ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ได้มีโอกาสไปเที่ยว Norway โดยเราวางแผนทริปและจองทุกอย่างด้วยตัวเองเลยอยากมาแชร์ต่อ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่สนใจ เป็นกระทู้แรกด้วยยังไงก็ฝากติดตามแล้วก็คอมเม้นมาคุยกันนะคะ
ทริปนี้เรามาทั้งหมด 4 วัน โดยเราจะนอนที่เมือง Bergen ทั้งหมด มาเริ่มที่วันแรกกันเลยย
.
.
.
Day 1
การเดินทางจาก BergenAirport Flesland (BGO) ประเทศ Norway เข้าไป Bergen city centre มีหลากหลายวิธี เช่น แท็กซี่, รถราง City Light Rail (หรือที่นี่เขาเรียกว่า Bybanen), Airport Bus Flybussen หรือ Limousine แล้วแต่ความสะดวก ใครสายประหยัดก็เลือก City Light Rail ได้ ยิ่งถ้าซื้อบัตร BergenCard ก็จะขึ้นฟรีไปเลย (ทางเราไม่ได้ซื้อ เพราะคำนวณแล้วไม่คุ้ม แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละคนนะ ถ้าเกิดอยากเข้า Museum หรือ Attraction ต่างๆในตัวเมืองเยอะ ก็คุ้มอยู่)
ส่วนเราเลือกเข้าตัวเมือง Bergen โดย Airport Bus Flybussen (ถ้ามีบัตร Burgen Card ลด 20%) เพราะ 1.คือใช้เวลาน้อยกว่ารถราง 2.ไม่ต้องลากกระเป๋าเอง มีคนยกขึ้นรถให้ และ 3. คือวางแผนจองโรงแรมใกล้ๆ Bus stop ไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องตั๋วก็ทำการจองออนไลน์ไปก่อนแล้วก็เซฟตั๋วไว้ในมือถือ (จองในเว็บจะถูกกกว่า 20%) ตั๋วไปกลับราคา NOK 195 ก็ประมาณ 780 บาทไทย ตอนซื้อแค่กรอกวันที่ๆเราจะขึ้นรถ เราจะต้องใช้ตั๋วในวันที่เรากรอกเท่านั้น ส่วนเรื่องเวลานั้นไม่ fix เราสามารถขึ้นรอบไหนก็ได้ ขากลับก็กรอกวันที่ๆเราจะขึ้นรถไปสนามบินเหมือนเดิม ถ้าเราไม่ได้ลงวันที่ไว้ ตั๋วจะถือว่าหมดอายุหนึ่งอาทิตย์นับจากขาเเรกที่เราใช้ทันที ตัวอย่างตามรูปเลยค่า

สามารถจองตั๋วและเข้าไปอ่านข้อมูล เช็คตารางรถได้ตาม Link นี้เลย
https://en.visitbergen.com/visitor-information/travel-information/airport-bus-p944603
ถ้าเดินออกมาจาก Arrival Hall ตามป้ายรถบัสออกมาหน้าอาคารก็จะเจอรถเลย การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 นาที เข้าเมือง
ออกมาจากตัวอาคารจะเจอรถบัส หน้าตาแบบนี้ แต่ต้องดูหน้ารถด้วยนะว่ามุ่งหน้าไปทางไหน ไม่ก็ถามคนขับก็ได้
ในเว็บไซต์ของ Airport Bus มีแผนที่บอกจุด Bus Stop และโรงแรมที่ใกล้เคียงไว้หมด แผนที่โรงแรมของเราคือ Basic Hotel Bergen หมายเลข 8 เพราะฉะนั้นเราต้องกระโดดลงที่ป้าย B

พอลงจากรถบัสก็ต้องเดินลากกระเป๋ามาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงโรงแรม ตลอดทริปนี้ของเราจะพักที่ Basic Hotel Bergen อยู่ทั้งหมด 3 คืน NOK 1,782 เท่ากับ ประมาณ 7,128 บาทไทย หาร 2 แล้วพอรับได้ ห้องนอนสะอาด ห้องน้ำกว้างดี แต่จะบอกนิดนึงว่าถ้าใครเอากระเป๋าใบใหญ่มาก็ควรยอมจ่ายอีกนิด เอาโรงแรมที่ใกล้ป้าย Bus Stop กว่านี้หน่อย จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าฝ่าดงหินบนถนนยุโรป
พอเข้าโรงแรมเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย แพลนวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมาถึงก็เกือบเย็นแล้ว แค่จะออกไปเดินดูเมือง แล้วก็กินข้าวเย็นที่ Fish Market
จากฝั่ง Fish Market มองข้ามไปก็จะเห็นวิวยอดฮิตของที่นี่ Bryggen – Unesco World Heritage Site เป็นบริเวณตึกที่เก่าแก่ที่สุดใน Bergen สร้างตั้งแต่ปี 1702 วิวตอนเย็นก็จะดูเงียบสงบประมาณนี้
ร้านอาหารเย็นวันนี้คือ Fjellskål อยู่ข้างใน Indoor Fish Market เลย สั่งเป็นชุดรวม seafood ชื่อเมนูคือ Large Shellfish Platter ราคา NOK 899 อันนี้สามารถสั่งได้ว่าจะให้ทำแบบเย็นหรือร้อน เราสั่งแบบร้อนมา กับอีกเมนูคือ Oven Grilled Salmon ราคา NOK 249 โดยรวมอาหารคือดีงาม ประทับใจ ถึงแม้ราคาจะแอบแรงไปหน่อยแต่มาถึงแล้วก็ต้องลอง มื้ออื่นก็มาม่าวนไป 5555

.
.
.
Day 2
Norway in a nutshell
ต้องบอกว่าจุดมุ่งหมายหลักของการมาเที่ยว Norway ครั้งนี้คือการมาล่องเรือชม Nærøyfjord หนึ่งใน fjord ที่สวยที่สุดในโลก และรถไฟสายโรแมนติกที่ชื่อว่า Flåmsbana โดยเฉพาะ นอกจากนั้นเรายังตั้งใจจะมาในหน้าหนาวสุดๆ เพราะอยากลองเที่ยวธรรมชาติและได้มองภูเขาที่ขาวโพลนปกคลุมไปด้วยหิมะดูสักครั้ง พอได้ไปเหยียบที่นั่นจริงๆ ก็บอกเลยว่าวิวเกินคาดมาก คุ้มค่าเงินทุกบาททุมสตางค์ที่เสียไป
อย่างแรกต้องอธิบายก่อนว่า Norway in a nutshell คือ แพคเกจรวมการเดินทางและกิจกรรมหลายๆแบบ ที่เราจะสามารถจัด route การเดินทางได้เอง เช่นอาจจะเลือกออกเดินทางจาก Oslo จบที่ Bergen หรือจะเลือกออกจาก Oslo เเวะไปค้างคืน Bergen เเล้วกลับมาจบลงที่ Oslo เหมือนเดิมได้
ถ้าอยากจองตั๋วไปตาม Link นี้เลย ขออวยหน่อยว่าเว็บดีมาก อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนว่าเราต้องไปที่ไหนอย่างไร รับรองว่าไม่มีงง
Route ที่เราเลือกครั้งนี้จะเดินทางเป็นวงกลมตามแผนที่ด้านล่างเลย คือ ออกเดินทางจาก Bergen > Voss > Gudvangen > Flåm > Myrdal > Voss และกลับมาจบลงที่ Bergen
ขยายความหน่อยนึงว่าแพคเกจ Norway in a nutshell มันง่ายตรงที่ว่า เราแค่จัด route เองว่าอยากไปไหนก่อนหลัง ส่วนเรื่องเวลาเขาจะจัดมาให้แบบพอเหมาะพอดีกับการเปลี่ยนรถลงเรือต่างๆ ตอนแรกก็กลัวจะเปลี่ยนไม่ทัน แต่เอาเข้าจริงก็คือ เขาคิดมาให้แล้ว ทุกอย่างคือพอดีเป๊ะเลย
จาก time line เป็นแพลนที่เราเลือก (ดูตามรูปด้านล่างเลยค่ะ) คือ
เส้นทางจาก Bergen ไป Voss เราจะเดินทางด้วยรถไฟปกติ ออกจาก Bergen Railway Station ไปถึง Voss Railway Station
v
พอมาถึง Voss จะไปเปลี่ยนจากรถไฟเป็นรถบัสเพื่อไปที่ Gudvangen
v
จาก Gudvangen จะเป็นที่ๆเราเปลี่ยนไปขึ้นเรือเพื่อชมfjord
v
เส้นทางเรือจะออกจาก Gudvangen ผ่านช่องแคบ Nærøyfjordและ Aurlandsfjord ไปยังหมู่บ้าน Flåm
v
ต่อจากนั้นที่ Flåm เราจะเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติก "Flåmsbana"
v
Flåmsbana จะวิ่งลัดเลาะตามภูเขา จอดแวะน้ำตก Kjosfossen และสิ้นสุดที่ Myrdal
v
สุดท้ายเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟปกติกลับไป Bergen
เริ่มต้นออกเดินทางจาก Bergen Railway Station ไป Voss Railway Station ลงจากรถไฟแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 250 เมตร ไปที่ลานจอดรถบัส ระหว่างทางมีป้ายบอกตลอด หรือไม่ก็เดินตามคนกลุ่มใหญ่ๆไปไม่ต้องกลัวหลงเลย
เอาจริงๆแค่วิวระหว่างนั่งรถบัสก็พีคแล้ว
รูปนี้เป็นวิวที่ถ่ายมาตอนนั่งบัส
พอนั่งรถมาถึง Gudvangen เราจะมีเวลาหยุดพักประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ลองเดินอ้อมหลังร้านอาหารมาจะเจอวิวภูเขากับทะเลสาบ
เรือจะจอดอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารและที่จอดรถบัส หาได้ไม่ยาก ก่อนเวลาเที่ยงนิดหน่อยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้ขึ้นเรือ เรารีบพุ่งไปจองที่นั่งชั้นล่างก่อนเลย ชั้นบนมองไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่
บรรยากาศในเรือดูดีเกินคาดอีกละ ห้องน้ำสะอาด ที่นั่งดีงาม มี Bean bag ให้นั่งแบบเกร๋ๆด้วย บนนั้นมีฮอทดอกขาย ลองชิมดู อร่อยดีๆ
หลังจากเริ่มออกเดินทาง ต้องบอกเลยว่าวิว fjord ที่นี่มันสวยมากๆๆๆๆ สวยเกินคำบรรยายจริงๆ และอากาศ ก็หนาวมากกกกเช่นกัน ตอนอยู่บนเรือ อากาศประมาณ -7 แนะนำว่าให้เตรียมเสื้อผ้ามาดีๆ อย่างถุงมือนี่ขาดไม่ได้เลย
ตอนแรกตั้งใจจะมากิน seafood ที่ Flåm เเต่พอมาถึงแล้วกลายเป็นว่าไม่มีอะไรขายเลย อาจจะเป็นเพราะมาหน้าหนาวด้วย มีแต่ร้านกาแฟเบเกอรี่ พอกินรองท้องนิดหน่อย
มีเวลาว่างเหลือเยอะก่อนขึ้นรถไฟก็เลยเดินวนๆถ่ายรูปรอบๆแถวนั้น
Flåm จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทุกอย่างอยู่ติดๆกันหมด ที่ขึ้นรถไฟก็จะอยู่ด้านซ้ายมือเลย หลังจากเดินลงมาจากเรือ
Flåmsbana เป็นรถไฟสายท่องเที่ยวเก่าเเก่ที่เปิดให้บริการตั้งเเต่ปี 1944 ความพีคไม่ได้มีแค่วิวอย่างเดียว แต่ว่าประวัติการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ก็โหดด้วย เพราะในยุคนั้นเป็นเรื่องท้าทายมากที่ต้องสร้างทางรถไฟตัดเขาชันขนาดนี้ แถมอุโมงค์ที่รถไฟวิ่งผ่านยังถูกขุดด้วยมือ โอเอมจี บ้าไปแล้ว
รถไฟจะวิ่งมาหยุดที่น้ำตก Kjosfossen ให้ทุกคนได้ลงไปถ่ายรูปประมาณ 5 นาที เเต่พอไปตอนหน้าหนาวเลยกลายเป็นน้ำแข็งหมด
เส้นทาง Flåm Railway ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งมาสิ้นสุดที่ Myrdal เเล้วก็เปลี่ยนรถไฟกลับไปที่ Bergen เหมือนเดิม
.
.
.
Day 3
วันนี้แพลนคือขึ้นจุดชมวิวบนเทือกเขา Fløyen
สามารถนั่ง tramหรือ trekking ขึ้นไปได้ ซึ่ง treking ก็จะมีหลาย route ให้เลือก มีทั้งแบบง่าย family route ไปจนถึง advance
เข้าไปดูข้อมูลได้ตาม Link นี้เลย
https://www.floyen.no/en/activities/walks-hikes-floyen/ten-walks-in-delightful-scenery/
ตอนแรกเราวางแผนกันไว้ว่าเราจะนั่ง tram ขึ้น แล้วก็จะเดินลง จะได้เห็นวิวสวยๆระหว่างทาง แต่พอไปถึงสถานี Tram คือฝนตก ไม่น่าจะเดินลงมารอด สรุปก็เลยตัดสินใจเลือกซื้อตั๋วแบบไปกลับเลยเพราะราคาถูกกว่าแบบ single
ใช้เวลาขึ้นไปไม่ถึง 10 นาที ก็ออกมาเจอวิวแบบนี้เลย
ถึงแม้ว่าวันนี้อากาศไม่ค่อยเป็นใจ ทั้งฝนและหิมะตกตลอดเวลา แต่ถ่ายรูปออกมาก็ได้บรรยากาศแปลกไปอีกแบบ
ลงมาจากเขา Fløyen เดินเล่นรอบๆเมือง
เสร็จแล้วก็ตรงมากิน traditional food ที่ร้าน Pingvinen
เจ้าของร้านน่ารักมาก เขาแนะนำสองเมนู คือ Meatballs แล้วก็ Plukkfish
ส่วนตัวประทับใจ Plukkfish เป็นพิเศษ อาหารที่นี่ไม่ค่อยจืดเท่าไหร่ ส่วนมากจะเค็มๆถูกปากคนไทย
.
.
.
[CR] เที่ยว Norway หน้าหนาว, ล่องเรือชม fjord, กระโดดขึ้น Flåmsbana รถไฟสายโรแมนติค หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก
ทริปนี้เรามาทั้งหมด 4 วัน โดยเราจะนอนที่เมือง Bergen ทั้งหมด มาเริ่มที่วันแรกกันเลยย
.
.
.
Day 1
การเดินทางจาก BergenAirport Flesland (BGO) ประเทศ Norway เข้าไป Bergen city centre มีหลากหลายวิธี เช่น แท็กซี่, รถราง City Light Rail (หรือที่นี่เขาเรียกว่า Bybanen), Airport Bus Flybussen หรือ Limousine แล้วแต่ความสะดวก ใครสายประหยัดก็เลือก City Light Rail ได้ ยิ่งถ้าซื้อบัตร BergenCard ก็จะขึ้นฟรีไปเลย (ทางเราไม่ได้ซื้อ เพราะคำนวณแล้วไม่คุ้ม แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละคนนะ ถ้าเกิดอยากเข้า Museum หรือ Attraction ต่างๆในตัวเมืองเยอะ ก็คุ้มอยู่)
ส่วนเราเลือกเข้าตัวเมือง Bergen โดย Airport Bus Flybussen (ถ้ามีบัตร Burgen Card ลด 20%) เพราะ 1.คือใช้เวลาน้อยกว่ารถราง 2.ไม่ต้องลากกระเป๋าเอง มีคนยกขึ้นรถให้ และ 3. คือวางแผนจองโรงแรมใกล้ๆ Bus stop ไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องตั๋วก็ทำการจองออนไลน์ไปก่อนแล้วก็เซฟตั๋วไว้ในมือถือ (จองในเว็บจะถูกกกว่า 20%) ตั๋วไปกลับราคา NOK 195 ก็ประมาณ 780 บาทไทย ตอนซื้อแค่กรอกวันที่ๆเราจะขึ้นรถ เราจะต้องใช้ตั๋วในวันที่เรากรอกเท่านั้น ส่วนเรื่องเวลานั้นไม่ fix เราสามารถขึ้นรอบไหนก็ได้ ขากลับก็กรอกวันที่ๆเราจะขึ้นรถไปสนามบินเหมือนเดิม ถ้าเราไม่ได้ลงวันที่ไว้ ตั๋วจะถือว่าหมดอายุหนึ่งอาทิตย์นับจากขาเเรกที่เราใช้ทันที ตัวอย่างตามรูปเลยค่า
สามารถจองตั๋วและเข้าไปอ่านข้อมูล เช็คตารางรถได้ตาม Link นี้เลย https://en.visitbergen.com/visitor-information/travel-information/airport-bus-p944603
ถ้าเดินออกมาจาก Arrival Hall ตามป้ายรถบัสออกมาหน้าอาคารก็จะเจอรถเลย การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 นาที เข้าเมือง
ออกมาจากตัวอาคารจะเจอรถบัส หน้าตาแบบนี้ แต่ต้องดูหน้ารถด้วยนะว่ามุ่งหน้าไปทางไหน ไม่ก็ถามคนขับก็ได้
ในเว็บไซต์ของ Airport Bus มีแผนที่บอกจุด Bus Stop และโรงแรมที่ใกล้เคียงไว้หมด แผนที่โรงแรมของเราคือ Basic Hotel Bergen หมายเลข 8 เพราะฉะนั้นเราต้องกระโดดลงที่ป้าย B
พอลงจากรถบัสก็ต้องเดินลากกระเป๋ามาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงโรงแรม ตลอดทริปนี้ของเราจะพักที่ Basic Hotel Bergen อยู่ทั้งหมด 3 คืน NOK 1,782 เท่ากับ ประมาณ 7,128 บาทไทย หาร 2 แล้วพอรับได้ ห้องนอนสะอาด ห้องน้ำกว้างดี แต่จะบอกนิดนึงว่าถ้าใครเอากระเป๋าใบใหญ่มาก็ควรยอมจ่ายอีกนิด เอาโรงแรมที่ใกล้ป้าย Bus Stop กว่านี้หน่อย จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าฝ่าดงหินบนถนนยุโรป
พอเข้าโรงแรมเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย แพลนวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมาถึงก็เกือบเย็นแล้ว แค่จะออกไปเดินดูเมือง แล้วก็กินข้าวเย็นที่ Fish Market
จากฝั่ง Fish Market มองข้ามไปก็จะเห็นวิวยอดฮิตของที่นี่ Bryggen – Unesco World Heritage Site เป็นบริเวณตึกที่เก่าแก่ที่สุดใน Bergen สร้างตั้งแต่ปี 1702 วิวตอนเย็นก็จะดูเงียบสงบประมาณนี้
ร้านอาหารเย็นวันนี้คือ Fjellskål อยู่ข้างใน Indoor Fish Market เลย สั่งเป็นชุดรวม seafood ชื่อเมนูคือ Large Shellfish Platter ราคา NOK 899 อันนี้สามารถสั่งได้ว่าจะให้ทำแบบเย็นหรือร้อน เราสั่งแบบร้อนมา กับอีกเมนูคือ Oven Grilled Salmon ราคา NOK 249 โดยรวมอาหารคือดีงาม ประทับใจ ถึงแม้ราคาจะแอบแรงไปหน่อยแต่มาถึงแล้วก็ต้องลอง มื้ออื่นก็มาม่าวนไป 5555
.
.
.
Day 2
Norway in a nutshell
ต้องบอกว่าจุดมุ่งหมายหลักของการมาเที่ยว Norway ครั้งนี้คือการมาล่องเรือชม Nærøyfjord หนึ่งใน fjord ที่สวยที่สุดในโลก และรถไฟสายโรแมนติกที่ชื่อว่า Flåmsbana โดยเฉพาะ นอกจากนั้นเรายังตั้งใจจะมาในหน้าหนาวสุดๆ เพราะอยากลองเที่ยวธรรมชาติและได้มองภูเขาที่ขาวโพลนปกคลุมไปด้วยหิมะดูสักครั้ง พอได้ไปเหยียบที่นั่นจริงๆ ก็บอกเลยว่าวิวเกินคาดมาก คุ้มค่าเงินทุกบาททุมสตางค์ที่เสียไป
อย่างแรกต้องอธิบายก่อนว่า Norway in a nutshell คือ แพคเกจรวมการเดินทางและกิจกรรมหลายๆแบบ ที่เราจะสามารถจัด route การเดินทางได้เอง เช่นอาจจะเลือกออกเดินทางจาก Oslo จบที่ Bergen หรือจะเลือกออกจาก Oslo เเวะไปค้างคืน Bergen เเล้วกลับมาจบลงที่ Oslo เหมือนเดิมได้
ถ้าอยากจองตั๋วไปตาม Link นี้เลย ขออวยหน่อยว่าเว็บดีมาก อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนว่าเราต้องไปที่ไหนอย่างไร รับรองว่าไม่มีงง
Route ที่เราเลือกครั้งนี้จะเดินทางเป็นวงกลมตามแผนที่ด้านล่างเลย คือ ออกเดินทางจาก Bergen > Voss > Gudvangen > Flåm > Myrdal > Voss และกลับมาจบลงที่ Bergen
ขยายความหน่อยนึงว่าแพคเกจ Norway in a nutshell มันง่ายตรงที่ว่า เราแค่จัด route เองว่าอยากไปไหนก่อนหลัง ส่วนเรื่องเวลาเขาจะจัดมาให้แบบพอเหมาะพอดีกับการเปลี่ยนรถลงเรือต่างๆ ตอนแรกก็กลัวจะเปลี่ยนไม่ทัน แต่เอาเข้าจริงก็คือ เขาคิดมาให้แล้ว ทุกอย่างคือพอดีเป๊ะเลย
จาก time line เป็นแพลนที่เราเลือก (ดูตามรูปด้านล่างเลยค่ะ) คือ
เส้นทางจาก Bergen ไป Voss เราจะเดินทางด้วยรถไฟปกติ ออกจาก Bergen Railway Station ไปถึง Voss Railway Station
v
พอมาถึง Voss จะไปเปลี่ยนจากรถไฟเป็นรถบัสเพื่อไปที่ Gudvangen
v
จาก Gudvangen จะเป็นที่ๆเราเปลี่ยนไปขึ้นเรือเพื่อชมfjord
v
เส้นทางเรือจะออกจาก Gudvangen ผ่านช่องแคบ Nærøyfjordและ Aurlandsfjord ไปยังหมู่บ้าน Flåm
v
ต่อจากนั้นที่ Flåm เราจะเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติก "Flåmsbana"
v
Flåmsbana จะวิ่งลัดเลาะตามภูเขา จอดแวะน้ำตก Kjosfossen และสิ้นสุดที่ Myrdal
v
สุดท้ายเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟปกติกลับไป Bergen
เริ่มต้นออกเดินทางจาก Bergen Railway Station ไป Voss Railway Station ลงจากรถไฟแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 250 เมตร ไปที่ลานจอดรถบัส ระหว่างทางมีป้ายบอกตลอด หรือไม่ก็เดินตามคนกลุ่มใหญ่ๆไปไม่ต้องกลัวหลงเลย
เอาจริงๆแค่วิวระหว่างนั่งรถบัสก็พีคแล้ว
พอนั่งรถมาถึง Gudvangen เราจะมีเวลาหยุดพักประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ลองเดินอ้อมหลังร้านอาหารมาจะเจอวิวภูเขากับทะเลสาบ
เรือจะจอดอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารและที่จอดรถบัส หาได้ไม่ยาก ก่อนเวลาเที่ยงนิดหน่อยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้ขึ้นเรือ เรารีบพุ่งไปจองที่นั่งชั้นล่างก่อนเลย ชั้นบนมองไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่
บรรยากาศในเรือดูดีเกินคาดอีกละ ห้องน้ำสะอาด ที่นั่งดีงาม มี Bean bag ให้นั่งแบบเกร๋ๆด้วย บนนั้นมีฮอทดอกขาย ลองชิมดู อร่อยดีๆ
หลังจากเริ่มออกเดินทาง ต้องบอกเลยว่าวิว fjord ที่นี่มันสวยมากๆๆๆๆ สวยเกินคำบรรยายจริงๆ และอากาศ ก็หนาวมากกกกเช่นกัน ตอนอยู่บนเรือ อากาศประมาณ -7 แนะนำว่าให้เตรียมเสื้อผ้ามาดีๆ อย่างถุงมือนี่ขาดไม่ได้เลย
ตอนแรกตั้งใจจะมากิน seafood ที่ Flåm เเต่พอมาถึงแล้วกลายเป็นว่าไม่มีอะไรขายเลย อาจจะเป็นเพราะมาหน้าหนาวด้วย มีแต่ร้านกาแฟเบเกอรี่ พอกินรองท้องนิดหน่อย
มีเวลาว่างเหลือเยอะก่อนขึ้นรถไฟก็เลยเดินวนๆถ่ายรูปรอบๆแถวนั้น
Flåm จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทุกอย่างอยู่ติดๆกันหมด ที่ขึ้นรถไฟก็จะอยู่ด้านซ้ายมือเลย หลังจากเดินลงมาจากเรือ
Flåmsbana เป็นรถไฟสายท่องเที่ยวเก่าเเก่ที่เปิดให้บริการตั้งเเต่ปี 1944 ความพีคไม่ได้มีแค่วิวอย่างเดียว แต่ว่าประวัติการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ก็โหดด้วย เพราะในยุคนั้นเป็นเรื่องท้าทายมากที่ต้องสร้างทางรถไฟตัดเขาชันขนาดนี้ แถมอุโมงค์ที่รถไฟวิ่งผ่านยังถูกขุดด้วยมือ โอเอมจี บ้าไปแล้ว
รถไฟจะวิ่งมาหยุดที่น้ำตก Kjosfossen ให้ทุกคนได้ลงไปถ่ายรูปประมาณ 5 นาที เเต่พอไปตอนหน้าหนาวเลยกลายเป็นน้ำแข็งหมด
เส้นทาง Flåm Railway ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง วิ่งมาสิ้นสุดที่ Myrdal เเล้วก็เปลี่ยนรถไฟกลับไปที่ Bergen เหมือนเดิม
.
.
.
Day 3
วันนี้แพลนคือขึ้นจุดชมวิวบนเทือกเขา Fløyen
สามารถนั่ง tramหรือ trekking ขึ้นไปได้ ซึ่ง treking ก็จะมีหลาย route ให้เลือก มีทั้งแบบง่าย family route ไปจนถึง advance
เข้าไปดูข้อมูลได้ตาม Link นี้เลย https://www.floyen.no/en/activities/walks-hikes-floyen/ten-walks-in-delightful-scenery/
ตอนแรกเราวางแผนกันไว้ว่าเราจะนั่ง tram ขึ้น แล้วก็จะเดินลง จะได้เห็นวิวสวยๆระหว่างทาง แต่พอไปถึงสถานี Tram คือฝนตก ไม่น่าจะเดินลงมารอด สรุปก็เลยตัดสินใจเลือกซื้อตั๋วแบบไปกลับเลยเพราะราคาถูกกว่าแบบ single
ใช้เวลาขึ้นไปไม่ถึง 10 นาที ก็ออกมาเจอวิวแบบนี้เลย
ถึงแม้ว่าวันนี้อากาศไม่ค่อยเป็นใจ ทั้งฝนและหิมะตกตลอดเวลา แต่ถ่ายรูปออกมาก็ได้บรรยากาศแปลกไปอีกแบบ
ลงมาจากเขา Fløyen เดินเล่นรอบๆเมือง
เสร็จแล้วก็ตรงมากิน traditional food ที่ร้าน Pingvinen
เจ้าของร้านน่ารักมาก เขาแนะนำสองเมนู คือ Meatballs แล้วก็ Plukkfish
ส่วนตัวประทับใจ Plukkfish เป็นพิเศษ อาหารที่นี่ไม่ค่อยจืดเท่าไหร่ ส่วนมากจะเค็มๆถูกปากคนไทย
.
.
.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น