ขุนแผน ฟ้าฟื้น เล่าเรื่องราว ชีวิตของ แก้ว (มาริโอ เมาเร่อ)หนุ่มพเนจรผู้ไร้ซึ่งความทรงจำกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้พบกับ อาจารย์เดช (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) จอมขมังเวทย์ที่สอนอาคมให้คนกระจอกอย่างเขาได้มีโอกาสสู้เพื่อหัวใจตัวเองหลังได้พบกับ พิม (ยงวรี งามเกษม) คนรักในอดีตที่ปัจจุบันเป็นคู่หมั้นของ ช้าง (ฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์) เพื่อนรักผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลจนเกิดรักสามเส้าขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ยูท่า หรือ อโยธยากำลังตกอยู่ในอันตรายเมื่อ แสนตรีเพชรกล้า (ปราโมทย์ แสงศร) จอมขมังเวทย์แห่งเชียงอินทร์คิดก่อวินาศกรรมในงานสมโภชกรุงครั้งสำคัญเพื่อการแก้แค้น พระยาเดโช และสร้างความบาดหมองให้กับ ยูท่า และ ล้านช้าง

จัดเป็นหนังที่สนุกใช้ได้เลยครับ มอบความบันเทิงอย่างเต็มที่ มาแนวคอมมาดี้ - แฟนตาซี ที่หายากมากในเมืองไทย การสร้างโลกในหนังเรื่องนี้ก็ร่วมสมัยเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็น การพูดจา ค่านิยม วัฒนธรรม ดนตรี ภาษา สถานที่ต่างๆ การคมนาคม (ฮามากกับแท็กซี่) เป็นการผสมทั้งยุคสมัยอยุธยาโบราณกับยุคสมัยปัจจุบัน เอาง่ายๆเลยอารมณ์มันมาโทนเดียวกับการ์ตูนญี่ปุ่น พวกดราก้อนบอล วันพีช กินทามะ เด็ดไปกว่านั้นคือมีการจิกกัดสังคมไทยในปัจจุบันด้วยการนำมาแทรกเป็นมุขในฉาก เช่น ด่านตำรวจ 555 ซึ่งแน่นอนว่าโปรดักชั่นและโลเคชันก็ต้องออกมาไม่ธรรมดาแน่นอนซึ่งผู้สร้างก็ทำออกมาสวยวิจิตรตามากๆ โดยเฉพาะฉากตลาดที่ท่าน้ำ สถานที่ที่จะให้เห็นความร่วมสมัยของเรื่องนี้มากที่สุด เสื้อผ้าหน้าผมหรือของไประกอบฉากไม่ต้องห่วงสวยงามเข้าท่ามาก และในบางฉากมุมกล้องและภาพสวยมาก เออนอกจากนั้นหนังยังมีกิมมิคเล็กๆฮาๆจากหนังฝรั่งเรื่องอื่นแทรกมาด้วย
พูดถึงโทนหนังบ้าง ผมว่าหนังมาแนวเดียวกับพวกละคร ทองเอก หมอยาท่าโฉลง หรือหนังก็ พี่มากพระโขนง โดยตัวอย่างหนังอาจมีความตลกอยู่บ้าง ซึ่งก็จริงแต่หนังก็ยังมีความซีเรียสและความเข้มข้นอยู่มากๆแต่ไม่ได้เข้มข้นแบบลุ้นแบบตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น มันเข้มข้นแบบยังไงผมก็ไม่รู้จะอธิบายแบบไหน 555 ซึ่งก็มีช่วงที่ผ่อนคลายแทรกมาเป็นระยะๆ แต่รู้สึกว่าหนังมีเนื้อเรื่องที่สนุกดีนะ คือมันเพลิดเพลินกับเนื้อหาน่ะครับ ก็คงเพราะพี่โขมเล่าเรื่องออกมาสนุกละมั้ง แต่ถ้าเทียบกับผลงานล่าสุดของแกอย่าง ขุนพันธ์ทั้งสองภาค ผมว่าเรื่องนี้เนื้อเรื่องเพลินกว่า แต่ก็มีปัญหาแบบเดียวกับขุนพันธ์คือเรื่องการตัดต่อที่ยังโดดไปมาไม่ค่อยประติดประต่อเนื้อหามากนัก เลยรู้สึกว่าแปลกไปอยู่ อย่างฉากแรกฉากเปิดตัวหนังก็โผล่มาแบบแปลกๆ พอขึ้นเครดิตชื่อเรื่อง ก็ตัดไปเรื่องใหม่เลยทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นมีสถานการณ์ที่ยังไม่เคลียร์เลย สู้เอาฉากในตัวอย่างหนังอย่างฉากที่แก้วยังเป็นเด็กและไปดู้ต้นไม้ที่กำลังฟื้นมาเป็นฉากเปิดตัวพร้อมขึ้นเครดิตชื่อเรื่องแล้วค่อยต่อกับฉากที่ว่าในตอนแรก ผมว่ามันก็ให้อารมณ์ที่คนดูอยากจะติดตามเนื้อหาเพิ่มอยู่นะ
ด้านความฮา ด้วยความที่พี่โขมแกไม่เคยกำกับหนังตลกแบบจริงๆจังๆ พอคราวนี้แกมาจับหนังเรื่องนี้ที่เน้นตลกเป็นหลัก ผมเลยรู้สึกว่าความตลกมันยังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่คือมันไม่ฮาก๊ากอ่ะ ถ้าจะฮาก็แบบ ตลกสถานการณ์ คำสบถ มุกล้อเลียน อะไรประมาณนี้น่ะครับ ว่าง่ายๆคือหนังไม่มีมุกที่เป็นที่น่าจดจำมากนัก ความสนุกมันเลยเกิดในส่วนพื้นที่ของเนื้อหาผสมกับมุกตลกที่ว่ามาตะกี้แหละ
ด้วยความที่ผมพูดในช่วงแรกว่าหนังมาแนว คอมมาดี้ - แฟนตาซี บางท่านอาจสงสัยว่าแล้วความแอ็กชั่นล่ะหายไปไหน ทำไมไม่เติมเข้าไปด้วย ? ในความรู้สึกส่วนตัวผมนะ ผมคิดว่าแม้โทนหนังมันจะมาแนวแอ็กชั่นก็จริง แต่เอาเข้าจริงมีน้อยมากมีไม่เยอะ มีจริงก็ท้ายเรื่องเลย และเหมือนว่าพี่โขมแกยังไม่ได้อยากเน้นฉากบู๊นะ เพราะว่าถ้าเอาจริงๆแกสามารถรังสรรค์ฉากบู๊ออกมาได้เยอะและมันส์เลยแหละ (เข้าใจภาคนี้คงอยากเล่าในแนวจุดเริ่มต้นจุดกำเนิดของพระเอก) แต่เรื่องนี้มีน้อยและไม่ค่อยเน้นมาก แต่ถามว่าสนุกมั๊ยกับฉากบู๊ สนุกเอาเรื่องอยู่นะครับ เพราะแม้ว่าฉากบู๊จะมาน้อยโผล่ตอนท้ายเรื่องแต่กระนั้นก็อุดมด้วยซีจีที่สร้างสรรค์และสวยเข้าท่าเลยนะ
ภาพรวมของ CG คือสวยและเนียนใช้ได้เลยนะ แม้ว่ามันอาจจะไม่สมจริงบ้างในบางจุดก็ตาม แต่อย่างที่บอกในตอนท้าย CG จัดเต็มและสวยมาก ปล่อยของสาดอาคมหนักเลยที่เดียวระหว่างแก้วกับแสนตรีเพชรกล้า และยังมีCGเซอร์ไพร์สในตอนท้ายด้วย สวยมากเนียนตาโคตรๆ อารมณ์เดียวกับนาคีเลย
และสิ่งที่ทำให้หนังสนุกมากขึ้นนั้นก็ไม่พ้น ทีมนักแสดงครับ ทั้งทีมนักแสดงตัวหลักตัวรองก็ขับเคลื่อนให้หนังกลมกล่อมมากขึ้น มีเสน่ห์ที่สุดก็ไม่พ้นสามตัวหลักอย่าง แก้ว ช้าง และ พิม นักแสดงที่สวมบทอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ เรื่องนี้พี่แกก็กินขาดครับเสน่ห์แกเหลือล้นครับเพลินกับแสดงของพี่แกมากๆ
ฟิลลิปส์ The Face Man Thailand ผมไม่ค่อยรู้จักแกนะ แต่จากบทนี้ทำให้ผมติดตามแกได้ไม่ยากเลยนะ แม้ว่าการแสดงจะไม่ได้โดดเด่นและมีเสน่ห์เหมือนกับคนอื่น แต่แกก็สามารถแสดงในส่วนที่แกแสดงได้และมันก็ใช้ได้เลย ฉากที่ประกบกับมาริโอ้ ผมว่าแกไม่โดนกลบเลยนะ สารภาพจากใจผู้ชายคนนึงนะแกหล่อมาก เป็นขุนช้างเวอร์ชั่นที่หล่อกว่าขุนแผน 555
และที่พูดถึงไม่ได้คือ ฟ้า ยงวรี นางเอกของเรื่อง สวยคมบาดตาบาดใจผมมาก บางจังหวะเธอจะมีหน้าตาคล้ายกับใหม่ ดาวิกา บางจังหวะคล้ายปราง กัญญ์ณรัณ เป็นผู้หญิงที่สวยมากยิ้มก็บาดตา อยู่นิ่งๆก็โดนใจ อารมณ์เดียวกับที่เคยเจอตัวละคร สาย มินนี่ ภัณฑิรา จากแสงกระสือเลย 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีความน่าสนใจคือเธอทั้งสองคนสังกัดอยู่คนละช่อง (ฟ้าช่องสาม มินนี่ช่องเจ็ด)
แล้วก็หนังทั้งสองเรื่องฉายช่วงต้นปี ปลายปี เป็นการฉายแบบช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
อาจเรียกได้ว่า ต้นปีช่อง7ส่งมินนี่มาน่ารักละลายใจคนดู ปลายปีช่อง3ส่งฟ้ามาสวยงามบาดใจคนดู 555
ตัวละครสมทบต่างๆก็สร้างสีสรรค์อย่างดีอาจารย์เดช ราม เพชร ก็มาสร้างความเฮฮาและเป็นผู้ช่วยพระเอกอย่างสมบทบาท ที่เด็ดก็คือกุมารทองน้อง มะนาว ที่มาพร้อมความแสบและความฮาที่ช่วยให้ใครหลายคนต้องอมยิ้มไม่มากก็น้อย ชอบน้องแกมาจากละครอยู่แล้วด้วย
ฝ่ายร้ายแม้ว่าไม่ได้มีมิติมากมายแต่ก็ดูดีเท่และมีบทที่ช่วยส่งให้หนังเข้มข้นขึ้นอย่าง เหมรัศมี สีจันทน์ นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ยอดสายลับ 2อีกามหากาฬ ที่บทน้อยเหลือเกิน มุงกะยองชายใต้หน้ากากสุดลึกลับ(พีคมากตอนท้าย) ท้ายสุดแสนตรีเพชรกล้าที่แสดงโดยปราโมทย์ แสงศร แม่ทัพจอมอาคมจากเชียงอินทร์ผู้มีความแค้นกับพระยาเดโช แกมาร้ายในช่วงท้ายโดยเฉพาะ แม้ว่าผมจะไม่ทันยุคแกแต่โคตรชอบบท แรม ที่แกเล่นจาก ซีรี่ย์ตี๋ใหญ่ 2 ดับเครื่องชน
อารมณ์เดียวกับโจ๊กเกอร์เลย ร้าย แนวคิดสุดโต่ง โรคจิต และ บ้าได้ใจมากกก
ในหนังจริงยังมีประเด็นปมต่างๆที่นอกเหนือจากตัวอย่างเยอะมาก ตัวละครลับก็มาด้วยแถมมาฮาพอสมควร แกมาสร้างสีสรรค์อย่างดี แต่เหมือนหนังยังกั๊กๆไว้อยู่ ตัวละครหลายตัว ของวิเศษสามอย่าง ยังขยี้ไม่สุดคงต้องรอภาคต่อ เครดิตปูไปสู่ภาคต่อก็เจ๋งมากก ผมว่านะมันสร้างความน่าติดตามให้กับคนดูอย่างดีเลย โดยเฉพาะตัวท้ายสุดพีคมาก คิดเล่นๆถูกจริงๆอ่ะกับตัวละครในหน้ากาก จังหวะอารมณ์ฉากเครดิตนี่ขนลุกพอๆกับ MARVEL 555
โดยสรุปหนังมันบันเทิงและกาวสุดๆแต่ยังมีข้อผิดพลาดอยู้บ้าง โดยรวมผมเลยให้ 7/10 กำลังดีครับ
ขุนแผน ฟ้าฟื้น [7/10] : ขุนแผนในเวอร์ชั่นร่วมสมัย สนุกสนานเฮฮา แต่ยังไม่สุดเท่าไหร่
ตัวละครสมทบต่างๆก็สร้างสีสรรค์อย่างดีอาจารย์เดช ราม เพชร ก็มาสร้างความเฮฮาและเป็นผู้ช่วยพระเอกอย่างสมบทบาท ที่เด็ดก็คือกุมารทองน้อง มะนาว ที่มาพร้อมความแสบและความฮาที่ช่วยให้ใครหลายคนต้องอมยิ้มไม่มากก็น้อย ชอบน้องแกมาจากละครอยู่แล้วด้วย
ฝ่ายร้ายแม้ว่าไม่ได้มีมิติมากมายแต่ก็ดูดีเท่และมีบทที่ช่วยส่งให้หนังเข้มข้นขึ้นอย่าง เหมรัศมี สีจันทน์ นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ยอดสายลับ 2อีกามหากาฬ ที่บทน้อยเหลือเกิน มุงกะยองชายใต้หน้ากากสุดลึกลับ(พีคมากตอนท้าย) ท้ายสุดแสนตรีเพชรกล้าที่แสดงโดยปราโมทย์ แสงศร แม่ทัพจอมอาคมจากเชียงอินทร์ผู้มีความแค้นกับพระยาเดโช แกมาร้ายในช่วงท้ายโดยเฉพาะ แม้ว่าผมจะไม่ทันยุคแกแต่โคตรชอบบท แรม ที่แกเล่นจาก ซีรี่ย์ตี๋ใหญ่ 2 ดับเครื่องชน
อารมณ์เดียวกับโจ๊กเกอร์เลย ร้าย แนวคิดสุดโต่ง โรคจิต และ บ้าได้ใจมากกก