Le Marais หรือ เลอมาเร่ส์ นี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งย่านในปารีสที่ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมต่างๆแบบปารีสไว้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว เป็นย่านชอปปิ้ง เดินเล่นที่ชาวปารีสนั้นมักจะเเวะเวียนกันมาเสมอๆ รวมไปถึงเหล่านักท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจเดินเที่ยวในย่านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว และเพื่อให้การเดินชมย่านนี้นั้นสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น O'bon Paris จึงได้จัดการทำไกด์บุ๊คสำหรับการเดินเที่ยวในย่านนี้ามาแบ่งปันทุกคน
1. เส้นทางการเดินเที่ยวย่านมาเร่ส์

จุดเริ่มต้นของการเดินจากในเเผนที่ คือ สถานีเมโทร Saint Paul [1] จากสถานีเมโทรก็เดินต่อไปยังถนนซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยของศตวรรษที่ 17 เพื่อชื่นชม ซากกำแพงเมืองปารีส [2] ใกล้ๆกันนั้นคุณจะได้พบกับโบสถ์เซ็นเซนต์ปอลซึ่งจะเป็นทางเดินไปยังคฤหาสน์ "Hôtel de Sully" [3] (62 Rue Saint-Antoine) เพื่อเดินต่อไปยังลานสาธารณะที่ชื่อว่า Place des Vosges [4] หากย้อนกลับไปเมื่อ 300 ปีที่แล้วก็คงต้องบอกว่าพื้นที่ตรงนี้เปรียบได้กับถนนฌ็องเซลิเซ่ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเเหล่งชอปปิ้งที่ชาวปารีสผู้มั่งคั่งมักเเวะเวียนมาในอดีตอยู่บ่อยๆ บริเวณ Place des Vosges มีพื้นที่จัดสรรไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ หากใครต้องการเเวะเวียนมารับประทานอาหารเช้าก็สามารถเข้าไปได้ที่คาเฟ่CARETTE ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากลานสาธารณะเเห่งนี้ เดินต่อไปทางทิศเหนือก็จะได้พบกับร้านขายสินค้าดีไซน์เก๋ที่มีชื่อว่า MERCI [5] และใกล้กันนั้นก็เป็นที่ตั้งของอีกหนึ่งคาเฟ่น่ารักๆอย่าง BOOT CAFE [6] หากอิ่มเอมกับการชอปปิ้งและกลิ่นกาแฟเรียบร้อย ก็แนะนำให้เดินต่อไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะปิกัสโซ [7] ซึ่งรวบรวมผลงานของศิลปินชื่อดังอย่างปีกัสโซไว้มากมาย หลังจากนั้น หากยังต้องการเดินชอปปิ้งต่อก็ขอแนะนำถนนที่มีชื่อว่า Rue des Francs Bourgeois [8] ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้าดีไซน์เก๋ไว้มากมาย เมื่อเสร็จสิ้นจากการเลือกซื้อสินค้า ก็พากันเดินไปยังถนนอีกหนึ่งสายที่มีชื่อว่า Rue des Rosiers [9] ซึ่งนับได้ว่าเป็นย่านศูนย์รวมชาวยิวในมาเร่ส์ ถนนสายนี้เป็นเส้นที่ค่อนข้างเงียบ สงบ และหากใครที่มีเวลาเหลือเฟือ พอที่จะต่อคิวเเละลิ้มรสของแซนด์วิชสไตล์ยิวเราขอแนะนำให้เข้าไปที่ร้าน “l’AS DU FALLAFEL” เมื่ออิ่มเอมกับอาหารและการชื่นชมพื้นที่รอบบนถนนเส้นนี้เเล้ว คุณจะสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังถนน Rue des archives [10] ร้านต่างๆบนถนนเส้นนี้ตกแต่ง ประดับประดาไปด้วยธงสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ LGBT เมื่อเดินต่อมาเรื่อยก็จะได้พบกับห้างสรรพสินค้า LE BHV MARAIS [11] ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านค้าเเบรนด์ดังต่างๆมากมาย เมื่อสิ้นสุดจากการชอปปิ้งที่ LE BHV MARAIS เราขอให้คุณมุ่งตรงไปที่ "Hôtel de Ville" [12] หรือศาลากลางของเมืองปารีสนั่นเอง ที่จุดนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เหมาะกับการเก็บภาพที่ระลึกเป็นอย่างยิ่ง และหลังจากการเก็บภาพที่บริเวณนี้คุณสามารถขึ้นไปยังหอคอย Tour Saint Jacques [13] เพื่อชื่นชมกับวิวของมาเร่ส์เเละปารีส หากแต่การจะขึ้นไปยังหอคอยนี้นั้นต้องทำการจองล่วงหน้า อาจจะมีขั้นตอนยุ่งยากที่ต้องเตรียมการแต่รับรองว่าไม่ผิดหวังเเน่นอน หากไม่ต้องการวุ่นวายเตรียมการจองอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่เเพ้กัน คือ รูฟท็อปบาร์ของห้าง BHV นั่นเอง บาร์แห่งนี้มีชื่อว่า LE PECHOIR ซึ่งเป็นบาร์ที่จะทำให้คุณได้เห็นวิวของปารีสแบบพาโนรามาอย่างสวยงาม และนี่ก็คือภาพรวมคร่าวๆของการเดินเที่ยวรอบๆย่านมาเร่ส์ ต่อไปเราจะพาไปดูว่ามีอะไรให้ทำกันอีกบ้างในย่านนี้
2. สถานที่ชอปปิ้งในย่านมาเร่ส์ - กิจกรรมสำคัญในย่านมาเร่ส์ คือ การชอปปิ้งนั่นเอง บริเวณย่านมาเร่ส์นี้มีสถานที่ชอปปิ้งมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเเบรนด์ดังๆที่เราคุ้นเคย หรือจะเป็นเเบรนด์โลคัลของฝรั่งเศสก็มีให้เลือกมากมาย วันนี้เราขอถือโอกาสเเนะนำสถานที่ชอปปิ้ง 3 แห่งหลักๆในย่านมามาเร่ส์ให้ทุกคนได้รู้จักกัน
ที่แรกคือ MERCI - เป็นร้านรวมของดีไซน์ต่างๆ ไม่ส่าจะเป็นของแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าที่เป็นที่นิยมที่สุด คงจะไม่พ้นถุงผ้า และสร้อยข้อมือที่ส่วนใหญ่เเล้วนักท่องเที่ยวจะซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึกจากกรุงปารีสนั่นเอง
MERCI
ที่อยู่ : 111 Boulevard Beaumarchais, 75003 Paris
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 10:00-19:30 / ปิดทุกวันอาทิตย์
ร้านที่ 2 มีชื่อว่า KILO SHOP - เป็นศูนย์รวมเสื้อว่าวินเทจ ราคาไม่เเพง ใครเป็นเเฟนเสื้อผ้าวินเทจล่ะก็ บอกเลยว่าห้ามพลาด ร้าน KILO SHOP นี้จะคิดราคาเสื้อผ้าเป็นกิโลนั่นเอง
KILO SHOP
ที่อยู่ : 69-71 Rue de la Verrerie, 75004 Paris
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 11:00-19:30 / วันเสาร์ 11:00-19:45 / วันอาทิตย์ 14:00-19:30
สถานที่ชอปปิ้งแห่งที่ 3 คือ LE BHV MARAIS - เปิดทำการมาตั้งเเต่ปี 1856 เป็นห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมเเบรนด์นานาชาติชั้นนำไว้มากมาย มีสินค้าตั้งเเต่เสื้อผ้า เเฟชั่น ศิลปะ อาหารและของเบ็ดเตล็ด ต่างๆ รวมไปถึงอาหารและร้านขายหนังสือ
LE BHV MARAIS
ที่อยู่ : 52 Rue de Rivoli, 75004 Paris
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 9:30 - 20:00 / วันอาทิตย์ 11:00 - 19:30
3. กินนอะไรดีในย่านมาเร่ส์ - ในย่านมาเร่ส์นี้ มีร้านอาหารมากมายหลากหลาย เราได้ทำการคัดเลือกร้านดังๆมาเเนะนำให้ได้รู้จักกันในกระทู้นี้
เริ่มต้นที่ร้านขนมปัง LEGAY CHOC รูปทรงของขนมปังมีลักษณะคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศชายซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะเป็นอิทธิพลจากความจริงที่ว่าตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมาย่านมาเร่ส์ได้หลายมาเป็นศูนย์รวมของชาวรักร่วมเพศ และมีธุรกิจเเละร้านค้ามากมายที่เปิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ป LGBT
LEGAY CHOC
ที่อยู่ : 45 Rue Sainte-Croix de la Bretonnerie, 75004 Paris
เวลาทำการ : วันจันทร์, วันพุธถึงวันอาทิตย์ 7:00-20:00
สำหรับมื้อกลางวันเราขอแนะนำอาหารของชาวยิว คือ "Fallafel"ที่เป็นแซนด์วิชมังสวิรัติ ซึ่งส่วนผสมของชิกพีที่ปั้นเป็นก้อนเเล้วน้ำไปทอด พร้อมด้วยผักต่างๆ L’As du Fallafel คือร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในย่านนี้
L'AS DU FALLAFEL
ที่อยู่ : 32-34 Rue des Rosiers, 75004 Paris
เวลาทำการ : วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี 12:00-23:00 /วันศุกร์ 12:00-16:00 / วันเสาร์ 18:30-23:00
ถ้าเน้นอาหารมื้อหนักเรามีตัวเลือกให้เป็นร้านอาหารอย่าง Les Pinces ซึ่งเน้นเมนูลอบสเตอร์และสเต็กเป็นหลัก
LES PINCES
ที่อยู่ : 29 Rue du Bourg Tibourg, 75004 Paris
เวลาทำการ : วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี 19:00-22:30 / วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ 12:30-14:20 และ 19:00-22:30
หากต้องการทานอาหารฝรั่งเศสเเถบเบอร์กันดีก็สามารถไปลิ้มรสกันได้ที่ร้าน Au Bourguignon du Marais
AU BOURGUIGNON DU MARAIS
ที่อยู่ : 52 Rue François Miron, 75004 Paris
เวลาทำการ : ทุกวัน 12:00-23:00
นอกจากนี้ถ้าใครชอบจิบชายามบ่าย เราขอแนะนำร้าน Carette ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเดินซุ้มโค้งใกล้ Place des Vosges ราคาของร้านนี้ค่อนข้างสูงหน่อยอันนี้เราต้องขอบอกล่วงหน้าเอาไว้ก่อน
<img class="img-in-post in-tiny-editor">

CARETTE
ที่อยู่ : 25 Place des Vosges, 75003 Paris
เวลาทำการ : ทุกวัน 7:30-24:00
หากต้องการชิลในคาเฟ่ อีกร้านที่เราขอแนะนำ คือ Boot Café อยู่ไม่ใกล้จากศูนย์ชอปปิ้ง Merci ร้านนี้จะมีป้ายสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ว่า CORDONNERIE อยู่ที่หน้าร้าน คาเฟ่ร้านนี้มีเมนูกาแฟ รวมไปถึงชาเเละเค้กต่างๆให้บริการ ใครอยากนั่งทานในร้านก็ย่อมได้ หรือจะซื้อเป็นเทคอะเวเพื่อเดินต่อในมาเร่ส์ก็ได้เช่นกัน ร้านนี้เอาเข้าจริงๆมีขนาดเล็กมากๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องเสี่ยงดวงเรื่องที่นั่งกันหน่อย
BOOT CAFE
ที่อยู่ : 19 Rue du Pont aux Choux, 75003 Paris
เวลาทำการ : ทุกวัน 10:00-17:00
4. มีอะไรให้ดูบ้างในย่านมาเร่ส์
Marais ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง หนองน้ำ สาเหตุที่บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า มาเร่ส์ นั้นก็เนื่องมาจากในศตวรรษที่ 12 นั้น บริเวณนี้เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นเขตเมืองปารีสสิ้นสุดที่บริเวณนี้นี่เอง ดังนั้นเมื่อได้เดินมาเที่ยวในย่านมาเร่ส์ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่จะเดินมาชื่นชมซากของกำเเพงที่บริวเวณถนน Rue Charlemagne
ช่วงระหว่างศตวรรษที่ 16 และ 17 กษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 ได้ทำการปรับปรุงให้ย่านนี้กลายมาเป็นย่านการค้าปารีส โดยปรับปรุงลาน Place des Vosges ให้กลายเป็นศูนย์กลางของการติดต่อเรื่องต่างๆของราชวงศ์ ปัจจุบัน Place des Vosges ได้กลายมาเป็นสถานนที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวปารีสในช่วงฤดูร้อน อาคารต่างๆรอบบริเวณก็ล้วนได้รับการปรับปรุงโดย Hausmann ในศตวรรษที่ 19 ทำให้ตึกต่างๆสะท้อนความเป็นปารีสให้กับย่านนี้ได้อย่างแท้จริง
Le Marais - เดินเที่ยว "มาเร่ส์" ย่านสุดฮิตใจกลางปารีส