1. การเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ของฟานไดจ์
เมื่อนัดกลางสัปดาห์ที่ลิเวอร์พูลเสีย 3 ประตูให้ซัลส์บวร์ก จะเห็นได้ว่าโจ โกเมส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีสักเท่าไหร่ นัดนี้คล็อปป์เลยส่งลอฟเรนลงมาจับคู่กับ VVD แม้ยังไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยสักนัดในฤดูกาลนี้ แต่ฟอร์มลอฟเรนค่อนข้างดีที่เดียว มีการสกัดสวยๆหลายครั้ง จังหวะการสอดไปโหม่งลูกเตะมุมก็ทำได้ดีกว่าโกเมสอย่างเห็นได้ชัด
และผมค่อนข้างเเน่ใจว่า หากนัดหน้ามาติปยังไม่หายเจ็บ ลอฟเรนก็น่าจะเป็นตัวเลือกเเรกที่จะมาจับคู่กับ VVD
2. ความขยันของมาเน่
นอกจากมาเน่จะทำประตูขึ้นนำได้เเล้ว จุดเด่นอีกอย่างของเขาคือ 'ความขยัน' มีหลายครั้งเลยที่มาเน่วิ่งควบมาเสียบสกัดบอลของเลสเตอร์ซิตี้ตรงบริเวณใกล้ๆกรอบเขตโทษ และที่มาของสามเเต้มในนัดนี้ จุดเริ่มต้นก็มาจากมาเน่อีกเช่นเคย ที่เป็นคนควบไปเอาบอลจนอัลไบรจ์ตันต้องทำฟาวล์จากด้านหลัง
เรียกได้ว่าช่วงนี้ขาดพี่ซาดิโอก็เหมือนขาดใจ ขอให้อย่าป่วยอย่าไข้ก็เเล้วกัน
3. การโรเตชั่นในแดนกลาง
จากนัดกลางสัปดาห์ คล็อปป์เปลี่ยนเเค่ 1 ตำเเหน่ง คือตำเเหน่งของกัปตันทีมอย่างจอร์เเดน เฮนเดอร์สัน เป็นลุงเจมส์ที่ลงมาเเทน เเละทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ม ข้อดีของมิลเนอร์คือมีลูกเปิดที่ดี ลูกแรกที่แอสซิสต์ให้มาเน่ก็มาจากปลายสตั๊ดของมิลเนอร์
นอกจากนั้นยังได้ความดุดัน เพราะมิลเนอร์จะชอบเข้าไปบวกจังหวะ 50-50 แบบไม่ยั้ง ถ้าพลาด อาจจะถูกมองว่าเป็นการเข้าพรวด เเต่ถ้ามันได้ผล ก็จะทำให้กองกลางฝั่งตรงข้ามได้แหยงขึ้นมาบ้าง
ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ความนิ่งในการสังหารลูกจุดโทษ สมเเล้วที่เป็นเพชฌฆาตมือหนึ่งของทีม
4. ซาล่าห์กับการจ่ายบอล
หลังจากมีดราม่าบ้ายิงกับมาเน่ ดูเหมือนวิธีการเล่นของซาล่าห์จะเปลี่ยนไป เห็นได้ว่าตอนนี้เขาหันมาจ่ายมากขึ้น มีจังหวะชิ่ง 1-2 สวยๆกับมาเน่ แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ประสิทธิภาพของลูกจ่ายยังไม่ดีเท่าไหร่ มีหลายลูกที่ซาล่าห์จ่ายไม่ค่อยละเอียด ทำให้ทีมเสียโอกาสและโดนโต้กลับ แต่ปัญหาผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงได้รับการเเก้ไข
ที่น่าดีใจคือตอนนี้ทุกคนหันมาเล่นเป็นทีมมากขึ้นไม่มีใครเด่นเเบบโดดๆอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเพราะทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี สปิริตในทีมก็ดีขึ้นตาม
5. เลสเตอร์ หนึ่งในผู้เเย่งชิงคำแหน่งท็อป 4
ต้องขอบคุณแบรนดัน รอดเจอร์ที่เข้ามายกระดับการเล่นของเลสเตอร์ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฟอร์มของเลสเตอร์ในตอนนี้ เชื่อว่ามีลุ้นเเย่งอันดับ 4 กันไปยาวๆ นัดที่เเพ้ก็มีเเพ้ทีมใหญ่อย่างเเมนยูและลิเวอร์พูล แถมยังเป็นการเเพ้เพราะโดนลูกจุดโทษอีกด้วย
หากเลสเตอร์สามารถรักษาตัวผู้เล่นตัวหลักอย่างแมดดิสัน วาร์ดี้ ทีเลอร์มอง เอาไว้ได้ น่าจะเป็นอีกทีมที่บินสูงเเละมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าได้เลยล่ะครับ
แถม 6. โอริกี้ เทพบันดาลชัย
นี่ไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญอีกต่อไป เมื่อดิว็อค โอริกี้ ลงมาเเละมีส่วนร่วมของประตูชัยอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นตัวนำโชค ตัวโจ๊กเกอร์ หรือ Match Winning Player ก็เป็นได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เทพกี้ลงมา ผมมักจะสัมผัสได้ว่า เราจะต้องได้ประตูอีกเเน่นอน! ขอบคุณสำหรับตำเเหน่งจ่าฝูงในตอนนี้นะครับท่าน
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ สามารถเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นและติชมได้เช่นกันครับ
We've conquered all of Europe
We're never going to stop
From Paris Down To Turkey
We've got to win a lot
But Bob Paisley and Bill Shankly
The fields of Anfield road
We are loyal supporters
And we've come from Liverpool
Allez, Allez, Allez.
Allez, Allez, Allez.
5 ข้อที่ได้จากเกม ลิเวอร์พูล 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้
1. การเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ของฟานไดจ์
เมื่อนัดกลางสัปดาห์ที่ลิเวอร์พูลเสีย 3 ประตูให้ซัลส์บวร์ก จะเห็นได้ว่าโจ โกเมส ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีสักเท่าไหร่ นัดนี้คล็อปป์เลยส่งลอฟเรนลงมาจับคู่กับ VVD แม้ยังไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยสักนัดในฤดูกาลนี้ แต่ฟอร์มลอฟเรนค่อนข้างดีที่เดียว มีการสกัดสวยๆหลายครั้ง จังหวะการสอดไปโหม่งลูกเตะมุมก็ทำได้ดีกว่าโกเมสอย่างเห็นได้ชัด
และผมค่อนข้างเเน่ใจว่า หากนัดหน้ามาติปยังไม่หายเจ็บ ลอฟเรนก็น่าจะเป็นตัวเลือกเเรกที่จะมาจับคู่กับ VVD
2. ความขยันของมาเน่
นอกจากมาเน่จะทำประตูขึ้นนำได้เเล้ว จุดเด่นอีกอย่างของเขาคือ 'ความขยัน' มีหลายครั้งเลยที่มาเน่วิ่งควบมาเสียบสกัดบอลของเลสเตอร์ซิตี้ตรงบริเวณใกล้ๆกรอบเขตโทษ และที่มาของสามเเต้มในนัดนี้ จุดเริ่มต้นก็มาจากมาเน่อีกเช่นเคย ที่เป็นคนควบไปเอาบอลจนอัลไบรจ์ตันต้องทำฟาวล์จากด้านหลัง
เรียกได้ว่าช่วงนี้ขาดพี่ซาดิโอก็เหมือนขาดใจ ขอให้อย่าป่วยอย่าไข้ก็เเล้วกัน
3. การโรเตชั่นในแดนกลาง
จากนัดกลางสัปดาห์ คล็อปป์เปลี่ยนเเค่ 1 ตำเเหน่ง คือตำเเหน่งของกัปตันทีมอย่างจอร์เเดน เฮนเดอร์สัน เป็นลุงเจมส์ที่ลงมาเเทน เเละทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ม ข้อดีของมิลเนอร์คือมีลูกเปิดที่ดี ลูกแรกที่แอสซิสต์ให้มาเน่ก็มาจากปลายสตั๊ดของมิลเนอร์
นอกจากนั้นยังได้ความดุดัน เพราะมิลเนอร์จะชอบเข้าไปบวกจังหวะ 50-50 แบบไม่ยั้ง ถ้าพลาด อาจจะถูกมองว่าเป็นการเข้าพรวด เเต่ถ้ามันได้ผล ก็จะทำให้กองกลางฝั่งตรงข้ามได้แหยงขึ้นมาบ้าง
ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ความนิ่งในการสังหารลูกจุดโทษ สมเเล้วที่เป็นเพชฌฆาตมือหนึ่งของทีม
4. ซาล่าห์กับการจ่ายบอล
หลังจากมีดราม่าบ้ายิงกับมาเน่ ดูเหมือนวิธีการเล่นของซาล่าห์จะเปลี่ยนไป เห็นได้ว่าตอนนี้เขาหันมาจ่ายมากขึ้น มีจังหวะชิ่ง 1-2 สวยๆกับมาเน่ แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ประสิทธิภาพของลูกจ่ายยังไม่ดีเท่าไหร่ มีหลายลูกที่ซาล่าห์จ่ายไม่ค่อยละเอียด ทำให้ทีมเสียโอกาสและโดนโต้กลับ แต่ปัญหาผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงได้รับการเเก้ไข
ที่น่าดีใจคือตอนนี้ทุกคนหันมาเล่นเป็นทีมมากขึ้นไม่มีใครเด่นเเบบโดดๆอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเพราะทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี สปิริตในทีมก็ดีขึ้นตาม
5. เลสเตอร์ หนึ่งในผู้เเย่งชิงคำแหน่งท็อป 4
ต้องขอบคุณแบรนดัน รอดเจอร์ที่เข้ามายกระดับการเล่นของเลสเตอร์ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฟอร์มของเลสเตอร์ในตอนนี้ เชื่อว่ามีลุ้นเเย่งอันดับ 4 กันไปยาวๆ นัดที่เเพ้ก็มีเเพ้ทีมใหญ่อย่างเเมนยูและลิเวอร์พูล แถมยังเป็นการเเพ้เพราะโดนลูกจุดโทษอีกด้วย
หากเลสเตอร์สามารถรักษาตัวผู้เล่นตัวหลักอย่างแมดดิสัน วาร์ดี้ ทีเลอร์มอง เอาไว้ได้ น่าจะเป็นอีกทีมที่บินสูงเเละมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าได้เลยล่ะครับ
แถม 6. โอริกี้ เทพบันดาลชัย
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ สามารถเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นและติชมได้เช่นกันครับ
We've conquered all of Europe
We're never going to stop
From Paris Down To Turkey
We've got to win a lot
But Bob Paisley and Bill Shankly
The fields of Anfield road
We are loyal supporters
And we've come from Liverpool
Allez, Allez, Allez.
Allez, Allez, Allez.