ถ้าเอ่ยชื่อ "สมชาย เข็มกลัด" เชื่อว่าผู้อ่านในที่นี้คงรู้จักเขาคนนี้เป็นอย่างดี ทั้งในฐานะดารานักแสดง และนักร้องนักดนตรีที่โด่งดังในยุคหนึ่ง
จากงานเพลงชุดแรก ชาวบ้านเรียกนิคเนมของเขาว่า "เต๋า หัวโจก" พอมาถึงชุดที่สองก็เป็น "สมชาย จดปลายเท้า" และ "สมชาย 100 แรงม้า" ในภายหลัง
จนกระทั่งเมื่อเขาเล่นหนังใหญ่อย่าง "สะแด่วแห้ว" หรือจะเป็น "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ
และเร็ว ๆ นี้ เขาจะกลับคืนสู่จอเงินอีกครั้งกับหนังเรื่อง "ไบค์แมน 2" ที่ทิ้งลุคชายหนุ่มหน้าตาสดใสกลายเป็นคนหัวล้านตามวัย
ถึงแม้ว่า "เต๋า สมชาย" เป็นดาราที่ยืนหยัดอยู่บนโลกมายามายาวนาน แต่คงมีน้อยคนนักที่รู้จักตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่เข้าสู่วงการเช่นวันนี้
หากเป็นตอนที่ "หนุ่มเต๋า" ยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลดาวรุ่ง สมัยที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว...
ถึงขนาดหนังสือพิมพ์รายวันลงข่าวและภาพขณะที่เขากำลังแย่งบอลจนสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างขาดลอย
เรียกว่าตอนที่เขาเล่นหนังหรือร้องเพลงก็ทำได้เก่ง พอตอนเป็นนักเตะก็ยิ่งเก่งอีก แถมหล่อเหลาจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของแมวมองอีกต่างหาก
เพื่อเป็นการแสดงความรักและคิดถึงพี่ชายคนนี้ เรามีหลักฐานไว้ให้ดูกันตรงนี้แล้ว ภาพจริง ตัวจริง ไม่ได้ตาฝาดหรอกจ้า
ก็หวังว่า อีกไม่นานเขาอาจกลับมาเยือนสังเวียนฟุตบอลเพื่อย้อนกลับไปใช้หน้าที่เช่นสมัยเรียนก็เป็นได้นะ...สวัสดี.
โลกกีฬารายวัน, 14 ธันวาคม 2532
สยามกีฬา, 2 พฤศจิกายน 2532
เปิดอดีตที่น้อยคนได้ยินของ "เต๋า หัวโจก" ก่อนเข้าสู่โลกมายา
จากงานเพลงชุดแรก ชาวบ้านเรียกนิคเนมของเขาว่า "เต๋า หัวโจก" พอมาถึงชุดที่สองก็เป็น "สมชาย จดปลายเท้า" และ "สมชาย 100 แรงม้า" ในภายหลัง
จนกระทั่งเมื่อเขาเล่นหนังใหญ่อย่าง "สะแด่วแห้ว" หรือจะเป็น "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ
และเร็ว ๆ นี้ เขาจะกลับคืนสู่จอเงินอีกครั้งกับหนังเรื่อง "ไบค์แมน 2" ที่ทิ้งลุคชายหนุ่มหน้าตาสดใสกลายเป็นคนหัวล้านตามวัย
ถึงแม้ว่า "เต๋า สมชาย" เป็นดาราที่ยืนหยัดอยู่บนโลกมายามายาวนาน แต่คงมีน้อยคนนักที่รู้จักตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่เข้าสู่วงการเช่นวันนี้
หากเป็นตอนที่ "หนุ่มเต๋า" ยังเป็นนักกีฬาฟุตบอลดาวรุ่ง สมัยที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว...
ถึงขนาดหนังสือพิมพ์รายวันลงข่าวและภาพขณะที่เขากำลังแย่งบอลจนสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างขาดลอย
เรียกว่าตอนที่เขาเล่นหนังหรือร้องเพลงก็ทำได้เก่ง พอตอนเป็นนักเตะก็ยิ่งเก่งอีก แถมหล่อเหลาจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของแมวมองอีกต่างหาก
เพื่อเป็นการแสดงความรักและคิดถึงพี่ชายคนนี้ เรามีหลักฐานไว้ให้ดูกันตรงนี้แล้ว ภาพจริง ตัวจริง ไม่ได้ตาฝาดหรอกจ้า
ก็หวังว่า อีกไม่นานเขาอาจกลับมาเยือนสังเวียนฟุตบอลเพื่อย้อนกลับไปใช้หน้าที่เช่นสมัยเรียนก็เป็นได้นะ...สวัสดี.