ตอน... กว่าจะได้เป็น ทริป "เกาะกูด"
"ไปเที่ยวเกาะกูด... กัน" เป็นประโยคสั้น ๆ จากไลน์ของเค้า ชวนไปเที่ยว (อีกครั้ง) หลังจากทริปหัวหินล่มสลาย และความเชื่อมั่นในการตอบรับมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์
"อืม ไปสิ....... พักที่ไหนดี" และความใจง่ายของผม ก็พิมพ์ตอบกลับไป
ย้อนหลังกลับไปเมื่อสักปลายปี 2016 หลังจากคุยไลน์มาสักพัก เราสองคนนัดพบกันครั้งแรก แต่ไม่ใช่เฉพาะเราหรอกน่ะ แต่เป็นการนัดเจอกันครั้งแรก แบบเราสอง สามคน
จังหวะนี้ทำให้คิดถึงเพลง "อ้ายเป็นคนพามา เขาเป็นคนพาไป สมน้ำหน้าหัวใจเจ้าของคัดเด้"
ก็ทำใจไปสิน่ะ
ผมมาตัดสินใจเลิกคบ เลิกคุย จริงจัง เมื่อครั้งที่เค้า ไปแซวคนอื่น แนวจีบ ๆ ทีเล่น ทีจริง ก็ผมหวง หวงแบบ "ไม่มีสถานะ" อารมณ์นี้ต้อง เพลง คนไม่มีสิทธิ์ ของพี่ฮิวโก้ แต่คำบางคำที่เค้าพูด มันก้องในหัวผม "จะดูแลพี่ เพราะพี่เป็นคนเดียวที่ดูแลผม" เวลาจะโกรธ จะเกลียด คำนี้มักลอยขึ้นมาเสมอ เบื่อคำนี้มาก
แต่ผมก็ตัดสินใจไม่สานต่อ ไม่ทำลายหัวใจ ของคนไม่มีสถานะอย่างผมดีกว่า
........
ผ่านมาเกือบปี
ผมก็ไปกดอ่านไลน์อีกครั้ง ด้วยใจที่คิดว่า เออ ผมคงไม่อ่อนไหวขนาดนั้นแล้วมั๊ง
ผมไม่เคยไว้ใน เค้าเลยเวลานัดอะไร หรือชวนไปไหน เพราะ มันเหมือนว่าเค้าพูดไปงั้น ๆ พอถึงเวลานัดจริง ๆ เค้าหาย ติดต่อไม่ได้ ติดต่อได้ก็บอกปัด ๆ ไป เช่น นัดกินข้าวเย็น มาโน้น สาม สี่ทุ่ม (ถ้านัดแล้วมาน่ะ ... ไม่รวม นัดแล้วไม่มา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอย่างหลังมากกว่า) นัดบอกจะพาไปดูหนัง นัดห้าเรื่อง ดูด้วยกันเรื่องเดียว
ทริป "หัวหิน" นัดเวลา กันไว้เป็นเดือน ผมจองที่พัก จองเครื่อง เรียบร้อย พอใกล้เวลา ก็เงียบ ไม่เคยพูดถึงเรื่องการเดินทาง ทริปล่ม และเสียเงิน ไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเค้าทำไรลงไป ทุกอย่างดูเฉย เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ส่วนผมเหรอ คิดว่า ช่างมันเถอะ และนึกถึงประโยคนั้น "จะดูแลพี่..........." เฮยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มาปัจจุบัน
หลังจากเค้าส่งที่พักมา ผมก็เชคตารางงาน และกำหนดวัน 30 กันยายน 2562-4 ตุลาคม 2562
ทุกอย่างกำหนดไป ทำไปแบบ มีความเชื่อมั่นว่า คงจะจริงใจกับผมสักครั้งน่ะ
ตอน วันเริ่มเดินทาง
ทริป "เกาะกูด"
เราจองที่พักที่ เกาะกูด รีสอร์ท ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2562
วันที่ 30 กันยายน เราไปนอนที่ รร. นันทา เอกมัย ตรงข้ามกับ บขส. เอกมัย เพราะว่าเราจะได้สะดวกเดินทางไปตราดด้วยรถตู้ ซึ่งออกเวลา 5.00 น. ค่ารถคนละ 270 บาท พนักงานขายบอกว่าถ้าจะไปให้ทันเรือเฟอรี ต้องไปเที่ยว 5.00 และ 6.00 น. เท่านั้น
วันที่ 1 ตุลาคม รถตู้ออกตรงเวลา ฝนตกหนักมากที่ กทม. เราไปถึง บขส. ตราด ประมาณ 10.15 น. เราเหมารถ คนละ 100 บาท ไปที่บุญศิริ เพื่อซื้อตั๋วเรือเฟอรี่ รถเหมานี่ขับซิ่งมาก แน่นอนตอนนั้นรีบ เพราะเรือจะออกตอน 10.45 น. ใช้เวลาแปปนึง มาถึงที่ขายตั๋ว ตั๋วคนละ 500 บาท ซื้อ ไป และ กลับ ไว้เลย สะดวก
ที่จริงระหว่างเดินทางนี่ เรามีเพื่อนร่วมชะตากรรม ความซิ่งของป้าขับรถเหมา เป็น ผู้หญิงสองคน เดินทางพร้อมกันมาตั้งแต่ รถตู้ออกจากเอกมัยล่ะ นอกจากเค้าจะเดินทางร่วมกันกะเรา เค้ายังพักที่เดียวกันกะเราด้วย ตอนนี้ผมก็อุ่นใจน่ะ คิดว่า ถ้าเค้าเท ผมยังงัยผมคงพอหาเพื่อนได้หว่ะ แต่ระหว่างทางเราก็คุยกันตามอัธยาศัย ผมก็เอากล้องมาถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ถ่ายตัวเองบ้าง วิวบ้าง ถ่ายเค้าบ้าง
"ให้ช่วยถ่ายรูปคู่ให้มั๊ยค่ะ" ผมยิ้ม แบบดีใจ กำลังจะยื่นมือถือให้
"ไม่เป็นไร ครับ.... เรามีรูปคู่เยอะแล้ว" หดหู่ ในบัดดล และคำถามในใจว่า "ตอนไหน หว่ะ ???"
เราไปถึงท่าเรือ ก่อนเวลาเรือออก แปปเดียว เรือมี สามชั้น ชั้นแรก ห้องปิดมิด ชั้นสองเปิดโล่ง ๆ ชั้นที่สาม โล่งมาก หลังคาไม่มี ถ้าอยากสัมผัสสามลม แสงแดด ชั้นสามนี่เหมาะเลย (โคตรร้อน และลมแรงมาก) เราเลือกนั่งชั้นสอง นั่งไป ก็สงสัยไป ทำไมคนน้อยจัง

เรามาถึงอ่าวสลัด เป็นท่าเรือบนเกาะกูด มีพระพุทธรูปสีทองอร่ามเรือง หันหน้าทางทะเล พอเรือเทียบท่า ผู้คนมาจากไหน เยอะแยะไปหมด (พวกนั้นเค้าไปนั่งตรงไหนกันมา)
เราเดินขึ้นไปด้านบน จะมีรถสองแถวมาบริการ ไปส่งเราถึงที่รีสอร์ทที่พัก ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม

บนรถสองแถว นอกจากเรา สี่คน แล้วยังมีคนจีนมาเพิ่มอีก พักคนละรีสอร์ท แต่ไม่ไกลกันมากนัก ทางถนนหรอ โอ้วโห... ขึ้นนนนนน แล้วก็ ลงงงงงงงง โค้งซ้าย โค้งขวา มีให้เสียวท้องน้อย ๆ ทุกรูปแบบ
ในที่สุดมาถึงเกาะกูด รีสอร์ท เกือบเที่ยง โซนที่เราจองมาเป็น garden zone จองผ่าน Agoda 3 คืน (1-4 ต.ค.) ก็ราว ๆ 4200 บาท ตัวเค้าท์เตอร์จะอยู่ด้านติดทะเล ยังจากเราติดต่ออะไร ๆ เสร็จก็เดินไปห้อง ทางเดิน จัดเป็นสวน ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ น้อย แบ่งเป็น seeview และ garden view ตัว garden view ก็แบ่งออกเป็น อีกหลายโซน ของเรา ได้ โซน J อยู่บนสุด ต้องเดินผ่านป่า เข้าไป เป็นโซนสวนจริง ทางเดินเป็นสะพานไม้ ต้นไม้ใหญ่ไม่มี บ้านแยกเป็นหลัง ๆ ทำด้วยไม้ หลังคามุงด้วยไม้ไผ่ด้านบนสุด มีระเบียง มีโต๊ะตัวใหญ่ มีเก้าอี้ มีราวตากผ้า มีเปลไว้ให้นอนเล่น รอบ ๆ บ้าน ปลูกต้นไม้นานาชนิดล้อมรอบ สวยงาม ร่มรื่น
ด้านในกว้างขวาง ของใช้พื้นฐานมีครบ ทีวี ตู้เย็น แอร์ พัดลม ตู้เย้น เตียงเดียวขนาดใหญ่ มุ้ง ไดร์เป่าผม ห้องน้ำทำกว้างมากกกกกกก หลังคาครึ่งนึงโปร่งแสง มันก็สวยน่ะ แต่กลางวัน มันจะร้อนมาก ในห้องน้ำมีฝักบัวทั้งแบบ rain และ แบบ shower ทั่วไป ปลูกเฟิร์น ไว้ในห้องน้ำ สร้างบรรยากาศแบบธรรมชาติ ๆ มีราวตากผ้าติดผนังยาววววววววว

หลังจากเรา วางข้าวของเสร็จ ก็ออกไปกินข้าวกัน ที่ร้านอาหารของรีสอร์ท ซึ่งก็ติดทะเลเลย

กินข้าวเสร็จ เราก็กลับมานอนพัก รอไปเล่นน้ำตอนเย็น ด้วยกัน
คิดถึง.....เกาะกูด 365 วัน มี 5 วัน ที่เป็นของเรา ตอนที่ 1 เริ่ม ทริป
"ไปเที่ยวเกาะกูด... กัน" เป็นประโยคสั้น ๆ จากไลน์ของเค้า ชวนไปเที่ยว (อีกครั้ง) หลังจากทริปหัวหินล่มสลาย และความเชื่อมั่นในการตอบรับมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์
"อืม ไปสิ....... พักที่ไหนดี" และความใจง่ายของผม ก็พิมพ์ตอบกลับไป
ย้อนหลังกลับไปเมื่อสักปลายปี 2016 หลังจากคุยไลน์มาสักพัก เราสองคนนัดพบกันครั้งแรก แต่ไม่ใช่เฉพาะเราหรอกน่ะ แต่เป็นการนัดเจอกันครั้งแรก แบบเราสอง สามคน
จังหวะนี้ทำให้คิดถึงเพลง "อ้ายเป็นคนพามา เขาเป็นคนพาไป สมน้ำหน้าหัวใจเจ้าของคัดเด้"
ก็ทำใจไปสิน่ะ
ผมมาตัดสินใจเลิกคบ เลิกคุย จริงจัง เมื่อครั้งที่เค้า ไปแซวคนอื่น แนวจีบ ๆ ทีเล่น ทีจริง ก็ผมหวง หวงแบบ "ไม่มีสถานะ" อารมณ์นี้ต้อง เพลง คนไม่มีสิทธิ์ ของพี่ฮิวโก้ แต่คำบางคำที่เค้าพูด มันก้องในหัวผม "จะดูแลพี่ เพราะพี่เป็นคนเดียวที่ดูแลผม" เวลาจะโกรธ จะเกลียด คำนี้มักลอยขึ้นมาเสมอ เบื่อคำนี้มาก
แต่ผมก็ตัดสินใจไม่สานต่อ ไม่ทำลายหัวใจ ของคนไม่มีสถานะอย่างผมดีกว่า
........
ผ่านมาเกือบปี
ผมก็ไปกดอ่านไลน์อีกครั้ง ด้วยใจที่คิดว่า เออ ผมคงไม่อ่อนไหวขนาดนั้นแล้วมั๊ง
ผมไม่เคยไว้ใน เค้าเลยเวลานัดอะไร หรือชวนไปไหน เพราะ มันเหมือนว่าเค้าพูดไปงั้น ๆ พอถึงเวลานัดจริง ๆ เค้าหาย ติดต่อไม่ได้ ติดต่อได้ก็บอกปัด ๆ ไป เช่น นัดกินข้าวเย็น มาโน้น สาม สี่ทุ่ม (ถ้านัดแล้วมาน่ะ ... ไม่รวม นัดแล้วไม่มา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอย่างหลังมากกว่า) นัดบอกจะพาไปดูหนัง นัดห้าเรื่อง ดูด้วยกันเรื่องเดียว
ทริป "หัวหิน" นัดเวลา กันไว้เป็นเดือน ผมจองที่พัก จองเครื่อง เรียบร้อย พอใกล้เวลา ก็เงียบ ไม่เคยพูดถึงเรื่องการเดินทาง ทริปล่ม และเสียเงิน ไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเค้าทำไรลงไป ทุกอย่างดูเฉย เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ส่วนผมเหรอ คิดว่า ช่างมันเถอะ และนึกถึงประโยคนั้น "จะดูแลพี่..........." เฮยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มาปัจจุบัน
หลังจากเค้าส่งที่พักมา ผมก็เชคตารางงาน และกำหนดวัน 30 กันยายน 2562-4 ตุลาคม 2562
ทุกอย่างกำหนดไป ทำไปแบบ มีความเชื่อมั่นว่า คงจะจริงใจกับผมสักครั้งน่ะ
ตอน วันเริ่มเดินทาง
ทริป "เกาะกูด"
เราจองที่พักที่ เกาะกูด รีสอร์ท ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2562
วันที่ 30 กันยายน เราไปนอนที่ รร. นันทา เอกมัย ตรงข้ามกับ บขส. เอกมัย เพราะว่าเราจะได้สะดวกเดินทางไปตราดด้วยรถตู้ ซึ่งออกเวลา 5.00 น. ค่ารถคนละ 270 บาท พนักงานขายบอกว่าถ้าจะไปให้ทันเรือเฟอรี ต้องไปเที่ยว 5.00 และ 6.00 น. เท่านั้น
วันที่ 1 ตุลาคม รถตู้ออกตรงเวลา ฝนตกหนักมากที่ กทม. เราไปถึง บขส. ตราด ประมาณ 10.15 น. เราเหมารถ คนละ 100 บาท ไปที่บุญศิริ เพื่อซื้อตั๋วเรือเฟอรี่ รถเหมานี่ขับซิ่งมาก แน่นอนตอนนั้นรีบ เพราะเรือจะออกตอน 10.45 น. ใช้เวลาแปปนึง มาถึงที่ขายตั๋ว ตั๋วคนละ 500 บาท ซื้อ ไป และ กลับ ไว้เลย สะดวก
ที่จริงระหว่างเดินทางนี่ เรามีเพื่อนร่วมชะตากรรม ความซิ่งของป้าขับรถเหมา เป็น ผู้หญิงสองคน เดินทางพร้อมกันมาตั้งแต่ รถตู้ออกจากเอกมัยล่ะ นอกจากเค้าจะเดินทางร่วมกันกะเรา เค้ายังพักที่เดียวกันกะเราด้วย ตอนนี้ผมก็อุ่นใจน่ะ คิดว่า ถ้าเค้าเท ผมยังงัยผมคงพอหาเพื่อนได้หว่ะ แต่ระหว่างทางเราก็คุยกันตามอัธยาศัย ผมก็เอากล้องมาถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ถ่ายตัวเองบ้าง วิวบ้าง ถ่ายเค้าบ้าง
"ให้ช่วยถ่ายรูปคู่ให้มั๊ยค่ะ" ผมยิ้ม แบบดีใจ กำลังจะยื่นมือถือให้
"ไม่เป็นไร ครับ.... เรามีรูปคู่เยอะแล้ว" หดหู่ ในบัดดล และคำถามในใจว่า "ตอนไหน หว่ะ ???"
เราไปถึงท่าเรือ ก่อนเวลาเรือออก แปปเดียว เรือมี สามชั้น ชั้นแรก ห้องปิดมิด ชั้นสองเปิดโล่ง ๆ ชั้นที่สาม โล่งมาก หลังคาไม่มี ถ้าอยากสัมผัสสามลม แสงแดด ชั้นสามนี่เหมาะเลย (โคตรร้อน และลมแรงมาก) เราเลือกนั่งชั้นสอง นั่งไป ก็สงสัยไป ทำไมคนน้อยจัง
เรามาถึงอ่าวสลัด เป็นท่าเรือบนเกาะกูด มีพระพุทธรูปสีทองอร่ามเรือง หันหน้าทางทะเล พอเรือเทียบท่า ผู้คนมาจากไหน เยอะแยะไปหมด (พวกนั้นเค้าไปนั่งตรงไหนกันมา)
เราเดินขึ้นไปด้านบน จะมีรถสองแถวมาบริการ ไปส่งเราถึงที่รีสอร์ทที่พัก ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
บนรถสองแถว นอกจากเรา สี่คน แล้วยังมีคนจีนมาเพิ่มอีก พักคนละรีสอร์ท แต่ไม่ไกลกันมากนัก ทางถนนหรอ โอ้วโห... ขึ้นนนนนน แล้วก็ ลงงงงงงงง โค้งซ้าย โค้งขวา มีให้เสียวท้องน้อย ๆ ทุกรูปแบบ
ในที่สุดมาถึงเกาะกูด รีสอร์ท เกือบเที่ยง โซนที่เราจองมาเป็น garden zone จองผ่าน Agoda 3 คืน (1-4 ต.ค.) ก็ราว ๆ 4200 บาท ตัวเค้าท์เตอร์จะอยู่ด้านติดทะเล ยังจากเราติดต่ออะไร ๆ เสร็จก็เดินไปห้อง ทางเดิน จัดเป็นสวน ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ น้อย แบ่งเป็น seeview และ garden view ตัว garden view ก็แบ่งออกเป็น อีกหลายโซน ของเรา ได้ โซน J อยู่บนสุด ต้องเดินผ่านป่า เข้าไป เป็นโซนสวนจริง ทางเดินเป็นสะพานไม้ ต้นไม้ใหญ่ไม่มี บ้านแยกเป็นหลัง ๆ ทำด้วยไม้ หลังคามุงด้วยไม้ไผ่ด้านบนสุด มีระเบียง มีโต๊ะตัวใหญ่ มีเก้าอี้ มีราวตากผ้า มีเปลไว้ให้นอนเล่น รอบ ๆ บ้าน ปลูกต้นไม้นานาชนิดล้อมรอบ สวยงาม ร่มรื่น
ด้านในกว้างขวาง ของใช้พื้นฐานมีครบ ทีวี ตู้เย็น แอร์ พัดลม ตู้เย้น เตียงเดียวขนาดใหญ่ มุ้ง ไดร์เป่าผม ห้องน้ำทำกว้างมากกกกกกก หลังคาครึ่งนึงโปร่งแสง มันก็สวยน่ะ แต่กลางวัน มันจะร้อนมาก ในห้องน้ำมีฝักบัวทั้งแบบ rain และ แบบ shower ทั่วไป ปลูกเฟิร์น ไว้ในห้องน้ำ สร้างบรรยากาศแบบธรรมชาติ ๆ มีราวตากผ้าติดผนังยาววววววววว
หลังจากเรา วางข้าวของเสร็จ ก็ออกไปกินข้าวกัน ที่ร้านอาหารของรีสอร์ท ซึ่งก็ติดทะเลเลย
กินข้าวเสร็จ เราก็กลับมานอนพัก รอไปเล่นน้ำตอนเย็น ด้วยกัน