เชียงใหม่ อะไรใหม่?


 
        สวัสดีฮะ วันนี้ปาล์มมาเล่าถึงทริปสั้นๆของเชียงใหม่ในอีกรูปแบบที่ไปเจอมา ทริปนี้เป็นทริปที่คิดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนอาล์มจะไปเมกา ว่าอยากลองไปแบบไม่วางแผนดู ไปแบบแบ็คแพ็คประหยัดๆละจะลองดูว่าทริปแบบประหยัดมันจะทำได้มั้ย 555 ขำไว้ก่อนเลยเพราะตอนออกจากคอนโดไปขึ้นรถก็กดเรียกแกรปพรีเมี่ยมแล้วอ่ะ จะเอาอะไรมาประหยัดวะ 555 อ่ะขอเจาะอีกนิดว่าคือวันนี้วันที่ 10/10/19 วันนี้คือวันปกติที่ไม่คิดว่าจะมีกิจกรรมโลดโผนอะไร มันคือวันที่ปาล์มเองก็วุ่นๆเรื่องงาน อยู่ๆอาล์มก็ชวนว่าหนีเที่ยวกันมั้ย แบบไปเสร็จแล้วค่อยกลับมาลงรูปงี้ (อ่อ อกหักแล้วไม่มีใครว่าง ดูออก)

ปาล์ม:ไปไงอ่ะ? เครื่องหลอ? งั้นเดี๋ยวเช็คตั๋วแปป ละแบบวันนี้มันวันอะไรฟะตั๋วเครื่องบินแพงมากๆๆๆๆ เลยบอกอาล์มว่าไปรถไฟมั้ย สายเหนือเป็นตู้แบบใหม่ เราเคยอ่านรีวิวเจอ (ไม่เคยนั่งเลยจ้า ละยิ้มไปแนะนำเค้าอีก)
อาล์ม: งั้นลองเช็คตั๋วดู
ปาล์ม : เออนี่อยู่สามย่าน เดี๋ยวลองไปดูหัวลำโพงแล้วจะบอกไปน่ะ 

        อ่ะ เราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องรถด่วน รถเร็ว และเร็วพิเศษอะไรเลยจ้า คุยกับพนักงานซักพักเลยได้ข้อสรุปว่า 10 11 12 ตั๋วเต็มหมดเลยจ้า แตก แตก
เลยกลับไปคุยกับอาล์มว่าเอาไงรถทัวร์มะ ไหนๆก็ตั้งใจละ เลยลองโทรไปเช็คกับนครชัยแอร์ สรุปมีว่างเป็น First class 21 ที่นั่งเวลา 23.30 ถึงเชียงใหม่เวลา 8 โมงเช้า ราคา 866 บาทต่อคน เราก็ทำการจองและข้ามจากพารากอนมาเซเว่นฝั่งสยามสแคว และโทรบอกอาล์มว่าจะเจอกันที่ไหนกี่โมง 


ถึงเวลานัด 22.30 ที่ศูนย์นครชัยแอร์ก็ทำธุระส่วนตัวละทำการขึ้นรถ (ครั้งแรกแบบแตก แตก 555) ภาพรวมดีเลยนะ ที่นั่งกว้าง เบาะนั่งปรับไฟฟ้า มีช่องชาร์ตแบต มี Tablet ผ้าห่ม น้ำ แป๊ปซี่ ขนมรองท้องงี้ คือโอเคเลยอ่ะ สำหรับครั้งแรกมันทำให้รู้สึกประทับใจและคิดว่าขากลับคงกลับนครชัยแอร์อีก ระหว่างนั่งรถก็คุยเรื่องแผนในวันพรุ่งนี้ว่าจะไปไหน นอนไหน ได้ข้อสรุปว่างั้นไปอำเภออมก๋อย เดินป่าผจญภัยแบบดิบๆลำบากๆกัน พอเริ่มหาข้อมูลการจองก็พบเปิดทำการวันที่ 1 พ.ย. อ่าห์ๆๆๆๆๆๆๆ งั้นเปลี่ยนแผนไปเชียงดาวกัน ไม่ต้องมีใครติดต่อหรือโทรตามงี้เพราะอ่านเจอว่าที่นั่นไม่ค่อยมีสัญญาณ และแล้วก็เสี่ยงโทรไปตอนดึกซึ่งทางที่พักแจ้งว่าเปิด 1 พ.ย.ทุกที่บนเชียงดาวเลยคับ (ไงล่ะ ไปแบบไม่วางแผน ไปแบบแบ็คแพ็ค ไปแบบไม่คิดอะไรตอนนี้เริ่มคิดเยอะแล้วอ่ะ) เลยนึกถึงๆที่ที่นึงว่าหากมีโอกาสจะต้องไปซักครั้งและตัดสินใจทัก Facebook พี่เค้าไปเพื่อถามรายละเอียด คำตอบที่ได้คื้อ ( พี่ได้ขายบ้านหลังนั้นไปแล้วนะคะ ตอนนี้มีคนเข้ามาดูแลใหม่แล้ว น้องปาล์มลองติดต่อพี่เอ๊ยเข้าไปดูนะคะ ) เลยทักไลน์พี่เอ๊ยเข้าไปแต่ไร้การตอบกลับ ในใจคิดว่าเราจะไม่มีดวงเลยหลอวะ และก็มีการตอบมาช่วงดึกๆแบบงงๆ เราเลยเล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่าทำไมถึงอยากพักที่นี่สุดท้ายก็คอนเฟิร์มและคิดว่ามีที่นอนแล้วแน่ๆ คุยกันซักพักก็ง่วงละหลับไป Zzz
 

(ใช่ฮะ เสื้อดำนี่อาล์มเองฮะ)

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ขนส่งอาเขตช่วงเวลาประมาณเกือบ 9 โมงเช้า เลยทักไปบอกพี่เอ๊ยว่ากำลังจะเข้าไปที่พักแล้วนะคับ พี่เอ๊ยแนะนำว่าควรมีรถเข้ามาเผื่อจะออกไปไหนจะสะดวก เราเลยหาข้อมูลในเน็ตจนพบร้าน Bikky และเดินมาที่ร้านซึ่งอยู่หน้าขนส่ง ค่าเช่ามีตั้งแต่ 250 - 300/วัน โดยไม่มีค่ามัดจำแต่ต้องวางบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐาน

*กำมือเกียมตังค์ให้พร้อม

หลังจากตรวจรับรถเราเรียบร้อยก็ปักหมุดมายังที่พักชื่อว่าบ้านมิตร The Myth อำเภอแม่ริม ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที ขับไปหนาวไปและลึกเข้าไปลึกเรื่อยๆ 555 ระหว่างทางก็จะกับถนนลูกรังและนาข้าวระยะทางประมาณเกือบ 4 กิโลนะคับ ที่ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียวแต่มันหอมมากด้วยแบบเห้อ อากาศดีจุง 


        และเมื่อมาถึงที่พักก็มีพี่เอ๊ยคนดีคนเดิมของเรารอรับอยู่และพาเข้าห้องพักซึ่งห้องพักที่นี่มีแค่ 4 ห้องเท่านั้นและกำลังรอเปิดให้บริการในวันที่ 1 พ.ย. นี้ อ้าววววววว ละทำไมพี่รับพวกผมไว้อ่า แกบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน 5555 แกก็งงๆแต่ก็รับมาแล้วเพราะเห็นเราคุยกับเจ้าของคนเก่าเอาไว้งี้ อ่อๆๆๆ สรุปทั้งมีแค่เราเป็นลูกค้าห้องแรกและห้องเดียว 55555 คุ้มแย้ว คุ้มแย้ว (ที่คุ้มคือภาพหลังจากนี้นะฮะ)











เห้ย มันดีมากๆ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมมันดีมากๆ ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ใช้พลังงานโซล่าเซลล์ทั้งหลัง ภายในห้องพักไม่มีแอร์แต่ไม่รู้สึกว่าร้อนเลย และทุกมุมของที่นี่สามารถเป็นมุมถ่ายรูปได้หมดเลย

อันนี้ห้องฝั่งตรงข้ามที่ขอไปถ่ายรูป


ห้องพักเราจริงๆคือห้องนี้ วิวดีสุดละ





        หลังจากสำรวจคร่าวๆก็ขึ้นไปอาบน้ำละพักผ่อนกันและตื่นอีกครั้งก็มื้อเย็นเลย ซึ่งช่วงเย็นก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่เจ้าของที่นี่ ว่าจริงๆตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเพราะอยู่ในช่วงกำลังสร้างและตกแต่งสถานที่ แต่เห็นเราหลงเข้ามาเลยรับเอาไว้ 555 พี่เจ้าของดูแลเราดีมากทั้งแนะนำ แลกเปลี่ยนความคิดและเล่าเรื่องก่อนจะซื้อที่นี่จนไปถึงแผนในอนาคต ปาล์มเลยถามไปว่ามันคุ้มมั้ยคับห้องพัก 4 ห้องกับราคาที่ซื้อมา พี่เค้าก็บอกว่าเรื่องตัวเลขมันไม่คุ้มหรอก แต่ถ้าลูกค้าเยอะที่นี่ก็อาจจะไม่สงบและกลัวที่นี่จะเหมือนๆที่พักอื่นๆทั่วไปในเชียงใหม่ และยังเล่าต่อว่าที่ตัดสินใจซื้อเพราะไรรู้มั้ย? น้องดูสิอากาศแบบนี้ วิวแบบนี้ สภาพแวดล้อมแบบนี้ มันหายากแล้วนะ เออจริงว่ะเราเองก็รู้สึกว่าที่นี่มันไม่ได้สวยเฉพาะตอนเช้าหรือตอนเย็นเท่านั้น แต่ทุกช่วงเวลามันมีความสวยงามที่แตกต่างกันไปเรื่อยๆ จนเกือบห้าโมงเราก็ย้ายมาคุยต่อกันที่โต๊ะอาหารเพื่อเตรียมตัวทานข้าวเย็นกัน ในส่วนของมื้อเย็นทางที่พักเป็นคนเตรียมไว้ให้เราเรียบร้อย ซึ่งอาล์มดูเจริญอาหารเป็นพิเศษนะฮะ


อิ่มแล้วก็ได้เวลาไปซึมซับบรรยากาศ ยังยืนยันว่าทุกมุมของที่นี่ถ่ายรูปสวย 555 ซึ่งหลายๆคนบอกว่าเราโชคดีมากที่วันนี้ฝนไม่ตกอากาศไม่ร้อน แล้วทิวเขามีหมอกจางๆและควันกำลังลอยขึ้นมา






จนถึงช่วง 3 ทุ่มก็เตรียมตัวออกไปข้างนอกเพราะอาล์มนัดเพื่อนที่นี่ไว้ และเดี๋ยวนี้เชียงใหม่ข้อนข้างสะดวกเรื่องการเดินทางเพราะสามารถเรียกแกรปไปไหนมาไหนได้ทุกที่ คืนนี้เรามีนัดกันที่ Wood Bar, Roortop 12Fl.บนดาดฟ้าริมสระว่ายน้ำโรงแรม Presting Chiang Mai Hotel ฟีลมันเหมือนพวกบาร์ลับอะไรยังงี้เหมือนกันนะ เป็นร้านนั่งชิลชมวิวเมือง ฝรั่งและวัยรุ่นเยอะ แปลกดีที่เรามาเชียงใหม่บ่อยแต่ไม่รู้จักร้านนี้เลย เพลงในร้านมีหลายแนวตั้งแต่สายกรูฟยันอินดี้ป๊อป บรรยากาศคล้ายๆปาร์ตี้ริมสระเมาละตกลงสระได้เลย 5555


ซึ่งเหตุการณ์หลังจากเราเมานี่สัญญาว่าจะไม่ลืมและจะจำไว้เป็นบทเรียน เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่