Review วิเคราะห์ งานหนังสือเมืองทองครั้งแรก
ผม (ปองวุฒิ) เขียนไว้ในเฟสส่วนตัวเอามาลงตรงนี้ด้วย
เผื่อมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะมาไหม มาวันไหนยังไงดีนะครับ
1. ตัวงานภาพรวม ผมว่าทำได้ดีและคนมาร่วมงานถือว่าเยอะกว่าระดับที่เคยกลัวกันนะ สองสามปีก่อนย้ายจะมีแต่เสียงต้านปนแช่ง แต่พอถึงเวลางานจริงคนมาเที่ยวก็โผล่มาให้เห็น (อย่างว่าคนจะมาก็จะไม่พูดอะไรเยอะเพราะไม่เดือดร้อน) ยังคึกคักบ้างบางช่วงบางวัน อย่างไรก็ตาม เทียบกับที่เดิมในเวลาเดียวกัน คนยังน้อยกว่า
2. สถานที่ เมืองทองเหมือนสุวรรณภูมิ ส่วนศูนย์สิริกิติ์เหมือนดอนเมือง ข้อดีที่ใหม่สะอาดหายใจคล่อง เพดานโปร่ง พื้นที่ทางเดินขยายเดินสบายขึ้น มีรถเข็นให้บริการ(แต่ต้องแย่งใช้เวลาคนเยอะมีหลายงาน) อาหารราคาแพงตามประสาที่จัดงานรุ่นใหม่ 90 บาทถึงหลายร้อยบาท มีคนกระซิบมาเพิ่มว่าหา 30-50 บาทก็คือพวกร้านออกบูธในงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันคนเชี่ยวพื้นที่อาจจะหากินได้เก่งกว่า
3. ทุกสำนักพิมพ์มารวมในฮอลล์ใหญ่อันเดียวกัน แบ่งเป็นโซน ข้อดีคือสะดวกสำหรับคนเจาะจงซื้อบางแนว เดินง่ายเลย เช่นใครจะซื้อแต่การ์ตูน เดินในจุดเดียวกันจบ ไม่ต้องวนไปมาสามสี่ด้าน
4. สำนักพิมพ์มาไม่ครบเท่าเดิม แต่เท่าที่มาก็ไม่น่าจะทำให้คนมาเที่ยวรู้สึกว่าขาดโหวงอะไรนะ ตัวหลักก็มาหมด ส่วนบางคนที่ไม่มาก็ยังฝากขายกับที่มา ส่วนที่เน้นขายของเก่าหรือขายพวกของเล็กน้อยไม่มา เอาตรงๆ คิดว่าถึงกลับที่เก่าแต่ค่าเช่าแพงขึ้นเขาก็อาจจะเลิกมาแล้วอยู่ดี
5.รูปแบบการจัดบูธแต่ละสำนักพิมพ์ก็คล้ายที่เดิมมาก ขนาดก็ประมาณเดิม เพิ่มเติมคือทางเดินกว้างขึ้นอย่างว่า มีปัญหาขลุกขลักหนังสือออกช้าไม่ทันบ้าง ก็คงเป็นปกติอยู่แล้ว หรืออาจไม่กล้าออกมากกับการลองตลาดที่ใหม่ครั้งแรก
6. จากสังเกตและฟังเสียงคนอื่น คิดว่าทางเมืองทองก็พยายามจัดการให้ดีที่สุดแล้ว รวมทั้งเรื่องรถรับส่ง อย่างไรก็ตามไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการเดินทางและการจราจรได้เต็มที่ พูดถึงกรณีคนมีรถใช้ก่อน ผมว่าที่จอดมากกว่าเดิมนะ ดีขึ้น ความติดของถนนไม่แย่กว่าหรอก เพราะที่สิริกิติ์ตอนพีคก็เป็นชั่วโมงได้กว่าจะออกจากแถวนั้น ถ้าคุณไม่เลือกเวลาไปพลาดหรือขับไม่คล่องจริงๆ คนมีรถน่าจะหาที่จอดได้ง่ายกว่า
7. ปัญหาใหญ่และเป็นจุดอ่อนสำคัญคือคนใช้ขนส่งสาธารณะ ไม่ใช้รถส่วนตัว อย่างว่าจะสาหัสมากในการเดินทางเข้าออก ช่วงพีคแบบเสาร์อาทิตย์เจองานอื่นก็ติดขัดลำบากต้องแย่งรถกัน ส่วนวันธรรมดาก็อาจจะรู้สึกว่าไกลไม่สะดวกไม่มาดีกว่า
8. อารมณ์แบบ “เออ วันนี้แวะไปเดินเล่นหน่อยหลังเลิกงาน เพราะขึ้นรถไฟใต้ดินไปได้” อันนี้หายไปแน่ ทำให้คิดได้เลยว่าทำไมวันธรรมดายิ่งช่วงเย็นถึงค่ำคนจะโหวง เพราะคนเลือกไม่มาตั้งแต่แรก อันนี้เป็นเหตุเป็นผลเลย และด้วยตำแหน่งที่ตั้งมันไม่ใช่พื้นที่กลางเมืองด้วย คนจะรู้สึกว่ามายาก แต่ถ้าเลือกจังหวะดีๆ คุณน่าจะมาได้สักวันแหละน่าในงานเป็นสิบวัน
9. ควรมาวันไหนดี สำหรับคนมาเที่ยวงานหนังสือและไม่ได้สนใจเที่ยวงานอื่นและลายเซ็นนักเขียนมาก ให้มาวันธรรมดา ตามข้อบนมาสิเดินเที่ยวสบายพนักงานพร้อมบริการคุณ ส่วนใครอยากมาเสาร์อาทิตย์ ในมุมหนึ่งข้อดีก็คือคุณอาจได้เที่ยวงานอื่นพ่วงด้วย ซื้อทีวี ของใช้เด็ก หรือดูประกวดหมาแมวไปด้วย
10. เมื่อคิดว่าที่นี่ครั้งแรกผมว่าใช้ได้นะ และน่าจะปรับได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะจัดอยู่ที่นี่อย่างน้อย 8 ครั้ง การเริ่มหนแรกในเดือนตุลา ผมเคยคิดไว้นานแล้วว่ามันต้องยาก เพราะปกติตุลางานหงอยกว่าเมษาเป็นธรรมดาอยู่แล้วและยิ่งถ้าเจอช่วงตุลาที่ปลายฝน มีตกบ่อย สภาพแวดล้อมไม่เป็นใจ ซึ่งปีนี้เจอ ดังนั้นเมษาน่าจะดีขึ้น
11. สำหรับคนหวังรถไฟฟ้าเมืองทอง ผมว่าอย่าหวังเลย จากการหาข้อมูล มันคือสายสีชมพู และเมืองทองคือส่วนต่อขยายกำหนดล่าสุดคือเสร็จปลายปี 65 และโครงการแบบนี้ ช้าเสมอครับ ผมว่าเผลอๆ 67 ยังไม่เสร็จ ส่วนสิริกิติ์ใหม่ล่าสุดเสร็จปลายปี 65 เริ่มใช้งาน 66
12. เพิ่มอีกข้อ สำหรับคนยังไม่รู้และสงสัยว่าทำไมไม่ไปทางไบเทค จากข้อมูลที่เคยทราบที่นั่นค่าเช่าแพงขึ้นมาก และไม่มีเวลาให้ครับ ดังนั้นยังไงต้องเลือกเมืองทองอยู่แล้ว ถึงอยากก็ไม่มีทางเลือกไบเทคได้เลย
สรุปฟันธง Final verdict คิดว่าสุดท้ายถ้าราคาค่าเช่าศูนย์สิริกิติ์ใหม่ไม่แพงเกินไปงานจะกลับไปที่นั่นเร็วสุด เมษา 66 แต่ระหว่างนี้ตอนอยู่เมืองทองควรมาเที่ยวกันครับ ถือเสียว่าเป็นสีสันทั้งสนุกและลำบากไปพร้อมกันตามประสานักเขียนนักอ่าน เคยอยู่ร่วมกันมาช่วงย้ายบ้านหรือเปลี่ยนที่ชั่วคราวจะไม่มีความทรงจำร่วมกันหน่อยเหรอ จริงไหม
จาก
https://www.facebook.com/pongwutwriter/posts/2573838226041139?comment_id=2574670282624600¬if_id=1570403122854632¬if_t=feed_comment_reply
ปองวุฒิ เล่า - งานหนังสือเมืองทองครั้งแรก
ผม (ปองวุฒิ) เขียนไว้ในเฟสส่วนตัวเอามาลงตรงนี้ด้วย
เผื่อมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจว่าจะมาไหม มาวันไหนยังไงดีนะครับ
1. ตัวงานภาพรวม ผมว่าทำได้ดีและคนมาร่วมงานถือว่าเยอะกว่าระดับที่เคยกลัวกันนะ สองสามปีก่อนย้ายจะมีแต่เสียงต้านปนแช่ง แต่พอถึงเวลางานจริงคนมาเที่ยวก็โผล่มาให้เห็น (อย่างว่าคนจะมาก็จะไม่พูดอะไรเยอะเพราะไม่เดือดร้อน) ยังคึกคักบ้างบางช่วงบางวัน อย่างไรก็ตาม เทียบกับที่เดิมในเวลาเดียวกัน คนยังน้อยกว่า
2. สถานที่ เมืองทองเหมือนสุวรรณภูมิ ส่วนศูนย์สิริกิติ์เหมือนดอนเมือง ข้อดีที่ใหม่สะอาดหายใจคล่อง เพดานโปร่ง พื้นที่ทางเดินขยายเดินสบายขึ้น มีรถเข็นให้บริการ(แต่ต้องแย่งใช้เวลาคนเยอะมีหลายงาน) อาหารราคาแพงตามประสาที่จัดงานรุ่นใหม่ 90 บาทถึงหลายร้อยบาท มีคนกระซิบมาเพิ่มว่าหา 30-50 บาทก็คือพวกร้านออกบูธในงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันคนเชี่ยวพื้นที่อาจจะหากินได้เก่งกว่า
3. ทุกสำนักพิมพ์มารวมในฮอลล์ใหญ่อันเดียวกัน แบ่งเป็นโซน ข้อดีคือสะดวกสำหรับคนเจาะจงซื้อบางแนว เดินง่ายเลย เช่นใครจะซื้อแต่การ์ตูน เดินในจุดเดียวกันจบ ไม่ต้องวนไปมาสามสี่ด้าน
4. สำนักพิมพ์มาไม่ครบเท่าเดิม แต่เท่าที่มาก็ไม่น่าจะทำให้คนมาเที่ยวรู้สึกว่าขาดโหวงอะไรนะ ตัวหลักก็มาหมด ส่วนบางคนที่ไม่มาก็ยังฝากขายกับที่มา ส่วนที่เน้นขายของเก่าหรือขายพวกของเล็กน้อยไม่มา เอาตรงๆ คิดว่าถึงกลับที่เก่าแต่ค่าเช่าแพงขึ้นเขาก็อาจจะเลิกมาแล้วอยู่ดี
5.รูปแบบการจัดบูธแต่ละสำนักพิมพ์ก็คล้ายที่เดิมมาก ขนาดก็ประมาณเดิม เพิ่มเติมคือทางเดินกว้างขึ้นอย่างว่า มีปัญหาขลุกขลักหนังสือออกช้าไม่ทันบ้าง ก็คงเป็นปกติอยู่แล้ว หรืออาจไม่กล้าออกมากกับการลองตลาดที่ใหม่ครั้งแรก
6. จากสังเกตและฟังเสียงคนอื่น คิดว่าทางเมืองทองก็พยายามจัดการให้ดีที่สุดแล้ว รวมทั้งเรื่องรถรับส่ง อย่างไรก็ตามไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการเดินทางและการจราจรได้เต็มที่ พูดถึงกรณีคนมีรถใช้ก่อน ผมว่าที่จอดมากกว่าเดิมนะ ดีขึ้น ความติดของถนนไม่แย่กว่าหรอก เพราะที่สิริกิติ์ตอนพีคก็เป็นชั่วโมงได้กว่าจะออกจากแถวนั้น ถ้าคุณไม่เลือกเวลาไปพลาดหรือขับไม่คล่องจริงๆ คนมีรถน่าจะหาที่จอดได้ง่ายกว่า
7. ปัญหาใหญ่และเป็นจุดอ่อนสำคัญคือคนใช้ขนส่งสาธารณะ ไม่ใช้รถส่วนตัว อย่างว่าจะสาหัสมากในการเดินทางเข้าออก ช่วงพีคแบบเสาร์อาทิตย์เจองานอื่นก็ติดขัดลำบากต้องแย่งรถกัน ส่วนวันธรรมดาก็อาจจะรู้สึกว่าไกลไม่สะดวกไม่มาดีกว่า
8. อารมณ์แบบ “เออ วันนี้แวะไปเดินเล่นหน่อยหลังเลิกงาน เพราะขึ้นรถไฟใต้ดินไปได้” อันนี้หายไปแน่ ทำให้คิดได้เลยว่าทำไมวันธรรมดายิ่งช่วงเย็นถึงค่ำคนจะโหวง เพราะคนเลือกไม่มาตั้งแต่แรก อันนี้เป็นเหตุเป็นผลเลย และด้วยตำแหน่งที่ตั้งมันไม่ใช่พื้นที่กลางเมืองด้วย คนจะรู้สึกว่ามายาก แต่ถ้าเลือกจังหวะดีๆ คุณน่าจะมาได้สักวันแหละน่าในงานเป็นสิบวัน
9. ควรมาวันไหนดี สำหรับคนมาเที่ยวงานหนังสือและไม่ได้สนใจเที่ยวงานอื่นและลายเซ็นนักเขียนมาก ให้มาวันธรรมดา ตามข้อบนมาสิเดินเที่ยวสบายพนักงานพร้อมบริการคุณ ส่วนใครอยากมาเสาร์อาทิตย์ ในมุมหนึ่งข้อดีก็คือคุณอาจได้เที่ยวงานอื่นพ่วงด้วย ซื้อทีวี ของใช้เด็ก หรือดูประกวดหมาแมวไปด้วย
10. เมื่อคิดว่าที่นี่ครั้งแรกผมว่าใช้ได้นะ และน่าจะปรับได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าน่าจะจัดอยู่ที่นี่อย่างน้อย 8 ครั้ง การเริ่มหนแรกในเดือนตุลา ผมเคยคิดไว้นานแล้วว่ามันต้องยาก เพราะปกติตุลางานหงอยกว่าเมษาเป็นธรรมดาอยู่แล้วและยิ่งถ้าเจอช่วงตุลาที่ปลายฝน มีตกบ่อย สภาพแวดล้อมไม่เป็นใจ ซึ่งปีนี้เจอ ดังนั้นเมษาน่าจะดีขึ้น
11. สำหรับคนหวังรถไฟฟ้าเมืองทอง ผมว่าอย่าหวังเลย จากการหาข้อมูล มันคือสายสีชมพู และเมืองทองคือส่วนต่อขยายกำหนดล่าสุดคือเสร็จปลายปี 65 และโครงการแบบนี้ ช้าเสมอครับ ผมว่าเผลอๆ 67 ยังไม่เสร็จ ส่วนสิริกิติ์ใหม่ล่าสุดเสร็จปลายปี 65 เริ่มใช้งาน 66
12. เพิ่มอีกข้อ สำหรับคนยังไม่รู้และสงสัยว่าทำไมไม่ไปทางไบเทค จากข้อมูลที่เคยทราบที่นั่นค่าเช่าแพงขึ้นมาก และไม่มีเวลาให้ครับ ดังนั้นยังไงต้องเลือกเมืองทองอยู่แล้ว ถึงอยากก็ไม่มีทางเลือกไบเทคได้เลย
สรุปฟันธง Final verdict คิดว่าสุดท้ายถ้าราคาค่าเช่าศูนย์สิริกิติ์ใหม่ไม่แพงเกินไปงานจะกลับไปที่นั่นเร็วสุด เมษา 66 แต่ระหว่างนี้ตอนอยู่เมืองทองควรมาเที่ยวกันครับ ถือเสียว่าเป็นสีสันทั้งสนุกและลำบากไปพร้อมกันตามประสานักเขียนนักอ่าน เคยอยู่ร่วมกันมาช่วงย้ายบ้านหรือเปลี่ยนที่ชั่วคราวจะไม่มีความทรงจำร่วมกันหน่อยเหรอ จริงไหม
จาก https://www.facebook.com/pongwutwriter/posts/2573838226041139?comment_id=2574670282624600¬if_id=1570403122854632¬if_t=feed_comment_reply