สวัสดีค่ะ เป็นรีวิวแรกของเรา ยังก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ >< ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ภาคเหนือบรรยากาศกำลังดี ทำให้คิดถึงเขาขึ้นมาทันที จึงอยากมารีวิวเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้คนอื่นๆ
หนาวนี้กอดใคร หนาวแล้วไปกอดดอยกัน......เมื่อฤดูหนาวเริ่มส่งสัญญาณเตือน ร่างกายจึงเรียกร้องอยากไปสัมผัสกับลมหนาวก็เกิดขึ้น แต่ด้วยช่วงเวลานี้ยังไม่มีวันหยุด Long week end พอที่จะท่องเที่ยวไปไหนได้ไกลๆ ทริปเล็กๆสั้นๆ สำหรับคนไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากไปไหนมาไหนแบบเราจึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่เราอยากไปในที่ที่ผู้คนยังไม่รู้จักมากนัก เป็นที่ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เงียบสงบ และมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง อำเภอแม่แตงจึงเป็นตัวเลือกที่เรานึกถึงเป็นที่แรก ด้วยความที่เป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก แต่เรียกได้ว่ามีที่เที่ยวเด็ดๆ ซ่อนไว้มากมายไม่แพ้ที่อื่นๆเลยทีเดียว เราจึงเริ่มปฏิบัติการเฉพาะกิจค้นหาที่พักที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ถึงขั้นห่างไกลผู้คนมากนัก จนได้พบที่พักเล็กที่ชื่อว่า “บ้านบนดอยวิว” เรียกได้ว่าตอบโจทก์เราได้ใกล้เคียงที่สุด ว่าแล้วเราก็เดินทางกันดีกว่า

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สถานีแรกที่เรามุ่งไป คือ ร้าน Ōkami Cafe ร้านชานมไข่มุกเล็กๆ ในโครงการธานินทร์พลาซ่า ถนนเวียงบัว บรรยากาศร้านดูดี ใหม่ทันสมัย มีที่นั่งเล่นไม่เยอะมากเท่าไรนัก เมนูที่เราสั่งคือ Brown Sugar Boba Milk Tea ซึ่งตัวชากำลังดีทีเดียว ไม่หวานเกินไป ส่วนตัวมุกเหนียวหนึบกำลังดี อีกตัวหนึ่งคือ Apple Tea หอมกลิ่นแอ๊ปเปิ้ลอ่อนๆ ไม่หวานเลี่ยนเกินไปกำลังดี
เมื่อหมดเวลาเราชิวล์ เราก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง..... ระหว่างทางก็เก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อยๆ
ว่าแล้วก็ขอแอบแวะไหว้ พระบรมราชานุสาวรีย์ ทุ่งยั้งทัพ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงม้าศึก ซะหน่อยเอาฤกษ์เอาชัยเพื่อความเป็นศิริมงคล
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่แตงอย่างจริงจัง ใช้เวลาทั้งหมดในการเดินทาง 45 นาที จึงถึงตัวอำเภอแม่แตง แล้วเราก็แวะซื้อเสบียงสำหรับสำหรับค่ำคืนนี้ที่ตลาดแม่มาลัย((คุณป้าเจ้าของที่พักบอกเราว่าเราสามารถซื้อของสดเข้าไปปรุงและทำอาหารในที่พักได้ ทางที่พักมีอุปกรณ์ในการทำให้หมดทุกอย่างเลย จะทำเมนูอาหารเหนือ กลาง อีสาน ใต้ หรือจะปิ้งย่าง บาบีคิว หมูกระทะก็มีอุปกรณ์ให้หมด........ว้าวๆ!!ดีจังเลย)) ตลาดแม่มาลัยตลาดเก่าแก่ประจำอำเภอ มีของกินของใช้ให้เลือกสรรมากมาย ทั้งหมูเห็ด เป็ดไก่ ของป่า ของทะเลมากมายเต็มไปหมด
และแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางเข้าที่พักเสียที ยอมรับเลยว่าในตอนนั้น แอบตื่นเต้นเล็กน้อยว่าที่พักจะเป็นยังไง เนื่องจากที่พักไม่เคยมีใครรีวิวมาก่อนเลย รูปภาพที่เราเห็นในเพจกับความเป็นจริงจะตรงกันไหม แต่ก็อย่างที่บอก เราต้องการความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ก็ต้องมีแอบลุ้นไปว่าที่พักจะเป็นอย่างไร
จากหน้าเพจก็โอเคอยู่นะ....ถือว่าดีในระดับหนึ่งเลย แปะ Link ไว้ให้เพื่อใครอยากไปส่อง
https://www.facebook.com/Baanbondoiview/?modal=admin_todo_tour.
เส้นทางไปที่พักเป็นเส้นเดียวกับทางไปเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สำหรับคนที่มาครั้งแรกแบบเราก็อาจจะงงหน่อย ซึ่งทางที่พักแนะนำให้เราเข้าไปถึงเส้นตัวเขื่อนแม่งัดก่อนค่อยเปิด GPS
เปิดไฟเลี้ยวขวารอเลย.....
เมื่อมาถึงเส้นทางหลักเข้าตัวเขื่อนแม่งัดฯแล้ว เราก็หยิบมือถือคู่ใจขึ้นมาเปิด GPS แล้วค้นหาคำว่า “Baanbondoi แม่แตง” ต้องหาแบบกึ่งไทยกึ่งภาษาอังกฤษด้วยนะแอบยุ่งยากนิดหน่อย ไม่งั้นเราจะไปเจอบ้านบนดอยที่อื่นแทน แหง่ววว..!!!เห็นที่พักบอกว่ามีคนใช้ชื่อบ้านบนดอยหลายแห่ง จึงจำเป็นต้องใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ อ่อออ!!มันเป็นแบบนี้นี่เอง เข้าใจแหละ!!!
และนี่....คือ เส้นทางเข้าที่พักของเรา เท่ากับเส้นทางที่เราเข้าไปถึงเขื่อนฯ เพียงแค่เลี้ยวคนละทิศ ใครชอบวิวน้ำก็พักที่ตัวเขื่อน ใครชอบแนวภูเขาก็ตามเรามา
แค่ 13 นาทีจะปากทางเข้าเขื่อนแม่งัด ปกติใครมาแม่แตงก็จะมาพักในเขื่อนซะส่วนใหญ่ รีวิวส่วนใหญ่ก็จะเป็นการท่องเที่ยวในเขื่อน เล่นเครื่องเล่นน้ำต่างๆมากมาย วันนี้เราของฉีกกฎเกณฑ์ทุกๆกฎ แม่แตงไม่ได้มีดีแค่ที่เขื่อน บอกแล้วทริปนี้เราต้องการความแปลกใหม่ ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติของจริง
เส้นทางที่ GPS บอกมีหลายเส้นทาง เราเลือกเส้นทางที่ผ่านหน้าวัดบ้านเด่น เพราะดูแล้วน่าจะง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุด ( แต่เมื่อลองสอบถามจากทางที่พัก ทางที่พักแนะนำให้ตรงเข้าไปเพื่อไปเลี้ยวบริเวณสามแยกโลตัสเมืองแกนฯเอา) มาถึงตรงนี้คงต้องทำเวลานิดหนึ่งแล้วแหละ เมฆดำๆมาแต่ไกลเชี่ยว ซึ่งตลอดระหว่างทางที่เราขับมาก็มีป้ายที่พักบอกอยู่เป็นระยะๆ
จากสามแยกทางเลี้ยวที่มีเราเลี้ยวเข้ามาทางวัดบ้านเด่น เราก็แค่ขับตรงมาตามถนนเรื่อยๆไม่ต้องเลี้ยวไหนเลยตลอดเส้นทาง แถมถนนก็เป็นถนนลาดยางใหม่วิ่งสบายๆ จนมาถึงสี่แยกอะไรซักอย่าง เราก็ไม่รู้จักชื่อหรอกนะ แต่จุดสังเกตง่ายๆก็ป้ายรูปทรงเหมือนศาลาวัดเนี้ยแหละ ก็เลี้ยวขวาเลย
ว้าวววว!!!! วิวระหว่างทางดีที่เดียวเลยแหละทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา กำลังชูช่อปริ้วไปตามสายลม ถ้าไม่ติดพี่ฝนจะมา คงจะแวะถ่ายรูปเล่นเป็นแน่แท้(เหอออ......เสียดายยยจัง!!) ขับลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ GPS และป้ายบอกทางบอกมาเรื่อย จนไปถึงสี่แยกตลาด (แหะ!!ตรงนี้เราก็ดันลืมถ่ายรูป มั่วแต่ตื่นเต้นกับต้นข้าวในนาเพลินไปหน่อย แถมลืมอ่านชื่อตลาดด้วย 555+)
เจอสี่แยกตลาดประจำหมู่บ้านแล้ว เราก็ทำการเลี้ยวซ้ายเลย ตรงไปอีกหน่อยจะเจอวัดป่าจี้ มีต้นฉำฉาใหญ่ๆให้เราเห็นเลย ต้นใหญ่มากกกกกกกกก.....มีศาลาใหม่สวยๆตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ คิดว่าคงเป็นศาลาประจำหมู่บ้าน(มั้ง)
หลังจากนั้นก็ข้ามสะพานบ้านเป้าเพื่อลัดเลาะไปตามเส้นทาง ตอนขากลับเราถึงพึ่งมารู้ว่าที่พักเราตั้งอยู่บนดอยสมชื่อเขาจริงๆ มองเห็นจากตรงสะพานนี้ชัดเลยแหละ....แต่กล้องเรามันกิ๊กก๊อกไปหน่อยเลยเห็นเล็กนิสสสสสเดียว.....
เส้นทางหลังจากข้ามสะพานไปแล้วจะคดโค้งนิดหน่อย ลัดเลาะไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน แต่ก็มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆจนมาถึงเส้นเลียบคลองชลประทาน เส้นนี้จะโหดนิดๆเป็นถนนดินแดงเป็นหลุมเป็นบ่อหน่อยซัก 200 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นทางดีตลอดเส้นทาง และแล้วเราก็มาถึงที่พักของเราจนได้ เย้ เย้ เย้
ถึงที่พักซะที สมชื่อจริงๆว่า “บ้านบนดอยวิว” อยู่บ้านยอดดอยของจริง พื้นที่กว้างขวางพอสมควรจัดแบ่งเป็นสัดส่วนถึง 4 โซนด้วยกัน
โซนแรกเป็นบ้านหลังใหญ่ หลังคาสีเขียวเห็นแต่ไกลตั้งแต่ขับเลียบถนนคลองชลประทานมา อาคารนี้มีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ ห้องขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับครอบครัว พักได้ถึง 4 คนต่อห้อง, ห้องขนาดกลาง ซึ่งเป็นห้องที่เราจองไว้ เป็นห้องเดียว มีห้องน้ำในตัว เตียงเป็นแบบเตียงเดียวขนาดใหญ่ และแบบสุดท้ายคือ ห้องพักแบบไม่มีห้องน้ำในตัว เหมาะสำหรับผู้ที่อยาก save ค่าใช้จ่ายและไม่ซีเรียสในเรื่องของการใช้ห้องน้ำรวม
โซนที่สองเป็นอาคารบ้านหลักเล็กๆ 2 หลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสู๊งงงงงงมาก ขอเป็นเอกเทศผู้เดียว มี สองแบบ คือแบบห้องเดียวมีห้องรับแขก กับ ห้องคู่ 2ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
โซนต่อมา โซนที่สามเป็น โซนบ้านพักของเจ้าของที่พัก แต่ก็มีพื้นที่บางส่วนที่ให้เช่าห้องพักได้
และโซนสุดท้าย เป็นศาลาเล็กๆ ไว้สำหรับรับประทานอาหารและชมวิว 360 องศากันเลยที่เดียวและแต่ละช่วงเวลาความสวยงามของมุมก็ไม่เหมือนกันนะ แบบว่าเราสามารถอยู่ตรงนี้ได้แทบจะทั้งวัน นั่งอ่านหนังสือเปิดเพลงฟังเบาๆก็ผ่อนคลายดี
ตามต่อในช่อง Comment นะ
[CR] ไปเลอะไปเรื่อย 2 วัน 1 คืน กับที่พัก "แม่แตง"
เส้นทางไปที่พักเป็นเส้นเดียวกับทางไปเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สำหรับคนที่มาครั้งแรกแบบเราก็อาจจะงงหน่อย ซึ่งทางที่พักแนะนำให้เราเข้าไปถึงเส้นตัวเขื่อนแม่งัดก่อนค่อยเปิด GPS
โซนที่สองเป็นอาคารบ้านหลักเล็กๆ 2 หลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสู๊งงงงงงมาก ขอเป็นเอกเทศผู้เดียว มี สองแบบ คือแบบห้องเดียวมีห้องรับแขก กับ ห้องคู่ 2ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
โซนต่อมา โซนที่สามเป็น โซนบ้านพักของเจ้าของที่พัก แต่ก็มีพื้นที่บางส่วนที่ให้เช่าห้องพักได้
และโซนสุดท้าย เป็นศาลาเล็กๆ ไว้สำหรับรับประทานอาหารและชมวิว 360 องศากันเลยที่เดียวและแต่ละช่วงเวลาความสวยงามของมุมก็ไม่เหมือนกันนะ แบบว่าเราสามารถอยู่ตรงนี้ได้แทบจะทั้งวัน นั่งอ่านหนังสือเปิดเพลงฟังเบาๆก็ผ่อนคลายดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น