ทุกวันนี้ผมทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนญี่ปุ่น ผมก็รู้มาตลอดว่าคนญี่ปุ่นจะเรียกชื่อโดยเอานามสกุลไว้ข้างหน้า อีกทั้งจะเรียกนามสกุลกันเป็นหลัก ยิ่งในกรณีที่ยังไม่สนิทกันด้วยแล้ว ยิ่งต้องเรียกนามสกุล
ตอนผมอยู่มัธยมหรือมหา'ลัย จะได้เจอเพื่อนคนญี่ปุ่นที่วัยเดียวกันที่เขาให้เรียกชื่อตัวเข้าได้เลย เพราะเป็นเพื่อนกัน และตัวเขาเวลาแทนตัวเองก็เรียกชื่อตัวเองด้วย เลยไม่เป็นไร หรืออาจารย์ชาวญี่ปุ่นที่สอนเขาก็เป็นกันเอง มีอาจารย์บางคนที่เขาใจดี ให้เรียกชื่อก็มี
แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นคนที่เรายังไม่สนิท หรือเป็นผู้รับบริการ ควรเรียกนามสกุลเป็นหลัก หรือเรียกนามสกุลแล้งตามด้วยชื่อจะดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าคนคนนั้นเขาจะถือตัวมากน้อยแค่ไหน และแม้แต่นายกฯ ญี่ปุ่นยังขอความร่วมมือให้สื่อต่างชาติเขียนลำดับชื่อนามสกุลคนญี่ปุ่นให้ถูกต้อง แสดงว่ามันเป็นเรื่องสำคัญของคนญี่ปุ่น
เลยสรุปได้ประมาณนี้
1.ท่านที่ไม่รู้ว่าอันไหนชื่ออันไหนนามสกุล ถ้เป็นกรณีของโรงพยาบาลอาจง่ายหน่อยเพราะลงทะเบียนตามโครงสร้างชื่อแบบคนไทย คือชื่ออยู่หน้า นามสกุลอยู่หลัง ก็ให้อ่านคำที่อยู่หลังไปเลย
แต่ก็มีคนไข้บางคนที่ติดการเขียนแบบญี่ปุ่น คือเอานามสกุลขึ้นนำหน้า ก็อยากให้ลองสังเกตว่า คำที่พวกเราคุ้น ๆ กันเหล่านี้ เช่น ทานากะ,ยามาดะ อิโต้,ซาโต้,โคบายาชิ,อิโนะอุเอะ,ฮายาชิ,ทาคาฮาชิ,วาตานาเบ้,ยามาโมโตะ,มัตสึโมโตะ,นากามุระ พวกนี้คือนามสกุลทั้งหมด หรือไม่ลองสังเกตคำที่มีคำว่า คาวะ,ยามะ,ชิมะ,โมริ,ฮาระ,ซาวะ,ดะ คำพวกนี้มักจะประสมอยู่ในนามสกุล
2.เค็นจิ,ทาโร่,โคตะ,ฮิโรชิ,โคจิ,จุน,จุนอิจิโร่,เมงุมิ,มาซาโกะ,มิโฮะ,ยูโกะ,รินะ,มิโอริ,เค็นตะ,ยูสุเกะ พวกนี้จะเป็นชื่อทั้งหมด ผู้หญิงจะดูง่าย ยิ่งคนอายุรุ่น 30-40 ขึ้นไปมักจะลงท้ายด้วยโกะ ตระกูลโกะทั้งหลายแหล่ ส่วนผู้ชายรุ่นเดียวกันมักมีชื่อ 4 พยางค์ เช่น โนบุยูกิ,คาสึอากิ,ฮิโรคาสึ,อากิฮิโระ อะไรประมาณนี้ คือถ้าเจอ โนบุ,ฮิโระ,อากิ,คาสึ,อิจิโร่ และตระกูลโร่ทั้งหลาย ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่านั่นคือชื่อ
3.การอ่านชื่อคนญี่ปุ่น คือเสียงสระในภาษาญี่ปุ่นมีแค่ 5 เสียง คือ a (อะ) i (อิ) u (อุ/อึ) e (เอะ) o (โอะ) ไม่ว่าจะเอาตัวอักษรอะไรไปผสมก็จะอ่านตามเสียงสระนั้นหมด
เช่น aiko อ่านว่า อะอิโกะ หรือเร็ว ๆ ก็คือ ไอโกะ ไม่ใช่เอโกะ
inoue อ่าน อิโนะอุเอะ ไม่ใช่ ไอโนะอุเอะ หรือ ไอโนะอุอิ
uji อ่านว่า อุจิ ไม่ใช่ ยูจิ ถ้ายูจิจะเขียน yuji
seito อ่าน เซะอิโตะ หรือเร็ว ๆ ก็คือ เซโตะ ไม่ใช่ ไซโตะ ให้ลืมชื่อนาฬิกา seiko ไปได้เลย
คือถ้าเห็นสระ -ei ต่อกันให้ถือว่ามันคือ สระเอ เช่น yohei,shohei ให้อ่าน โยเฮ หรือ โชเฮ ตามลำดับ
4.ตัว g ในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงเป็น ก (หรือ ง ในกรณีที่อยู่พยางค์ที่ 2 ลงไป) ไม่ใช่ จ ดังนั้นถ้าเจอคนที่ชื่อ gen ให้อ่านว่า เก็น ไม่ใช่เจ็น หรือคนที่ชื่อหรือนามสกุลมีคำว่า gi ให้อ่าน กิ หรือ งิ ไม่ใช่ จิ
5.ชื่อประเภท junichiro,shinichiro ให้อ่านโดยถือเสมือนว่า n เท่ากับตัวสะกด น ให้อ่าน จุนอิจิโร่ หรือ ชินอิจิโร่ ไม่ใช่ จูนิจิโร่ หรือ ชินิจิโร่
จริง ๆ มันยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ เรื่องเสียงสั้นเสียงยาวอะไรอีก แต่หลัก ๆ ที่เจอบ่อย ๆ จะประมาณนี้
เกี่ยวกับเรื่องการเรียกชื่อคนญี่ปุ่น
ตอนผมอยู่มัธยมหรือมหา'ลัย จะได้เจอเพื่อนคนญี่ปุ่นที่วัยเดียวกันที่เขาให้เรียกชื่อตัวเข้าได้เลย เพราะเป็นเพื่อนกัน และตัวเขาเวลาแทนตัวเองก็เรียกชื่อตัวเองด้วย เลยไม่เป็นไร หรืออาจารย์ชาวญี่ปุ่นที่สอนเขาก็เป็นกันเอง มีอาจารย์บางคนที่เขาใจดี ให้เรียกชื่อก็มี
แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นคนที่เรายังไม่สนิท หรือเป็นผู้รับบริการ ควรเรียกนามสกุลเป็นหลัก หรือเรียกนามสกุลแล้งตามด้วยชื่อจะดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าคนคนนั้นเขาจะถือตัวมากน้อยแค่ไหน และแม้แต่นายกฯ ญี่ปุ่นยังขอความร่วมมือให้สื่อต่างชาติเขียนลำดับชื่อนามสกุลคนญี่ปุ่นให้ถูกต้อง แสดงว่ามันเป็นเรื่องสำคัญของคนญี่ปุ่น
เลยสรุปได้ประมาณนี้
1.ท่านที่ไม่รู้ว่าอันไหนชื่ออันไหนนามสกุล ถ้เป็นกรณีของโรงพยาบาลอาจง่ายหน่อยเพราะลงทะเบียนตามโครงสร้างชื่อแบบคนไทย คือชื่ออยู่หน้า นามสกุลอยู่หลัง ก็ให้อ่านคำที่อยู่หลังไปเลย
แต่ก็มีคนไข้บางคนที่ติดการเขียนแบบญี่ปุ่น คือเอานามสกุลขึ้นนำหน้า ก็อยากให้ลองสังเกตว่า คำที่พวกเราคุ้น ๆ กันเหล่านี้ เช่น ทานากะ,ยามาดะ อิโต้,ซาโต้,โคบายาชิ,อิโนะอุเอะ,ฮายาชิ,ทาคาฮาชิ,วาตานาเบ้,ยามาโมโตะ,มัตสึโมโตะ,นากามุระ พวกนี้คือนามสกุลทั้งหมด หรือไม่ลองสังเกตคำที่มีคำว่า คาวะ,ยามะ,ชิมะ,โมริ,ฮาระ,ซาวะ,ดะ คำพวกนี้มักจะประสมอยู่ในนามสกุล
2.เค็นจิ,ทาโร่,โคตะ,ฮิโรชิ,โคจิ,จุน,จุนอิจิโร่,เมงุมิ,มาซาโกะ,มิโฮะ,ยูโกะ,รินะ,มิโอริ,เค็นตะ,ยูสุเกะ พวกนี้จะเป็นชื่อทั้งหมด ผู้หญิงจะดูง่าย ยิ่งคนอายุรุ่น 30-40 ขึ้นไปมักจะลงท้ายด้วยโกะ ตระกูลโกะทั้งหลายแหล่ ส่วนผู้ชายรุ่นเดียวกันมักมีชื่อ 4 พยางค์ เช่น โนบุยูกิ,คาสึอากิ,ฮิโรคาสึ,อากิฮิโระ อะไรประมาณนี้ คือถ้าเจอ โนบุ,ฮิโระ,อากิ,คาสึ,อิจิโร่ และตระกูลโร่ทั้งหลาย ให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่านั่นคือชื่อ
3.การอ่านชื่อคนญี่ปุ่น คือเสียงสระในภาษาญี่ปุ่นมีแค่ 5 เสียง คือ a (อะ) i (อิ) u (อุ/อึ) e (เอะ) o (โอะ) ไม่ว่าจะเอาตัวอักษรอะไรไปผสมก็จะอ่านตามเสียงสระนั้นหมด
เช่น aiko อ่านว่า อะอิโกะ หรือเร็ว ๆ ก็คือ ไอโกะ ไม่ใช่เอโกะ
inoue อ่าน อิโนะอุเอะ ไม่ใช่ ไอโนะอุเอะ หรือ ไอโนะอุอิ
uji อ่านว่า อุจิ ไม่ใช่ ยูจิ ถ้ายูจิจะเขียน yuji
seito อ่าน เซะอิโตะ หรือเร็ว ๆ ก็คือ เซโตะ ไม่ใช่ ไซโตะ ให้ลืมชื่อนาฬิกา seiko ไปได้เลย
คือถ้าเห็นสระ -ei ต่อกันให้ถือว่ามันคือ สระเอ เช่น yohei,shohei ให้อ่าน โยเฮ หรือ โชเฮ ตามลำดับ
4.ตัว g ในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงเป็น ก (หรือ ง ในกรณีที่อยู่พยางค์ที่ 2 ลงไป) ไม่ใช่ จ ดังนั้นถ้าเจอคนที่ชื่อ gen ให้อ่านว่า เก็น ไม่ใช่เจ็น หรือคนที่ชื่อหรือนามสกุลมีคำว่า gi ให้อ่าน กิ หรือ งิ ไม่ใช่ จิ
5.ชื่อประเภท junichiro,shinichiro ให้อ่านโดยถือเสมือนว่า n เท่ากับตัวสะกด น ให้อ่าน จุนอิจิโร่ หรือ ชินอิจิโร่ ไม่ใช่ จูนิจิโร่ หรือ ชินิจิโร่
จริง ๆ มันยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ เรื่องเสียงสั้นเสียงยาวอะไรอีก แต่หลัก ๆ ที่เจอบ่อย ๆ จะประมาณนี้