“สมคิด” ทวงสัญญามารดาประชารัฐ ข้องใจทุ่มเงิน 7 แสนล้าน แต่ไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2986807
“สมคิด” ทวงสัญญามารดาประชารัฐ ข้องใจทุ่มเงิน 7 แสนล้าน แต่ไทยเหลื่อมล้ำอันดับ 1
ต่อมาเวลา 15.20 น. นาย
สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า รัฐบาลตั้งงบปราบยาเสพติดในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ไว้ที่ 5,300 ล้านบาท ตนไม่อยากจะตัด แต่ขอถามว่า สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้นหรือไม่
ขณะนี้ต้องยอมรับว่า ยาเสพติดระบาดทั่วประเทศ มีมาตรา 44 ก็ปราบไม่ได้ เห็นได้จากการจับยาเสพติดเดี๋ยวนี้จับได้เป็นล้านเม็ด ไม่ใช่หลักร้อยเม็ด แสดงว่านโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดผิดพลาด
อยากฝากให้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปดำเนินการด้วย อย่าลูบหน้าปะจมูก ใครเข้าไปเกี่ยวข้องต้องไม่ไว้หน้า
รวมถึงขอทวงสัญญาที่บางพรรคการเมืองให้ไว้ตอนหาเสียง เช่น โครงการมารดาประชารัฐ การประกันราคาพืชผลการเกษตรต่างๆ ได้เริ่มทำแล้วหรือยัง ขอให้ทำตามสัญญา มิเช่นนั้นเป็นการโกหกประชาชน
นาย
สมคิด กล่าวต่อว่า
ส่วนการจัดเก็บภาษีตั้งแต่ปี2556-2562 ของหน่วยงานต่างๆ มีแต่จัดเก็บได้เท่าเดิมและเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นจะมาบอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร อย่าหวังว่าโครงการชิมช้อปใช้จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นแค่การโฆษณา หรือมาตรการเพิ่มภาษียาสูบ เหตุใดถึงเก็บภาษียาสูบได้น้อยลง ถ้าเศรษฐกิจดีจริง ทำไมจึงเป็นแบบนี้ ตนเห็นว่าเรื่องที่วุ่นวายยุ่งยากเหล่านี้เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญ
ด้าน นาย
ขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า
ขอถามนายกฯว่า ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคในสังคม วงเงิน765,000 ล้านบาท แต่ 5 ปีประเทศไทยยังมีสถิติความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับ 1 ของโลก
หลังจากใช้งบก้อนนี้จะทำให้ประเทศไทยลดความเหลื่อมล้ำลงจากอันดับ1 ได้หรือไม่ รวมถึงยุทธศาสตร์ด้านปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ใช้งบ 5 แสนล้านบาท จะทำให้เกิดบริการของรัฐที่มีความรวดเร็ว ให้ความยุติธรรม กับประชาชนได้หรือไม่
นาย
ขจิตร กล่าวต่อว่า
อีกเรื่องคือหน่วยงานรัฐสภา ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี2562 ได้งบ 10,008 ล้านบาท ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่มีรัฐสภา ไม่มีส.ส.ไม่มีส.ว. แต่งบรายจ่ายปี 2563 รัฐสภาได้งบ 8,664 ล้านบาท ทั้งที่มีรัฐสภา มีส.ส.แล้ว ทำไมจึงได้งบน้อยลง อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ รัฐธรรมนูญเขียนให้ส.ส.ทำงานได้อิสระ ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ แต่วันนี้มีอำนาจเหนือนิติบัญญัติให้ฝ่ายส.ส.หยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้
วันนี้ต้องสังคายนา 3 อำนาจ อย่าให้อำนาจตุลาการ มาหยุดยั้งการทำงานของส.ส.ที่มาจากประชาชนได้ ขอให้อำนาจทั้ง 3 ฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน แต่เวลานี้ไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ส.ส.จะทำหน้าที่อย่างไร ใกล้วันจะพิจารณาเรื่องสำคัญ ศาลออกคำสั่งให้ส.ส.หยุดปฏิบัติหน้าที่ แสดงให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้บิดเบี้ยว
JJNY : สมคิดทวงสัญญามารดาประชารัฐ ทุ่มเงิน7แสนล้าน แต่เหลื่อมล้ำอันดับ1ฯ/มาเลย์เปิดคลิปแฉ "กองทัพมด" ขนสินค้าเถื่อนฯ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_2986807
ขณะนี้ต้องยอมรับว่า ยาเสพติดระบาดทั่วประเทศ มีมาตรา 44 ก็ปราบไม่ได้ เห็นได้จากการจับยาเสพติดเดี๋ยวนี้จับได้เป็นล้านเม็ด ไม่ใช่หลักร้อยเม็ด แสดงว่านโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดผิดพลาด
อยากฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปดำเนินการด้วย อย่าลูบหน้าปะจมูก ใครเข้าไปเกี่ยวข้องต้องไม่ไว้หน้า รวมถึงขอทวงสัญญาที่บางพรรคการเมืองให้ไว้ตอนหาเสียง เช่น โครงการมารดาประชารัฐ การประกันราคาพืชผลการเกษตรต่างๆ ได้เริ่มทำแล้วหรือยัง ขอให้ทำตามสัญญา มิเช่นนั้นเป็นการโกหกประชาชน
นายสมคิด กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดเก็บภาษีตั้งแต่ปี2556-2562 ของหน่วยงานต่างๆ มีแต่จัดเก็บได้เท่าเดิมและเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นจะมาบอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร อย่าหวังว่าโครงการชิมช้อปใช้จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นแค่การโฆษณา หรือมาตรการเพิ่มภาษียาสูบ เหตุใดถึงเก็บภาษียาสูบได้น้อยลง ถ้าเศรษฐกิจดีจริง ทำไมจึงเป็นแบบนี้ ตนเห็นว่าเรื่องที่วุ่นวายยุ่งยากเหล่านี้เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอถามนายกฯว่า ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคในสังคม วงเงิน765,000 ล้านบาท แต่ 5 ปีประเทศไทยยังมีสถิติความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับ 1 ของโลก
หลังจากใช้งบก้อนนี้จะทำให้ประเทศไทยลดความเหลื่อมล้ำลงจากอันดับ1 ได้หรือไม่ รวมถึงยุทธศาสตร์ด้านปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ใช้งบ 5 แสนล้านบาท จะทำให้เกิดบริการของรัฐที่มีความรวดเร็ว ให้ความยุติธรรม กับประชาชนได้หรือไม่
นายขจิตร กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือหน่วยงานรัฐสภา ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี2562 ได้งบ 10,008 ล้านบาท ทั้งที่ขณะนั้นยังไม่มีรัฐสภา ไม่มีส.ส.ไม่มีส.ว. แต่งบรายจ่ายปี 2563 รัฐสภาได้งบ 8,664 ล้านบาท ทั้งที่มีรัฐสภา มีส.ส.แล้ว ทำไมจึงได้งบน้อยลง อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ รัฐธรรมนูญเขียนให้ส.ส.ทำงานได้อิสระ ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ แต่วันนี้มีอำนาจเหนือนิติบัญญัติให้ฝ่ายส.ส.หยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้
วันนี้ต้องสังคายนา 3 อำนาจ อย่าให้อำนาจตุลาการ มาหยุดยั้งการทำงานของส.ส.ที่มาจากประชาชนได้ ขอให้อำนาจทั้ง 3 ฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน แต่เวลานี้ไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ส.ส.จะทำหน้าที่อย่างไร ใกล้วันจะพิจารณาเรื่องสำคัญ ศาลออกคำสั่งให้ส.ส.หยุดปฏิบัติหน้าที่ แสดงให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้บิดเบี้ยว