👨‍🎤👩‍🎤🏰 THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง#20 เรื่องสั้น แต่งคู่ "ของเก่า" โดย ถุงมือหวน + ถุงมือโหย 🏰👨‍🎤👩‍🎤

กระทู้คำถาม



ถุงมือนักเขียนเรื่องสั้น รอบนี้ มีเพียงเรื่องเดียว แต่เขียนโดยคนสองคนครับ ^^

เรื่องของหญิงสาวนักข่าวผู้ได้มีโอกาสนัดสัมภาษณ์นักธุรกิจหนุ่มผู้มีชื่อเสียงในภาพลักษณ์ความเป็นไทยและในการสะสมของโบราณ หลังการสัมภาษณ์เธอกลับมาตรวจสอบบันทึกคำให้สัมภาษณ์และภาพถ่ายต่างๆ ที่ได้มาในคอมพิวเตอร์ และพบอะไรบางอย่างซึ่งเธอมั่นใจว่า "ใช่แน่ๆ" และตัดสินใจที่จะออกไป "ตามล่าหาความจริง" เกี่ยวกับสิ่งนั้น!

มันเกี่ยวกับอะไร ??? ตามอ่านกันเลยครับ ^^ อมยิ้ม36อมยิ้ม50



คงเป็นโชคชะตา นี่คงเป็นเรื่องของโชคชะตาที่เล่นตลกกับมนุษย์สินะ

เปรมมิกาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเลื่อนดูไฟล์งานภาพถ่ายและไฟล์บันทึกเสียงบทสัมภาษณ์ คุณธนารักษ์ ไกรเกียรติวรกุล นักธุรกิจหนุ่มผู้หลงใหลความเป็นไทย  และเป็นนักสะสมของโบราณอย่างหาตัวจับยากคนหนึ่ง

ด้วยบุคลิกภาพผึ่งผาย รูปร่างสูง ดูแข็งแรง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และพลังชีวิตของเขานั้น สะดุดตา และชวนให้ประทับใจเป็นอย่างมาก

เปรมมิกาเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามานาน แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสพบและสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด

ต้องขอบคุณ พี่ บก.โน้ต ที่หยิบยื่นโอกาสนี้แก่เธอ

และนี่คือส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์

'คุณรักษ์เริ่มต้นสนใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ'

'คือผมซึมซับมาตั้งแต่เด็กครับ  คุณพ่อมีความรักในของเก่าต่างๆ  และสะสมทีละเล็กทีละน้อยเริ่อยมา  โดยเฉพาะเรือนไทย ท่านเสาะหาเรือนโบราณจากหลายยุคสมัย หลายแหล่งที่มา ซื้อแล้วนำมาประกอบใหม่บริเวณโดยรอบเรือนใหญ่หลังนี้  พร้อมตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้เสมือนว่ามีคนอาศัยอยู่ในเรือนนั้นจริงๆ  สงสัยความชอบจะถ่ายทอดมาทางสายเลือดน่ะครับ'

เปรมมิกาหยุดฟังเสียงบันทึกไว้เพียงแค่นั้น แล้วเลื่อนเมาส์คลิกดูภาพถ่ายบริเวณต่างๆภายในเรือนไทยหลังหนึ่ง  เธอสนใจบริเวณห้องทำงานเป็นพิเศษ

มีโต๊ะทำงานไม้สักตั้งชิดมุมติดกับหน้าต่างด้านหนึ่ง บนโต๊ะวางเครื่องพิมพ์ดีดและข้าวของยุคเก่าทั้งโคมไฟ หนังสือ แว่นตา  แก้วน้ำ กรอบรูปตั้งโต๊ะและอีกหลายอย่างดูเป็นระเบียบ น่ามอง

เบื้องหน้าโต๊ะนั้นติดกับฝาผนังเรือน  เต็มไปด้วยภาพถ่ายรูปขาวดำสตรีไทย หลากหลายบุคคล นานาอิริยาบถ ถูกใส่กรอบไม้แขวนไว้อย่างสวยงาม

เปรมมิกาลากนิ้วเพื่อซูมดูบริเวณดังกล่าวขยายใหญ่ขึ้น

ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ ยิ่งพิศดูเธอยิ่งมั่นใจ

พรุ่งนี้เธอจะไปตามล่าหาความจริง

จู่ๆ เปรมมิกาพลันคิดถึงบทกวีของคุณมยุรธุชบูรพา

ร้านขายของเก่า

ร้านขายของเก่าเคยเฝ้าคุ้น
กรองกรุ่นกลิ่นฝันนับวันผ่าน
คุณค่าเก่าคร่ำคือตำนาน
มากมายตามกาลและเวลา

เปิดรับประตูกับผู้เยือน
ขับเคลื่อนคำถามการตามหา
หลากหลายเรื่องราวสบเงาตา
สนทนา. รับรู้ และจัดแจง

ข้าพเจ้าก้าวผ่านม่านความคิด
ก่อนปิดประตูผู้เสแสร้ง
ผ่านปมเงื่อนงำการสำแดง
สบแสงความหวังอันเรืองรอง

เอ่ยออกคำถามความต้องการ
ผู้เฝ้าเจ้าร้านยังจับจ้อง
คำตอบมืดดำเหมือนจำจอง
เหม่อมองหันหลังอย่างหมดใจ

สิ้นสุดจบการเฝ้าควานหา
ทรงจำล้ำค่าที่ึคว้าไขว่
ทรงจำดีดีที่หายไป
เก่าเกินและไกลกว่าค้นคืน

คนขายส่ายหน้าว่ายากไป
ตามหาที่ใดมิได้คืน 

END OF PART 1 BY ถุงมือหวน




PART 2 BY ถุงมือโหย


วันรุ่งขึ้น  เปรมมิกาออกเดินทางตั้งแต่เช้า เพียงแต่จุดหมายของเธอยังคงเป็นจุดหมายของวานนี้

บ้านของ คุณธนารักษ์  ไกรเกียรติวรกุล ไม่ยากกับการหาเหตุผลให้กับ บก.โน้ต ในการไม่เข้าออฟฟิศวันนี้  เธอมีบางสิ่งที่สำคัญกว่า

“ผมรู้ว่าคุณต้องกลับมา”

คำพูดแรกของคุณธนารักษ์  แห่งอาณาเขต ‘ไกรเกียรติวรกุล’  อันกว้างไกลโออ่าราวเป็นอาณาจักรพิเศษนอกเมือง  กล่าวทักทายหญิงสาวผู้เพิ่งก้าวลงจากรถ  ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมายืนรอคอยราวกับล่วงรู้การมาเยือนของเปรมมิกา

“ดิฉันก็รู้ว่าคุณจะต้องอยู่บ้านวันนี้”   หญิงสาวยิ้ม มองหน้าชายหนุ่มที่แต่งชุดตามสบายเหมือนคนพักผ่อนอยู่บ้าน ที่สะดุดตาคือกล้องยาเส้นโบราณ  ที่เขากำลังสูบอยู่มากกว่า  ทำให้เขาดูเหมือนหนุ่มผู้ดีสูงศักดิ์รุ่นคุณปู่

“คุณคงต้องการสัมภาษณ์ผมต่อ”   เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มเล็กน้อย

“ก็ไม่เชิงค่ะ ดิฉันคิดว่ายังมีอะไรตกค้าง”

“ถ้างั้นเชิญครับ”    คุณธนารักษ์ ผายมือ

เขาเดินมือไพล่หลังนำทาง  หญิงสาวเดินตามไป  

อาณาเขตแห่งนี้รู้สึกคุ้นเคย ก็ไม่แปลก เพราะเธอเพิ่งมาเมื่อวานนี้เอง  เพียงมีบางอย่างรบกวนจิตใจอย่างประหลาด  

บรรยากาศแห่งบ้านไกรเกียรติวรกุล ดูสงบร่มรื่น  ราวกับกำลังเดินอยู่ในโลกอดีตกาล  กลิ่นหอมอ่อนละเอียดของดอกไม้นานาพันธุ์ ทำให้รู้ถึงความสดชื่นแบบธรรมชาติ

ภาพวาดในห้องทำงาน ความสนใจอยู่ที่นั่น

คุณธนารักษ์  เหมือนจะรู้ความต้องการของเธอ เขาเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานเป็นอันดับแรก

แน่นอนว่าเธอจำโต๊ะทำงานไม้สัก ตั้งชิดมุมติดกับหน้าต่างด้านหนึ่ง บนโต๊ะวางเครื่องพิมพ์ดีด และข้าวของยุคเก่าทั้งโคมไฟ  หนังสือ แว่นตา  และข้าวของโบราณทรงคุณค่าเหล่านั้นได้

รวมทั้งภาพขาวดำของผู้หญิงสวยคนหนึ่ง  ในกรอบไม้สวยงามติดข้างผนัง ความสนใจของเปรมมิกา พุ่งตรงไปยังภาพนั้นทันที

ภาพผู้หญิงผมเกล้ามวยต่ำในภาพ  ครั้งนี้เธอตั้งใจดูจริงจัง

“คุณสนใจภาพนี้หรือครับ”  เสียงของหนุ่มเจ้าของบ้านถามขึ้นจากด้านหลัง หันไปมองเห็นเขายืนยิ้มจ้องมองด้วยสายตาเป็นประกาย

“คะ... ดิฉันคิดว่ารู้จักผู้หญิงคนนี้ค่ะ”

“คุณแน่ใจหรือครับ”

คำถาม เหมือนมาจากสายลม พัดผ่านมาจากด้านนอก

เปรมมิกา รู้สึกสั่นสะท้าน ไม่กล้ามองหน้าคนถาม  แน่ใจเรื่องอะไรกัน หางตาเห็นหญิงวัยกลางคนเดินถือถาดเครื่องดื่มมาวางบนโต๊ะทำงาน  เธอสูดลมหายใจลึกยาว มองผู้หญิงในภาพ  หันเผชิญหน้าเจ้าของบ้านเต็มตัว

“หลังจากดูภาพจากกล้อง  ดิฉันก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ  ถึงมาขอดูด้วยตาตัวเองวันนี้”

“คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลย” ชายหนุ่มพูด

“ผู้หญิงในภาพคือแม่ของดิฉัน”

เปรมมิกาไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะกล้าโพล่งประโยคนั้นออกไป

ชายหนุ่มรับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย  เดินไปโต๊ะที่มีเครื่องดื่มวางอยู่ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาสักแก้ว  แววตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด

“คุณแน่ใจ” เสียงทุ้มนุ่มถามมาอีก

เปรมมิกามองผ่านผนังห้องที่มีรูปแขวนบนผนัง   สายลมเย็นพัดผ่านไป  ทำให้รู้สึกขนลุก

“ดิฉันแน่ใจค่ะ”  ในที่สุดเธอบอกอย่างมั่นใจ  ประสานสายตากับคนถาม

“ผิดแล้วละครับ”  ชายหนุ่มพูด พลางขยับเข้ามาใกล้  แตะต้นแขนหญิงสาวแผ่วเบา

“ในรูป  คือคุณ”

เปรมมิกายืนตัวแข็ง  จ้องมองสายตาหาคำตอบที่อาจเป็นเพียงลูกเล่น หรือการเล่นมุก  แต่สีหน้าแววตาชายหนุ่มจริงจังเกินไป

“ไม่มีทางเป็นไปได้”    เสียงของหญิงสาวสั่นเครือ

“ผมรู้” ชายหนุ่มพูด  สายตาเต็มไปด้วยความเห็นใจ  “ผมรอวันมานาน วันที่คุณจะมายืนต่อหน้าภาพนี้  เราทั้งสองคนจะเป็นอิสระเสียที...กาหลง

“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะคะ”   หญิงสาวถามเสียงสั่น ความรู้สึกวุ่นวายสับสนวิ่งเต็มหัวสมอง

“ผมชื่อแก้ว คุณชื่อกาหลง” คุณธนารักษ์ พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ สายตายังมองด้วยความรู้สึกอ่อนโยนเห็นใจ

“เราเคยสัญญาจะอยู่กันตลอดไป  ถึงคุณจะเกิดใหม่  แต่ผมยังรอคุณได้เสมอ  ที่รัก  เห็นแก้วน้ำไหม”  เขาชี้มือให้ดูแก้วน้ำบนโต๊ะทำงาน   “แก้วมีน้ำสีเหลือง  ถ้าคุณดื่ม  คุณจะลืมเหตุการณ์ในวันนี้ กลับไปใช้ชีวิตปกติของคุณต่อไป โดยไม่มีผม   แต่ถ้าคุณเลือกดื่มน้ำจากแก้วสีแดง คุณจะจดจำความหลังของพวกเราได้  คุณมีโอกาสเลือกแล้วนะครับ”

“ทำไมดิฉันต้องเองเลือกดื่มด้วยคะ”  เสียงถามแผ่วโหย

“ที่คุณดื่ม ไม่ใช่น้ำ - แต่เป็นเส้นทางของชะตากรรม”

“ฉันทำผิดอะไรมากมายกับคุณหรือคะ”

“ไม่...ผมต่างหาก”

เปรมมิกายืนนิ่ง  ความรู้สึกบอกว่าเธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้   แต่มันฟังดูเหลือเชื่อเกินไป  แต่สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มก็ไม่ได้ล้อเล่น  จริงจังเกินไปเสียด้วยซ้ำ

“ดิฉันรู้ว่า คุณไม่ได้พูดเล่น”  หญิงสาวเริ่มต้นพูด  “จะต้องมีอะไรบางอย่าง ที่ ดิฉันไม่รู้  แต่ดิฉันก็พร้อมจะเลือกแล้วค่ะ”

เปรมมิกาเดินไปหยิบแก้วน้ำสีเหลืองยกขึ้นดื่มอย่างไม่ลังเลใจ  จนหมดแก้ว วางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ  หันมายิ้มให้หนุ่มเจ้าของสถานที่ ผู้ยืนกอดอกมองดูอย่างเงียบ ๆ

“ทำไมเลือกดื่มแก้วสีเหลืองครับ”  เขาถาม

“ดิฉัน เลือกที่จะอยู่กับปัจจุบัน มากกว่าจะเลือกอยู่กับอดีต”

“สมกับที่เป็นคุณ กาหลง”

“ดิฉันชื่อเปรมมิกา”   เธอย้ำความเป็นปัจจุบัน  ชายหนุ่มพยักหน้า เป็นเชิงยอมรับเขายิ้มกว้างพลางบอกว่า

“ครับ  คุณเปรมมิกา  เราทั้งสองคนได้ทำหน้าที่ของพวกเราแล้วครับ  ผมเป็นฝ่ายให้คุณเลือก คุณเป็นฝ่ายหญิง ใช่...  คนเราควรอยู่กับปัจจุบัน มากกว่าจะอยู่กับอดีต โชคดีครับคุณเปรมมิกา”

…….............

“สวัสดีครับ คุณเปรมมิกา”

เสียงทักทายจากด้านข้าง ทำให้หญิงสาวหันไปมอง ละความสนใจจากงานจัดแสดงศิลปะโบราณในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใช้เวลาเล็กน้อย  ก็จดจำได้ ชายหนุ่มในชุดสุทหล่อเหลากำลังส่งรอยยิ้มมาให้

ด้วยบุคลิกภาพผึ่งผาย รูปร่างสูง  ดูแข็งแรง  เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และพลังชีวิตของเขานั้น สะดุดตา และชวนให้ประทับใจเป็นอย่างมาก

เปรมมิกาเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามานาน  แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าหลังจากวันสัมภาษณ์ครั้งนั้น  จะมีโอกาสเจอกันอีก
  
“คุณธนารักษ์ คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”
  
“ผมก็มาเลือก ปัจจุบันของผม สิครับ คุณเปรมมิกา”   เขาตอบคำตอบ หญิงสาวไม่เข้าใจ แต่เริ่มคุ้นเคยกับสีหน้าแววตาของชายหนุ่ม  

“ให้ผมเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้ว หรือไม่ก็ อาหารสักมื้อ ดีไหมครับ”

คงเป็นโชคชะตา นี่คงเป็นเรื่องของโชคชะตาที่เล่นตลกกับมนุษย์สินะ


/// จบ ///
ถุงมือโหย



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่