จริงๆเนปาล นอกจากไปเที่ยว trekking การไปดูวัฒนธรรม ผู้คน เนปาลเป็นอะไรที่น่าสนใจมากนะครับ
เนื่องจากวันพักร้อนที่หยุดได้ ดันไปได้ตั๋วโปรโมชั่น 7 พันกว่าบาทจาก lion air ก็เลยไปแบบไม่ได้วางแผนอะไรมาก รู้แค่ว่ามันมี visa on arrival
มาเนปาลต้องมีวีซ่านะครับ เราสามารถมาขอ visa on arrival ได้ ราคา 30 usd พอเข้ามาถึงมันจะมีตู้ kiosk ให้เรานะครับ คิวยาวครับ เสียไปซะ 2-3 เครื่อง เราก็เข้าไปกรอกข้อมูล พอกรอกเสร็จมันจะพิมพ์ใบเสร็จให้เราไปจ่ายตังค่าวีซ่า
คำเตือน -- คิวยาวนะครับไม่มีห้องน้ำ ต้องผ่าน ตม. ก่อน ดังนั้นควรเข้าห้องน้ำบนเครื่องมาก่อนซะและควรมีขนมรองท้องติดตัวไว้นะครับ
พอผ่าน ตม. มา ตอนนี้ที่สนามบินจะเป็น prepaid taxi แล้วนะครับคือจ่ายตังค์ก่อนที่สนามบิน น่าจะเป็นการแก้ปัญหา แท๊กซี่โกง หรือขับพาวน
เข้าไปใน Tamel คล้ายๆตรอกข้าวสารบ้านเรา ราคา ประมาณ 700-800 npr นะครับ จะมีตำรวจคอยกวดขัน
ผมพักในย่าน Tamel นะครับ สะดวกดี มันจะเดินไป Kathmandu Durbar Square ได้สะดวกนะครับ
ตอนมามีเทศการอะไรซักอย่าง ตีกลองแข่งกัน คนเยอะมากมาย
Narayanhiti Palace Museum
ตื่นเช้ามาเดินไป พระราชวังของราชวงศ์ เนปาล เป็นวังจริงๆ ที่เก็บข้าวของทุกอย่างเอาไว้ให้ดูเลยนะครับ รอยกระสุนจากการ สังหารหมู่ราชวงศเนปาลยังเก็บเอาไว้ให้ดูอยู่เลย
เข้าไปด้านในห้ามถ่ายรูปนะครับ ต้องฝากของ
ต่อมา โบกแท๊กซี่มาที่ Shree Pashupatinath Temple
เสียค่าเข้านะครับ แต่ ถ้าจะมาก็จะดูได้แค่รอบๆนะครับ เขาไปในวิหารฮินดูไม่ได้ ยกเว้นว่าจะเป็นคนฮินดู
แต่ถ้าจะมาดูการเผาศพ ริมแม่น้ำแบบฮินดู ก็ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้เห็นนะครับ
แล้วก็นั่งแท๊กซี่ต่อไปเมือง Patan
จริงๆมันก็เป็นเมืองเล็กๆใกล้เมืองกาฐมันฐุนะครับนั่งแท๊กซี่ไปได้แป๊ปเดียว
ข้างในจะเป็นพิพิธภัณฑ์
ต่อมาก็มาวัดลิง
มันมี 2 ทางเข้า บอกให้แท๊กซี่มาส่งที่ทางเข้าบนดอยนะครับ อย่าเดินขึ้นบันไดมา ทางเดินขึ้นมันสูงมากๆๆ
หลังจากวัดลิง ก็เดินกลับที่พักที่ tamel เดินดูสภาพบ้านเรือนผู้คน เนปาลยังเป็นประเทศด้อยพัฒนานะครับ สุขลักษณะ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ดีเท่าไหร่
ถ้าดูสถาปัตยกรรม มันเป็นแนวธิเบต แต่เป็นวัดฮินดู หรือจะเรียดว่าวัดฮินดูแบบธิเบตดี
ลองเนื้อทอดข้างทางซะหน่อย
ไม้ละ 50 npr ประมาณ 12-13 บาท น้ำจิ้มพร้อม
เค็มครับ ทรานแฟต โซเดียม ไม่ต้องพูดถึง แต่ผมไม่ได้จิ้มน้ำจิ้มนะครับอันนี้ไม่ไหว ไม่รู้รสชาติมันเป็นยัง
แต่ BBQ อันนี้อร่อยอยู่นะ
ตื่นมา วันถัดไป ไปนอนที่เมือง Bhaktapur ตอนแรกก็จะโบกแท๊กซี่ไปนะครับ แต่พนักงานที่โรงแรมบอกว่าเดินมาขึ้นรถเมลได้ เอาวะลองซะหน่อย
ค่ารถ 50 npr 12-13 บาท. ระยะทาง 20 กว่ากิโลใช้เวลาขับ 2 ชม กว่า มีจอดพักด้วยครับ 555
ครั้งเดียวพอแล้วครับ คนแน่นมาก ถ้าจะลองก็เดินมาขึ้นที่ สวน Rattana นะครับ
คนเนปาลจะมีหน้าตาแบบอินเดีย กับ หน้าตาแบบเอเชียตะวันออก
นักบวช ไถ ไอติม ผมนั่งดูเขาแบ่งให้ครึ่งแท่ง คนเนปาลคงเคร่งศาสนาพอสมควร
พอมาถึงเมือง Bhaktapur เขาเก็บค่าเข้าเมืองนะครับ บรรยากาศเหมืองหลงเข้ามาเมืองโบราณ
บรรยากาศที่จตุรัสกลางเมืองจะเหมือน community ของเมือง ตอนเย็นๆ จะมีคนมานั่งคุยกันขายของ ร้องเพลง
ตกดึกแห่อะไร ก็ไม่รู้
10 กว่าปีที่แล้วตอน backpack ใหม่ ต้องพกแผนที่แล้วก็ไปไปทานร้านอาหารตาม map ตอนนี้เปิด google map แทน ก็สะดวกดีนะครับ
จบแล้วครับวันถัดมาก็บินกลับ กทม. ไปทำงานต่อ
มาเนปาล 3 วันสี่คืน หมดไปประมาณ 13,000 -15,000 รวมตั๋ว จริงๆราคาข้าวของมันถูกนะ ทานถูกบ้างแพงบ้าง ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย ราคาตั๋วเครื่องบินยังแพงอยู่ ถ้าราคาตั๋วลงมาในระดับ 5 พันกว่าบาทได้คนคงจะไปมากกว่านี้
รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของเนปาล สาธารณูปโภค ยังไม่ดีเท่าไหร่นัก ไฟดับบ่อย ไปไหนก็มีแต่คนมาขอเป็นไกด์
ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมากครับที่ไหนไปได้ก็ไป ไปไม่ได้ ไปไม่ทันก็ไม่ต้องไป โดนหลอกบ้างไรบ้าง
เอาจริงๆก็เป็นอีกที่ที่แนะนำให้มานะครับ มันดูแปลกหูแปลกตาดี ราคาไม่แพงมาก ถ้ามีเวลามากว่านี้คงแวะไปอีกหลายๆเมือง
[CR] 4 วัน 3 คืน ที่เนปาล - (visa on arrival + เที่ยวรอบๆ กาฐมัณทุ)
เนื่องจากวันพักร้อนที่หยุดได้ ดันไปได้ตั๋วโปรโมชั่น 7 พันกว่าบาทจาก lion air ก็เลยไปแบบไม่ได้วางแผนอะไรมาก รู้แค่ว่ามันมี visa on arrival
มาเนปาลต้องมีวีซ่านะครับ เราสามารถมาขอ visa on arrival ได้ ราคา 30 usd พอเข้ามาถึงมันจะมีตู้ kiosk ให้เรานะครับ คิวยาวครับ เสียไปซะ 2-3 เครื่อง เราก็เข้าไปกรอกข้อมูล พอกรอกเสร็จมันจะพิมพ์ใบเสร็จให้เราไปจ่ายตังค่าวีซ่า
คำเตือน -- คิวยาวนะครับไม่มีห้องน้ำ ต้องผ่าน ตม. ก่อน ดังนั้นควรเข้าห้องน้ำบนเครื่องมาก่อนซะและควรมีขนมรองท้องติดตัวไว้นะครับ
พอผ่าน ตม. มา ตอนนี้ที่สนามบินจะเป็น prepaid taxi แล้วนะครับคือจ่ายตังค์ก่อนที่สนามบิน น่าจะเป็นการแก้ปัญหา แท๊กซี่โกง หรือขับพาวน
เข้าไปใน Tamel คล้ายๆตรอกข้าวสารบ้านเรา ราคา ประมาณ 700-800 npr นะครับ จะมีตำรวจคอยกวดขัน
ผมพักในย่าน Tamel นะครับ สะดวกดี มันจะเดินไป Kathmandu Durbar Square ได้สะดวกนะครับ
ตอนมามีเทศการอะไรซักอย่าง ตีกลองแข่งกัน คนเยอะมากมาย
Narayanhiti Palace Museum
ตื่นเช้ามาเดินไป พระราชวังของราชวงศ์ เนปาล เป็นวังจริงๆ ที่เก็บข้าวของทุกอย่างเอาไว้ให้ดูเลยนะครับ รอยกระสุนจากการ สังหารหมู่ราชวงศเนปาลยังเก็บเอาไว้ให้ดูอยู่เลย
เข้าไปด้านในห้ามถ่ายรูปนะครับ ต้องฝากของ
ต่อมา โบกแท๊กซี่มาที่ Shree Pashupatinath Temple
เสียค่าเข้านะครับ แต่ ถ้าจะมาก็จะดูได้แค่รอบๆนะครับ เขาไปในวิหารฮินดูไม่ได้ ยกเว้นว่าจะเป็นคนฮินดู
แต่ถ้าจะมาดูการเผาศพ ริมแม่น้ำแบบฮินดู ก็ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้เห็นนะครับ
แล้วก็นั่งแท๊กซี่ต่อไปเมือง Patan
จริงๆมันก็เป็นเมืองเล็กๆใกล้เมืองกาฐมันฐุนะครับนั่งแท๊กซี่ไปได้แป๊ปเดียว
ข้างในจะเป็นพิพิธภัณฑ์
ต่อมาก็มาวัดลิง
มันมี 2 ทางเข้า บอกให้แท๊กซี่มาส่งที่ทางเข้าบนดอยนะครับ อย่าเดินขึ้นบันไดมา ทางเดินขึ้นมันสูงมากๆๆ
หลังจากวัดลิง ก็เดินกลับที่พักที่ tamel เดินดูสภาพบ้านเรือนผู้คน เนปาลยังเป็นประเทศด้อยพัฒนานะครับ สุขลักษณะ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่ดีเท่าไหร่
ถ้าดูสถาปัตยกรรม มันเป็นแนวธิเบต แต่เป็นวัดฮินดู หรือจะเรียดว่าวัดฮินดูแบบธิเบตดี
ลองเนื้อทอดข้างทางซะหน่อย
ไม้ละ 50 npr ประมาณ 12-13 บาท น้ำจิ้มพร้อม
เค็มครับ ทรานแฟต โซเดียม ไม่ต้องพูดถึง แต่ผมไม่ได้จิ้มน้ำจิ้มนะครับอันนี้ไม่ไหว ไม่รู้รสชาติมันเป็นยัง
แต่ BBQ อันนี้อร่อยอยู่นะ
ตื่นมา วันถัดไป ไปนอนที่เมือง Bhaktapur ตอนแรกก็จะโบกแท๊กซี่ไปนะครับ แต่พนักงานที่โรงแรมบอกว่าเดินมาขึ้นรถเมลได้ เอาวะลองซะหน่อย
ค่ารถ 50 npr 12-13 บาท. ระยะทาง 20 กว่ากิโลใช้เวลาขับ 2 ชม กว่า มีจอดพักด้วยครับ 555
ครั้งเดียวพอแล้วครับ คนแน่นมาก ถ้าจะลองก็เดินมาขึ้นที่ สวน Rattana นะครับ
คนเนปาลจะมีหน้าตาแบบอินเดีย กับ หน้าตาแบบเอเชียตะวันออก
นักบวช ไถ ไอติม ผมนั่งดูเขาแบ่งให้ครึ่งแท่ง คนเนปาลคงเคร่งศาสนาพอสมควร
พอมาถึงเมือง Bhaktapur เขาเก็บค่าเข้าเมืองนะครับ บรรยากาศเหมืองหลงเข้ามาเมืองโบราณ
บรรยากาศที่จตุรัสกลางเมืองจะเหมือน community ของเมือง ตอนเย็นๆ จะมีคนมานั่งคุยกันขายของ ร้องเพลง
ตกดึกแห่อะไร ก็ไม่รู้
10 กว่าปีที่แล้วตอน backpack ใหม่ ต้องพกแผนที่แล้วก็ไปไปทานร้านอาหารตาม map ตอนนี้เปิด google map แทน ก็สะดวกดีนะครับ
จบแล้วครับวันถัดมาก็บินกลับ กทม. ไปทำงานต่อ
มาเนปาล 3 วันสี่คืน หมดไปประมาณ 13,000 -15,000 รวมตั๋ว จริงๆราคาข้าวของมันถูกนะ ทานถูกบ้างแพงบ้าง ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย ราคาตั๋วเครื่องบินยังแพงอยู่ ถ้าราคาตั๋วลงมาในระดับ 5 พันกว่าบาทได้คนคงจะไปมากกว่านี้
รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของเนปาล สาธารณูปโภค ยังไม่ดีเท่าไหร่นัก ไฟดับบ่อย ไปไหนก็มีแต่คนมาขอเป็นไกด์
ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมากครับที่ไหนไปได้ก็ไป ไปไม่ได้ ไปไม่ทันก็ไม่ต้องไป โดนหลอกบ้างไรบ้าง
เอาจริงๆก็เป็นอีกที่ที่แนะนำให้มานะครับ มันดูแปลกหูแปลกตาดี ราคาไม่แพงมาก ถ้ามีเวลามากว่านี้คงแวะไปอีกหลายๆเมือง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้