ชื่มชมทีมงาน รอยอาฆาต จากใจจริง

ติดตามมา 14 ตอน แม้ว่าเรตติ้งตอนจบ จะไม่รู้ว่าได้เท่าไร และจะเป็นกระแสมากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้กล้ายืนยันได้เต็มที่แล้วว่า รอยอาฆาต จะเป็น 1 ในละครยุคใหม่ของช่อง 7 ที่เริ่มจะตามทันละครของช่องอื่นๆ ได้บ้างแล้ว ต้องยอมรับบทประพันธ์ การทำละคร และองค์ประกอบหลายๆอย่างด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ด้วยความเป็นละครสืบสวนที่มีกลิ่นยุคใหม่มาไม่ใช่น้อย อาจจะไม่ถูกใจฐานคนดูบางส่วน และอาจจะทำให้เรตติ้งและกระแส อาจจะสู้ละครค่ายอื่นๆ หรือแม้แต่สารวัตรใหญ่ไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าละครเรื่องนี้ ด้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย

ว่ากันที่เนื้อเรื่องและการทำละคร แม้ว่าจะเป็นละครแนวสืบสวน แนวค้นหาลึกลับแบบเลือดข้นคนจาง ผสมกับฆาตกรรมต่อเนื่องแบบล่า 2018 แต่กลิ่นอายแนว Old School ตามสไตล์ละครช่อง 7 ยังมีอยู่ไม่ใช่น้อย เปิดมาตอนแรกๆ ก็พบเจอเรื่องความไม่ปกติทางจิตของเหล่าพี่น้องจิรการพาณิชย์ คนพี่สาวโตสุด ก็มีความไม่ปกติทางจิต เคยเข้าโรงพยาบาลบ้า คนรองจิตอ่อน มีปมจากการทำเรื่องเลวร้าย คนเล็ก เป็นโรคซึมเศร้าอ่อนๆ มีความคิดฆ่าตัวตายตลอด ซึ่งประเด็นเริ่มต้นก็คือ เจ้าสัวไพศาล ถูกฆ่าตาย แต่ถูกจัดฉากว่าฆ่าตัวตาย แล้วลูกเมียน้อยอย่างพิรุณหรือพีทก็โผล่มาขึ้น เรื่องราวทั้งหมดเลยเริ่มไปๆมาๆ วนอยู่กับการฆ่ากัน การลอบฆ่า หรืออีกหลายๆอย่าง จนสุดท้าย ก็พบความจริงว่า เรื่องมันไปไกลมาก โดยในฐานะที่ไม่ได้ดูเลือดข้นคนจางมามาก ตอบไม่ได้ว่ามีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร แต่กล้ายืนยันว่า เรื่องราวมันซับซ้อนกว่าเลือดข้นคนจางมาก ถ้าเปรียบเป็นเขาวงกต เลือดข้นคนจางจะแค่เลี้ยวซ้ายไปมาถอยหน้าถอยหลังจนเจอทางออกทะลุอีกด้าน แต่รอยอาฆาต จะเป็นการเลี้ยวขวาวนขวาตลอดจนพบว่า ทางออกของมัน อยู่ที่ประตูด้านเดียวกันและใกล้ๆกับประตูทางเข้านี้เอง! แต่พูดตามความจริง ตอนจบจริงๆ ไม่ได้เดายากเย็นอะไรมากมาย พอจับทางได้ ที่สำคัญ เรื่องนี้นับเป็นอีกเรื่อง ที่มีเรื่องของสารวัตรตามเข้ามาอีก ต่อจากสารวัตรใหญ่และพรายพิฆาตเอง ซึ่งสารวัตรคมกฤษ (บังนัส) ก็เหมือนกับสารวัตรใหญ่และสารวัตรเชิดวุธ ทั้งที่เถรตรง และตามจับผิดพระเอกอยู่ตลอด

แม้ว่าจะเป็นละครจากค่ายดราเมจิก หรือป๊าสั่งย่าสอน แต่เรื่องนี้ไม่ได้เน้นบู๊มากมาย จะไปบู๊เน้นๆ ช่วงพีคๆ ของเรื่องมากกว่า สาระสำคัญของเรื่องคือการเน้นการใช้คำพูด และการสอบสวน แนวทริลเลอร์มากกว่า นอกจากนี้ ยังมีมุมตลก ขำๆ เป็นต้นว่า ความเปิ่นของลูกสาวคนรอง (อ๋อ ญาดา) ที่หลอกด่าพี่สาวตัวเองในช่วงที่พี่สาวกำลังจะหาเรื่องนางเอกอยู่ หรือแม้แต่มุมตลกเล็กๆน้อยๆ เช่นฉากที่ตามสืบเรื่องราวของภาม ตอนที่ตำรวจกดสัญญาณไฟไหม้ ตอนที่มีคนถือถังดับเพลิงมานี้ ผมฮาไม่ไหวจริงๆ 555 

ส่วนเรื่ององค์ประกอบอื่นๆ ยอมรับว่าใช้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวละครหลายตัว มีไม่น้อยที่ยังเล่นใหญ่เกินๆ อยู่ โดยเฉพาะตัวบู๊ผู้หญิงใน EP13 เล่นใหญ่มาก จับก็พูด มัดก็พูด เหมือนออกนอกสคริปต์บ่อยไปหน่อย นอกนั้นถือว่าไม่มีปัญหาอื่นใด แต่ที่อยากจะแนะนำจริงๆก็คือ อยากเห็นทางค่ายนี้ ลองหันไปจับละครที่ไม่บู๊บ้าง ประเภทแนวหวานโรแมนติค แนวสืบสวนล้วนๆ หรือแม้แต่เบาสมอง ฮาล้วนๆ เพราะเห็นความสามารถของผู้จัดทำว่าทำได้ดีเกินกว่าจะอยู่แค่ละครบู๊ หรือจะไปจับแนวละครพีเรียดได้เลยก็ยิ่งดี (พีเรียดในทีนี้คือย้อนไปยุคอยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่ถ้าไม่เกิน 50 ปีที่ผ่านมา อันนี้ไม่นับ)

ที่สำคัญที่สุด เป็นอีกเรื่องที่พอจะสอนใจเรื่องความอาฆาตแค้นของคนได้ ว่ามันก็ต้องย้อนกลับเข้ามาทำร้ายตัวเอง หรือคนที่รัก การระงับเวรก็คือการหยุดกรรม การให้อภัยคือหนทางที่ดีที่สุดในทุกๆเรื่อง แต่ดีที่สุดต่อทุกคนก็คือการระงับกิเลส ไม่ฆ่ากัน ไม่ทำร้ายกัน ก็จะไม่มีผลร้ายตามมาในภายหลัง

สำหรับละครเรื่องนี้ แนะนำระดับหนึ่งสำหรับแฟนคลับสัมปทานหัวใจ เรื่องนี้แอบคล้ายๆกันบ้าง แต่เปลี่ยนจากภาคใต้มาภาคเหนือ ตอนจบเองก็แอบคล้ายๆกัน ดูทุกตอนทุกฉาก ยอมรับเลยว่าความรู้สึกเทียบกับพรายพิฆาตแล้ว ต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ดูแต่ละตอนไม่เคยเบื่อเลย มีให้ลุ้นตลอดทุกอารมณ์ ทุกฉาก เรื่องนี้โอเคมาก ถือว่าเปิดทางให้ช่อง 7 เข้าสู่ยุคใหม่โดยชัดเจน หวังว่าละครเรื่องใหม่ จะได้ดูเร็วๆนี้ 'ทางเสือผ่าน'
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่