หายไปนานเลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ
เกาเหลาเลือดหมูใส่จิงจูฉ่าย Pork Blood Soup w White Mugwort (chinese herb)
จิงจูฉ่าย (ผักสมุนไพรจีน) หอม.อร่อย และมีประโยชน์ทางยามากมาย หากใครเคยทานเกาเหลาเลือดหมูในย่านคนจีน
ลองสังเกตดูค่ะ บางร้านจะใส่จิงจูฉ่ายลงไปด้วย
เช้าวันพุธ (วันไช้เถ่าก้วยค่ะ) ต้องต้มน้ำกระดูกหมูไว้ใส่ขนมผักกาดอยู่แล้ว เลยนึกขึ้นได้ว่าน่าจะทำต้มเกาเหลาเลือดหมูไว้เป็นมื้อเช้าเลยดีกว่า ว่าแล้วก็ "แม่ค้าคะ ขอหมูติดมันนุ่มๆบดสองครั้งครึ่งกิโล ล้างให้ก่อนนะคะ และขอเลือดหมูหนึ่งก้อนด้วยค่ะ" ทำเกาเหลาก็ต้องใส่ "จิงจูฉ่าย" สิถึงจะครบเครื่อง
โชคดีจริงๆวันนี้เขียงผักเจ้านี้มีจิงจูฉ่ายขายให้ด้วย กลับถึงบ้านรีบหมักหมูบดเข้าตู้เย็นไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวเตรียมนู่นเตรียมนี่เสร็จหมูก็นุ่มพอดี แม่นันไม่ลืมที่จะนำเม็ดเก๋ากี (สมุนไพรจีนอีกอย่าง) ออกมาล้างและแช่น้ำให้เม็ดอวบๆสวยๆไว้ก่อนค่ะ **เวลาซื้อถ้าเจอแบบเม็ดลีบๆ สีแดงจนเกือบดำ ไม่เอากลับมานะคะ**
มาดูวิธีทำเกาเหลาเลือดหมูใส่จิงจูฉ่ายกันค่ะ หากใครชอบเครื่องใน เช่นกระเพาะหมู ตับ ไส้อ่อน ก็จัดตามชอบเลยนะคะ เช้านี้แม่นันของ่ายๆ เพราะต้องทำขนมผักกาดต่อค่ะ
เตรียมส่วนผสมดังนี้ก่อนค่ะ:

- หมูสับ/หมูบด หมักอ่อนๆด้วยน้ำตาล เกลือ ซี่อิ๊วขาว และน้ำมันงา แช่เย็นไว้อย่างน้อย ๑ ชม.
ล้างเลือดหมูอย่างเบามือ หั่นและแช่น้ำพอท่วมในภาชนะ พักไว้ **เลือดหมูงวดนี้แม่ค้าน่าจะลวกสุกเกินไปค่ะ ไม่นุ่มมือ แต่เวลาทานก็นุ่มอยู่นะคะ
- จิงจูฉ่าย เด็ดใบพร้อมก้านยาวๆอ่อนๆมาด้วยได้เลยค่ะ ล้างและแช่น้ำ (เกลือเล็กน้อย) สะเด็ดน้ำ พักไว้, เม็ดเก๋ากี ล้างและแช่น้ำ สะเด็ดน้ำ พักไว้
วิธีทำ เช้านี้แม่นันทำทีละชามค่ะ เพราะตื่นลงมาคนละเวลา ไม่อยากทำทั้งหม้อทิ้งไว้ค่ะ
๑. ตั้งหม้อต้มกระดูกหมู ที่บ้านชอบใช้กระดูกหมูอ่อนค่ะ เพราะทานได้ทั้งเนื้อและกระดูกอ่อน ต้มไฟอ่อนนะคะ น้ำกระดูกหมูจะใส น่ารับประทาน
๒. ใช้หม้อเล็กอีกใบตั้งเตา ใส่น้ำต้มกระดูกหมู รอเดือด ใส่หมูสับ รอจนเนื้อหมูลอยขึ้นมาระดับเดียวกับน้ำ คอยช้อนฟองออก เบาไฟ
๓. ปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย และซี่อิ๊วขาว อย่างละเล็กน้อย ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม จากนั้นใส่เลือดหมู ใส่เม็ดเก๋ากี เมื่อน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ใส่จิงจูฉ่ายแล้วปิดเตาเลยค่ะ
เพียงเท่านี้ก็จะได้เกาเหลาเลือดหมู พร้อมข้าวสวยหนึ่งถ้วยเป็นอาหารเช้าแล้ว ลองทำดูนะคะ อย่าลืมใส่จิงจูฉ่ายด้วยนะคะ
**จิงจูฉ่าย มีประโยชน์มากมายค่ะ นอกจากนำมาประกอบอาหารทั้งคาวหวานแล้ว ยังนำมาทำเป็นเครื่องดืมสมุนไพร และเด็ดใบทานสดๆเป็นยาได้อีกด้วยค่ะ จิงจูฉ่ายให้ประโยชน์ทางยา กินรักษาโรคเบาหวาน แก้ผื่นคัน ขับสารพิษ และต่อต้านโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมุลดีๆจากเวปมติชนค่ะ
เกาเหลาเลือดหมูใส่จิงจูฉ่าย
โชคดีจริงๆวันนี้เขียงผักเจ้านี้มีจิงจูฉ่ายขายให้ด้วย กลับถึงบ้านรีบหมักหมูบดเข้าตู้เย็นไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวเตรียมนู่นเตรียมนี่เสร็จหมูก็นุ่มพอดี แม่นันไม่ลืมที่จะนำเม็ดเก๋ากี (สมุนไพรจีนอีกอย่าง) ออกมาล้างและแช่น้ำให้เม็ดอวบๆสวยๆไว้ก่อนค่ะ **เวลาซื้อถ้าเจอแบบเม็ดลีบๆ สีแดงจนเกือบดำ ไม่เอากลับมานะคะ**
มาดูวิธีทำเกาเหลาเลือดหมูใส่จิงจูฉ่ายกันค่ะ หากใครชอบเครื่องใน เช่นกระเพาะหมู ตับ ไส้อ่อน ก็จัดตามชอบเลยนะคะ เช้านี้แม่นันของ่ายๆ เพราะต้องทำขนมผักกาดต่อค่ะ
- หมูสับ/หมูบด หมักอ่อนๆด้วยน้ำตาล เกลือ ซี่อิ๊วขาว และน้ำมันงา แช่เย็นไว้อย่างน้อย ๑ ชม.
๑. ตั้งหม้อต้มกระดูกหมู ที่บ้านชอบใช้กระดูกหมูอ่อนค่ะ เพราะทานได้ทั้งเนื้อและกระดูกอ่อน ต้มไฟอ่อนนะคะ น้ำกระดูกหมูจะใส น่ารับประทาน
๒. ใช้หม้อเล็กอีกใบตั้งเตา ใส่น้ำต้มกระดูกหมู รอเดือด ใส่หมูสับ รอจนเนื้อหมูลอยขึ้นมาระดับเดียวกับน้ำ คอยช้อนฟองออก เบาไฟ
๓. ปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย และซี่อิ๊วขาว อย่างละเล็กน้อย ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม จากนั้นใส่เลือดหมู ใส่เม็ดเก๋ากี เมื่อน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ใส่จิงจูฉ่ายแล้วปิดเตาเลยค่ะ
เพียงเท่านี้ก็จะได้เกาเหลาเลือดหมู พร้อมข้าวสวยหนึ่งถ้วยเป็นอาหารเช้าแล้ว ลองทำดูนะคะ อย่าลืมใส่จิงจูฉ่ายด้วยนะคะ
**จิงจูฉ่าย มีประโยชน์มากมายค่ะ นอกจากนำมาประกอบอาหารทั้งคาวหวานแล้ว ยังนำมาทำเป็นเครื่องดืมสมุนไพร และเด็ดใบทานสดๆเป็นยาได้อีกด้วยค่ะ จิงจูฉ่ายให้ประโยชน์ทางยา กินรักษาโรคเบาหวาน แก้ผื่นคัน ขับสารพิษ และต่อต้านโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมุลดีๆจากเวปมติชนค่ะ