Hoi An - Da Nang [3 Days 2 Nights]
On Monday 30 September - Wednesday 2 October 2019
"ฮัลโลลลล เอาจริงๆไหม ตื่นเต้นมากกก นี่เป็นกระทู้แรกที่เราจะมารีวิวการท่องเที่ยวในเวียดนามครั้งแรกของเราเอง ไม่เคยเขียนรีวิวมาก่อน
กระทู้นี้ก็อาจจะมีความงงๆบ้างเล็กน้อย 5555 แต่ก็พยายามจะเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจได้มากที่สุด"
...................................
ทริปนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อปีก่อนเจ้าของกระทู้เคยไปปีนัง ประเทศมาเลเซียกับเพื่อน นั่นเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก
ก็มีความตื่นเต้น และกลัวหน่อยหน่อยๆ เกี่ยวกับภาษา เนื่องจากเจ้าของกระทู้ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ สามารถพูดได้บ้างเล็กน้อย
แต่พอไปแล้วก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร 55555 ภาษาอังกฤษคนที่นั่นพูดได้ เค้าจึงเข้าใจเราแม้เราจะไม่เก่งอังกฤษ
ทริปนี้จึงเกิดขึ้น! เราเลือกจะไปฮอยอัน-ดานัง เนื่องจากให้ความรู้สึกไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ๆ อย่างฮานอย และโฮจีมินห์
มาเถอะ ..... อย่ารอช้า มาดูว่าเราใช้ชีวิตอย่างไงในเวียดนามคนเดียว
....................................
ปล. ขอบอกก่อนะคะกระทู้นี้เราเน้นเที่ยวแบบชิลๆ ตามใจฉัน และงบที่มี 555 เน้นเดินเล่นและกินเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีแพลนว่าจะไปที่ไหนบ้าง
เรียกได้ว่าแพลนแบบตามใจฉัน วันนั้นอยากไปไหนก็ไปเลย 5555 โดยมีค่าใช้จ่ายก็อยู่ประมาณ 6,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับ
**เรทเงินวันที่แลกคือ 0.00135 VND**
คุณสมบัติของเจ้าของกระทู้ในการไปเที่ยวคนเดียว [มีความกล้า, รักในการท่องเที่ยวคนเดียว, ภาษาอังกฤษระดับปานกลาง,โลกส่วนตัวสูง55]
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป ประมาณ 6,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าอาหาร และค่ารถแล้ว
ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางหลัก คือ Grab Car, Grab bike, Shuttle bus และเดิน 55555
สำหรับเงินเราแลกจากไทยไปเลย 1,900,000 VND (ประมาณ 2,600 บาท)
DAY 1 IN HOI AN
เจ้าของกระทู้เดินทางมาถึงสนามบินตอนเช้า เนื่องจากไฟลท์เครื่องออก 7.25 น. จึงมาถึงสนามบินประมาณตี 4.45 น. โดยมาพักแถวๆสนามบินก่อน 1 คืน เพราะกลัวตื่นสายจะตกเครื่องได้ 555 ดังนั้นวันเดินทางแต่งตัวเสร็จ เช็คเอาท์จากที่พักก็เดินข้ามมาสนามบินเลย คนที่จะบินไปต่างประเทศต้องไปที่ terminal 1 ชั้น 3 สำหรับเราไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศด้วยเครื่องบินมาก่อน ก็ถามๆเจ้าหน้าที่ข้างหน้าว่าไปทางไหน จะบอกว่าเราเดินวนอยู่ประมาณ 20 นาที 5555 เดินหลงๆ อยู่ที่สนามบินนั่นแหละ
พอมาถึงชั้น 3 ของอาคาร บนนั้นจะมีเคาท์เตอร์สายการบินอยู่ให้เช็คอินและโหลดกระเป๋าเดินทาง แต่เราไม่กระเป๋าให้โหลด และเช็คอินออนไลน์มาแล้วก็ไม่ต้องไปที่เคาท์เตอร์ เดินไปด่านตรวจคนเข้าเมืองเลย ซึ่งถ้าเป็นคนไทยไม่ต้องไปต่อแถวตรวจพวกพาสปอร์ต แต่ใช้เครื่องอัตโนมัติของสนามบินได้เลย เราเองก็ไม่เคยใช้มาก่อน แต่ไม่ต้องกังวลมีเจ้าหน้าที่คอยสอนใช้และช่วยเหลืออยู่ตรงนั้น และแล้วเราก็ผ่านไป ฟิ้วววว ..... พอผ่านเข้ามาแล้ว เรามานั่งรอขึ้นเครื่องที่ Gate แบบสวยๆ ซึ่งตามกำหนดเวลาพนักงานจะเรียกขึ้นเครื่องตอน 6.45 น. และเครื่องออกประมาณ 7.25 น.
*** มองวิวจากด้านบนลงไปตอนใกล้ถึงสนามบิน ประเทศเวียดนามมีแต่สีเขียวของป่าไม้และภูเขาล้อมรอบเต็มไปหมด***
เราเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติดานังประมาณ 09.05 น. พอดีเลย เครื่องไม่ดีเลย์ตรงเวลามาก เมื่อมาถึงก็เดินตามเหล่าฝูงชนไป เดินทางคนเดียวเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม อิอิ เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับด่าน ตม. ของที่นี่ก่อน เราก็เตรียมพาสปอร์ตกับ boardingpass ไว้ยื่น ตรงนี้ทุกคนต้องสังเกตดีๆ คือมันจะมีหลายช่อง สนามบินเค้าจะมีป้ายบอกไว้ว่าช่องไหนสำหรับคนเวียดนาม และช่องไหนสำหรับคนต่างชาติ เราต้องไปให้ถูกช่อง ถ้าคนไทยก็ไปที่ช่องที่เขียนไว้ว่าสำหรับต่างชาติ (foreigner) .... ตรงนี้แหละพีคมากกก คือเราก็ต่อแถวแบบปกติเหมือนคนอื่นๆ สักพักเจ้าหน้าที่ ตม. ก็หันมาเรียกเรา ประเด็นคือเรียกเราคนเดียวด้วยจ้าาา อีนี่งงๆ ทำไมเรียกตูคนเดียวว้า ก็เดินไปพร้อมส่งยิ้มให้ด้วย อื้มม นางก็ไม่ยิ้มจ้า 5555 เราก็แบบ โอเค พอตรวจเสร็จก็เดินออกมาแบบงงๆ อ้าวทำไมไวจัง 5555 เสร็จแล้วก็ไปตรวจกระเป๋าต่อและสแกนร่างกาย คราวนี้แหละเคว้างคว้างละจ้าาา
ออกมาจากอาคารสนามบิน เราก็มานั่งทบทวนว่าเราต้องทำอะไรต่อไป สิ่งแรกคือซื้อซิมจ้าาาา แต่ไม่เป็นปัญหาเราซื้อผ่าน app klook มาแล้ว ราคา 160 บาท 7 GB ใช้ได้ 30 วัน แนะนำเลยสำหรับใครที่มาที่นี่ให้ซื้อผ่าน app klook มาก่อนเลย สะดวกดี ตัดเงินผ่านบัตรเดบิต มาถึงก็ส่ง Voucher ในแอปยื่นให้กับร้านเลย ทางนั้นจะติ๊ดบาร์โค้ดและก็เอาซิมให้เรา เราก็แกะซิมใส่เครื่องก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ปล. เตรียมเข็มจิ้มซิมไปเองจะดีกว่า เพราะขากลับก็จะได้เปลี่ยนซิมเป็นของเราได้เลย สำหรับพิกัดของร้านนี้ทาง klook จะส่งรูปร้านมาให้ ซึ่งหาง่ายมากๆ พอเราเดินออกมาจากประตูสนามบิน ให้เดินเลี้ยวไปทางซ้ายของอาคาร เดี๋ยวก็เจอร้านี้ เราจำชื่อร้านไม่ได้5555
ได้ซิมแล้วเราก็เดินย้อนไปทางขวามือของอาคาร เรานัดกับคนขับรถที่จะมารับเราจากสนามบินไปส่งที่ฮอยอันไว้ โดยการจองรถก็เช่นเดิม จองผ่าน app klook 5555 ได้มาในรา 118 บาท เป็นแบบ Sharing car ซึ่งเรานัดไว้เวลา 10.30 น. แต่พอเราเดินไปถึง อ้าวเฮ้ยยยย คนขับรถมารอเราอยู่แล้ว ถามว่ารู้ได้ไง ก็ถือป้ายชื่อเราเด่นหลา 555 ตกใจมากเพราะมันเพิ่ง 09.30 เองนะ ทำไมมาไว เราก็เดินไปแบบเธอๆนี่ชื่อเราเอง คนขับก็ถามว่ามีเราคนเดียวเหรอ เราก็บอกคนเดียว คนขับพาเดินไปที่รถ เป็น Shuttle bus ซึ่งทั้งคันมีเราคนเดียว Priavate ไปอีกกกกกกก ชอบมาก ชมวิวข้างทางแบบสบายๆ นั่งแบบสวยๆไปอีก อ้อแล้วคนที่นี่จะขับรถแบบช้ามาก เพราะกฎหมายให้ขับได้ไม่เกิน 60 กม/ชม. ก็โอเคนะไม่ได้ช้าอะไรมากมาย แต่เสียงแตร์เนี่ยสุดๆ 5555 บีบแตร์กันตลอดเส้นทาง เพราะไม่ค่อยมีสัญญาณไฟ ดังนั้นคนที่นี่ถ้าจะเลี้ยวรถ หรือเปลี่ยนเลน เราสังเกตว่าเค้าจะบีบแตร์ส่งสัญญาณให้รถคันอื่นๆรู้ก่อน ซึ่งเราว่าการขับขี่รถบนถนนที่นี่ปลอดภัยมากๆ
***นี่คือพี่คนขับรถของเรา จองจาก klook สุภาพมากๆ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ดีมากๆเลย ส่งจนถึงที่พัก***
พี่คนขับมาส่งถึงหน้าประตูที่พักเลย เราก็ Say Goodbye พี่คนขับ เราพักที่ Backhome Hostel & Bar ห้องรวมหญิงแบบหกเตียง ราคาคืนละ 196 บาท รวมอาหารเช้า เวลาเช็คอินก็ประมาณ บ่ายสอง แต่ว่าวันนั้นเรามาถึงก่อนเวลา เราเลยไปฝากกระเป๋าไว้ก่อน
*** ที่พักเราก็จะประมาณนี้ มีผ้าเช็ตตัว แต่ไม่มีล็อคเกอร์ให้นะ***
ตอนนั้นประมาณ 10 โมงกว่าๆ เราตัดสินใจเดินไปเที่ยวใน Hoi An ancheint town ก่อนเลย เพราะมีแหล่งเที่ยวเยอะแยะมากในนั้น เดินมาเรื่อยๆ จากที่พักของเราไม่ไกลเลย ประมาณ 10 นาทีก็ถึง แต่เวลาข้ามถนนที่นี่ระมัดระวังหน่อย รถที่นี่จะไม่จอดให้คนข้าม แต่จะชลอรถลงเมื่อเห็นคนจะข้าม ดังนั้นถ้าจะข้ามถนนก็ดูดีๆ ก่อนแล้วก็เดินข้ามไปเลย .... พอเข้ามาถึงเขตเมืองโบราณฮอยอันแล้ว จะพบกับพนักงานขายตั๋ว ซึ่งเราต้องซื้อตั๋วเข้าก่อนราคาประมาณ 120,000 VND ถ้าหากถามว่าไม่ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปได้ไหม เราก็ไม่แน่ใจแต่คิดว่าได้นะ แต่ถ้าเราซื้อตั๋วเราจะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือสถานที่ที่ต่างๆ ที่ต้องใช้ตั๋วยื่นถึงจะได้เข้าชมได้ 5 ที่ตามความสนใจของเรา เมื่อเข้าไปข้างในเราสามารถเดินได้อย่างชิลๆ เพราะในนี้ไม่อนุญาตให้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์เข้ามาได้
อยู่ในฮอยอันเราไปสะพานญี่ปุ่นก่อน ซึ่งคนก็เยอะมากๆ ส่วนใหญ่ที่นี่จะเจอคนเกาหลีกับคนจีน มาถ่ายรูปกับสะพาน ส่วนเรามาแบบชิลๆ ก็เดินดูและเก็บรูปบ้าง5555 สะพานญี่ปุ่นสามารถข้ามได้ แต่ไม่รู้ต้องเสียเงินไหม ตอนเราเดินผ่านไปไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่อยู่ก็เลยเดินข้ามไปแบบงงๆ 5555 ข้ามไปอีกฝั่งของสะพานส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก แพงไหมไม่รู้ ไม่ได้ซื้อเลย ถ่ายรูปอย่างเดียว อ่ะๆ ไม่รู้จะรีวิวอะไรดี เพราะเราก็เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดูรูปตามไปดีกว่า 55555 ปล. ใครกลัวจะหาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในนั้นไม่เจอ ตอนซื้อตั๋วเข้าชมเมืองเจ้าหน้าที่จะแจกแผนที่ให้เราด้วย เราก็ดูตามแผนที่เอา ง่ายมากๆ
สะพานญี่ปุ่น คนจะเยอะมากๆ แต่ตอนเราไปถ่ายมันเที่ยงคนเลยหายไปหมดละ 5555
อากาศที่นี่ตอนกลางวันร้อนไม่แพ้บ้านเรา จงทาครีกันแดดมาเยอะๆ อิอิ
เมนูนี้อร่อยมากๆ ราคาไม่แพง ประมาณ 35,000 VND เส้นก๋วยเตียวเหมือนจะไม่ได้ทำจากแป้ง
เหมือนทำจากหนังหมู อร่อยมากๆ เรากินพร้อมกับกาแฟไข่ราคา 48,000 VND ฟินเลยย
เราชอบเดินไปแบบเรื่อยๆมากกว่า เราเจอที่ไหนน่าสนใจเราก็แวะเข้าไปเลย สถานที่ส่วนใหญ่ก็จะออกแนวจีนๆ แต่สวยมากๆ สถานที่ต่างๆ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด เราเดินตอนเที่ยงๆถึงบ่ายอาจจะร้อนหน่อยๆ แต่คนไม่เยอะเลย เพราะส่วนใหญ่ออกมาเดินเที่ยวกันเยอะช่วงเย็นๆ หลบแดดกัน55555 ตลอดทางที่เดินเราจะเจอคุณป้าแบกตระกร้าขายผลไม้เยอะมากๆ เรารู้สึกไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ เวลาเจอชาวต่างชาติคุณป้าชอบรั้งแขนให้ซื้อ 5555 และเราว่าราคาแพงเลยไม่ซื้อ ส่วนขนมปังของที่นี่อร่อยมากๆ เราซื้อประมาณ 30,000 vnd ราคาก็รับได้ อร่อยดี อารมณ์แบบขนมปังฝรั่งเศษมีไส้ เราไม่รู้มันเรียกว่าอะไร ชี้ๆสั่งเอา55555 ง่ายดีจ้าาา แล้วก็น้ำเปล่าที่นี่เราก็ซื้อประมาณขวดละ 15,000 vnd ไม่แพงมั้งนะ ช่วงเที่ยงถึงบ่ายๆ เราเดินไปครึ่งหนึ่งของเมือง และก็กลับที่พักก่อน ไม่ไหว ร้อนมาก ยอมแพ้ เดี๋ยวเย็นๆค่อยออกมาเดินที่เหลือที่ยังไม่ได้ไป
[CR] ็How to travel alone in Hoi An - Da Nang [3 วัน 2 คืน]
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้