คงจะเคยคุ้นกันมาใช่ไหมครับ คนที่ประสบความสำเร็จ (ในกรณีวัดกันที่เงิน) เคยพูดทั้งสองทาง
1. เราไม่ควรมีแผน B
เพราะแผน B จะทำให้เราไม่เต็มที่กับแผน A
ทำให้รู้ว่าไงก็มีที่หนีตาย ที่สำรอง
และยังเป็นการทอนพลังในการทำแผน A ด้วย
เปรียบได้ว่าเหมือนตอนกองทัพกรีกบุก ก็จะเผาเรือตัวเองหมด
คือเป็นการสั่งจิตใจว่ายังไงก็ต้องทางนี้เท่านั้น
เพราะมีแผน B ก็เหมือนการยอมรับให้ตัวเองล้มเหลวกับแผน A ได้
ขณะที่หากเต็มที่กับแผน A, สำคัญถึงกับแลกด้วยชีวิตได้
ก็เชื่อว่ามันจะมีแรงและการเสียสละมากพอสำหรับแผน A ให้สำเร็จ
2. เราควรมีแผน B
ชีวิตไม่แน่นอน บางอย่างไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การที่ไม่มีแผนสำรองเป็นการประมาท การมีแผน B เหมือนการมีกลยุท
หากเดินหมากชีวิตพลาด เรายังไม่ตาย หมดอนาคต หรือหมดตัว
เพราะแผน B จะช่วยให้เรากลับมายืนทำแผน A ให้สำเร็จได้อีกครั้ง
อันนี้มองภาพรวมๆในทุกๆเรื่องของชีวิตนะครับ
ท่านๆ buy อันไหนมากกว่ากัน
"แผน B จะ distract คุณจากแผน A" ท่านๆเห็นด้วยหรือไม่ กับประโยคนี้มากน้อยแค่ไหนครับ
1. เราไม่ควรมีแผน B
เพราะแผน B จะทำให้เราไม่เต็มที่กับแผน A
ทำให้รู้ว่าไงก็มีที่หนีตาย ที่สำรอง
และยังเป็นการทอนพลังในการทำแผน A ด้วย
เปรียบได้ว่าเหมือนตอนกองทัพกรีกบุก ก็จะเผาเรือตัวเองหมด
คือเป็นการสั่งจิตใจว่ายังไงก็ต้องทางนี้เท่านั้น
เพราะมีแผน B ก็เหมือนการยอมรับให้ตัวเองล้มเหลวกับแผน A ได้
ขณะที่หากเต็มที่กับแผน A, สำคัญถึงกับแลกด้วยชีวิตได้
ก็เชื่อว่ามันจะมีแรงและการเสียสละมากพอสำหรับแผน A ให้สำเร็จ
2. เราควรมีแผน B
ชีวิตไม่แน่นอน บางอย่างไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การที่ไม่มีแผนสำรองเป็นการประมาท การมีแผน B เหมือนการมีกลยุท
หากเดินหมากชีวิตพลาด เรายังไม่ตาย หมดอนาคต หรือหมดตัว
เพราะแผน B จะช่วยให้เรากลับมายืนทำแผน A ให้สำเร็จได้อีกครั้ง
อันนี้มองภาพรวมๆในทุกๆเรื่องของชีวิตนะครับ
ท่านๆ buy อันไหนมากกว่ากัน