..
ภาพยนตร์เรื่อง “แอร์อเมริกา หน่วยจู่โจมเหนือเวหา” ฉายในปี 2533 นำแสดงโดยเมล กิ๊บสัน (Mel Gibson) และโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr. (RDJ)) เป็นภาพยนตร์ลงทุนสูง ที่ยกกองถ่ายทำมาใช้บริการประเทศไทยบ้านเรา ทั้งจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะสนามบินเชียงใหม่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และทางใต้จังหวัดภูเก็ตโดยสมมุติเป็นประเทศลาวตามเนื้อเรื่อง มีดาราไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงคือ
สินจัย หงส์ไทยรับบทเป็นภรรยาของ Mel
ญาณี ตราโมทรับบทเป็นพี่เขย Mel ที่หาอาวุธสงครามเก่าแก่มาขายให้เขา
วสันต์ อุตมะโยธินและมีศักดิ์ นาครัตน์มารับบทนักร้องคู่ดูโอ้ในบาร์
มีฉากสวยงามหนึ่งที่ RDJ ห้อยโหนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ โดยมีฉากหลังเป็นบึงหนองจองคำ จังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถมองเห็นวัดคู่แฝดวัดจองคำ-จองกลางอย่างงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปเยี่ยมสถานที่หลังภาพยนตร์ออกฉาย
การได้ร่วมงานกันของ Mel และ RDJ ทำให้ทั้งคู่มีความสนิทสนม และเป็นจุดเริ่มต้นของการพิสูจน์คำว่า “เพื่อนแท้” ตั้งแต่นั้นมา
หลังจากวันนั้น Mel ประสบความสำเร็จอย่างมากมายจากการเป็นนักแสดงและผู้กำกับมือทอง แต่แล้วช่วงปี 2006 เป็นต้นมา Mel ประสบปัญหาโดนฮอลลีวูดแอนตี้ และแบนไม่เสนองานให้ทำ เพราะเมาแล้วซ้อมเมีย แถมเมาซ้ำซาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาดันเมาขาดสติแล้วไปด่าคนยิวแรงๆ จนเป็นข่าวใหญ่โต งานนี้มีแต่คนรับไม่ได้กับพฤติกรรมขาดสติของดารารุ่นใหญ่ จนงานหด เงินหมด ครอบครัวร้าวฉาน ไม่มีบ้านให้อยู่
แต่เมื่อย้อนไปหลายปีก่อน RDJ (ช่วงปี 1996-2001) ประสบกับปัญหายาเสพติด ถึงขั้นติดคุกติดตาราง ลูกเมียไม่รัก จนโดนฮอลลีวูดหันหลังให้ ไม่เอามาทำยาหรอกคนแบบนี้ แต่เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่เล่นหนัง Air America ด้วยกันอย่าง Mel ก็ไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย คอยช่วยเหลือในทุกๆทาง ทุกๆอย่าง แม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน ในตอนที่เมียไล่ตะเพิด
จุดเปลี่ยนชีวิตของ RDJ คือ...ช่วงนั้น Mel เขามือขึ้นมาก หยิบจับอะไรก็เป็นเงินไปซะหมด กำกับหนังก็ทำกำไรให้สตูดิโอเยอะมากๆ มีเสียงมีสิทธิ์ต่อรองเจรจากับใครก็ได้ในฮอลลีวูด แกก็พา RDJ ให้กลับคืนวงการอีกครั้งโดยการการรับประกันในหนังหลายเรื่อง เช่น The Singining Deiective (2003), Gothika (2004) และที่สำคัญเข้าไปหาผู้กำกับฯ Shane Black ที่กำลังหาคนมาเล่นหนัง Kiss Kiss Bang Bang อยู่ เพราะ Mel กับ Shane สนิทกันจากการที่พี่เชนเคยเขียนบทให้หนัง Lethal Weapon แล้วป๋า Mel ก็ฝากฝังกับ Shane ว่า
“ให้มันเล่นเรื่องนี้เถอะนะ หมอนี่มันเจ๋งดี มันเลิกยาเด็ดขาดแล้ว นายเชื่อฉัน ฉันเอาหัวเป็นประกันได้ บทนี้มันต้องหมอนี่เท่านั้น ”
นักแสดงผู้กำกับฯ ใหญ่ขนาดนี้เชียร์มาให้ ใครจะปฏิเสธ แม้จะเสี่ยงไปซะหน่อย แต่ก็เอา(ว่ะ)…RDJ จึงได้บทนำในหนังไป เมื่อหนังออกฉาย ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางที่ดีอย่างท่วมท้น หลังจากนั้นไม่นานนัก RDJ ก็กลับมาโด่งดังในเส้นทางฮอลลีวูดอีกครั้ง จนได้มาสวมเกราะเหล็กใน Iron man อย่างที่เห็น และที่สำคัญคือ Shane Black ที่ทำแต่หนังอินดี้ทุนน้อยคนนี้ก็ได้ตามมากำกับฯใน Iron man 3 อีกด้วย จากการที่ RDJ เสนอชื่อในที่ประชุมว่าควรให้ Shane มากำกับ เพราะเขาคือคนที่เข้าใจหนังแอ็คชั่นได้ดีที่สุดแล้ว
Proof That Robert Downey Jr. Has a Heart
ปี 2011 ในงานมอบรางวัล American Cinematheque Award ให้กับ RDJ เขาได้รับรางวัลโดยมีเซอร์ไพรซ์ใหญ่ คือการที่ทีมงานให้ Mel Gibson เป็นคนมามอบรางวัลให้เขา ซึ่งบนเวทีนั้นเอง RDJ ได้พูดขึ้นต่อหน้าสื่อและดาราด้วยกันเองว่า
“ผิดบาปอะไรกันนักหนา คนเราพลาดกันได้ พวกคุณควรจะให้อภัยเขาได้แล้ว และให้เขากลับมาทำงาน ทำหนังดีๆ ให้เราดูกันซะ”
RDJ ต้องการจะช่วย Mel เพื่อนเก่าที่เคยช่วยเหลือเขา ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง หลังจากเจอมรสุมในชีวิตส่วนตัวอย่างหนัก ถึงขนาดที่พยายามเกลี้ยกล่อมบอร์ดบริหารของ Marvel ให้รับ Mel มาเล่นบทผู้ร้ายขาใหญ่ที่สุด(น่าจะเป็นธาโนส ) แต่ก็โดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เพราะบอร์ดบริหารใหญ่หลายๆคนเป็นคนยิว ไม่เพียงเท่านั้น RDJ ถึงขั้นเสนอชื่อให้ ป๋า Mel ได้กำกับหนัง Marvel สักเรื่อง เหมือนจะเป็นไปได้สวย แต่ขึ้นชื่อว่า Mel Gibson เขาต้องการโอกาสก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่แนว เขาก็ไม่ทำ เขาอยากจะทำหนัง Marvel เป็นหนังเรต R แต่ทางสตูดิโอไม่เห็นด้วย ป๋า Mel จึงโบกมือลา
ปัจจุบัน Mel Gibson ยังคงพยายามทำหนังเพื่อไถ่โทษในสิ่งที่เขาเคยทำผิดไว้ ในปี 2014 Mel ได้มีโอกาสเสนอหนังสดุดีชาติอเมริกาอย่าง Hacksaw Ridge ที่ผงาดเข้าชิงออสก้าร์หลายรางวัล ซึ่งเป็นสัญญาณที่แน่ชัดแล้วว่า Mel Gibson กำลังจะกลับมายิ่งใหญ่ในฮอลลีวูดอีกครั้ง โดยมีเพื่อนแท้อย่าง Robert Downey Jr. คอยสนับสนุนอยู่เคียงข้าง
นี่แหละคือเพื่อนแท้ และ การตอบแทนบุญคุณที่แท้จริงของเพื่อนรัก
มิตรภาพและคำว่า “เพื่อนแท้” ระหว่าง Mel Gibson และ Robert Downey jr.....///////////
..
ภาพยนตร์เรื่อง “แอร์อเมริกา หน่วยจู่โจมเหนือเวหา” ฉายในปี 2533 นำแสดงโดยเมล กิ๊บสัน (Mel Gibson) และโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr. (RDJ)) เป็นภาพยนตร์ลงทุนสูง ที่ยกกองถ่ายทำมาใช้บริการประเทศไทยบ้านเรา ทั้งจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะสนามบินเชียงใหม่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และทางใต้จังหวัดภูเก็ตโดยสมมุติเป็นประเทศลาวตามเนื้อเรื่อง มีดาราไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงคือ
สินจัย หงส์ไทยรับบทเป็นภรรยาของ Mel
ญาณี ตราโมทรับบทเป็นพี่เขย Mel ที่หาอาวุธสงครามเก่าแก่มาขายให้เขา
วสันต์ อุตมะโยธินและมีศักดิ์ นาครัตน์มารับบทนักร้องคู่ดูโอ้ในบาร์
มีฉากสวยงามหนึ่งที่ RDJ ห้อยโหนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ โดยมีฉากหลังเป็นบึงหนองจองคำ จังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถมองเห็นวัดคู่แฝดวัดจองคำ-จองกลางอย่างงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปเยี่ยมสถานที่หลังภาพยนตร์ออกฉาย
การได้ร่วมงานกันของ Mel และ RDJ ทำให้ทั้งคู่มีความสนิทสนม และเป็นจุดเริ่มต้นของการพิสูจน์คำว่า “เพื่อนแท้” ตั้งแต่นั้นมา
หลังจากวันนั้น Mel ประสบความสำเร็จอย่างมากมายจากการเป็นนักแสดงและผู้กำกับมือทอง แต่แล้วช่วงปี 2006 เป็นต้นมา Mel ประสบปัญหาโดนฮอลลีวูดแอนตี้ และแบนไม่เสนองานให้ทำ เพราะเมาแล้วซ้อมเมีย แถมเมาซ้ำซาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาดันเมาขาดสติแล้วไปด่าคนยิวแรงๆ จนเป็นข่าวใหญ่โต งานนี้มีแต่คนรับไม่ได้กับพฤติกรรมขาดสติของดารารุ่นใหญ่ จนงานหด เงินหมด ครอบครัวร้าวฉาน ไม่มีบ้านให้อยู่
แต่เมื่อย้อนไปหลายปีก่อน RDJ (ช่วงปี 1996-2001) ประสบกับปัญหายาเสพติด ถึงขั้นติดคุกติดตาราง ลูกเมียไม่รัก จนโดนฮอลลีวูดหันหลังให้ ไม่เอามาทำยาหรอกคนแบบนี้ แต่เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่เล่นหนัง Air America ด้วยกันอย่าง Mel ก็ไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย คอยช่วยเหลือในทุกๆทาง ทุกๆอย่าง แม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน ในตอนที่เมียไล่ตะเพิด
จุดเปลี่ยนชีวิตของ RDJ คือ...ช่วงนั้น Mel เขามือขึ้นมาก หยิบจับอะไรก็เป็นเงินไปซะหมด กำกับหนังก็ทำกำไรให้สตูดิโอเยอะมากๆ มีเสียงมีสิทธิ์ต่อรองเจรจากับใครก็ได้ในฮอลลีวูด แกก็พา RDJ ให้กลับคืนวงการอีกครั้งโดยการการรับประกันในหนังหลายเรื่อง เช่น The Singining Deiective (2003), Gothika (2004) และที่สำคัญเข้าไปหาผู้กำกับฯ Shane Black ที่กำลังหาคนมาเล่นหนัง Kiss Kiss Bang Bang อยู่ เพราะ Mel กับ Shane สนิทกันจากการที่พี่เชนเคยเขียนบทให้หนัง Lethal Weapon แล้วป๋า Mel ก็ฝากฝังกับ Shane ว่า
“ให้มันเล่นเรื่องนี้เถอะนะ หมอนี่มันเจ๋งดี มันเลิกยาเด็ดขาดแล้ว นายเชื่อฉัน ฉันเอาหัวเป็นประกันได้ บทนี้มันต้องหมอนี่เท่านั้น ”
นักแสดงผู้กำกับฯ ใหญ่ขนาดนี้เชียร์มาให้ ใครจะปฏิเสธ แม้จะเสี่ยงไปซะหน่อย แต่ก็เอา(ว่ะ)…RDJ จึงได้บทนำในหนังไป เมื่อหนังออกฉาย ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางที่ดีอย่างท่วมท้น หลังจากนั้นไม่นานนัก RDJ ก็กลับมาโด่งดังในเส้นทางฮอลลีวูดอีกครั้ง จนได้มาสวมเกราะเหล็กใน Iron man อย่างที่เห็น และที่สำคัญคือ Shane Black ที่ทำแต่หนังอินดี้ทุนน้อยคนนี้ก็ได้ตามมากำกับฯใน Iron man 3 อีกด้วย จากการที่ RDJ เสนอชื่อในที่ประชุมว่าควรให้ Shane มากำกับ เพราะเขาคือคนที่เข้าใจหนังแอ็คชั่นได้ดีที่สุดแล้ว
Proof That Robert Downey Jr. Has a Heart
ปี 2011 ในงานมอบรางวัล American Cinematheque Award ให้กับ RDJ เขาได้รับรางวัลโดยมีเซอร์ไพรซ์ใหญ่ คือการที่ทีมงานให้ Mel Gibson เป็นคนมามอบรางวัลให้เขา ซึ่งบนเวทีนั้นเอง RDJ ได้พูดขึ้นต่อหน้าสื่อและดาราด้วยกันเองว่า
“ผิดบาปอะไรกันนักหนา คนเราพลาดกันได้ พวกคุณควรจะให้อภัยเขาได้แล้ว และให้เขากลับมาทำงาน ทำหนังดีๆ ให้เราดูกันซะ”
RDJ ต้องการจะช่วย Mel เพื่อนเก่าที่เคยช่วยเหลือเขา ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง หลังจากเจอมรสุมในชีวิตส่วนตัวอย่างหนัก ถึงขนาดที่พยายามเกลี้ยกล่อมบอร์ดบริหารของ Marvel ให้รับ Mel มาเล่นบทผู้ร้ายขาใหญ่ที่สุด(น่าจะเป็นธาโนส ) แต่ก็โดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เพราะบอร์ดบริหารใหญ่หลายๆคนเป็นคนยิว ไม่เพียงเท่านั้น RDJ ถึงขั้นเสนอชื่อให้ ป๋า Mel ได้กำกับหนัง Marvel สักเรื่อง เหมือนจะเป็นไปได้สวย แต่ขึ้นชื่อว่า Mel Gibson เขาต้องการโอกาสก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่แนว เขาก็ไม่ทำ เขาอยากจะทำหนัง Marvel เป็นหนังเรต R แต่ทางสตูดิโอไม่เห็นด้วย ป๋า Mel จึงโบกมือลา
ปัจจุบัน Mel Gibson ยังคงพยายามทำหนังเพื่อไถ่โทษในสิ่งที่เขาเคยทำผิดไว้ ในปี 2014 Mel ได้มีโอกาสเสนอหนังสดุดีชาติอเมริกาอย่าง Hacksaw Ridge ที่ผงาดเข้าชิงออสก้าร์หลายรางวัล ซึ่งเป็นสัญญาณที่แน่ชัดแล้วว่า Mel Gibson กำลังจะกลับมายิ่งใหญ่ในฮอลลีวูดอีกครั้ง โดยมีเพื่อนแท้อย่าง Robert Downey Jr. คอยสนับสนุนอยู่เคียงข้าง
นี่แหละคือเพื่อนแท้ และ การตอบแทนบุญคุณที่แท้จริงของเพื่อนรัก