เปรียบเทียบสายการบิน : ของเยอะมาก! บินสายไหนโหลดได้เยอะสุด ประหยัดสุด

สวัสดีค่ะ 
ตั้งใจจะเขียนเปรียบเทียบสายการบินให้ สำหรับคนที่จะย้ายไปต่างประเทศ หรือไปเที่ยวซื้อของฝากเยอะมาก และโดยเฉพาะนักเรียนไทยไปเรียนต่างประเทศ เรียนจบกลับบ้านมานี่ของเยอะมาก แต่จะเอากลับยังไง ใช้บริการชิปปิ้ง ไปรษณีย์ หรือซื้อเพิ่มกับสายการบินดี ในกระทู้นี้เราจะเปรียบเทียบสายการบินค่ะ ว่าสายไหนมี baggage allowance เท่าไหร่ และถ้าจะซื้อ excess baggage นี่ราคาเท่าไหร่ โดยขอเริ่มจากเอเชียค่ะ

ส่วนใครบินเที่ยวปกติ ไม่ได้มีของเยอะกระทู้นี้อาจจะไม่มีประโยชน์ค่ะ




1. JAL

JAL ใช้ piece concept ค่ะ คือโหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม ถ้าสองใบใบละ23กิโลไม่พอ สามารถซื้อexcess baggage กระเป๋าเพิ่มได้ โดยคิดใบละ 20000เยน หรือ 200 usd ซึ่งเท่ากับประมาณ6000บาทไทย ต่อใบค่ะ


 
 

2. ANA
เช็กได้คนละ2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กิโลกรัม ถ้าต้องการซื้อกระเป๋าเพิ่ม (โหลดอีก1ใบ ไม่เกิน 23 กิโล) ก็จ่ายเงินเพิ่ม 10000 เยน หรือ 100 usd ก็ประมาณ 3000บาท ต่อใบค่ะ



 
 
 
 

3. Thai
ได้คนละ 30 กิโลกรัม (ตั๋วบางคลาสอาจได้ต่ำกว่า)  ถ้าจะโหลดเพิ่ม
- 12usd = 350บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินระยะใกล้เช่น ในประเทศ ประเทศกลุ่ม AEC
- 15 usd = 450 บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินระยะไกลออกไป บินประมาณ3ชั่วโมงขึ้น เช่น จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย
- 40 usd = 1200 บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินระยะไกลออกไป ตั้งแต่ประมาณ5ชม.ขึ้นไป เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย โอมาน


 

 
 
 

 
4. Emirates
โหลดกระเป่าได้ต่างกันไปตามชนิดของตั๋วค่ะ ตั๋วแบบถูกสุดก็โหลดได้แค่15kgค่ะ หรือ 25,30,35 kg
ถ้าน้ำหนักที่ให้มาไม่พอ จะซื้อเพิ่ม ก็จ่ายตามนี้ค่ะ
- 30usd = 900บาทต่อกิโลกรัม ไปประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย
- 15usd = 450 บาทต่อกิโลกรัม ไปประเทศในเอเชียอื่น เช่น ฮ่องกง


 
 

 
5.Singapore
ได้คนละ30-35kg ส่วนราคาซื้อน้ำหนักเพิ่ม
- 4usd=120บาทต่อกิโลกรัม จากไทยไปสิงคโปร์
- 8 usd=240บาทต่อกิโลกรัม จากไทยไปประเทศ AEC
- 12usd=350บาทต่อกิโลกรัม จากไทยไปประเทศจีน ฮ่องกง อินเดีย เนปาล...
- 24usd=350บาทต่อกิโลกรัม จากไทยไปประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย


 
 

 
6. Cathay
ได้คนละ30kg และไม่เกิน2ใบ (เช่นใบแรก20ใบสอง10ได้) แต่สายการบินนี้ถ้าคุณเกินไม่ว่าจะจำนวนกระเป๋าเกิน หรือน้ำหนักเกินต้องเสียเพิ่มค่ะ
- ถ้าจะเพิ่มชิ้นกระเป๋า จ่ายเพิ่ม30usd=900บาทต่อใบค่ะ เพิ่มนี่หมายความหมายว่าคุณโหลด3ใบรวมกันหนักไม่เกิน30kgนะคะ (เช่น 10+10+10 หรือ 15+10+5)
- ถ้าน้ำหนักเกิน
            -13usd=390บาทต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปฮ่องกง
            -15usd=450บาทต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปเอเชีย
            -20usd=600บาทต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปเอเชียใต้ เช่น อินเดีย
            -30usd=900บาทต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปตะวันออกกลาง



 
 

 
 
7. China airline
ภายในเอเชียใช้weight systemได้คนละ30kg ตั๋วถูกโปรได้20kg ถ้าต้องการซื้อเพิ่ม
-6usd=180บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปไต้หวัน
-12usd=360บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปเอเชียอื่นๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อินโดนีเซีย
-26usd =780บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปอินเดีย
-46usd =1380บาท ต่อกิโลกรัม ถ้าบินไปตะวันออกกลาง


 


 
สรุป 

ถ้ามีของโหลดตั้งแต่30-46กิโลกรัม ให้เลือกสายการบินที่ใช้ piece concept ในเอเชีย ได้แก่ ANA, JAL ซึ่งได้23กิโลกรัม2ใบ ถ้าไม่พอ ต้องซื้อเพิ่มอีกใบ ให้เลือก ANA ถูกสุดค่ะ ใบละ 100usd
 
ส่วนสายการบินอื่นๆที่ใช้weight concept ไม่คุ้มเลยค่ะ ถ้าบินเยอะ ฉะนั้นถ้าใครจะขนของเยอะ อาจยอมเลือก JAL ANA ที่อาจได้ต่อเครื่อง แต่ก็ประหยัดเงินค่าโหลดเพิ่มได้เยอะค่ะ

สายการบิน China airline กับ Singapore ค่าโหลดเพิ่มต่อกิโลกรัมก็ถือว่าถูกกว่าสายการบินอื่นๆค่ะ

ยุโรป กับ อเมริกา กำลังจะโพสท์ต่อไปค่ะ


ถ้าหากท่านใดเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ รบกวน กด + , กด ถูกใจ ด้านล่างนี้ให้ด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่