[CR] แม่ริม - แม่แตง - จอมทอง - แม่แจ่ม 4 วัน 3 คืน กับเงิน 3000 บาท

ม่อนแจ่ม - สวนพฤกษศาสตร์ฯ - ไร่ชาลุงเดช -

ไร่หยดเหมย - น้ำตกแม่ยะ - ดอยอินทนนท์ - อ่างกา -

ป่าบงเปียง - น้ำตกวชิรธาร - ผาช่อ - Hom bar 🤗

¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤¤

ปลายฝนต้นหนาวนี้มีแพลนไปเที่ยวกันที่ไหนบ้างเอ่ยย

แต่ที่รู้ๆเราไปมาแล้วนะที่นี่ "เชียงใหม่"

สำหรับเชียงใหม่ปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้ว

แต่ความรู้สึกของแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป

แต่ก็ล้วนที่จะเป็นความสุขทั้งนั้น

ครั้งนี้ก็ได้เดินทางไปกับเพื่อนอีก 2 คน

บางครั้งก็คิดนะเพื่อนจะสนุกเหมือนที่เราเป็นไหม

หรือที่ที่เราไปมันจะใช่สำหรับเพื่อนหรือเปล่า

แต่มันก็แค่ความคิดของเรา

     เมื่อเริ่มการเดินทาง บทสนาของเรากับเพื่อนก็เริ่มขึ้นต่างๆนาๆมากมาย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ต่างความคิด ต่างประสบการณ์ มันเลยทำให้     ทริปนี้ของเรามีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของกันและกันตลอดระยะเวลา 4 วัน 3 คืน 😁

02|10|62

    เริ่มต้นการเดินทางกันด้วยสถานีรถไฟหัวลำโพงนี่ก็คงเป็นยานพาหนะที่สำคัญของเราไปแล้วเหมือนกัน เพราะอะไร ราคาเขาถูก ถึงจะใช้เวลานานแต่เราก็คิดว่าสบายกระเป๋า ด้วยระยะเวลาค่อนข้างที่จะนานกว่าจะถึง ระหว่างทาง เราก็ได้ใกล้ชิดกับเพื่อนๆมากขึ้น หรือแม้แต่คนบนรถไฟเองบางคนเขาก็เดินมาถามไปไหนกัน คงจะเห็นเรานั่งกันนานแล้ว 55555 หลับๆตื่นๆ ของมีค่าก็อยู่กับตัวตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ก็เดินค่อนข้างบ่อยนะ ปลอดภัยในระดับนึง 👮

03|10|62

       ตี 4 กว่าๆ รถไฟก็ถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่แล้ว เราก็มุ่งตรงห้องน้ำเลยกะว่าจะอาบน้ำที่นั่นแต่ห้องอาบน้ำยังไม่เปิดก็เลยไปขึ้นรถแดงไปอาเขตจะไปหาร้านรถเช่า จนได้เจอพี่ ผญ คนนึงนั่งอยู่บนรถแดง พวกเราก็คุยๆกันเรื่องอาบน้ำพี่เขาเลยชวนไปด้วยกัน แถวๆอาเขตก็จะมีโรงแรมที่เปิดให้อาบน้ำอยู่ เราก็ไปพร้อมพี่เขาเลย 

        เสร็จภาระกิจส่วนตัวก็เดินมาแถวร้านรถเช่า นั่งๆยืนๆรอจน 06.00 ร้านเปิด ก็เข้าไปสอบถามแล้วทำสัญญาเช่าเลย รถเกียร์ธรรมดา 1 คัน รถเกียร์ออโต้ 1 คัน

        หกโมงกว่าๆก็เสร็จพวกเราก็มุ่งตรงไปม่อนแจ่มเลยเพราะคืนนี้พวกเราจะนอนกันที่นี่ ▪ไร่หยดเหมย▪ ก่อนขึ้นไปม่อนแจ่มก็แวะที่พักก่อน ฝากกระเป๋าอะไรเสร็จก็ลุยทริปวันนี้กันเลย

         ขึ้นไปม่อนแจ่ม🌻เช้าๆอากาศกำลังดีหนาวๆ ไม่ร้อน พวกเราไปวันธรรมดาคนน้อยมาก แต่ม่อนแจ่มครั้งนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะเลย แต่ก็ยังมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะทุ่งไร่ดอกลมหนาว กับวิวภูเขา หมอกฟุ้งๆที่ลอยอยู่ (มีค่าเข้าด้วยนะ) ถ่ายจนอิ่มก็ชวนเพื่อนไปสัมผัสรถฟอร์มูล่าม้งกันสักหน่อย เช้าๆก็ เสียงก็ลั่นเขาสิจ้ะ 55555 

          อะไปกันต่อดีกว่าใกล้ๆกับม่อนแจ่มขับรถมาไม่ไกลก็เจอสวนพฤกษศาสตร์ฯ 🌵 ต้นกระบองเพชรที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปคู่ด้วย

เที่ยวจนทั่วเก็บทุกที่ ถ่ายจนแบตก้อนแรกหมดไป ถ่ายจนหิว แต่มื้อเที่ยงเราไกลมาก 

          มื้อเที่ยงของพวกเราอยู่ที่ ▪ไร่ชาลุงเดช▪ ☘

กว่าจะถึงรวมๆก็ 50 กิโลกว่าๆ มันมีช่วงที่เป็นกิโลดอยจะขับเร็วก็ไม่ได้ทางคดเคี้ยวเยอะมาก กว่าจะถึงก็บ่าย 2 ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งทุกอย่างที่เด็ดมาเลยจ้า ไข่เจียวใบชา ยำใบชาทูน่า ใบชาทอดกรอบ ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเล่นไปก่อน มื้อนี้ก็กินข้าวกลางหุบเขา กลางไร่ชา ฟินเลยแกร~ 

          กินเสร็จก็ลงไปถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศมาฝากทุกคนกันนนนน

          ฝนมาแล้ว ฟ้าร้อง เผ่นสิจ้า ถ้าติดฝนขึ้นมานี่ลำบากเลยน่ะ สำหรับมอเตอร์ไซต์ค่อนข้างน่ากลัวอยู่ แนะนำสำหรับคนที่ไม่ได้ค้างที่นี่ก็รีบกลับกันนะคะ

           5 โมงเราก็กลับมาถึงร้านขายหมูก่อนทางขึ้นม่อนแจ่มกันแล้วเย็นนี้เรามีนัดกินหมูกระทะกันแต่ดูหลายๆรีวิวก็ไม่เยอะนะพวกเราก็กินเยอะกันไงแวะซื้อเพิ่มอีกสักหน่อย 

            ถึงที่พักก็ทำการจ่ายเงินที่เหลือ จ่ายค่าหมูกระทะ เข้าบ้านกระต๊อบที่พักของพวกเรากัน ประมาณ 6 โมงเดี๋ยวพี่เขาก็เอาชุดหมูกระทะมาส่งให้

             เราต้องบอกก่อนว่าตอนเราไปเป็นช่วงโปรนักศึกษาราคาที่พักก็เลยถูก ที่นอนกว้างสามารถนอนได้ 3 คน มีระเบียงให้หน้าห้อง มีห้องน้ำให้แต่ต้องเดินลงมาข้างล่างนิดนึงแต่ก็โอเคมากๆ วิวหน้าห้องไม่แพ้ที่พักอื่นๆเลย 

              หมูกระทะพร้อม คนย่างพร้อม ลุยยย~ คืนนี้ก็เป็นอีกคืนนึงที่มีความสุจมากๆเราดูรีวิวหลายๆคนที่มาทำอะไรแบบนี้ก็แอบอิจฉา 🙄 แต่ตอนนี้เราได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วพวกเรามีความสุขมากกก เสียงเพลง ลมหนาวที่พัดผ่านตัวเรา เสียงหมูที่วางลงบนเตา แหม่ะฉันเลิ้บ 💙

04|10|62

⏰ เสียงนาฬิกาดังขึ้นตั้งแต่หัวรุ่งก็คิดว่าจะออกจากม่อนแจ่มกันเช้าหน่อยแต่อากาศตอนเช้ามันดีมาก หนาวอยากอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆ แต่ก็ต้องลุกไปอาบน้ำมีน้ำอุ่นแต่ไม่รู้ว่าเสียหรือยังไงน้ำเย็นม้ากกก กรี๊ดดดดด~ แต่ก็สดชื่นดีนะ

        08.00 เสียงสตาร์จรถก็ดังขึ้นอีกครั้งกับเสียงบอกลาเจ้าของที่พัก 👋 ไปจ้า สิรินำทางพวกเราไปเลย 100 กว่ากิโลที่เราต้องนั่งอยู่บนรถ อยู่บนท้องถนน อันแสนร้อน เจอปั้ม เจอร้านกาแฟ แวะหมด ปวดตูดมาก 55555

       ประมาณ 11 โมง เราก็มาถึงแยกไปน้ำตกแม่ยะ อะลองสักหน่อยถึงจะไม่ได้อยู่ในแพลนก็เถอะ เพื่อนเปิดหาข้อมูลตอนนั้น สรุปคือสวย บิดไปต่อเลยจ่ะ ก่อนเข้าก็จะมีด่านตรวจเราก็ลงไปจ่ายค่าธรรมเนียมแต่เป็นนักศึกษาเขาก็ลดให้ บัตรนี้สามาถยื่นตรงด่านเข้าดอยอินทนนท์ได้นะ และก็ฝากกระเป๋าไว้ได้เลย ขับไปเรื่อยๆขึ้นเขาลงเขาโค้งตลอดทางเหมือนจะอ้วกเลย ถ้ามารถยนต์ไม่น่ารอดอะ

         ถึงน้ำตกแล้ว ข้างหน้าก็จะมีร้านขายของกินหลายร้าน ส้มตำไก่ย่างน้ำเปล่า บลาๆ เผื่อใครอยากเอาไปทานข้างในเพราะเราต้องเดินไปอีก 600 เมตร เดินไปเลยเจ้าสเมิร์ฟ 

           เนี่ยถึงแล้วของจริง สวยอะแก ร้องว้าวเลยน้ะ ปกติไม่ได้อินกับน้ำตกมาก  ครั้งนี้น้ำตกคือน้ำตกอะบางที่น้ำน้อยไม่สวย ที่นี่ต้องมาเช็คอินแหละ

           เที่ยงแล้วไปขึ้นดอยอินทนนท์กันต่อ ตอนขับไปเพื่อนสะกิดบอกว่า ๆ ข้างหน้าฝนตก นี่ก็ขับหาเซเว่นมาตลอดทางแต่เราเริ่มเข้าเขตดอยอินทนนท์แล้วไม่มีแล้วไง ขับไปเรื่อยๆภาวนาไปเรื่อยๆอย่าให้โดน ผ่านจุดตรวจที่ 1 มา อีก 30 กิโลก็จะถึงแล้ว

           ขับมาเรื่อยๆมองรถที่สวนมาน้ำ มอเตอร์ไซต์สวนมาเปียก พวกเราก็คงไม่รอด ในที่สุดก็ตู้มมม🌦 หาศาลาพักได้เลยจ้า หลังจากฝนซาเวลาก็กระชั้นชิดเข้ามาทุกทีนั้นขับต่อเลยแล้วกัน อากาศก็เริ่มหนาว ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ คำพูดนี้ใช้ได้จริงๆนะ หมอกเริ่มลงมา แต่เราก็หนาวเหน็บเลยแหละ เสื้อผ้าเปียก บิดจนมือชา แต่ดั้นด้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์นะ

            ขึ้นไปถึงก็ 16°c เอง ว่าทำไมเย็นเข้ากระดูกขนาดนี้ เริ่มหิวแล้วด้วยข้างบนก็มีร้านขายของอยู่ มาม่า ไส้กรอกไปก่อนแล้วกัน 

             เสร็จแล้วก็เดินไปที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาเดินประมาณ 340 เมตร ดูไม้นานาพันธุ์ ความสมบูรณ์ของที่นี่คือสมบูรณ์เลยแหละ เขียวไปหมด สวย 🌳🍃

             และก็แวะถ่ายรูปกับวิวระหว่างทางนิดนึงก่อนจะไปต่อกันที่ป่าบงเปียง

             คืนนี้เรานอนกันที่นี่นะ ▪นาขั้นบันไดป่าบงเปียง▪ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องทางเข้าไปหมู่บ้านเหมือนกันแต่ก็มีอีกเส้นทางคือทางแม่แจ่มแต่อ้อมหน่อยถ้าไปกับสิริเขาก็จะให้เราไปทางไม่อ้อมเราก็ไป แต่ทางมัน OMG เลยนะ แทบร้องอะ เพื่อนเราขับล้มตั้งแต่เริ่มเข้าแต่ก็โชคดีที่ฝนไม่ตกทางแห้ง แต่ขนาดทางแห้งยังล้มเลย ขับมาเจอกับรถชาวบ้านเขาก็บอกว่าอย่าเข้าไปเลยทางลำบากมากเลยน้ะถ้าจะเข้าไปให้ไปกับรถชาวบ้านดีกว่า แต่พวกเราก็ห้าวเลือกที่จะขับเข้าไปเอง ขับไปขับมาเพื่อนเราจะล้มอีกเพื่อนอีกคนที่นั่งไปกับเราลงแล้ววิ่งไปช่วย ส่วนเราพอจะหาที่จอดได้ก็จอดแต่ทางเป็นเขาล้มอีกวุ่นวายไปหมด เหนื่อยนะ เหนื่อยเพราะวิ่งขึ้นเขาลงเขาไปขับรถให้เพื่อนนี่แหละ จนต้องเปลี่ยนให้อีกคนนึงขับเพราะคิดว่าคงปลอดภัยมากกว่าดีกว่าต้องให้ลงไปในไร่ข้าวโพดอีกครั้ง555555 และแล้วก็มาเจอกับทางที่ไม่ไหวจะขับอีกครั้งจนเจอลุงชาวบ้านเขาก็ใจดีรถเพื่อนติดหลุมอยู่แกก็มาช่วยแล้วก็มาขับให้แล้วก็บอกเราว่าประมาณ 700 เมตรก็ถึงแล้วน้ะ ยิ้มออกเลยอะ รู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมานิดนึง ก่อนหน้าคือเข็น ยก ลากกันสุดๆไปเลย 

           ในที่สุดก็ถึงแล้วนาขั้นบันได ป่าบงเปียงที่ใครๆก็อยากจะมาเช็คอิน อยากจะมานอนหลับไปพร้อมๆกับธรรมชาติที่น่าหลงใหลของที่นี่ พวกเราหายเหนื่อยกันแล้ว

            เรานอนกันที่ บ้านพี่ทองดีโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่กลางๆติดกับถนน อยู่ระหว่างบ้านพักอื่นๆและเว้นระยะห่างที่รู้สึกว่ามีความเป็นส่วนตัวกว่าที่พักอื่นๆ บ้านพักหลังใหญ่มีที่นอนทั้งข้างนอกและข้างใน ผ้าห่มเป็นแบบผ้านวมมีเพียบเลยมีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้

           วิวจากที่พักก็ 360 องศา ข้างหน้าเป็นทิวเขา ทุ่งนาที่ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตามองไปทางซ้ายก็เห็นนาเป็นชั้นขั้นบันได แค่นี้ก็เกินพอแล้ว 

            แต่ที่นี่พอค่ำแล้วก็จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ทุกอย่างก็เริ่มสงบลงพร้อมกับแสงตะวัน จะมีแค่แสงเทียนน้อยๆของแต่ละโฮมสเตย์แต่คนที่มาที่นี่เราเชื่อว่าทุกคนมาพักผ่อน มานอนชาร์จพลังให้ตัวเองใหม่ มานอนฟังเสียงจิ้งหรีด ร้อง มานอนฟังเสียงน้ำตกที่ไหลอยู่ใกล้ๆกับที่พัก มานอนรับลมหนาวของที่นี่กันนนน 💙