[CR] จีนจ๋าพี่มาแล้ว ตอนที่ 2 ประตูสวรรค์ เทียนเมินซาน

ตอนที่ 2 จะพาไปเที่ยวประตูสวรรค์ หรือเทียนเมินซานกันค่ะ 
หลังจากที่ตอนแรก ได้รีวิว การเที่ยวเมืองโบราณเฟิ่งหวงกันไปแล้ว ใครสนใจตามอ่านได้ที่นี่ค่ะ https://pantip.com/topic/39289075

จากตอนที่แล้วเราเดินทางจากเมืองโบราณเฟิ่งหวง กลับมาที่เมืองจางเจียเจี้ย ดูโชว์จิ้งจอกขาว แล้วพักที่ Zhangjiajie Tingyutang Little Yard กัน 1 คืน
วันที่ 3  เทียนเมินซาน - อู่หลิงหยวน
แพลนของพวกเราวันนี้คือ เที่ยวเทียนเมินซาน โดยแพลนไว้ว่าจะไปถึงจุดซื้อตั๋วตอน 8 โมงเช้า แล้วจะไปขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งเพื่อไปอู่หลิงหยวนให้ทันรถเที่ยวสุดท้ายประมาณ 4 โมงเย็น พวกเราเลยนัดกับเจ้าของที่พักไว้ 7 โมง เพื่อทานอาหารเช้า เจ้าของที่พักพาพวกเราเดินไปกินร้านอาหารแถวนั้น ตอนเดินก็ลุ้นๆว่าเช้านี้จะได้กินอะไร 
ถึงแล้ว มื้อเช้าของพวกเรา

เลือกกันไปคนละอย่าง อันนี้ข้าวต้ม มาพร้อมกับเกี๋ยวซ่าทอด

อันนี้เกี๊ยวซ่าต้ม ไส้ผัก ส่วนน้ำจิ้มเจ้าของที่พักแนะนำว่าให้ผสมจิ๊กโช่ด้วย อร่อยดี ดูเหมือนน้อย แต่ก็อิ่มท้อง ตบท้ายด้วยนมถั่วเหลืองอีกคนละขวด 

อิ่มท้องแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ โดยเรียก taxi จากหน้าที่พักไปจุดขายตั๋วของเทียนเมินซาน นอกจากเป็นจุดขายตั๋วแล้วยังเป็นจุดที่ขึ้น cable car และจุดขึ้นรถไปยังเทียนเมินซานด้วย ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็ถึงจุดหมาย พวกเราเอากระเป๋าเดินทางไปฝากไว้ที่จุดฝากกระเป๋ากันก่อน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าฝากได้ถึง 6 โมงเย็น ฝากกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินไปซื้อตั๋วกัน


ตั๋วสำหรับเที่ยวเทียนเมินซานนั้นมี 3 แบบ คือ
A line = ขึ้นเขาด้วย cable car และกลับลงเขาด้วยรถผ่าน 99 โค้ง
B line = ขึ้นเขาด้วยรถผ่าน 99 โค้ง และกลับลงเขาด้วย cable car
C line = ขึ้นและลงเขาด้วยรถผ่าน 99 โค้ง
พวกเราแพลนกันไว้ว่าจะซื้อตั๋ว B line เพราะคิดว่าน่าจะสวนทางกับคนอื่น ซึ่งนิยม A line กัน แต่ๆๆๆๆ ปรากฎว่าตอนที่ซื้อตั๋ว เจ้าหน้าที่บอกว่า no B ก็คิดว่ามันจะไม่มีได้ไง จะซื้อ B line เจ้าหน้าที่เห็นว่าน่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็หยิบโทรศัพท์ คุยผ่านแอพ แล้วยื่นให้พวกเราดู ซึ่งแปลได้ว่า B line นั้น sold out ไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ C line ซึ่งสามารถขึ้นรถได้เลย แล้วก็ A line ซึ่งจะได้ขึ้น cable car ตอนสี่โมงเย็น ณ จุดนั้นตัดสินใจอย่างรวดเร็ว C line เลยจ๊ะ 3 คน คือ A line ไม่ได้แน่นอน เพราะแพลนที่วางไว้จะรวนหมด อดนั่ง cable car ที่ยาวที่สุดเลย T.T ก่อนไปอ่านรีวิวของคนอื่นเค้าว่ายาวที่สุดในโลก แต่เพื่อนเราที่มาด้วยกันเพิ่งไปเวียดนามมาบอกว่าที่เวียดนามนะที่ยาวที่สุดในโลก ก็เลยไม่รู้ว่าที่ไหนยาวกว่ากัน เหอะๆ  แว้บนึงของความเสียดาย ก็คิดว่านี่ชั้นต้องนั่งรถผ่าน 99 โค้ง 2 รอบหรอเนี่ย แล้วก็รีบหยิบ dimen ยาแก้เมารถใส่ปากทันที (วันที่ไปเป็นวันเสาร์ เลยคิดว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ตั๋วเต็มเร็ว และพวกเราอาจจะไปช้านิดหน่อยคือ ถึงจุดขายตั๋ว 8 โมงกว่า) ค่าเสียหาย 235 หยวน

จากที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า C line สามารถขึ้นรถได้เลยนั้น ภาพในหัวคือเดินขึ้นรถได้เลย แต่ความจริงแล้วนั้น ตามภาพนี้เลย แถวยาวออกมานอกเต๊นท์ ยืนต่อแถวหน้าสู้แดดกันไป


หน้าตารถที่จะพาพวกเราขึ้นไปที่ mountain gate เป็นรถมินิบัส เราใช้เวลารอประมาณ 30 นาที ถือว่าไม่นานนะ เพราะรถวิ่งมารับคนตลอด ไม่ขาดช่วงเลย คุ้มกับค่าตั๋วเป็นพัน 

จากแผนที่ รถมินิบัสคันแรกจะพาเรามาที่ mountain gate แล้วต่อมินิบัสอีกคัน วิ่งผ่าน 99 โค้ง ไปยังประตูสวรรค์
ต่อไปเราจะใช้แผนที่อันนี้อธิบายการเดินเที่ยวของพวกเรานะคะ
ในภาพนี้คือ mountain gate (จุดที่มาดูโชว์จิ้งจอกขาวเมื่อคืน) เห็นประตูสวรรค์กันไหม

ต่อแถวกันอีกละจ้า

ขอเล่าบรรยากาศการนั่งรถบัสผ่าน 99 โค้งหน่อย พวกเราโชคดีมากได้นั่งแถวหลังสุด 555 เพิ่มโอกาสการเมารถเข้าไปอีก พวกเราก็หาเรื่องคุยกันไปเรื่อยๆ จะได้เลี่ยงความสนใจจากทางโค้ง สุดท้ายก็รอดนะ ไม่มีใครเมารถ ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น คนขับเซียนมาก ก่อนจะได้ขับรับส่งผู้โดยสารน่าจะผ่านการฝึกฝนขับขึ้นลงมานับร้อยรอบแน่ๆๆ นั่งๆอยู่ก็ถูกเหวี่ยงซ้ายที ขวาที สนุกดี
ในที่สุดก็มาถึงประตูสวรรค์แล้ว ตอนประมาณ 11 โมง นับตั้งแต่รอรถที่จุดแรกก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มันคุ้มค่ามากนะ สวยและยิ่งใหญ่มาก 

จากจุดนี้สามารถไปยัง Tianmen cave (ช่องประตูสวรรค์ด้านบน) ได้สองทาง คือ เดินขึ้นบันได 999 ขั้น หรือบันไดเลื่อน (lower escalator) พวกเราก็เลือกเดินสิคะ ครั้งหนึ่งในชีวิต แต่เดินขึ้นดีกว่าเดินลงนะ พอถึงจุดสูงๆ ถ้าเดินลงมองเห็นวิวด้านล่างก็เสียวๆอยู่เหมือนกัน

เมื่อเดินถึงด้านบน ก็ขึ้นบันไดเลื่อน (upper escalator) จุดทางขึ้นบันไดเลื่อนให้เดินตรงไปด้านในนะคะ ถ้าไปทางขวาจะเป็นบันไดเลื่อนที่ลงไปด้านล่าง (lower escalator)นะคะ

ผ่านบันไดเลื่อนประมาณ 4-5 ตัว (อันนี้ไม่แน่ใจ) ก็ถึงด้านบนแล้ว แต่อย่างเพิ่งดีใจไป มันยังไม่ถึงครึ่งทางเลย ตอนนั้นก็เที่ยงแล้ว แพลนที่วางไว้ว่าจะต้องไปขึ้นรถไปอู่หลิงหยวนให้ทัน 4 โมงเย็นก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะทันมั้ย เพราะถ้าต้องรอคิวรถแบบขามาอีก มันไม่น่าจะทัน เลยตัดสินใจว่าจะเดินแค่ทางด้าน west line (ด้านขวาในแผนที่) เมื่อถึงวัดเทียนเมินซานก็จะนั่งกระเช้าห้อยขาลงมาที่ upper station of cable way แล้วลงบันไดเลื่อนยาวๆไปจนถึงจุดจอดรถบัสเลย นั่งบัสผ่าน 99 โค้ง แล้วต่อบัสอีกคันไปที่จุดจำหน่ายตั๋วเมื่อเช้า 
จากจุดบันไดเลื่อนด้านบน ก็เดินต่อไปอีกพักหนึ่ง ถึงจะถึงจุด upper station of cable way ทางเดินมีให้เลือกทั้งแบบริมผา และด้านใน(ที่ไม่ติดผา) พวกเราก็เลือกเดินด้านใน ไม่ใช่เพราะกลัวความสูง แต่เพราะทางนี้ไม่มีคนเลย เดินทำเวลาได้สะดวก


จาก upper station of cable way ก็เดินๆๆเลาะริมเขามาจนถึงจุดที่เป็นทางเดินกระจก เราเดินมาถึงจุดทางเดินกระจกตอนประมาณบ่ายโมง
ด้านหน้านั่นคือต่อแถวรอซื้อตั๋ว ราคาอยู่ที่ 5 หยวนเพื่อเดินผ่านทางเดินกระจก สำหรับใครที่กลัวความสูงไม่อยากเดินผ่านทางเดินกระจก ก็มีทางเดินแยกไปอีกทางให้นะคะ

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็จะมีถึงเท้าให้สวมทับรอบเท้าเราไว้อีกที น่าจะป้องกันกระจกเป็นรอย ทางเดินกระจกประมาณ 100 เมตร ก็เสียวๆดี แต่บางจุดกระจกมันขุ่นๆหน่อย

แล้วก็เดินกันต่อ เดินๆๆๆๆๆมาเรื่อยๆ จนถึง suspension bridge ถ้าถึงจุดนี้ก็ใกล้จะถึงวัดเทียนเมินซานละ

วัดเทียนเมินซาน เราแค่ถ่ายรูปด้านนอก เพราะต้องทำเวลา 555 จริงๆแล้วสปีดการเดินของพวกเราก็เดินกันปกตินะ แวะถ่ายรูป แวะกินขนมด้วย เราถึงวัดเทียนเมินซานตอนประมาณบ่ายโมง 

ก่อนจะถึงด้านหน้าวัดตามรูปด้านบน จะมีจุดจำหน่ายตั๋วกระเช้าห้อยขา Forest sight seeing cable car ราคา 25 หยวน

วิวด้านล่างก็ตามชื่อเลยจ้า forest sight ด้านล่างจะเห็นแต่ต้นไม้ กระเช้านี่อยู่เหนือยอดของต้นไม้ ไม่ต้องบอกว่ามันสูงแค่ไหน นั่งไปครึ่งทางถึงจะทำใจได้ 

วิวด้านข้างตอนนั่งกระเช้า

ปลายทางของกระเช้าจะอยู่ที่ yunmeng fairy peak ซึ่งจากจุดนี้สามารถลงลิฟต์เพื่อไปยัง upper station of cable way ได้
จาก upper station of cable way เราก็เดินกลับไปทางเดิมเพื่อลงบันไดเลื่อนทั้งสองจุดคือ upper และ lower escalator

พวกเรามาถึงจุดจอดรถบัสเพื่อลงไปยัง mountain gate ตอนประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง โชคดีที่คนน้อยมาก ได้ขึ้นรถเลย จาก mountain gate ก็เปลี่ยนเป็นนั่งบัสอีกคันเพื่อไปยังจุดจำหน่ายตั๋วเมื่อเช้า เราถึงจุดจำหน่ายตั๋วด้านล่างตอนเกือบบ่ายสี่โมงกว่า เอากระเป๋าที่ฝากไว้ ซื้อไก่ทอดกินรองท้องก่อนเดินทางต่อไปอู่หลิงหยวน ตอนไปเอากระเป๋ามีเรื่องนิดหน่อย คือนอกจากกระเป๋าเดินทางสามใบของพวกเราสามคนแล้วยังมีถุงขนมอีกสองใบ แต่เจ้าหน้าที่หยิบถุงขนมมาให้ใบเดียว เพื่อนเราก็บอกว่า 2 bags นางก็ตีหน้างง จนเพื่อนเราต้องตะคอก ทำเสียงดุๆว่า 2 bags ถึงหยิบอีกใบออกมาให้ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือป่าว แต่ขนมนั้นมันอร่อยมาก เราต้องเอามันมาให้ได้ ยอมถือมาตั้งแต่วันแรกจากเฟิ่งหวง 55
เมื่อได้ถุงขนมกลับคืนมาครบแล้ว ก็เดินไปเรียก taxi ด้านหน้า ยื่นที่อยู่ของที่พักที่อู่หลิงหยวนให้เค้าดู เค้าเรียกราคามา 300 หยวน แต่จากที่อ่านรีวิวมามีคนเคยได้ราคา 250 หยวน เลยต่อรองกับคนขับ เค้าให้ราคาที่ 260 หยวน ก็ตกลงตามนั้น 
Taxi ที่นี่ดีนะ ไม่ปฏิเสธเลย ให้ไปไหนก็ไป มีเจอปฏิเสธตอนเรียนจาก bus staion ไปสนามบิน ซึ่งเรียกราคาสูง เราต่อรองแล้วเค้าไม่โอเค เค้าก็ไม่ไป

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง พอใกล้ถึงคนขับก็โทรคุยกับเจ้าของที่พัก ซึ่งเจ้าของที่พักจะมารับพวกเราไปที่พักอีกทีหนึ่ง สักพักก็จอดส่งเรากลางสี่แยกสี่แยกหนึ่ง เจ้าของที่พักก็มารับพวกเราพอดี คืนนี้เราพักบนเขาที่เรียกว่า Tianzi mountain 
สภาพถนนก่อนถึงที่พัก มีหลุมบ่อนิดหน่อย โยกเยกกันไป

ที่พักคืนที่สามนี้ คือ Zhangjiajie haolaiwu inn ค่าที่พักคนละ 92 หยวน
เจ้าของที่พักสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้าประโยคยากๆเค้าก็คุยผ่านแอพ

ห้องนอนมีสามเตียงนะ ด้านในมีอีกหนึ่งเตียง

อาหารเย็นวันนี้ ผีมือเจ้าของที่พัก น่าตาดูดี รสชาติก็ดีถูกปากมาก กินกันเกลี้ยง 
ตอนเรานั่งกินกันนั้น เห็นเค้าจัดอาหารไว้อีกโต๊ะด้วย เป็นฝรั่ง อาหารคนละอย่างกับโต๊ะเรานะ ดูแล้วเค้าน่าเตรียมไว้ให้ถูกปากกับทุกชนชาติที่มาพักเลย

เหตุผลที่มาพักที่ด้าน Tianzi mountain เพราะด้านนี้มีประตูเข้า Zhangjiajie National Forest Park เหมือนกัน แล้วคนน่าจะน้อยกว่าทางด้านประตูอู่หลิงหยวน
ตามอ่านตอนที่ 3 ได้ที่นี่ https://pantip.com/topic/39343506 เลยค่ะ
ชื่อสินค้า:   เทียนเหมินซาน จีน ท่องเที่ยว
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่