สวัสดีค่ะ
เรามีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นโซนโทโฮคุ ในวันที่ 12-17 ตุลาคมที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากเกิดพายุฮากิบิสบุกพอดี ซึ่งเจ้าพายุบุกเข้าญี่ปุ่นตรงกับวันที่เราไปพอดี ส่งผลให้ Flight ต่างๆยกเลิกหมดค่ะ ซึ่ง 1 ในนั้นก็มีเรารวมอยู่ด้วย
วันนี้เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นค่ะ เผื่อจะสามารถเป็นความรู้กับคนกำลังประสบหรืออาจจะประสบเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ในอนาคตค่ะ
อันที่จริงแล้วกระทู้นี้ควรจะเป็นรีวิวการไปเที่ยวญี่ปุ่นนะเนี่ย 555
มาเริ่มกันเลย!!
แพลนของเราคือไปเที่ยวโซนโทโฮคุ ซึ่งเราเลือกที่จะไปลงที่สนามบินนาริตะ (ไฟล์ทเราถึงนาริตะประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ) จากนั้นเลยกะจะไปต่อที่
Hitachi Seaside Park ตามรูปด้านล่างค่ะ (ขออนุญาตขอยืมรูปจากเวปไซต์มาลงรูปมโนไปก่อนนะคะ เนื่องจากไม่ได้ไป

)
โดยการจองตั๋วครั้งนี้เราจองผ่านเอเจนซี่ Trip.com ค่ะ
เราลุ้นตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาแล้วค่ะ ว่าเจ้าพายุมันจะคลาดเคลื่อนมั้ย หรือมันจะตีโค้งลงทะเลไปก่อน ซึ่งเราจะต้องเก็บกระเป๋าไปสนามในวันที่ 11 กลางคืน และเดินทางถึงนาริตะวันที่ 12 ซึ่งพอรู้เหตุการณ์นี้เราก็ตัดสินใจซื้อประกันการเดินทางกับ Cigna ค่ะในวันที่ 10
เราเกาะติดสถานการณ์พายุตลอดเวลา จนกระทั่งข่าวประกาศว่าเป็นพายุระดับโลก จึงทำให้เราตัดสินใจว่าเราคงไม่ไปแล้ว มันไม่คุ้มค่ากับชีวิตที่พ่อแม่กว่าจะเลี้ยงเรามาโตขนาดนี้เลยจริงๆ เกิดไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมา หนี้สินที่ก่อไว้ก็ยังใช้เค้าไม่หมด 555
เหตุการณ์หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าไม่ไปแน่ๆ เราก็เริ่มมาดูค่ะว่าเราสามารถขอค่าอะไรต่างๆที่จ่ายไปแล้วคืนได้บ้าง ซึ่งในครั้งนี้สิ่งที่เราได้จ่ายไปหมดแล้วมีดังนี้ค่ะ คร่าวๆนะคะ (ราคา 2 คน)
1. ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ซึ่งจองผ่าน Trip.com 21,000 บาท
2. ค่าที่พักจาก Agoda 4 คืน 6,800 บาท
3. ค่าที่พัก Air bnb 1 คืน 1,100 บาท
4. ค่า JR East Pass 2 ใบ จาก Klook 8,700 บาท
5. ค่าประกันการเดินทาง Cigna 1,200 บาท
มาเริ่มการขอเงินคืนเป็นข้อๆไปนะคะ
1. ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ซึ่งจองผ่าน Trip.com 21,000 บาท
แยกออกเป็น ขาไป BKK-NRT จาก Nok scoot 12,000++
ขากลับ NRT-BKK จาก Airasia 8,700++
เราติดต่อผ่าน Trip.com ทางแอปพลิเคชั่นในมือถือ ซึ่งเค้ามีเมนูสำหรับแชทกับเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ซึ่งทางเอเจนซี่แจ้งว่าต้องได้รับการ Cancel Flight จากทางสายการบินก่อนจึงจะดำเนินการต่อได้ ซึ่งเรารอการยกเลิกเที่ยวบินจาก Nok scoot นานมาก จนตอนแรกคิดว่าเค้าจะไม่ยกเลิกแล้ว เราต้องเก็บกระเป๋าและเดินทางไปสนามบินวันที่ 11 กลางคืน เครื่องออกจากดอนเมืองเวลา 00:45 ของเช้าวันที่ 12 แต่เราได้รับอีเมล์แจ้งยกเลิกไฟล์ทในวันที่ 11 เวลา 16:30 น. ซึ่งเราว่าสายการบินควรมีการแจ้งล่วงหน้าให้เร็วกว่านี้ มันส่งผลกระทบต่อคนที่กำลังจะเดินทางเรื่องการเตรียมตัว คือทางญี่ปุ่นเค้าประกาศแน่ชัดแล้วว่าแรงลมพายุความแรงระดับไหน และมาเวลาไหนมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่คือ nok scoot ประกาศก่อนเดินไม่กี่ชั่วโมง ถึงเราจะตัดสินใจก่อนแล้วว่าจะไม่เดินทางแน่ๆ แต่คือเราก็ลุ้นว่า nok scoot จะยกเลิกมั้ย ถ้ายกเลิกเราก็มีสิทธิ์ที่จะได้เงินในส่วนนี้คืน
จากการยกเลิกครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าทาง Trip.com ไม่มีการดำเนินการอะไรให้เราเลย เราต้องคอยพิมพ์แชทไปถาม ซึ่ง Trip.com คอยตอบเราแค่ว่าไม่มีการ refund หลายครั้งมาก คือเราความดันขึ้นมากอ่ะในการคุยกับเจ้าหน้าที่มัน นอกจากจะไม่ offer การดำเนินเรื่องให้เราแล้ว เอาแต่ตอบแค่ว่าไม่ refund อย่างเดียว สุดท้ายคือเราโทรติดต่อไปทาง nok scoot เอง ซึ่งทาง nok scoot ก็ดำเนินการให้ทันทีซึ่งถือดีมากค่ะ ตั้งแต่การเปลี่ยนอีเมล์ในการส่งข้อมูลซึ่งเราจองผ่าน Trip.com จริงๆแล้วทางสายการบินจะต้องส่งอีเมล์แจ้งไปยังผู้จอง แต่สายการบินก็ดำเนินการเปลี่ยนชื่อเมล์เป็นของเราเลย และการ refund ของ nok scoot จะไม่คืนเป็นเงินสดนะคะ จะคืนเป็น voucher แทนเงินสดโดยให้เป็นรหัส Promo code จะจัดส่งมาให้ทางเมล์ภายใน 50 วัน ซึ่งใช้แทนเงินสดในการจองเที่ยวบินครั้งต่อไปได้เลย
ยังไม่จบจาก Trip.com ค่ะ ในเที่ยวบินของ nok scoot ที่เราได้คืนเป็น voucher นั้น จำนวนเงินที่ได้คืนมายังมีส่วนต่างที่ได้คืนไม่หมด นั่นก็คือค่า service charge จาก Trip.com เก็บเราไปประมาณ 1,000 บาท ซึ่งส่วนนี้เราทำเรื่องขอคืนจาก Trip.com ค่ะ กว่าจะได้มานี้เปลืองค่าอินเตอร์เน็ตและยาลดความดันไปเยอะเลยค่ะ อารมณ์ล้วนๆจริงๆ ไม่แนะนำจริงๆค่ะสำหรับใครที่คิดจะจองผ่านเอเจนซี่นี้ ผ่านไปเลยค่ะ
มาต่อที่ขากลับ NRT-BKK จากแอร์เอเชีย ขานี้เราไม่ได้คืนนะคะ ซึ่งเราก็พอเข้าใจสายการบินนะคะ แต่ก็ลองให้ Trip.com ดำเนินเรื่องก่อน เพราะเป็นเอเจนซี่ที่เราให้เค้าจองให้เรา ซึ่งเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าขาไปเราไม่ได้ไป เราจะกลับได้อย่างไร ซึ่งคำตอบก็ตามที่คิดไว้คือไม่ได้คืนค่ะ แต่ๆๆๆเนื่องจากสายการบินแอร์เอเชีย หากไม่ได้เดินทางเราสามารถขอค่าภาษีสนามบินคืนได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะอะไรนะคะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ทางแอร์เอเชียเขียนไว้ชัดเจนค่ะว่าถ้าจองผ่านเอเจนซี่ ทาเอเจนซี่เองจะต้องเป็นคนดำเนินเรื่องในการขอคืนภาษีนี้ เราก็ติดต่อไป Trip.com อีก และก็เช่นเดิมทาง Trip.com บอกให้เราไปติดต่อแอร์เอเชียเอง เราเลยแคปหน้าจอเวปไซต์แอร์เอเชียที่เขียนไว้ชัดเจนไปให้ดู ทาง Trip.com จึงยอมและโทรไปสอบถามแอร์เอเชีย และได้โทรมาหาเราบอกว่าจะมีค่าธรรมเนียมในการโอน ซึ่งเราเคยขอภาษีสนามบินนี้คืนจากแอร์เอเชียแล้วครั้งนึงและไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น เราจึงแชทไปหา Trip.com ใหม่ ซึ่งการแชทคุยทุกครั้งเราต้องเล่าเรื่องใหม่ซ้ำๆกับเจ้าหน้าที่คนใหม่ที่มารับเรื่อง คือไม่ไหวจริงๆค่ะ เสียเวลามาก เราเสียเวลาโทรถามแอร์เอเชียหลายรอบเนื่องจาก Trip.com ให้ข้อมูลไม่ตรงกับทางแอร์เอเชียเลย และการตอบกลับของ Trip.com แต่ละครั้งก็จะบอกว่ามีค่าธรรมเนียมซึ่งถ้าหักแล้วอาจจะเหลือเงินคืนน้อยมากประมาณ 100 กว่าบาท ซึ่งมันไม่ใช่เลยค่ะ สรุปนะคะเราไม่ยอมค่ะ สุดท้ายก็ได้คืนภาษีเต็มจำนวน คือทะเลาะกันนานมาก เราบอก Trip.com ไปเลยว่านี่จะเป็นการใช้บริการครั้งสุดท้ายสำหรับเรา พอกันทีกับเอเจนซี่เจ้านี้ เจ้าหน้าที่บางทีก็ตอบแบบกวนเรามาก ไม่ไหวจริงๆค่ะ เลิกเลยค่ะ
>>สรุป ค่าตั๋วเครื่องบินที่จ่าย Trip.com ไปทั้งหมด สิ่งที่เราได้คืนคือ
- Voucher จาก Nok scoot 12,000++ บาท
- ค่า Service charge Trip.com 1,000 บาท
- ค่าภาษีสนามบินแอร์เอเชีย 1,500 บาท
** ค่าเสียหาย ณ จุดนี้ อยู่ที่ 6,500 บาท**
มาต่อที่
2. ค่าที่พักจาก Agoda 4 คืน 6,800 บาท
เราโทรไปแจ้งกับทาง Agoda ซึ่งทางอโกด้าเข้าใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดี พนักงานทำเรื่องให้ทันที
- ที่พักที่ Agoda ดิวเองโดยตรง 2 คืน ทางอโกด้าทำเรื่องคืนเงินเป็น Agoda cash ทันที ซึ่งทำเรื่องได้รวดเร็ว ประทับใจมาก
ปล. Agoda cash นี้ต้องใช้จองที่พักภายใน 3 เดือนนะคะ
- ที่พักที่ทาง Agoda ดิวผ่านเจ้าอื่นอีกที (2 คืน) ใช้เวลานิดหน่อย แต่ก็ไม่มากค่ะ ซึ่งเคสนี้ทาง Agoda ขอเอกสารยกเลิกของสายการบินประกอบด้วย
ซึ่งก็ไม่นานค่ะหลังจากส่งเอกสารไป เคสนี้เงินคืนเข้าบัตรเครดิตค่ะ รวดเร็วประทับใจมาก
>> สรุป Agoda ได้รับเงินคืนหมดครบทุกบาท การให้บริการจากเจ้าหน้าที่รวดเร็ว พูดจาดี ประทับใจ จองต่อแน่นอนค่ะ
3. ค่าที่พัก Air bnb 1 คืน 1,100 บาท
เราติดต่อ Air bnb ผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งมีช่องทางแชท ทางเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการโอเคมากค่ะ คือเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคืนเงินให้เราเต็มจำนวน และรวดเร็วเช่นกัน ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น การคืนเงินในที่นี้คืนหมดทั้ง service charge นะคะ ซึ่งเราใช้บริการต่อแน่นอนค่ะ สมเหตุสมผล
4. ค่า JR East Pass 2 ใบ จาก Klook 8,700 บาท
เราซื้อตั๋วได้มาในราคาโปรโมชั่นประมาณ 4,300++ จาก Klook ซึ่งเราก็ดำเนินการขอยกเลิกตั๋ว ซึ่งทาง Klook ก็ได้แจ้งว่าต้องมีค่าดำเนินการ 12%
เราว่าค่าดำเนินการนี้มันแพงไปนะคะ และทางบริษัท JR ที่ญี่ปุ่นก็ได้มีการประกาศว่าผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางมาญี่ปุ่นและได้รับผลกระทบจากพายุฮากิบิสนี้ สามารถขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ เราก็แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ Klook ค่ะ และทางเจ้าหน้าที่ก็ขอเอกสารเพิ่มเติมคือ เอกสารยกเลิกเที่ยวบินจากสายการบิน ซึ่งเราก็ส่งไปให้แล้วเรียบร้อย แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้รับการคืนเงินจากทาง Klook ค่ะ เราได้สอบถามไปเรื่อยๆก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการอยู่ ต้องรอดูอีกทีค่ะว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน สำหรับการใช้บริการครั้งหน้าต้องขอรอดูรอบนี้ก่อนค่ะ
>>สรุป สถานะรอดำเนินการอยู่
5. ค่าประกันการเดินทาง Cigna 1,200 บาท
เราว่ายังมีบางคนที่อาจจะไม่รู้นะคะ ซึ่งเราเองก็เพิ่งรู้ความหมายของการเคลมประกันที่บอกว่ายกเลิกเที่ยวบิน
การยกเลิกเที่ยวบินที่ทางประกันจะจ่ายเราคือยกเลิกเนื่องจากเราหรือญาติพี่น้องเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทาง จึงจะสามารถเคลมประกันส่วนนี้ได้
**ไม่ใช่เพราะเที่ยวบินยกเลิกนะคะ** ย้ำว่า เที่ยวบินยกเลิกไม่สามารถเคลมประกันได้ค่ะ!!
และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เดินทาง ซึ่งเราโทรไปบอกยกเลิกประกันก่อนวันเดินทาง หรือก่อนที่การคุ้มครองจะเกิดขึ้นก็ไม่สามารถได้เงินคืนค่ะ จ่ายฟรีค่ะ!! เราได้มีการโทรไปสอบถามกับทาง call center ของ cigna แล้ว ซึ่งได้รับแจ้งว่าต้องซื้อประกันก่อนเดินทางอย่างน้อย 7 วันค่ะจึงจะทำเรื่องขอคืนได้ แต่เราก็ไม่รู้นะคะว่าได้คืนในที่นี้ได้คืนแค่ไหน อย่างไร เพราะเคสเราเค้าไม่คืนค่ะ แล้วประเด็นที่ทำให้เจ็บใจคือ ได้รับข้อความตั้งแต่วันที่ 12 ว่าขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย ค่ะ !!! ปลอดภัยแน่นอน ก็ไม่ได้ไปเว้ย และวันที่ 17 มีส่งมาอีกค่ะว่ายินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย ต้องการเคลมประกันกรุณาคลิกลิ้งค์ ค่ะ!! คืออยากเคลมที่ไม่ได้อ่ะค่ะ ได้มั้ยค่ะ ถถถ
>> สรุป ค่าประกัน Cigna จ่ายเต็มจำนวน ไม่ได้คืน!!
อย่างไรก็ตาม เราอยากจะบอกว่าค่าบางอย่างที่มันแอบซ่อนอยู่ บางอย่างเราสามารถขอคืนได้นะคะ บางทีอาจจะต้องอาศัยการ fighting ซักหน่อยเพื่อให้ได้มา ก็ลองฝึก skill กันดูเน๊าะ
พบกันทริปหน้า ซึ่งคงต้องไปเร็วๆนี้ เพราะตั๋วเครื่องบินและโรงแรมได้คืนเป็น Voucher ซึ่งกำลังจะหมดอายุ ต้องรีบใช้แล้วววว
[CR] แบ่งปันประสบการณ์เมื่อถูก Cancel flight เนื่องจากพายุฮากิบิสที่ญี่ปุ่น
เรามีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นโซนโทโฮคุ ในวันที่ 12-17 ตุลาคมที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากเกิดพายุฮากิบิสบุกพอดี ซึ่งเจ้าพายุบุกเข้าญี่ปุ่นตรงกับวันที่เราไปพอดี ส่งผลให้ Flight ต่างๆยกเลิกหมดค่ะ ซึ่ง 1 ในนั้นก็มีเรารวมอยู่ด้วย
วันนี้เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นค่ะ เผื่อจะสามารถเป็นความรู้กับคนกำลังประสบหรืออาจจะประสบเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ในอนาคตค่ะ
อันที่จริงแล้วกระทู้นี้ควรจะเป็นรีวิวการไปเที่ยวญี่ปุ่นนะเนี่ย 555
มาเริ่มกันเลย!!
แพลนของเราคือไปเที่ยวโซนโทโฮคุ ซึ่งเราเลือกที่จะไปลงที่สนามบินนาริตะ (ไฟล์ทเราถึงนาริตะประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ) จากนั้นเลยกะจะไปต่อที่
Hitachi Seaside Park ตามรูปด้านล่างค่ะ (ขออนุญาตขอยืมรูปจากเวปไซต์มาลงรูปมโนไปก่อนนะคะ เนื่องจากไม่ได้ไป
โดยการจองตั๋วครั้งนี้เราจองผ่านเอเจนซี่ Trip.com ค่ะ
เราลุ้นตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาแล้วค่ะ ว่าเจ้าพายุมันจะคลาดเคลื่อนมั้ย หรือมันจะตีโค้งลงทะเลไปก่อน ซึ่งเราจะต้องเก็บกระเป๋าไปสนามในวันที่ 11 กลางคืน และเดินทางถึงนาริตะวันที่ 12 ซึ่งพอรู้เหตุการณ์นี้เราก็ตัดสินใจซื้อประกันการเดินทางกับ Cigna ค่ะในวันที่ 10
เราเกาะติดสถานการณ์พายุตลอดเวลา จนกระทั่งข่าวประกาศว่าเป็นพายุระดับโลก จึงทำให้เราตัดสินใจว่าเราคงไม่ไปแล้ว มันไม่คุ้มค่ากับชีวิตที่พ่อแม่กว่าจะเลี้ยงเรามาโตขนาดนี้เลยจริงๆ เกิดไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมา หนี้สินที่ก่อไว้ก็ยังใช้เค้าไม่หมด 555
เหตุการณ์หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าไม่ไปแน่ๆ เราก็เริ่มมาดูค่ะว่าเราสามารถขอค่าอะไรต่างๆที่จ่ายไปแล้วคืนได้บ้าง ซึ่งในครั้งนี้สิ่งที่เราได้จ่ายไปหมดแล้วมีดังนี้ค่ะ คร่าวๆนะคะ (ราคา 2 คน)
1. ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ซึ่งจองผ่าน Trip.com 21,000 บาท
2. ค่าที่พักจาก Agoda 4 คืน 6,800 บาท
3. ค่าที่พัก Air bnb 1 คืน 1,100 บาท
4. ค่า JR East Pass 2 ใบ จาก Klook 8,700 บาท
5. ค่าประกันการเดินทาง Cigna 1,200 บาท
มาเริ่มการขอเงินคืนเป็นข้อๆไปนะคะ
1. ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ซึ่งจองผ่าน Trip.com 21,000 บาท
แยกออกเป็น ขาไป BKK-NRT จาก Nok scoot 12,000++
ขากลับ NRT-BKK จาก Airasia 8,700++
เราติดต่อผ่าน Trip.com ทางแอปพลิเคชั่นในมือถือ ซึ่งเค้ามีเมนูสำหรับแชทกับเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ซึ่งทางเอเจนซี่แจ้งว่าต้องได้รับการ Cancel Flight จากทางสายการบินก่อนจึงจะดำเนินการต่อได้ ซึ่งเรารอการยกเลิกเที่ยวบินจาก Nok scoot นานมาก จนตอนแรกคิดว่าเค้าจะไม่ยกเลิกแล้ว เราต้องเก็บกระเป๋าและเดินทางไปสนามบินวันที่ 11 กลางคืน เครื่องออกจากดอนเมืองเวลา 00:45 ของเช้าวันที่ 12 แต่เราได้รับอีเมล์แจ้งยกเลิกไฟล์ทในวันที่ 11 เวลา 16:30 น. ซึ่งเราว่าสายการบินควรมีการแจ้งล่วงหน้าให้เร็วกว่านี้ มันส่งผลกระทบต่อคนที่กำลังจะเดินทางเรื่องการเตรียมตัว คือทางญี่ปุ่นเค้าประกาศแน่ชัดแล้วว่าแรงลมพายุความแรงระดับไหน และมาเวลาไหนมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่คือ nok scoot ประกาศก่อนเดินไม่กี่ชั่วโมง ถึงเราจะตัดสินใจก่อนแล้วว่าจะไม่เดินทางแน่ๆ แต่คือเราก็ลุ้นว่า nok scoot จะยกเลิกมั้ย ถ้ายกเลิกเราก็มีสิทธิ์ที่จะได้เงินในส่วนนี้คืน
จากการยกเลิกครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าทาง Trip.com ไม่มีการดำเนินการอะไรให้เราเลย เราต้องคอยพิมพ์แชทไปถาม ซึ่ง Trip.com คอยตอบเราแค่ว่าไม่มีการ refund หลายครั้งมาก คือเราความดันขึ้นมากอ่ะในการคุยกับเจ้าหน้าที่มัน นอกจากจะไม่ offer การดำเนินเรื่องให้เราแล้ว เอาแต่ตอบแค่ว่าไม่ refund อย่างเดียว สุดท้ายคือเราโทรติดต่อไปทาง nok scoot เอง ซึ่งทาง nok scoot ก็ดำเนินการให้ทันทีซึ่งถือดีมากค่ะ ตั้งแต่การเปลี่ยนอีเมล์ในการส่งข้อมูลซึ่งเราจองผ่าน Trip.com จริงๆแล้วทางสายการบินจะต้องส่งอีเมล์แจ้งไปยังผู้จอง แต่สายการบินก็ดำเนินการเปลี่ยนชื่อเมล์เป็นของเราเลย และการ refund ของ nok scoot จะไม่คืนเป็นเงินสดนะคะ จะคืนเป็น voucher แทนเงินสดโดยให้เป็นรหัส Promo code จะจัดส่งมาให้ทางเมล์ภายใน 50 วัน ซึ่งใช้แทนเงินสดในการจองเที่ยวบินครั้งต่อไปได้เลย
ยังไม่จบจาก Trip.com ค่ะ ในเที่ยวบินของ nok scoot ที่เราได้คืนเป็น voucher นั้น จำนวนเงินที่ได้คืนมายังมีส่วนต่างที่ได้คืนไม่หมด นั่นก็คือค่า service charge จาก Trip.com เก็บเราไปประมาณ 1,000 บาท ซึ่งส่วนนี้เราทำเรื่องขอคืนจาก Trip.com ค่ะ กว่าจะได้มานี้เปลืองค่าอินเตอร์เน็ตและยาลดความดันไปเยอะเลยค่ะ อารมณ์ล้วนๆจริงๆ ไม่แนะนำจริงๆค่ะสำหรับใครที่คิดจะจองผ่านเอเจนซี่นี้ ผ่านไปเลยค่ะ
มาต่อที่ขากลับ NRT-BKK จากแอร์เอเชีย ขานี้เราไม่ได้คืนนะคะ ซึ่งเราก็พอเข้าใจสายการบินนะคะ แต่ก็ลองให้ Trip.com ดำเนินเรื่องก่อน เพราะเป็นเอเจนซี่ที่เราให้เค้าจองให้เรา ซึ่งเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าขาไปเราไม่ได้ไป เราจะกลับได้อย่างไร ซึ่งคำตอบก็ตามที่คิดไว้คือไม่ได้คืนค่ะ แต่ๆๆๆเนื่องจากสายการบินแอร์เอเชีย หากไม่ได้เดินทางเราสามารถขอค่าภาษีสนามบินคืนได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะอะไรนะคะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ทางแอร์เอเชียเขียนไว้ชัดเจนค่ะว่าถ้าจองผ่านเอเจนซี่ ทาเอเจนซี่เองจะต้องเป็นคนดำเนินเรื่องในการขอคืนภาษีนี้ เราก็ติดต่อไป Trip.com อีก และก็เช่นเดิมทาง Trip.com บอกให้เราไปติดต่อแอร์เอเชียเอง เราเลยแคปหน้าจอเวปไซต์แอร์เอเชียที่เขียนไว้ชัดเจนไปให้ดู ทาง Trip.com จึงยอมและโทรไปสอบถามแอร์เอเชีย และได้โทรมาหาเราบอกว่าจะมีค่าธรรมเนียมในการโอน ซึ่งเราเคยขอภาษีสนามบินนี้คืนจากแอร์เอเชียแล้วครั้งนึงและไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น เราจึงแชทไปหา Trip.com ใหม่ ซึ่งการแชทคุยทุกครั้งเราต้องเล่าเรื่องใหม่ซ้ำๆกับเจ้าหน้าที่คนใหม่ที่มารับเรื่อง คือไม่ไหวจริงๆค่ะ เสียเวลามาก เราเสียเวลาโทรถามแอร์เอเชียหลายรอบเนื่องจาก Trip.com ให้ข้อมูลไม่ตรงกับทางแอร์เอเชียเลย และการตอบกลับของ Trip.com แต่ละครั้งก็จะบอกว่ามีค่าธรรมเนียมซึ่งถ้าหักแล้วอาจจะเหลือเงินคืนน้อยมากประมาณ 100 กว่าบาท ซึ่งมันไม่ใช่เลยค่ะ สรุปนะคะเราไม่ยอมค่ะ สุดท้ายก็ได้คืนภาษีเต็มจำนวน คือทะเลาะกันนานมาก เราบอก Trip.com ไปเลยว่านี่จะเป็นการใช้บริการครั้งสุดท้ายสำหรับเรา พอกันทีกับเอเจนซี่เจ้านี้ เจ้าหน้าที่บางทีก็ตอบแบบกวนเรามาก ไม่ไหวจริงๆค่ะ เลิกเลยค่ะ
>>สรุป ค่าตั๋วเครื่องบินที่จ่าย Trip.com ไปทั้งหมด สิ่งที่เราได้คืนคือ
- Voucher จาก Nok scoot 12,000++ บาท
- ค่า Service charge Trip.com 1,000 บาท
- ค่าภาษีสนามบินแอร์เอเชีย 1,500 บาท
** ค่าเสียหาย ณ จุดนี้ อยู่ที่ 6,500 บาท**
มาต่อที่
2. ค่าที่พักจาก Agoda 4 คืน 6,800 บาท
เราโทรไปแจ้งกับทาง Agoda ซึ่งทางอโกด้าเข้าใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดี พนักงานทำเรื่องให้ทันที
- ที่พักที่ Agoda ดิวเองโดยตรง 2 คืน ทางอโกด้าทำเรื่องคืนเงินเป็น Agoda cash ทันที ซึ่งทำเรื่องได้รวดเร็ว ประทับใจมาก
ปล. Agoda cash นี้ต้องใช้จองที่พักภายใน 3 เดือนนะคะ
- ที่พักที่ทาง Agoda ดิวผ่านเจ้าอื่นอีกที (2 คืน) ใช้เวลานิดหน่อย แต่ก็ไม่มากค่ะ ซึ่งเคสนี้ทาง Agoda ขอเอกสารยกเลิกของสายการบินประกอบด้วย
ซึ่งก็ไม่นานค่ะหลังจากส่งเอกสารไป เคสนี้เงินคืนเข้าบัตรเครดิตค่ะ รวดเร็วประทับใจมาก
>> สรุป Agoda ได้รับเงินคืนหมดครบทุกบาท การให้บริการจากเจ้าหน้าที่รวดเร็ว พูดจาดี ประทับใจ จองต่อแน่นอนค่ะ
3. ค่าที่พัก Air bnb 1 คืน 1,100 บาท
เราติดต่อ Air bnb ผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งมีช่องทางแชท ทางเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการโอเคมากค่ะ คือเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคืนเงินให้เราเต็มจำนวน และรวดเร็วเช่นกัน ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น การคืนเงินในที่นี้คืนหมดทั้ง service charge นะคะ ซึ่งเราใช้บริการต่อแน่นอนค่ะ สมเหตุสมผล
4. ค่า JR East Pass 2 ใบ จาก Klook 8,700 บาท
เราซื้อตั๋วได้มาในราคาโปรโมชั่นประมาณ 4,300++ จาก Klook ซึ่งเราก็ดำเนินการขอยกเลิกตั๋ว ซึ่งทาง Klook ก็ได้แจ้งว่าต้องมีค่าดำเนินการ 12%
เราว่าค่าดำเนินการนี้มันแพงไปนะคะ และทางบริษัท JR ที่ญี่ปุ่นก็ได้มีการประกาศว่าผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางมาญี่ปุ่นและได้รับผลกระทบจากพายุฮากิบิสนี้ สามารถขอเงินคืนเต็มจำนวนได้ เราก็แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ Klook ค่ะ และทางเจ้าหน้าที่ก็ขอเอกสารเพิ่มเติมคือ เอกสารยกเลิกเที่ยวบินจากสายการบิน ซึ่งเราก็ส่งไปให้แล้วเรียบร้อย แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้รับการคืนเงินจากทาง Klook ค่ะ เราได้สอบถามไปเรื่อยๆก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการอยู่ ต้องรอดูอีกทีค่ะว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน สำหรับการใช้บริการครั้งหน้าต้องขอรอดูรอบนี้ก่อนค่ะ
>>สรุป สถานะรอดำเนินการอยู่
5. ค่าประกันการเดินทาง Cigna 1,200 บาท
เราว่ายังมีบางคนที่อาจจะไม่รู้นะคะ ซึ่งเราเองก็เพิ่งรู้ความหมายของการเคลมประกันที่บอกว่ายกเลิกเที่ยวบิน
การยกเลิกเที่ยวบินที่ทางประกันจะจ่ายเราคือยกเลิกเนื่องจากเราหรือญาติพี่น้องเจ็บป่วยจนไม่สามารถเดินทาง จึงจะสามารถเคลมประกันส่วนนี้ได้
**ไม่ใช่เพราะเที่ยวบินยกเลิกนะคะ** ย้ำว่า เที่ยวบินยกเลิกไม่สามารถเคลมประกันได้ค่ะ!!
และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เดินทาง ซึ่งเราโทรไปบอกยกเลิกประกันก่อนวันเดินทาง หรือก่อนที่การคุ้มครองจะเกิดขึ้นก็ไม่สามารถได้เงินคืนค่ะ จ่ายฟรีค่ะ!! เราได้มีการโทรไปสอบถามกับทาง call center ของ cigna แล้ว ซึ่งได้รับแจ้งว่าต้องซื้อประกันก่อนเดินทางอย่างน้อย 7 วันค่ะจึงจะทำเรื่องขอคืนได้ แต่เราก็ไม่รู้นะคะว่าได้คืนในที่นี้ได้คืนแค่ไหน อย่างไร เพราะเคสเราเค้าไม่คืนค่ะ แล้วประเด็นที่ทำให้เจ็บใจคือ ได้รับข้อความตั้งแต่วันที่ 12 ว่าขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย ค่ะ !!! ปลอดภัยแน่นอน ก็ไม่ได้ไปเว้ย และวันที่ 17 มีส่งมาอีกค่ะว่ายินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย ต้องการเคลมประกันกรุณาคลิกลิ้งค์ ค่ะ!! คืออยากเคลมที่ไม่ได้อ่ะค่ะ ได้มั้ยค่ะ ถถถ
>> สรุป ค่าประกัน Cigna จ่ายเต็มจำนวน ไม่ได้คืน!!
อย่างไรก็ตาม เราอยากจะบอกว่าค่าบางอย่างที่มันแอบซ่อนอยู่ บางอย่างเราสามารถขอคืนได้นะคะ บางทีอาจจะต้องอาศัยการ fighting ซักหน่อยเพื่อให้ได้มา ก็ลองฝึก skill กันดูเน๊าะ
พบกันทริปหน้า ซึ่งคงต้องไปเร็วๆนี้ เพราะตั๋วเครื่องบินและโรงแรมได้คืนเป็น Voucher ซึ่งกำลังจะหมดอายุ ต้องรีบใช้แล้วววว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้