สวัสดีค่ะทุกท่าน
เมื่อไม่กี่เดินก่อนหน้าที่เราได้มีโอกาศได้เข้ามาทำงานใบบริษัทรัฐวิสาหกิจแห่งด้วย การเข้าแบบระบบพิเศษ เราเข้ามาด้วยการทำรับหน้าที่ Operate โปรเจค รวมถึงจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เงินเดือนค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อเลยทำให้เราตัดสินใจย้ายงานมาทำที่นี่ ซึ่งก่อนหน้านี้เราทำงานกับบริษัทเอกชนมาโดยตลอด เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่งละที่ก็จะต่างกันก็จะเป็นในเรื่องสวัสดิการต่างๆ
ด้วยความที่ว่าทีมเราเป็นทีมใหม่จัดๆ คนในทีมยังไม่เยอะ โต๊ะที่นั่งเราอยู่ระหว่างทีมA กับทีมB ที่ทำงานคนละส่วนกัน วันแรกของการไปทำงาน คนที่ทำงานก็เฮฮากันจนถึง 11โมง เฮฮาคือคุยเม้ามอยเสียงดัง พอเที่ยงก็พัก เงียบไปพักนึง ก็ดังขึ้นใหม่ สักพักบ่าย3 มีเด็กๆมาวิ่งเล่น น่าจะเป็นลูกของคนที่ทำงานเสียงก็ทวีคูณไปเรื่อยๆ บางคนก็เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงาน วันแรกของเราก็จะงงๆกับวัฒนธรรมองค์กร แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวผ่านไปสักพักคงปรับตัวได้
พอทำงานไปสักพัก เกือบเดือน เนื้อหางานด้วยความที่ว่าเราต้องควบคุมทั้งหมด รวมทั้งคิดแผนงาน สมาธิก็เป็นสิ่งสำคัญ เสียงดังเฮฮาตลอดเวลาจนเราต้องเอาเรื่องนี้แจ้งไปถึงเจ้านายว่าขอพื้นที่สำหรับทำงาน แต่ก็ได้แต่รับเรื่องไว้
ทุกวันนี้ทำงานได้โดยการเสียบหูฟังเปิดเพลงดังๆเพื่อกลบเสียงพูด เพราะพอเป็นเสียงพูดกลายเป็นว่าไปดันไปโฟกัสเสียงพูดจนไม่โฟกัสงาน แต่พอฟังเพลง เราโฟกัสงานได้ พอเราเปิดเพลงเสียงดังมากๆก็จะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแอดมิน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเรา แต่อายุมากกว่าเราโข และไม่ชอบอยู่โต๊ะอยู่บ่อยๆ จึงทำให้เราต้องรับสายแทนอยู่บ่อยครั้ง พอเราไม่ได้ยิน แผนกข้างๆก็จะเดินมาเรียกบ้าง ไม่เรียกบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่กลายเป็นว่า สายนั้นก็จะ missไป ซึ่งเรามองว่าการที่สายเข้ามาควรรับสายทุกสายเผื่อในกรณีบางสายเป็นสายสำคัญ
ประเด็นคือ เราน้องใหม่ พูดอะไรไม่ได้มาก กลัวมีปัญหา และที่นี่ก็การเมืองเข้มสุดๆ เพราะเคยเห็นตอนเขาปะทะคารมกันระหว่างทีม A และ ทีม B หากสงสัยว่าทำไมต้องรับสายแทนแอดมินด้วย เขาลาออกแล้ว เขาอาจจะไม่เต็มที่กับงานแล้วค่ะเลยทำให้เขาหายตัวอยู่บ่อยๆ จะให้ไปบอกว่าต้องอยู่โต๊ะนะ ต้องทำงานให้เต็มที่ก่อนออกนะ เราว่ามันอยู่ที่ดุลยพินิจของคน
สุดท้ายนี้เราต้องปรับที่ตัวเราอย่างไรบ้างคะ
ปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ยังไงดี
เมื่อไม่กี่เดินก่อนหน้าที่เราได้มีโอกาศได้เข้ามาทำงานใบบริษัทรัฐวิสาหกิจแห่งด้วย การเข้าแบบระบบพิเศษ เราเข้ามาด้วยการทำรับหน้าที่ Operate โปรเจค รวมถึงจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เงินเดือนค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อเลยทำให้เราตัดสินใจย้ายงานมาทำที่นี่ ซึ่งก่อนหน้านี้เราทำงานกับบริษัทเอกชนมาโดยตลอด เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่งละที่ก็จะต่างกันก็จะเป็นในเรื่องสวัสดิการต่างๆ
ด้วยความที่ว่าทีมเราเป็นทีมใหม่จัดๆ คนในทีมยังไม่เยอะ โต๊ะที่นั่งเราอยู่ระหว่างทีมA กับทีมB ที่ทำงานคนละส่วนกัน วันแรกของการไปทำงาน คนที่ทำงานก็เฮฮากันจนถึง 11โมง เฮฮาคือคุยเม้ามอยเสียงดัง พอเที่ยงก็พัก เงียบไปพักนึง ก็ดังขึ้นใหม่ สักพักบ่าย3 มีเด็กๆมาวิ่งเล่น น่าจะเป็นลูกของคนที่ทำงานเสียงก็ทวีคูณไปเรื่อยๆ บางคนก็เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงาน วันแรกของเราก็จะงงๆกับวัฒนธรรมองค์กร แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวผ่านไปสักพักคงปรับตัวได้
พอทำงานไปสักพัก เกือบเดือน เนื้อหางานด้วยความที่ว่าเราต้องควบคุมทั้งหมด รวมทั้งคิดแผนงาน สมาธิก็เป็นสิ่งสำคัญ เสียงดังเฮฮาตลอดเวลาจนเราต้องเอาเรื่องนี้แจ้งไปถึงเจ้านายว่าขอพื้นที่สำหรับทำงาน แต่ก็ได้แต่รับเรื่องไว้
ทุกวันนี้ทำงานได้โดยการเสียบหูฟังเปิดเพลงดังๆเพื่อกลบเสียงพูด เพราะพอเป็นเสียงพูดกลายเป็นว่าไปดันไปโฟกัสเสียงพูดจนไม่โฟกัสงาน แต่พอฟังเพลง เราโฟกัสงานได้ พอเราเปิดเพลงเสียงดังมากๆก็จะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของแอดมิน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเรา แต่อายุมากกว่าเราโข และไม่ชอบอยู่โต๊ะอยู่บ่อยๆ จึงทำให้เราต้องรับสายแทนอยู่บ่อยครั้ง พอเราไม่ได้ยิน แผนกข้างๆก็จะเดินมาเรียกบ้าง ไม่เรียกบ้างแล้วแต่อารมณ์ แต่กลายเป็นว่า สายนั้นก็จะ missไป ซึ่งเรามองว่าการที่สายเข้ามาควรรับสายทุกสายเผื่อในกรณีบางสายเป็นสายสำคัญ
ประเด็นคือ เราน้องใหม่ พูดอะไรไม่ได้มาก กลัวมีปัญหา และที่นี่ก็การเมืองเข้มสุดๆ เพราะเคยเห็นตอนเขาปะทะคารมกันระหว่างทีม A และ ทีม B หากสงสัยว่าทำไมต้องรับสายแทนแอดมินด้วย เขาลาออกแล้ว เขาอาจจะไม่เต็มที่กับงานแล้วค่ะเลยทำให้เขาหายตัวอยู่บ่อยๆ จะให้ไปบอกว่าต้องอยู่โต๊ะนะ ต้องทำงานให้เต็มที่ก่อนออกนะ เราว่ามันอยู่ที่ดุลยพินิจของคน
สุดท้ายนี้เราต้องปรับที่ตัวเราอย่างไรบ้างคะ