คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
การขายประกัน โดยเฉพาะ ประกันชีวิต เราจะต้องเจอ ทัศนคติโดยส่วนใหญ่ของคนไทย ดังต่อไปนี้
- พวกเขาไม่ชอบการถูกแช่เงินไว้นาน ๆ
- พวกเขาคิดว่า ถึงตายไป เงินก้อนนี้ เราก็ไม่ได้ (แต่ผู้รับประโยชน์จะได้)
- พวกเขาคิดว่า มันสิ้นเปลือง ไปกระทบการใช้จ่ายในปัจจุบัน
- พวกเขามีอคติส่วนตัวต่ออาชีพการขายประกัน (ก็มักจะถูกเหมารวมไปในกลุ่มขายตรง)
แต่ก็แปลกนะ เอาเงินไปเที่ยว เอาไปกินเหล้า เอาไปซื้อมือถือแพง ๆ เอาไปอาบน้ำ เอาไปซื้อของไร้สาระที่มันทำให้เงินงอกเงยไม่ได้ ทีพวกนี้หล่ะทำได้ และไม่เสียดายเงิน
การที่คุณจะขายประกันสำเร็จ
คุณต้องไปล้าง 4 ข้อกับลูกค้าของคุณ ที่เรากล่าวมานี้ และ อธิบายให้เขาเข้าใจถึงประโยชน์ของประกันชีวิต ซึ่งปกติคนที่เข้าใจและเห็นประโยชน์ ก็ซื้อประกันชีวิตเก็บไว้ทั้งนั้นแหล่ะ แต่จะซื้อมากซื้อน้อยมันก็อีกเรื่อง
ส่วนตัวเราก็มองว่า คนเราควรมีประกันชีวิตสักเล่ม จะทุนประกันเยอะ หรือ น้อยก็ควรมี
ประกันชีวิต ก็คือ การเก็บเงินทางหนึ่ง การประกันชีวิตตนเอง และมีการจ่ายเมื่อเสียชีวิต หรือ กรมธรรม์ครบอายุ เพียงแต่ ผลตอบแทนจากประกันชีวิตมันไม่ได้มากมายเท่ากับการลงทุนในด้านอื่น ๆ แต่สิ่งที่จะคุ้มที่สุด คือ ทำประกันเสร็จ แล้ว 2 ปีถัดไปตายทันที อันนี้อ่ะคุ้ม
คุณควรไปสอบ IC ด้วย เพื่อขาย Unit Linked และ กองทุนรวม ไปวางแผนการเงินให้พวกเขาด้วย
เพราะมันทำให้คุณมีความรู้เรื่องการลงทุน เศรษฐกิจ สภาพบ้านเมืองไปในตัว ด้วย เป็นการเปิดกะลาให้กว้างขึ้น
- พวกเขาไม่ชอบการถูกแช่เงินไว้นาน ๆ
- พวกเขาคิดว่า ถึงตายไป เงินก้อนนี้ เราก็ไม่ได้ (แต่ผู้รับประโยชน์จะได้)
- พวกเขาคิดว่า มันสิ้นเปลือง ไปกระทบการใช้จ่ายในปัจจุบัน
- พวกเขามีอคติส่วนตัวต่ออาชีพการขายประกัน (ก็มักจะถูกเหมารวมไปในกลุ่มขายตรง)
แต่ก็แปลกนะ เอาเงินไปเที่ยว เอาไปกินเหล้า เอาไปซื้อมือถือแพง ๆ เอาไปอาบน้ำ เอาไปซื้อของไร้สาระที่มันทำให้เงินงอกเงยไม่ได้ ทีพวกนี้หล่ะทำได้ และไม่เสียดายเงิน
การที่คุณจะขายประกันสำเร็จ
คุณต้องไปล้าง 4 ข้อกับลูกค้าของคุณ ที่เรากล่าวมานี้ และ อธิบายให้เขาเข้าใจถึงประโยชน์ของประกันชีวิต ซึ่งปกติคนที่เข้าใจและเห็นประโยชน์ ก็ซื้อประกันชีวิตเก็บไว้ทั้งนั้นแหล่ะ แต่จะซื้อมากซื้อน้อยมันก็อีกเรื่อง
ส่วนตัวเราก็มองว่า คนเราควรมีประกันชีวิตสักเล่ม จะทุนประกันเยอะ หรือ น้อยก็ควรมี
ประกันชีวิต ก็คือ การเก็บเงินทางหนึ่ง การประกันชีวิตตนเอง และมีการจ่ายเมื่อเสียชีวิต หรือ กรมธรรม์ครบอายุ เพียงแต่ ผลตอบแทนจากประกันชีวิตมันไม่ได้มากมายเท่ากับการลงทุนในด้านอื่น ๆ แต่สิ่งที่จะคุ้มที่สุด คือ ทำประกันเสร็จ แล้ว 2 ปีถัดไปตายทันที อันนี้อ่ะคุ้ม
คุณควรไปสอบ IC ด้วย เพื่อขาย Unit Linked และ กองทุนรวม ไปวางแผนการเงินให้พวกเขาด้วย
เพราะมันทำให้คุณมีความรู้เรื่องการลงทุน เศรษฐกิจ สภาพบ้านเมืองไปในตัว ด้วย เป็นการเปิดกะลาให้กว้างขึ้น
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
เป็นตัวแทนประกันชีวิต ผิดตรงไหนค่ะ?
ก็เคยเป็นลูกค้ามาก่อน ส่วนตัวประกันชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิต เพราะตัวเองเป็นเสาหลักของที่บ้าน
คือรับผิดชอบทั้งตัว พ่อ แม่ พี่สาว ลูกพี่สาวอีกสองคนค่ะ ด้วยวัย 26 ปี เป็นปัญหาหนักมากค่ะ ตั้งแต่เป็นตัวแทนมาคือ
1. เพื่อนเลิกคบหา เพราะว่าเราไปขายประกันชีวิตเพื่อน
2 .ออกไปทำแบบสอบถามข้างนอก ผู้คนรังเกียจ เดินหนีหาย
แต่เราเข้าใจนะค่ะ ว่าเค้าคงกลัวการขาย จริงอยู่ค่ะว่าการขายได้คอมมิชั่น แต่ถ้าคุณทำประกันชีวิต พวกเราไม่ได้คอมมิชั่นในวันที่คุณจากไปนะค่ะ
ครอบครัวคุณเป็นคนได้ เคยเจอคำตอบว่า ลูกค้า :ทำประกันผมเอาเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์จะดีกว่า!!
ดิฉัน: ถ้าคุณไม่ถือดิฉันขอถามว่า ตอนนี้คุณมีเงินเก็บเท่าไหร่ค่ะ และมีการซื้ออหังสาริมทรัพย์ไว้บ้างหรือป่าวค่ะ
ลูกค้า : มีครับผมมีเงินเก็บ1 ล้านบ้าน
ดิฉัน : คุณคิดว่าเงินหนึ่งล้านบาทซื้ออหังสาริมทรัพย์ได้เยอะขนาดไหนค่ะ
ถ้าคุณนำเงิน 1 ล้านที่คุณมี ซื้ออหังริมทรัพย์ และยังเลือกส่วนต่างที่ต้องจ่ายเงินอยู่ คุณคิดว่าครับครัวคุณต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้หรือป่าวค่ะ
หรือ ธนาคารบอกให้คุณเลิกเป็นหนี้เพราะคุณเสียชีวิต
ถ้าการทำประชีวิตไม่สำคัญทำไม เวลากู้ซื้อบ้านหนึ่งหลังทำไมธนาคารถึงต้องทำประกันชีวิตให้คุณค่ะ
เพื่อให้มีคนรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่คุณไม่อยู๋ ธนาคารก็สามารถหักหนี้ทั้งหมดได้ แต่คุณลืมคนที่บ้านคุณอยู่หรือป่าวค่ะ
อาชีพการขายประกันชีวิตเป็นเรื่องยาก มาก แต่เราเป็นตัวแทนพูดตรงๆนะค่ะ พวกเพื่อนสนิททั้งหลายถือว่าเรารักเราห่วงเธอเพียงใด เวลาที่เธอไม่อยู่ เพื่อนที่เป็ฯตัวแทนคนนี้ ที่เสนอขายประกันชีวิตให้เธอแล้วเธอบอกว่า แพง ฉันต้องขอโทษด้วย ฉันใส่ซองให้เธอได้ ไม่เกิน 5,000 บาทจริงๆ
ลิงค์ด้านล่างทิ้งท้ายสำหรับคนที่สนใจทำแบบสอบถามนะค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้