ย้อนกลับไปเมื่อประมาณวันที่ 30 กันยายน 2019 เราก็จองที่พักจาก airbnb ตามรายละเอียดด้านล่าง คือเป็นห้องในอพามเมนต์ สนนราคาก็ประมาณคืนละ 5พันกว่าๆ โลเคชั่นก็โอเค ไม่ไกลจากที่จัดงาน Anuga สักเท่าไหร่ จ่ายเงินเสร็จสรรพ ก็ทักไปหา host ที่ชื่อ Peter นางก็ไม่ตอบอะไรมา ใจก็คิดว่า เออนางคงไม่ชอบคุย
สองวันถัดมา เลยทักไปถามวิธีการเดินทาง นางจึงบอกให้นั่งแท็กซี่มาเลย ตามที่อยู่นี้ (dillenburger 47) ทุกอย่างผ่านไปอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ใจเราบอกว่า เออ ที่พักใกล้งานแฟร์ขนาดนี้ ราคาขนาดนี้ ยังอุตส่าห์เหลือรอดมาอีก มันแปลกดีจัง
วันที่ 4 ตุลา เราลงเครื่องที่ เวียนนา เพื่อต่อเครื่องไปโคโลญจน์ เวลาประมาณ 6 โมงเช้าเลยทักไปหา host ขอที่อยู่และเบอร์ติดต่ออีกครั้งเผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่นางก็ไม่ได้ตอบอะไร เข้าใจว่ายังเช้าอยู่
จนลงเครื่องที่ โคโลญจน์ในเวลาเกือบ 9 โมงก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับ เลยนั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่โลเคชั่นที่ให้ไว้ ห่างจากสนามบินไม่เกิน ครึ่ง ชม. เราไปถึงจุดที่ให้ไว้ตาม google map และแท็กซี่บอกลงตรงนี้นะ เราก็โอเค ซึ่งตอนนั้นฝนตก และอากาศเย็นมาก
พอลงจากแท็กซี่ก็เดินหาตาม google map ก็หาไม่เจอ จริงๆแล้วใน google map มันขึ้นนะ แต่มันเข้าไปไม่ได้ คือมันไม่มีทางเข้าไป เราก็เดินวนไปวนมากลางสายฝนและอากาศหนาว พร้อมกระเป๋า 2 ใบตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ พร้อมทั้งโทรหา host ด้วยเบอร์ที่ให้ไว้ ก็เป็นเสียงบอกว่า เบอร์นั้น invalid จากนั้นก็เริ่มติดต่อ airbnb ที่ไทย แจ้งเรื่องเอาไว้ว่า หาบ้านไม่เจอ และติดต่อ host ไม่ได้ บทสนทนา ค่อนข้างน่าเบื่อหน่าย เพราะเราเองเริ่มหงุดหงิด ทาง จนท. ถามว่า เรามีเดดไลน์ไหมว่ารอได้ถึงกี่โมง เพราะในข้อกำหนดบ้าน เค้าบอกว่า check in 11 โมง แต่เราบอกว่า เราได้แจ้งไปแล้วว่าเราจะมาถึง 9 โมงกว่า ซึ่งเราเลยบอกว่า งั้นก็รอถึง 11 โมงก็ได้ ด้วยความหงุดหงิดไป
ระหว่างรอ เราก็เดินไปเดินมาทั่วบริเวณนั้น และใช่ เราเดินตากฝน พร้อมกระเป๋า 2 ใบ จนไม่ไหวละ ทิ้งกระเป๋าเอาไว้ และเดินตัวเปล่า ไปทั่วบริเวณ ถามคนในระแวกนั้น ก้ไม่มีใครรู้จักบ้านเลขที่นี้
เรายังคงโทรหา airbnb อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เยอรมันและที่ไทย ระบบ identify ตัวเองแน่นหนามาก แต่ในเวลาแบบนี้มันน่ารำคาญเช่นกัน ทุกคนบอกว่าได้แต่รอ และกำลังประสานงานให้
เวลาผ่านไปจน11 โมงกว่า มีรถตำรวจขับผ่านมา เราจึงออกไปโบกรถตำรวจ และแจ้งว่า เกิดอะไรขึ้น ตำรวจพยายามบอกว่า น่าจะอยู่แถวนี้นะ ซึ่งเรายืนยันว่า ไม่มี เค้าจึงให้เรานั่งรถตำรวจ และเค้าจะพาไปส่งเอง นั่งรถตำรวจวนหากันอยู่หลายนาทีจนตำรวจเองก็ถอดใจ และ ถามกลับไปที่โรงพักถึงที่อยู่นี้ ซึ่งทางโรงพักแจ้งมาว่า มันไม่มีอยู่จริง
ตำรวจถามเราว่า จะเอายังไงต่อไป เราเลยถามว่าเค้าช่วยอะไรได้บ้าง เค้าบอกว่า เค้าพาไปโรงพักได้ ไปแจ้งความ แถว โรงพักมีโรงแรม เค้าพาไปส่งได้ เอาไหม เราเลยบอกว่าไปโรงพักดีกว่า คิดในใจว่า อย่างน้อยมันก็ไม่หนาวล่ะวะ
ช่วงที่อยู่โรงพัก ก็ยังคงติดตอ่กับ airbnb อยู่ ได้ความว่า ตอนนี้ case manager กำลังติดต่อกับ host ถ้าภายใน บ่ายโมง ยังไม่ตอบกลับ จะfull refund ให้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว แต่เราก็ถามต่อว่า แล้วยังไงต่อไป เราจะนอนที่ไหน ทาง airbnb แจ้งว่า เค้าจะทำการหาให้ และให้เราเลือกอีกครั้งจากที่เค้าหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รับเรื่องเราไป และตรวจสอบบ้านเลขที่นี้ ซึ่งก็ไม่มีอยู่จริงในระบบ เราพลาดเอง ที่มีแค่ชื่อ host ว่า peter ไม่มีนามสกุลอะไร ทำให้ตามเรื่องต่อไม่ได้
เราใช้เวลาอยู่ที่โรงพักตั้งแต่ 11 โมง ถึงบ่าย โมง ไม่มีอะไรคืบหน้า ช่วงเวลาที่รอ เราจึงหาโรงแรมไปเรื่อยๆ แต่ในโคโลญจน์ รร แทบจะไม่มีแล้ว ที่มีก็คืนละหลายหมื่น ซึ่งเราว่ามันไม่ควร เวลาบ่ายโมงมาถึง เราจึงโทรเข้าไปถาม airbnb อีกครั้ง ทีนี้เราเลยแจ้งเงื่อนไขเค้าไปว่า เราต้องการที่พักในโคโลญจน์ เท่านั้น และราคาสมเหตุสมผล
airbnb ส่งที่พักที่แรกมาให้ ซึ่งเรามองว่าไกล จึงปฏิเสธไป และที่สอง ซึ่งถูกมาก เป็นห้องใน pension house ซึ่งเราก็ไม่โอเค จึงมีการโต้เถียงกันนิดหน่อย เราก็เข้าใจว่าเราก็หลายสิ่งกับเค้า แต่ มันเป็นสิ่งที่เราต้องมารับผิดชอบด้วหรอ ? เราเลยถามว่า airbnb จะชดเชยให้เราได้เท่าไหร่ เค้าบอกว่า maximum $200 เราก็เริ่มหาโรงแรมไปเรื่อยๆ
ู
ในความมืดยังมีแสงสว่าง อยู่ดีๆ ก็มีโรงแรมหนึ่งเด้งขึ้นมา อยู่ใจกลางเมือง ราคา 6 คืน 5 หมื่นกว่าบาท เรารีบจองด้วยความรวดเร็ว และแจ้ง airbnb ไปว่าได้โรงแรมแล้วราคานี้ ทางนั้นจึงบอก ให้เราส่ง reciept ไปให้ เราจึงนั่งรถมุ่งหน้าไปโรงแรม พอมาถึงโรงแรม จึงถาม พนง. ว่ามีห้องเหลือเยะหรอ เค้าบอกว่า ไม่มีหรอก มันเต็มหมดแล้ว แต่มันมีข้อผิดพลาดเรื่องการจอง ทำให้ห้องหลุด ออกมา 2 ห้อง ซึ่งเราก็จองเข้ามาทันที
เค้าบอกว่าเรากล้ามากนะ ที่ไม่จอง รร มาก่อน และมาหาเอาในช่วงที่ high demand แบบนี้ เราเลยบอกไปว่า เราจองมาแล้ว กับ airbnb แต่โดนทาง host เททิ้งไม่เป็น ท่า
เวลาบ่ายสามโมงกว่า ๆ เราจึงได้เข้าห้องพัก และได้พักผ่อน อาบน้ำ และนั่งถอนหายใจยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นมา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของถูกและดี ไม่มีอยู่จริง // อันที่จริงเราจองที่พักแบบนี้บ่อยมาก ไม่ใช่กับแค่ airbnb นะ มันมีหลาย service ที่เราเคยใช้ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลย จึงทำให้เราชะล่าใจนี่ล่ะ
ปล 1. airbnb แก้ไขสถานการณ์ได้ไม่แย่ แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่ มันเป็นช่วง high demand ด้วย จึงทำให้ทางเค้าหาที่พักได้ยาก
ปล 2. เราจะเรียกเก็บค่าโทรศัพท์กับ airbnb ได้ไหม ค่าโทรศัพท์โทรกลับไทยและโทรท้องถิ่นรวมกันน่าจะหลายพันอยู่
ปล3. ถ้าได้บ้านไม่ดี host ไม่ดี เราจะบอกว่าเป็นความซวยของเรา แต่นี่บ้านไม่มีอยู่จริงและhost ติดต่อไม่ได้ เป็นความบกพร่องของ airbnb ชัดๆ ที่ไม่ได้คัดกรอง เ
เตือนภัย airbnb ห้องพักไม่มีอยู่จริงที่ Cologne เยอรมันนี
สองวันถัดมา เลยทักไปถามวิธีการเดินทาง นางจึงบอกให้นั่งแท็กซี่มาเลย ตามที่อยู่นี้ (dillenburger 47) ทุกอย่างผ่านไปอย่างที่มันควรจะเป็น แต่ใจเราบอกว่า เออ ที่พักใกล้งานแฟร์ขนาดนี้ ราคาขนาดนี้ ยังอุตส่าห์เหลือรอดมาอีก มันแปลกดีจัง
วันที่ 4 ตุลา เราลงเครื่องที่ เวียนนา เพื่อต่อเครื่องไปโคโลญจน์ เวลาประมาณ 6 โมงเช้าเลยทักไปหา host ขอที่อยู่และเบอร์ติดต่ออีกครั้งเผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่นางก็ไม่ได้ตอบอะไร เข้าใจว่ายังเช้าอยู่
จนลงเครื่องที่ โคโลญจน์ในเวลาเกือบ 9 โมงก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับ เลยนั่งแท็กซี่จากสนามบินไปที่โลเคชั่นที่ให้ไว้ ห่างจากสนามบินไม่เกิน ครึ่ง ชม. เราไปถึงจุดที่ให้ไว้ตาม google map และแท็กซี่บอกลงตรงนี้นะ เราก็โอเค ซึ่งตอนนั้นฝนตก และอากาศเย็นมาก
พอลงจากแท็กซี่ก็เดินหาตาม google map ก็หาไม่เจอ จริงๆแล้วใน google map มันขึ้นนะ แต่มันเข้าไปไม่ได้ คือมันไม่มีทางเข้าไป เราก็เดินวนไปวนมากลางสายฝนและอากาศหนาว พร้อมกระเป๋า 2 ใบตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ พร้อมทั้งโทรหา host ด้วยเบอร์ที่ให้ไว้ ก็เป็นเสียงบอกว่า เบอร์นั้น invalid จากนั้นก็เริ่มติดต่อ airbnb ที่ไทย แจ้งเรื่องเอาไว้ว่า หาบ้านไม่เจอ และติดต่อ host ไม่ได้ บทสนทนา ค่อนข้างน่าเบื่อหน่าย เพราะเราเองเริ่มหงุดหงิด ทาง จนท. ถามว่า เรามีเดดไลน์ไหมว่ารอได้ถึงกี่โมง เพราะในข้อกำหนดบ้าน เค้าบอกว่า check in 11 โมง แต่เราบอกว่า เราได้แจ้งไปแล้วว่าเราจะมาถึง 9 โมงกว่า ซึ่งเราเลยบอกว่า งั้นก็รอถึง 11 โมงก็ได้ ด้วยความหงุดหงิดไป
ระหว่างรอ เราก็เดินไปเดินมาทั่วบริเวณนั้น และใช่ เราเดินตากฝน พร้อมกระเป๋า 2 ใบ จนไม่ไหวละ ทิ้งกระเป๋าเอาไว้ และเดินตัวเปล่า ไปทั่วบริเวณ ถามคนในระแวกนั้น ก้ไม่มีใครรู้จักบ้านเลขที่นี้
เรายังคงโทรหา airbnb อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เยอรมันและที่ไทย ระบบ identify ตัวเองแน่นหนามาก แต่ในเวลาแบบนี้มันน่ารำคาญเช่นกัน ทุกคนบอกว่าได้แต่รอ และกำลังประสานงานให้
เวลาผ่านไปจน11 โมงกว่า มีรถตำรวจขับผ่านมา เราจึงออกไปโบกรถตำรวจ และแจ้งว่า เกิดอะไรขึ้น ตำรวจพยายามบอกว่า น่าจะอยู่แถวนี้นะ ซึ่งเรายืนยันว่า ไม่มี เค้าจึงให้เรานั่งรถตำรวจ และเค้าจะพาไปส่งเอง นั่งรถตำรวจวนหากันอยู่หลายนาทีจนตำรวจเองก็ถอดใจ และ ถามกลับไปที่โรงพักถึงที่อยู่นี้ ซึ่งทางโรงพักแจ้งมาว่า มันไม่มีอยู่จริง
ตำรวจถามเราว่า จะเอายังไงต่อไป เราเลยถามว่าเค้าช่วยอะไรได้บ้าง เค้าบอกว่า เค้าพาไปโรงพักได้ ไปแจ้งความ แถว โรงพักมีโรงแรม เค้าพาไปส่งได้ เอาไหม เราเลยบอกว่าไปโรงพักดีกว่า คิดในใจว่า อย่างน้อยมันก็ไม่หนาวล่ะวะ
ช่วงที่อยู่โรงพัก ก็ยังคงติดตอ่กับ airbnb อยู่ ได้ความว่า ตอนนี้ case manager กำลังติดต่อกับ host ถ้าภายใน บ่ายโมง ยังไม่ตอบกลับ จะfull refund ให้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว แต่เราก็ถามต่อว่า แล้วยังไงต่อไป เราจะนอนที่ไหน ทาง airbnb แจ้งว่า เค้าจะทำการหาให้ และให้เราเลือกอีกครั้งจากที่เค้าหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ รับเรื่องเราไป และตรวจสอบบ้านเลขที่นี้ ซึ่งก็ไม่มีอยู่จริงในระบบ เราพลาดเอง ที่มีแค่ชื่อ host ว่า peter ไม่มีนามสกุลอะไร ทำให้ตามเรื่องต่อไม่ได้
เราใช้เวลาอยู่ที่โรงพักตั้งแต่ 11 โมง ถึงบ่าย โมง ไม่มีอะไรคืบหน้า ช่วงเวลาที่รอ เราจึงหาโรงแรมไปเรื่อยๆ แต่ในโคโลญจน์ รร แทบจะไม่มีแล้ว ที่มีก็คืนละหลายหมื่น ซึ่งเราว่ามันไม่ควร เวลาบ่ายโมงมาถึง เราจึงโทรเข้าไปถาม airbnb อีกครั้ง ทีนี้เราเลยแจ้งเงื่อนไขเค้าไปว่า เราต้องการที่พักในโคโลญจน์ เท่านั้น และราคาสมเหตุสมผล
airbnb ส่งที่พักที่แรกมาให้ ซึ่งเรามองว่าไกล จึงปฏิเสธไป และที่สอง ซึ่งถูกมาก เป็นห้องใน pension house ซึ่งเราก็ไม่โอเค จึงมีการโต้เถียงกันนิดหน่อย เราก็เข้าใจว่าเราก็หลายสิ่งกับเค้า แต่ มันเป็นสิ่งที่เราต้องมารับผิดชอบด้วหรอ ? เราเลยถามว่า airbnb จะชดเชยให้เราได้เท่าไหร่ เค้าบอกว่า maximum $200 เราก็เริ่มหาโรงแรมไปเรื่อยๆ
ู
ในความมืดยังมีแสงสว่าง อยู่ดีๆ ก็มีโรงแรมหนึ่งเด้งขึ้นมา อยู่ใจกลางเมือง ราคา 6 คืน 5 หมื่นกว่าบาท เรารีบจองด้วยความรวดเร็ว และแจ้ง airbnb ไปว่าได้โรงแรมแล้วราคานี้ ทางนั้นจึงบอก ให้เราส่ง reciept ไปให้ เราจึงนั่งรถมุ่งหน้าไปโรงแรม พอมาถึงโรงแรม จึงถาม พนง. ว่ามีห้องเหลือเยะหรอ เค้าบอกว่า ไม่มีหรอก มันเต็มหมดแล้ว แต่มันมีข้อผิดพลาดเรื่องการจอง ทำให้ห้องหลุด ออกมา 2 ห้อง ซึ่งเราก็จองเข้ามาทันที
เค้าบอกว่าเรากล้ามากนะ ที่ไม่จอง รร มาก่อน และมาหาเอาในช่วงที่ high demand แบบนี้ เราเลยบอกไปว่า เราจองมาแล้ว กับ airbnb แต่โดนทาง host เททิ้งไม่เป็น ท่า
เวลาบ่ายสามโมงกว่า ๆ เราจึงได้เข้าห้องพัก และได้พักผ่อน อาบน้ำ และนั่งถอนหายใจยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นมา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ของถูกและดี ไม่มีอยู่จริง // อันที่จริงเราจองที่พักแบบนี้บ่อยมาก ไม่ใช่กับแค่ airbnb นะ มันมีหลาย service ที่เราเคยใช้ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเลย จึงทำให้เราชะล่าใจนี่ล่ะ
ปล 1. airbnb แก้ไขสถานการณ์ได้ไม่แย่ แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่ มันเป็นช่วง high demand ด้วย จึงทำให้ทางเค้าหาที่พักได้ยาก
ปล 2. เราจะเรียกเก็บค่าโทรศัพท์กับ airbnb ได้ไหม ค่าโทรศัพท์โทรกลับไทยและโทรท้องถิ่นรวมกันน่าจะหลายพันอยู่
ปล3. ถ้าได้บ้านไม่ดี host ไม่ดี เราจะบอกว่าเป็นความซวยของเรา แต่นี่บ้านไม่มีอยู่จริงและhost ติดต่อไม่ได้ เป็นความบกพร่องของ airbnb ชัดๆ ที่ไม่ได้คัดกรอง เ