1. เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนค่ะ วันอาทิตย์เราพาที่บ้านไปทานข้าวซึ่งทุกคนก็แฮปปี้ ดี๊ด๊า กันเป็นปกติ
2. วันจันทร์เช้าตอนสายๆ แม่โทรมาบอกว่าตอนนี้พ่อเราเข้า icu ให้รีบมาด่วน ตาลีตาหลีกรีบไปรพ.เลยค่ะ
3. พี่ๆ น้องๆ ที่ office แสนดี รีบไล่เราไปรพ.ทันที ต้องกราบขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
4. ตัดมาที่รพ. เรามาถึงรพ.ประมาณ 11 โมง ยังไม่ถึงเวลาเยี่ยม เลยได้นั่งเป็นเพื่อนแม่ข้างนอกค่ะ
5. แม่เล่าให้ฟังว่า พ่อเราเขามีอาการแปลกๆ มา 2-3 อาทิตย์ก่อนจะยอมไปรพ.แล้ว อาทิตย์แรกมีอาการปวดท้องตุ่ยๆ เหมือนท้องเสีย
6. พอมาอาทิตย์ที่ 2 เริ่มแน่นหน้าอก แต่เป็นเฉพาะตอนนอนราบกับพื้น แรกๆ ยังพอทนได้ แต่เริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จนนอนไม่ได้ ต้องนั่งหลับเอา
7. แม่เราเขาก็รู้สึกแปลกใจที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำทีไรก็เห็นพ่อนั่งอยู่บนเตียงทุกที พอถามว่าทำไมไม่นอน เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า พ่อก็มักจะบอกว่าไม่เป็นไร ให้แม่นอนเถอะ
8. อาการในข้อ 6-7 พ่อไม่ยอมให้แม่เล่าให้เราฟัง และไม่ยอมบอกแม่ด้วยว่านอนไม่ได้เพราะแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออก
9. อยากจะบอกว่าไม่ควรทำแบบพ่อเราเป็นอันขาดนะคะ ถ้าอึดอัด แน่นหน้าอก แบบไม่มีสาเหตุ และอาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบบอกคนในบ้านและรีบไปหาหมอค่ะ
10. ที่สำคัญถึงจะถูกกำชับว่าไม่ให้บอกลูกๆ ไม่ให้บอกใคร เคสแบบนี้ไม่ต้องทำตามค่ะ หลายหัวดีกว่าหัวเดียวค่ะ
11. ถ้าแม่เรายอมเล่าให้เราฟัง เราจะลากพ่อเราไปหาหมอทันทีที่รู้ค่ะ
12. วันอาทิตย์เราพาไปกินข้าว ทุกอย่างดูปกติดีค่ะ แต่เนื่องจากเราไปถึงร้านก่อนเวลาทำให้ต้องไปนั่งรอ เราสังเกตเห็นว่าพ่อเรานั่งตรงไหนก็หลับ แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะบรรยากาศมันชวนง่วง เราเองก็ยังง่วงเลย
13. ความมาแตกเอาตอนตี 4 ของวันจันทร์ค่ะ พ่อทนไม่ไหวเลยบอกแม่ว่าให้พาไปรพ.
14. ไปถึงรพ. เช้ามืด หมอที่เคยหาประจำยังไม่มา และพ่อเราก็ไม่ยอมเข้าห้องฉุกเฉิน จะรอหมอประจำ
15. เดือดร้อนพยาบาลต้องโทรบอกหมอค่ะ คุรหมอแกก็ดีนะคะ รีบมาเลย แต่พ่อหาย!!!!
16. มาถึงรพ.แล้วพ่อเรามีแอบไปเดินเล่นอีก 😓 พยาบาลหาตัวกันให้ควัก
17. พอคุณหมอตรวจเท่านั้นแหละ เป็นเรื่องค่ะ ถูกส่งเข้า icu ทันที
18. ตอนเจอพ่อ เห็นชัดๆ เลยค่ะว่าอาการแย่กว่าเมื่อวานมาก (ตอนที่ไปกินข้าวด้วยกัน) พ่อจะพูดยาวๆ ไม่ได้ พูดแล้วเหนื่อย มีหอบ
19. หลังจากที่คุณหมอตรวจอย่างละเอียด คุณหมอแจ้งว่า ในปอดมีน้ำ มีภาวะโลหิตจาง ความดันสูง หัวใจทำงานแค่ 40% (ประมาณ)
20. เนื่องจากหัวใจทำงานผิดปกติ คุณหมอเลยทำ [#’~¿…€…?% (ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) เพิ่ม คือจะเห็นการทำงานของหัวใจแบบชัดๆ เต้นกระดุ๊บๆ ให้เห็นแบบจะๆ เห็นแม้กระทั่งลิ้นหัวใจตอนทำงานค่ะ เป็นภาพเคลื่อนไหวนะคะ
21. ปรากฏว่าผนังหัวใจด้านขาวบนและซ้ายล่าง ไม่บีบตัว อันนี้เราเห็นด้วยตาตัวเองเลยค่ะ คือผนังด้านอื่นบีบๆ คลายๆ เป็นจังหวะ แต่เจ้าผนัง 2 ด้านนี้กินแรง ไม่ยอมบีบตัวค่ะ
22. คุณหมอวินิจฉัยว่าน่าจะมีเส้นเลือดอุดตันหรือตีบ ไม่ยังระบุไม่ไม่ได้ว่า ตีบหรือตันกี่เส้น ต้องส่งไปทำ mri ที่รามา
23. ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคชจ. พรุ่งนี้เช้าจะส่งไปรามาเพื่อฉีดสีหาตำแหน่งและถ้ารู้ตำแหน่งแล้วจะรักษาเลยค่ะ
24. แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องคชจ. ก็จะรีบทำเรื่องส่งตัวไปให้รพ.ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ แต่คุณหมอรับปากไม่ได้ว่าจะได้ตรวจหาจุดที่ตันหรือตีบเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับรพ.ทางโน้นค่ะ
25. คุณหมอยังแนะนำอีกว่าเราต้องรีบตัดสินใจเพราะอาการเส้นเลือดตันหรือตีบนี้ยิ่งรักษาเร็วโอกาสในการหายเป็นปกติก็จะยิ่งเยอะค่ะ
26. พอหมอถามว่าจะเอายังไง เราตอบแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ ว่าพรุ่งนี้หมอส่งไปรามาได้เลย คชจ.ทั้งหมดเรารับผิดชอบเอง 😤😤
27. เราโชคดีที่ขี้เหนียวแต่เด็ก แม่เราก็ขี้เหนียวเล็กๆ พ่อเรานี่ไม่ต้องพูดถึง เค็มสุดๆ เลยพอจะมีเงินออมอยู่จำนวนหนึ่ง เรื่องคชจ.ในการรักษาพยาบาลเลยไม่ใช่ปัญหา
28. หลังจากนั้นคุณหมอก็เตรียมร่างกายพ่อเราให้พร้อมรับการรักษาในวันพรุ่งนี้ค่ะ โดยให้ยาเพื่อขับน้ำในปอดออกมา ให้เลือดเพิ่ม 1 ถุงเพื่อลดอาการเลือดจาง
29. ส่วนเราก็โดนตามให้ไปจ่ายค่ามัดจำที่การเงิน รูดบัตรโลดดดดดอด🤣🤣🤣
30. วันรุ่งขึ้นหมอนัดตี 5 ครึ่ง ล้อหมุน 6 ครึ่ง ได้นั่งรถพยาบาลเป็นครั้งแรกในชีวิต
31. ไปถึงรามาหมอที่โน่นไม่รอช้าค่ะ เข็นเข้าห้องเพื่อฉีดสีทำ mri ทันที
32. ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 45 นาที พบเส้นเลือดที่ตีบ 3 เส้นค่ะ เป็นเส้นเลือดฝอย 1 เส้น เป็นเส้นเลือดหลัก 2 เส้นค่ะ มีจอให้ดูรายละเอียดด้วยนะคะว่าเส้นไหนตีบ ตีบเส้นละกี่จุด
33. เส้นเลือดฝอยคุณหมอบอกไม่เป็นไร แต่เส้นเหลือดหลักนี่ต้องรักษาด่วนค่ะ
34. เส้นหลักที่ 1 ตีบ 3 จุดใกล้ๆ กัน ส่วนเส้นที่ 2 ก็ตีบ 3 จุดเช่นกันแต่จุดที่ตีบอยู่ห่างกัน
35. การรักษาสามารถเลือกได้ 2 วิธีค่ะ (เราจะเล่าวิธีรักษาแบบที่เราเข้าใจนะคะ อาจจะไม่ตรง 100%)
36. วิธีแรกคือผ่าตัดโดยตัดจุดที่ตีบออกแล้วเย็บกลับเข้าไป หรือเอาเส้นเลือดที่ขามาใส่แทน แต่ถ้าเลือกวิธีนี้จะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรเพราะต้องเตรียมตัวเยอะทั้งพ่อเรา รพ. รวมถึงเรากับแม่ แถมยังต้องพักฟื้นนานและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
37. วิธีที่ 2 คือสอดท่อเข้าไปจุดที่ตีบเพื่อใส่ขดลวดตรงจุดที่ตีบ ขวดลวดจะเข้าไปขยายส่วนที่ตีบ วิธีนี้ทำได้เลย แผลเล็กมาก ไม่เสียเลือดมากเหมือนการผ่าตัด (ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจว่าเล็กขนาดไหน) พักฟื้นไม่นาน
38. ในเบี้องต้นทางรพ.ต้นทางเขาแจ้งเรามาตั้งแต่วันที่เราไปวางมัดจำแล้วค่ะว่าวิธีสวนมีคชจ.อยู่ที่ 150k - 300k ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่ตีบ
39. ส่วนวิธีผ่าตัดอันนี้เราไม่ได้ถามเรื่องคชจ.มาค่ะ
40. ไม่ต้องคิดมากค่ะ สวนเลยค่ะหมอ!!!!!
41. คุณหมอใช้เวลาเตรียมตัว + สวนเส้นเลือด + ใส่ขดลวด ประมาณ 15-20 นาทีค่ะ 😳😳 คือรวดเร็วมาก
42. จากนั้นคุณหมอออกมาตามให้เรากับแม่เข้าไปดูว่าก่อนและหลังใส่ขดลวดเป็นยังไง พอเข้าไปเราก็เห็นพ่อเรานอนทำหน้างงๆ ว่าเราเข้ามาทำไม คือพ่อไม่รู้ว่าทำเสร็จแล้ว 😂😂
43. ในจอก็เห็นว่าไม่มีจุดที่ตีบแบบตอนแรกแล้ว ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่าแต่สีหน้าพ่อเราดูแข็งแรงขึ้นกว่าก่อนสวนค่ะ พูดไปยาวขึ้น ตอบคำถามหมอแบบไม่ตะกุกตะกัก ไม่มีอาการหอบเป็นพักๆ ระหว่างพูดค่ะ
44. คุณหมอที่รามาแจ้งว่าการรักษาได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ขดลวดที่ใส่สามารถอยู่ได้ตลอดชีพ แต่ต้องตรวจติดตามอีก 1 ปี มียาที่ต้องกินตามหมอสั่งอย่างครัด ยาตัวนี้มีส่วนผสมของยาละลายลิ่มเลือด เวลาเป็นแผลเลือดจะหยุดไหลช้ากว่าปกติ
45. จากข้อ 44 ถึงจะใช้ชีวิตแบบปกติได้ก็ต้องระวังตัวเองไม่ให้เป็นแผลขนาดใหญ่ค่ะ ถ้ามีแผลขนาดใหญ่ต้องรีบมาหาหมอทันที
46. สวนเส้นเลือดเสร็จก็นั่งรถกลับมาพักฟื้นที่ icu รพ.เดิมอีก 1 คืน
47. สาเหตุที่ต้องพักอีก 1 คืนเป็นเพราะพ่อเราอายุเกือบจะ 70 แล้วค่ะ ระบบการทำงานต่างๆ ของร่ายกายย่อมเสื่อมถอยเป็นธรรมดา โดยเฉพาะตับและไต
48. การฉีดสีเพื่อทำ mri อาจทำให้ไตวายได้ แต่โอกาสเกิดน้อยมากเพราะหมอที่รามาก็ฉีดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่เพื่อความสบายใจคุณหมอเลยให้ดูอาการอีก 1 คืนค่ะ
49. ถ้าอายุไม่เยอะ ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นว่าเล่น ก็ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ
50. หลังจากถึงรพ. พ่อเราก็เข้าไปพักฟื้นใน icu ต่อ แต่ตอนนั้นเลยเวลาเยี่ยมมาแล้วค่ะ เรากับแม่เลยต้องนั่งรอข้างนอก
51. ระหว่างนั้นเราแว่บเข้าไปเคลียร์งานที่ทำงานแป๊บนึง ขากลับก็แวะซื่อผลไม้ซื้อขนมไปกินระหว่างรอ แล้วก็ซื้อผลไม้ไปฝากพยาบาลในห้อง icu ด้วยค่ะ
52. ตอนให้ดูคุณพยาบาลงงๆ เพราะเราไม่กล้าถือเข้าไปในห้องเลยเรียกคุณพยาบาลออกมาแล้วให้นอกห้องค่ะ
53. เข้าไปเยี่ยมได้อีกทีตอนเย็น พ่อเราเพิ่งตื่นค่ะ ไม่หลงเหลืออาการที่เคยเป็นอีกเลยค่ะ
54. เราอยู่รอจนพ่อกินข้าวเสร็จถึงกลับบ้านค่ะ
55. ส่วนแม่เราลุ้นพ่อหนักไปหน่อยวันรุ่งขึ้นเลยไม่สบายค่ะ เราเลยต้องไปรับพ่อคนเดียว 😓😓
56. ไปถึงก็ไปจัดการเรื่องคชจ.ก่อนเลยค่ะ ตัวเลขที่ออกคือ 358,952 ค่ะ รูดบัตรโลดดดดดดดด...............
57. ระหว่างทางกลับบ้าน พอพ่อรู้ค่ารักษาก็มีอึ้งไปนิดนึงค่ะ แต่ไม่กล้าบ่นเพราะกลัวลูกบ่นกลับเรื่องที่เป็นอะไรแล้วไม่ยอมบอก
58. จากที่ชวนไปเที่ยวไหนไม่เคยยอมไป คราวนี้มาบอกเราให้พาแม่ไปเที่ยวตปท
59. เราเลยถือโอกาสชวนไปญี่ปุ่นทั้งครอบครัวซะเลย งวดนี้เราไม่รอฟังคำตอบค่ะ บังคับไปค่ะ แต่จะไปปีหน้าหลังครบกำหนดหยุดยาละลายลิ่มเลือด
60. พ่อเราปกติจัดว่าเป็นคนแก่ที่แข็งแรงมากคนหนึ่ง ทำสวนเป็นงานอดิเรกตั้งแต่หนุ่มๆ ทำได้เป็นวันๆ เลยนะคะ ตอนเด็กๆ ถ้าเราจะหาพ่อนี่ต้องเดินเข้าไปในสวนแล้วเงยหน้ามองหาตามต้นมะม่วงหรือต้นมะพร้าวค่ะ บุหรี่ไม่สูบ เหล้าไม่แตะ ใครจะคิดว่าอยู่ๆ จะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ
61. ดังนั้นเราอยากจะบอกว่าอย่าประมาทนะคะ เห็นแข็งแรงๆ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสป่วยค่ะ เราไม่แน่ใจนะคะแต่ก็คิดว่าการตรวจสุภาพประจำปีน่าจะมีส่วนช่วยให้รู้ตัวเร็วขึ้น (ซึ่งพ่อเราไม่ยอมไปตรวจ)
62. อยากจะฝากถึงบรรดาพ่อๆ แม่ๆ ผู้สูงอายุทั้งหลายด้วยนะคะว่าถ้าไม่สบายก็ให้รีบบอกลูกหลาน ไม่ใช่ทนๆ ไปเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง ถ้ารู้ตัว ยอมบอก และยอมเข้ารับรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากจะหายเร็วกว่าแล้วยังประหยัดคชจ.มากกว่าด้วยค่ะ
63. เคสของพ่อเราถือว่าเป็นเคสที่โชคดีมากๆ ที่พ่อทนไม่ไหวซะก่อนเลยยอมบอกแม่และยอมไปรพ.ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินไปค่ะ
64. เงินออมก็สำคัญค่ะ หลายๆ คนมักจะตั้งคำถามว่าจะออมเงินไปทำไม เนี่ยแหละค่ะเหตุผลหนึ่งที่ต้องมีเงินออมเก็บไว้
65. แน่นอนค่ะว่าสามารถใช้สิทธิ์ 30 บาทได้แต่อย่าลืมว่าโรคหลอดเลือดหัวใจตีบยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งหายเป็นปกติได้มากเท่านั้น ดังนั้นจ่ายๆ ไปค่ะ ถือว่าซื้อเวลา
66. สุดท้ายนี้เราหวังว่าเคสของพ่อเราน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ และอยากจะเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือดกันค่ะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์: ผู้สูงอายุกับหลอดเลือดหัวใจตีบ
2. วันจันทร์เช้าตอนสายๆ แม่โทรมาบอกว่าตอนนี้พ่อเราเข้า icu ให้รีบมาด่วน ตาลีตาหลีกรีบไปรพ.เลยค่ะ
3. พี่ๆ น้องๆ ที่ office แสนดี รีบไล่เราไปรพ.ทันที ต้องกราบขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
4. ตัดมาที่รพ. เรามาถึงรพ.ประมาณ 11 โมง ยังไม่ถึงเวลาเยี่ยม เลยได้นั่งเป็นเพื่อนแม่ข้างนอกค่ะ
5. แม่เล่าให้ฟังว่า พ่อเราเขามีอาการแปลกๆ มา 2-3 อาทิตย์ก่อนจะยอมไปรพ.แล้ว อาทิตย์แรกมีอาการปวดท้องตุ่ยๆ เหมือนท้องเสีย
6. พอมาอาทิตย์ที่ 2 เริ่มแน่นหน้าอก แต่เป็นเฉพาะตอนนอนราบกับพื้น แรกๆ ยังพอทนได้ แต่เริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จนนอนไม่ได้ ต้องนั่งหลับเอา
7. แม่เราเขาก็รู้สึกแปลกใจที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำทีไรก็เห็นพ่อนั่งอยู่บนเตียงทุกที พอถามว่าทำไมไม่นอน เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า พ่อก็มักจะบอกว่าไม่เป็นไร ให้แม่นอนเถอะ
8. อาการในข้อ 6-7 พ่อไม่ยอมให้แม่เล่าให้เราฟัง และไม่ยอมบอกแม่ด้วยว่านอนไม่ได้เพราะแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออก
9. อยากจะบอกว่าไม่ควรทำแบบพ่อเราเป็นอันขาดนะคะ ถ้าอึดอัด แน่นหน้าอก แบบไม่มีสาเหตุ และอาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบบอกคนในบ้านและรีบไปหาหมอค่ะ
10. ที่สำคัญถึงจะถูกกำชับว่าไม่ให้บอกลูกๆ ไม่ให้บอกใคร เคสแบบนี้ไม่ต้องทำตามค่ะ หลายหัวดีกว่าหัวเดียวค่ะ
11. ถ้าแม่เรายอมเล่าให้เราฟัง เราจะลากพ่อเราไปหาหมอทันทีที่รู้ค่ะ
12. วันอาทิตย์เราพาไปกินข้าว ทุกอย่างดูปกติดีค่ะ แต่เนื่องจากเราไปถึงร้านก่อนเวลาทำให้ต้องไปนั่งรอ เราสังเกตเห็นว่าพ่อเรานั่งตรงไหนก็หลับ แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะบรรยากาศมันชวนง่วง เราเองก็ยังง่วงเลย
13. ความมาแตกเอาตอนตี 4 ของวันจันทร์ค่ะ พ่อทนไม่ไหวเลยบอกแม่ว่าให้พาไปรพ.
14. ไปถึงรพ. เช้ามืด หมอที่เคยหาประจำยังไม่มา และพ่อเราก็ไม่ยอมเข้าห้องฉุกเฉิน จะรอหมอประจำ
15. เดือดร้อนพยาบาลต้องโทรบอกหมอค่ะ คุรหมอแกก็ดีนะคะ รีบมาเลย แต่พ่อหาย!!!!
16. มาถึงรพ.แล้วพ่อเรามีแอบไปเดินเล่นอีก 😓 พยาบาลหาตัวกันให้ควัก
17. พอคุณหมอตรวจเท่านั้นแหละ เป็นเรื่องค่ะ ถูกส่งเข้า icu ทันที
18. ตอนเจอพ่อ เห็นชัดๆ เลยค่ะว่าอาการแย่กว่าเมื่อวานมาก (ตอนที่ไปกินข้าวด้วยกัน) พ่อจะพูดยาวๆ ไม่ได้ พูดแล้วเหนื่อย มีหอบ
19. หลังจากที่คุณหมอตรวจอย่างละเอียด คุณหมอแจ้งว่า ในปอดมีน้ำ มีภาวะโลหิตจาง ความดันสูง หัวใจทำงานแค่ 40% (ประมาณ)
20. เนื่องจากหัวใจทำงานผิดปกติ คุณหมอเลยทำ [#’~¿…€…?% (ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) เพิ่ม คือจะเห็นการทำงานของหัวใจแบบชัดๆ เต้นกระดุ๊บๆ ให้เห็นแบบจะๆ เห็นแม้กระทั่งลิ้นหัวใจตอนทำงานค่ะ เป็นภาพเคลื่อนไหวนะคะ
21. ปรากฏว่าผนังหัวใจด้านขาวบนและซ้ายล่าง ไม่บีบตัว อันนี้เราเห็นด้วยตาตัวเองเลยค่ะ คือผนังด้านอื่นบีบๆ คลายๆ เป็นจังหวะ แต่เจ้าผนัง 2 ด้านนี้กินแรง ไม่ยอมบีบตัวค่ะ
22. คุณหมอวินิจฉัยว่าน่าจะมีเส้นเลือดอุดตันหรือตีบ ไม่ยังระบุไม่ไม่ได้ว่า ตีบหรือตันกี่เส้น ต้องส่งไปทำ mri ที่รามา
23. ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องคชจ. พรุ่งนี้เช้าจะส่งไปรามาเพื่อฉีดสีหาตำแหน่งและถ้ารู้ตำแหน่งแล้วจะรักษาเลยค่ะ
24. แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องคชจ. ก็จะรีบทำเรื่องส่งตัวไปให้รพ.ที่เรามีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ แต่คุณหมอรับปากไม่ได้ว่าจะได้ตรวจหาจุดที่ตันหรือตีบเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับรพ.ทางโน้นค่ะ
25. คุณหมอยังแนะนำอีกว่าเราต้องรีบตัดสินใจเพราะอาการเส้นเลือดตันหรือตีบนี้ยิ่งรักษาเร็วโอกาสในการหายเป็นปกติก็จะยิ่งเยอะค่ะ
26. พอหมอถามว่าจะเอายังไง เราตอบแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ ว่าพรุ่งนี้หมอส่งไปรามาได้เลย คชจ.ทั้งหมดเรารับผิดชอบเอง 😤😤
27. เราโชคดีที่ขี้เหนียวแต่เด็ก แม่เราก็ขี้เหนียวเล็กๆ พ่อเรานี่ไม่ต้องพูดถึง เค็มสุดๆ เลยพอจะมีเงินออมอยู่จำนวนหนึ่ง เรื่องคชจ.ในการรักษาพยาบาลเลยไม่ใช่ปัญหา
28. หลังจากนั้นคุณหมอก็เตรียมร่างกายพ่อเราให้พร้อมรับการรักษาในวันพรุ่งนี้ค่ะ โดยให้ยาเพื่อขับน้ำในปอดออกมา ให้เลือดเพิ่ม 1 ถุงเพื่อลดอาการเลือดจาง
29. ส่วนเราก็โดนตามให้ไปจ่ายค่ามัดจำที่การเงิน รูดบัตรโลดดดดดอด🤣🤣🤣
30. วันรุ่งขึ้นหมอนัดตี 5 ครึ่ง ล้อหมุน 6 ครึ่ง ได้นั่งรถพยาบาลเป็นครั้งแรกในชีวิต
31. ไปถึงรามาหมอที่โน่นไม่รอช้าค่ะ เข็นเข้าห้องเพื่อฉีดสีทำ mri ทันที
32. ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 45 นาที พบเส้นเลือดที่ตีบ 3 เส้นค่ะ เป็นเส้นเลือดฝอย 1 เส้น เป็นเส้นเลือดหลัก 2 เส้นค่ะ มีจอให้ดูรายละเอียดด้วยนะคะว่าเส้นไหนตีบ ตีบเส้นละกี่จุด
33. เส้นเลือดฝอยคุณหมอบอกไม่เป็นไร แต่เส้นเหลือดหลักนี่ต้องรักษาด่วนค่ะ
34. เส้นหลักที่ 1 ตีบ 3 จุดใกล้ๆ กัน ส่วนเส้นที่ 2 ก็ตีบ 3 จุดเช่นกันแต่จุดที่ตีบอยู่ห่างกัน
35. การรักษาสามารถเลือกได้ 2 วิธีค่ะ (เราจะเล่าวิธีรักษาแบบที่เราเข้าใจนะคะ อาจจะไม่ตรง 100%)
36. วิธีแรกคือผ่าตัดโดยตัดจุดที่ตีบออกแล้วเย็บกลับเข้าไป หรือเอาเส้นเลือดที่ขามาใส่แทน แต่ถ้าเลือกวิธีนี้จะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรเพราะต้องเตรียมตัวเยอะทั้งพ่อเรา รพ. รวมถึงเรากับแม่ แถมยังต้องพักฟื้นนานและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
37. วิธีที่ 2 คือสอดท่อเข้าไปจุดที่ตีบเพื่อใส่ขดลวดตรงจุดที่ตีบ ขวดลวดจะเข้าไปขยายส่วนที่ตีบ วิธีนี้ทำได้เลย แผลเล็กมาก ไม่เสียเลือดมากเหมือนการผ่าตัด (ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจว่าเล็กขนาดไหน) พักฟื้นไม่นาน
38. ในเบี้องต้นทางรพ.ต้นทางเขาแจ้งเรามาตั้งแต่วันที่เราไปวางมัดจำแล้วค่ะว่าวิธีสวนมีคชจ.อยู่ที่ 150k - 300k ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่ตีบ
39. ส่วนวิธีผ่าตัดอันนี้เราไม่ได้ถามเรื่องคชจ.มาค่ะ
40. ไม่ต้องคิดมากค่ะ สวนเลยค่ะหมอ!!!!!
41. คุณหมอใช้เวลาเตรียมตัว + สวนเส้นเลือด + ใส่ขดลวด ประมาณ 15-20 นาทีค่ะ 😳😳 คือรวดเร็วมาก
42. จากนั้นคุณหมอออกมาตามให้เรากับแม่เข้าไปดูว่าก่อนและหลังใส่ขดลวดเป็นยังไง พอเข้าไปเราก็เห็นพ่อเรานอนทำหน้างงๆ ว่าเราเข้ามาทำไม คือพ่อไม่รู้ว่าทำเสร็จแล้ว 😂😂
43. ในจอก็เห็นว่าไม่มีจุดที่ตีบแบบตอนแรกแล้ว ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่าแต่สีหน้าพ่อเราดูแข็งแรงขึ้นกว่าก่อนสวนค่ะ พูดไปยาวขึ้น ตอบคำถามหมอแบบไม่ตะกุกตะกัก ไม่มีอาการหอบเป็นพักๆ ระหว่างพูดค่ะ
44. คุณหมอที่รามาแจ้งว่าการรักษาได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ขดลวดที่ใส่สามารถอยู่ได้ตลอดชีพ แต่ต้องตรวจติดตามอีก 1 ปี มียาที่ต้องกินตามหมอสั่งอย่างครัด ยาตัวนี้มีส่วนผสมของยาละลายลิ่มเลือด เวลาเป็นแผลเลือดจะหยุดไหลช้ากว่าปกติ
45. จากข้อ 44 ถึงจะใช้ชีวิตแบบปกติได้ก็ต้องระวังตัวเองไม่ให้เป็นแผลขนาดใหญ่ค่ะ ถ้ามีแผลขนาดใหญ่ต้องรีบมาหาหมอทันที
46. สวนเส้นเลือดเสร็จก็นั่งรถกลับมาพักฟื้นที่ icu รพ.เดิมอีก 1 คืน
47. สาเหตุที่ต้องพักอีก 1 คืนเป็นเพราะพ่อเราอายุเกือบจะ 70 แล้วค่ะ ระบบการทำงานต่างๆ ของร่ายกายย่อมเสื่อมถอยเป็นธรรมดา โดยเฉพาะตับและไต
48. การฉีดสีเพื่อทำ mri อาจทำให้ไตวายได้ แต่โอกาสเกิดน้อยมากเพราะหมอที่รามาก็ฉีดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่เพื่อความสบายใจคุณหมอเลยให้ดูอาการอีก 1 คืนค่ะ
49. ถ้าอายุไม่เยอะ ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นว่าเล่น ก็ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ
50. หลังจากถึงรพ. พ่อเราก็เข้าไปพักฟื้นใน icu ต่อ แต่ตอนนั้นเลยเวลาเยี่ยมมาแล้วค่ะ เรากับแม่เลยต้องนั่งรอข้างนอก
51. ระหว่างนั้นเราแว่บเข้าไปเคลียร์งานที่ทำงานแป๊บนึง ขากลับก็แวะซื่อผลไม้ซื้อขนมไปกินระหว่างรอ แล้วก็ซื้อผลไม้ไปฝากพยาบาลในห้อง icu ด้วยค่ะ
52. ตอนให้ดูคุณพยาบาลงงๆ เพราะเราไม่กล้าถือเข้าไปในห้องเลยเรียกคุณพยาบาลออกมาแล้วให้นอกห้องค่ะ
53. เข้าไปเยี่ยมได้อีกทีตอนเย็น พ่อเราเพิ่งตื่นค่ะ ไม่หลงเหลืออาการที่เคยเป็นอีกเลยค่ะ
54. เราอยู่รอจนพ่อกินข้าวเสร็จถึงกลับบ้านค่ะ
55. ส่วนแม่เราลุ้นพ่อหนักไปหน่อยวันรุ่งขึ้นเลยไม่สบายค่ะ เราเลยต้องไปรับพ่อคนเดียว 😓😓
56. ไปถึงก็ไปจัดการเรื่องคชจ.ก่อนเลยค่ะ ตัวเลขที่ออกคือ 358,952 ค่ะ รูดบัตรโลดดดดดดดด...............
57. ระหว่างทางกลับบ้าน พอพ่อรู้ค่ารักษาก็มีอึ้งไปนิดนึงค่ะ แต่ไม่กล้าบ่นเพราะกลัวลูกบ่นกลับเรื่องที่เป็นอะไรแล้วไม่ยอมบอก
58. จากที่ชวนไปเที่ยวไหนไม่เคยยอมไป คราวนี้มาบอกเราให้พาแม่ไปเที่ยวตปท
59. เราเลยถือโอกาสชวนไปญี่ปุ่นทั้งครอบครัวซะเลย งวดนี้เราไม่รอฟังคำตอบค่ะ บังคับไปค่ะ แต่จะไปปีหน้าหลังครบกำหนดหยุดยาละลายลิ่มเลือด
60. พ่อเราปกติจัดว่าเป็นคนแก่ที่แข็งแรงมากคนหนึ่ง ทำสวนเป็นงานอดิเรกตั้งแต่หนุ่มๆ ทำได้เป็นวันๆ เลยนะคะ ตอนเด็กๆ ถ้าเราจะหาพ่อนี่ต้องเดินเข้าไปในสวนแล้วเงยหน้ามองหาตามต้นมะม่วงหรือต้นมะพร้าวค่ะ บุหรี่ไม่สูบ เหล้าไม่แตะ ใครจะคิดว่าอยู่ๆ จะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ
61. ดังนั้นเราอยากจะบอกว่าอย่าประมาทนะคะ เห็นแข็งแรงๆ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสป่วยค่ะ เราไม่แน่ใจนะคะแต่ก็คิดว่าการตรวจสุภาพประจำปีน่าจะมีส่วนช่วยให้รู้ตัวเร็วขึ้น (ซึ่งพ่อเราไม่ยอมไปตรวจ)
62. อยากจะฝากถึงบรรดาพ่อๆ แม่ๆ ผู้สูงอายุทั้งหลายด้วยนะคะว่าถ้าไม่สบายก็ให้รีบบอกลูกหลาน ไม่ใช่ทนๆ ไปเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง ถ้ารู้ตัว ยอมบอก และยอมเข้ารับรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากจะหายเร็วกว่าแล้วยังประหยัดคชจ.มากกว่าด้วยค่ะ
63. เคสของพ่อเราถือว่าเป็นเคสที่โชคดีมากๆ ที่พ่อทนไม่ไหวซะก่อนเลยยอมบอกแม่และยอมไปรพ.ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินไปค่ะ
64. เงินออมก็สำคัญค่ะ หลายๆ คนมักจะตั้งคำถามว่าจะออมเงินไปทำไม เนี่ยแหละค่ะเหตุผลหนึ่งที่ต้องมีเงินออมเก็บไว้
65. แน่นอนค่ะว่าสามารถใช้สิทธิ์ 30 บาทได้แต่อย่าลืมว่าโรคหลอดเลือดหัวใจตีบยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งหายเป็นปกติได้มากเท่านั้น ดังนั้นจ่ายๆ ไปค่ะ ถือว่าซื้อเวลา
66. สุดท้ายนี้เราหวังว่าเคสของพ่อเราน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ และอยากจะเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือดกันค่ะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ
ขอบคุณค่ะ