ผลผลิตจากไทยลีก เริ่มออกดอกออกผลแล้ว
นักเตะมีความฟิตมีแมตช์ฟิตสม่ำเสมอ เราได้นักเตะอายุน้อยสายเลือดใหม่ หลายคน
ดูเหมือนเราจะมี Team Squad ที่ใหญ่ขึ้น เริ่มมีตัวสำรองในตำแหน่งต่างๆ ที่สามารถลงเล่นทดแทนกันได้ โดยไม่แตกต่าง
นักบอลเรามีความเข้าใจในเกมมากขึ้น เล่นเกมเพรสซิ่งได้ เล่นฟุตบอลระดับสูงในเกมทันสมัยได้
ขอแค่ให้มี Know How หรือมีคนมาถ่ายทอดความรู้เท่านั้น
เกมกับยูเออี ทำให้เราเข้าใจเกมฟุตบอลยุคกลางเก่ากลางใหม่ ที่มีเพลย์เมคเกอร์เป็นศูนย์กลางของทีม
บอลไทยเราใช้ระบบพึ่งพาบุคคลมานาน ยังไม่คุ้นเคยกับ บอลระบบที่เล่นเป็นทีม แล้วค่อยใส่ เพลย์เมคเกอร์ลงไป (ถ้ามี)
เมสซี่ในระบบที่ดี คือ เมสซี่ที่บาร์เซโลน่า ส่วนเมสซี่ในทีมชาติอาร์เจนติน่า คือ แบบที่บอลไทยพยายามทำกันมาโดยตลอด
มันทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ฟุตบอลสมัยใหม่ เน้นวิทยาศาสตร์การกีฬา แมตช์ฟิต นักเตะมาจากบอลลีกมาตรฐาน และ ทีมเวอร์ค
อายุนักเตะไม่ค่อยมีผล ถ้านักเตะใหม่ๆ เหล่านั้น ผ่านเกมบอลลีกมาตรฐานมา มีประสบการณ์พอตัวแล้ว
มันเป็นภาพใหม่ที่แว็บเข้ามาในสายตาแฟนบอลไทย หลังจบแมตช์ยูเออี .... ว่าเราทำได้
แสงปลายอุโมงค์ จากรำไรๆ ตอนนี้ผมว่า แฟนบอลไทยเห็นแล้วว่า แสงสว่างมันมีจริงๆ
มันยิ่งตอกย้ำความมั่นใจ (ส่วนตัว) ว่า ทีมฟุตบอลจากลีกฟุตบอลมาตรฐาน ย่อมสร้างผลงานได้ดีตามมาตรฐานของลีกตัวเอง
ตอนนี้ผมรอดูแมตช์ต่อไปแล้วครับ ผมเชื่อว่า ทีมชาติเราออกไปเล่นแมตช์เยือน 2 แมตช์กลางเดือนหน้า อย่างน้อยๆ เราจะได้ 2 แต้ม คือ ไม่แพ้เลย
ส่วนจะชนะได้หรือไม่ ผลงานดีกว่า 1 แต้ม/แมตช์ ยิงได้กี่ลูก มันขึ้นอยู่กับสภาพนักเตะตัวหลักในทีม จะมีใครบาดเจ็บจากเกมไทยลีก เจลีกไหม
ผมมองข้ามเกมมาเลย์ไปแล้ว เพราะเชื่อว่านักเตะไทยยุคใหม่ ไม่กลัวบูกิตจาลิลแล้ว
ส่วนบอลเวียดนาม ส่วนตัวผมเชื่อว่า ความกลัวบอลไทย มันฝังอยู่ในความคิดของแฟนบอลรวมทั้งนักเตะเวียดนามทั้งระบบ
ความคิดนี้มันจะยังอยู่ตราบใดที่ บอลเวียดโดยเฉพาะชุดใหญ่ ยังไม่สามารถเอาชนะทีมชาติไทยได้อย่างราบคาบ อย่างที่เราเคยทำ (ยำ) เขามาก่อน
และเมื่อไรที่ บอลไทยหาทางออกจากวังวนความสับสนเพื่อพยายามค้นหาไทยแลนด์เวย์
ภาพจำเก่าๆ มันจะกลับมาหลอกหลอนแฟนบอลเวียดนามอีก
ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเขามาฝังตัวอ่านกระทู้บนพันธ์ทิพย์กัน
มาอ่านกันไปเรื่อยๆ นะดีแล้ว เพราะแฟนบอลไทย ตอนนี้ตามไปดูแต่บอลเจลีกกันแล้ว (555)
ผลงานทีมชาติ แค่ 4 นัด ในยุคของ อ.นิชิโนะ ผมเห็นอย่างนี้ครับ
นักเตะมีความฟิตมีแมตช์ฟิตสม่ำเสมอ เราได้นักเตะอายุน้อยสายเลือดใหม่ หลายคน
ดูเหมือนเราจะมี Team Squad ที่ใหญ่ขึ้น เริ่มมีตัวสำรองในตำแหน่งต่างๆ ที่สามารถลงเล่นทดแทนกันได้ โดยไม่แตกต่าง
นักบอลเรามีความเข้าใจในเกมมากขึ้น เล่นเกมเพรสซิ่งได้ เล่นฟุตบอลระดับสูงในเกมทันสมัยได้
ขอแค่ให้มี Know How หรือมีคนมาถ่ายทอดความรู้เท่านั้น
เกมกับยูเออี ทำให้เราเข้าใจเกมฟุตบอลยุคกลางเก่ากลางใหม่ ที่มีเพลย์เมคเกอร์เป็นศูนย์กลางของทีม
บอลไทยเราใช้ระบบพึ่งพาบุคคลมานาน ยังไม่คุ้นเคยกับ บอลระบบที่เล่นเป็นทีม แล้วค่อยใส่ เพลย์เมคเกอร์ลงไป (ถ้ามี)
เมสซี่ในระบบที่ดี คือ เมสซี่ที่บาร์เซโลน่า ส่วนเมสซี่ในทีมชาติอาร์เจนติน่า คือ แบบที่บอลไทยพยายามทำกันมาโดยตลอด
มันทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ฟุตบอลสมัยใหม่ เน้นวิทยาศาสตร์การกีฬา แมตช์ฟิต นักเตะมาจากบอลลีกมาตรฐาน และ ทีมเวอร์ค
อายุนักเตะไม่ค่อยมีผล ถ้านักเตะใหม่ๆ เหล่านั้น ผ่านเกมบอลลีกมาตรฐานมา มีประสบการณ์พอตัวแล้ว
มันเป็นภาพใหม่ที่แว็บเข้ามาในสายตาแฟนบอลไทย หลังจบแมตช์ยูเออี .... ว่าเราทำได้
แสงปลายอุโมงค์ จากรำไรๆ ตอนนี้ผมว่า แฟนบอลไทยเห็นแล้วว่า แสงสว่างมันมีจริงๆ
มันยิ่งตอกย้ำความมั่นใจ (ส่วนตัว) ว่า ทีมฟุตบอลจากลีกฟุตบอลมาตรฐาน ย่อมสร้างผลงานได้ดีตามมาตรฐานของลีกตัวเอง
ตอนนี้ผมรอดูแมตช์ต่อไปแล้วครับ ผมเชื่อว่า ทีมชาติเราออกไปเล่นแมตช์เยือน 2 แมตช์กลางเดือนหน้า อย่างน้อยๆ เราจะได้ 2 แต้ม คือ ไม่แพ้เลย
ส่วนจะชนะได้หรือไม่ ผลงานดีกว่า 1 แต้ม/แมตช์ ยิงได้กี่ลูก มันขึ้นอยู่กับสภาพนักเตะตัวหลักในทีม จะมีใครบาดเจ็บจากเกมไทยลีก เจลีกไหม
ผมมองข้ามเกมมาเลย์ไปแล้ว เพราะเชื่อว่านักเตะไทยยุคใหม่ ไม่กลัวบูกิตจาลิลแล้ว
ส่วนบอลเวียดนาม ส่วนตัวผมเชื่อว่า ความกลัวบอลไทย มันฝังอยู่ในความคิดของแฟนบอลรวมทั้งนักเตะเวียดนามทั้งระบบ
ความคิดนี้มันจะยังอยู่ตราบใดที่ บอลเวียดโดยเฉพาะชุดใหญ่ ยังไม่สามารถเอาชนะทีมชาติไทยได้อย่างราบคาบ อย่างที่เราเคยทำ (ยำ) เขามาก่อน
และเมื่อไรที่ บอลไทยหาทางออกจากวังวนความสับสนเพื่อพยายามค้นหาไทยแลนด์เวย์
ภาพจำเก่าๆ มันจะกลับมาหลอกหลอนแฟนบอลเวียดนามอีก
ผมไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเขามาฝังตัวอ่านกระทู้บนพันธ์ทิพย์กัน
มาอ่านกันไปเรื่อยๆ นะดีแล้ว เพราะแฟนบอลไทย ตอนนี้ตามไปดูแต่บอลเจลีกกันแล้ว (555)