สรุปมาตรการชิมช้อปใช้ตามที่เข้าใจ

จขกท. ประมวลความเข้าใจจากเงื่อนไขของโครงการที่เค้าให้อ่านก่อนสมัคร และข้อมูลจากรายการฟังหูไว้หู เมื่อวันที่ 1/10/62 ที่ผู้บริหารกรมบัญชีกลางมาให้ความกระจ่าง แล้วสรุปตามความเข้าใจของตนเองได้ ดังนี้
1. กระเป๋า 1 รัฐใส่เงิน 1000 บาท ในแอพเป๋าตังค์ ให้ไปใช้กับร้านค้าถุงเงินใน จ. ที่ลงทะเบียนเลือกไว้เท่านั้น/ กระเป๋า 2 รัฐให้เราเติมเงินเข้าแอพเป๋าตังค์แล้วไปใช้ได้กับร้านค้าถุงเงินได้ทุกจังหวัดที่เราไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ (ดูข้อ 3 ประกอบ) แล้วจะได้เงินคืน 15% แต่เงินคืนไม่เกิน 4500 บาท
2. ต้องเริ่มใช้กระเป๋าใดกระเป๋าหนึ่งภายใน 14 วันนับจากวันได้ sms โดยควรเริ่มใช้กระเป๋า 1 ก่อนกระเป๋า 2 มิฉะนั้นจะเสียสิทธิในเงินกระเป๋า 1 แต่ไม่ต้องใช้กระเป๋า 1 ให้หมดก่อนใช้กระเป๋า 2
3. ร้านถุงเงินจะมี 2 แบบ คือ ร้านที่รับเงินได้แค่กระเป๋า 1 (ร้านถุงเงินประเภท 1) กับร้านที่รับเงินได้ทั้งสองกระเป๋า (ร้านถุงเงินประเภท 1+2) เท่าที่ลองสังเกตจากร้านเป๋าตังค์ของ จ. ตราด ร้านถุงเงินประเภท ‘ทั่วไป’ (สีม่วง) จะรับได้แค่กระเป๋า 1 ส่วนร้านถุงเงินประเภทอื่นๆ (ชิม ช้อป ช้อปธงฟ้า ใช้) จะรับได้ทั้งสองกระเป๋า
4. ผู้ใช้ควรวางลำดับการใช้เงินให้ดี หากต้องการสินค้าหรือบริการจากร้านถุงเงินทั้งสองประเภท (ประเภท 1 + ประเภท 1+2) ควรใช้หรือกันเงินกระเป๋า 1 ไว้ก่อนเพื่อเอาไปใช้กับร้านถุงเงินประเภท 1 เพราะว่าถ้าใช้เงินกระเป๋า 1 ไปกับร้านถุงเงินประเภท 1+2 แล้ว พอเอาเงินกระเป๋า 2 มาใช้กับร้านถุงเงินประเภท 1 ก็จะไม่ได้รับสิทธิเงินคืน 15% และถ้าใช้เงินกระเป๋า 2 ก่อนเริ่มใช้เงินกระเป๋า 1 จะเสียสิทธิในเงินกระเป๋า 1
*เพิ่มเติม 5. ถ้าจะใช้จ่ายผ่านแอพเป๋าตังค์ ผู้ใช้จะต้องเปิดและอนุญาตให้แอพเข้าถึง Location เพราะ แอพจะตรวจสอบว่าผู้จ่ายและผู้รับเงินอยู่ในตำแหน่งเดียวกันจริง มีการเดินทางไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจริง

หาก จขกท. เข้าใจผิดประการใด ขอความกรุณาเพื่อนสมาชิกช่วยแจ้งพร้อมแนบแหล่งอ้างอิงให้ จขกท. หน่อยนะคะ จขกท. จะได้แก้ไขความเข้าใจของตัวเองต่อไป
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่