆที่ตอนนี้พ่อเสียไปแล้ว จากนั้นเราก็ไม่คิดมาก อะไร ) จนถึงตอนนี้ เราก็ได้รู้เเล้วว่า ความฝันนั้น มันเป็นลาง บอกให้เรารู้ว่า เราจะเสียทั้ง 2 ท่านไป มันทรมานมาก พอ รร จัดงานวัน พ่อ งานวันแม่ เราแทบไม่อยากไป รร เลย มันเหมือนตอกย้ำความรู้สึกของคนไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่อยากโดนเรียกว่า ลูกกำพร้าพ่อแม่ มันเจ็บนะที่ชีวิตหลังจากนั้นจะไม่มีพ่อกับแม่ยืนอยู่เคียงข้าง เวลานอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ภาพพ่อกับแม่ก็จะลอยมาสักพักน้ำตาก้ไหล เป็นแบบนี้ทุกครั้ง บ่อยมาก ตั้งแต่เล็กจนโต เราไม่เคยถ่ายรูปคู่กับแม่เลย และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เราเล่นโทรศัพท์แม่ เกิดอยากถ่ายรูปขึ้นมา ก็เลยถ่าย ตอนแรกแม่ไม่อยากถ่าย เเต่เราก็ยุให้แม่หันมาๆๆๆ จนได้ถ่ายมา 1 รูป ถ้าวันนั้นเราไม่ได้ถ่ายรูปกับแม่ เราคงจะไม่มีอะไรให้เราได้คิดถึง ไม่มีรูปถ่าย ไม่มีสิ่งของ แทนตัวแม่ (เราภูมิใจที่สุดที่เเม่เคยทำให้เราคือ ตอนนั้นเราเป็นไมเกรน นอนไม่ได้ มันตึ้บๆ ที่หัว โลกหมุนติ้วๆ ซึ่งตอนนั้น บ้านเรามีห้องเดียว พ่อกับแม่ ให้เรานอนห้องนั้น พ่อกับแม่ก็นอนหน้าทีวี ตอนนั้นดึกมากเรานอนไม่หลับ ไม่รู้จะปลุกแม่ยังไงดี เรานอนคว่ำ เอาเท้าเตะกับที่นอน เสียงดัง พ่อกับแม่ก็ตะโกนมาว่า เราเป็นอะไร เราก็บอกว่า เรานอนไม่หลับ เราปวดหัว นอนไม่ได้ แม่ก็พูดว่า งั้นมานอนกับแม่กินยาแล้วนอน ตอนเราเดินไปเราก็คิดว่า เราคงจะนอนไม่ได้แน่ๆพอเรานอนปุ้บแม่หันหน้ามากอดเราเราดีใจมาก เราก็อุ่นใจละที่แม่กอดเรานอนจึงทำให้เราหลับได้ ) ตอนนี้เราอยู่ ม 6 ใกล้จบเเล้ว ตอนนี้เราอยู่กัแฟนของเราที่บ้านของพ่อเเฟน เวลาเราร้องไห้ แฟนเราก็จะคอยปลอบคอยกอดเรา คอยถามว่าเป็นอะไรร้องไห้ ทำไมถึงร้อง เราบอกว่าคิดถึงพ่อแม่ แฟนก็จะปลอบเราว่า ไม่เป็นไรนะ เขาอยู่ข้างๆเราเสมอ แต่คบกันใหม่ๆมันก็ดีแหละเน้อะ ตอนที่คบกันได้ปีกว่าๆเขาชอบทำเราเสียใจ ทำให้ร้องไห้บ่อยๆ จนเราเคยคิดอยากฆ่าตัวตายคิดว่าอยากไปอยู่กับพ่อแม่ ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่คืนนั้นเราไม่ทำเพราะเพื่อนเตือนสติได้  เคยทะเลาะกับแฟนจนเคยเลิกกันมาเเล้ว 2 ครั้ง  แต่เราก็ทนเขามาได้ จนถึงตอนนี้ 1 ปี 6 เดือนแล้ว เขาโอเครขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิม ครอบครัวเราเหลือเรากับพี่สาวเราเหลือกันอยู่เเค่ 2 คนเเล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์การสูญเสียพ่อกับแม่ไป เราสองคนพี่สาวก็รักกันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อยก็ยังดีที่มีพี่สาวทั้งคน เราเคยบอกพี่สาวว่าอยากไปอยู่กับแม่ พี่สาวเรารีบพูดว่า อยู่กับพี่นี่ ไม่ต้องไปไหน ทำให้เราคิดอยากอยู่ต่อเพื่อคนที่เรารักที่สุดอีก 1 คน 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่