[CR] Joker: The Joaquin Phonix's Show

Joker

(Todd Phillips, 2019)
69/100

จะเป็นยังไงถ้าเล่าเรื่องจากมุมของโจ๊กเกอร์?
อาร์เธอร์ เฟล็ค (วาคีน ฟีนิกซ์)​ ชายผู้ไม่มีความสุขใดๆ อาศัยอยู่ในเมืองกอแธมที่เน่าหนอน ไม่ต่างอะไรกับเมืองเทพสร้างที่เสวยสุขบนความลำบากของชนชั้นล่าง หนังเปรียบคนเหล่านี้เป็นหนูสกปรก แต่หากลองเอามุมมองของประเทศ​เราไปสวมทับ คนชั้นล่างน่าจะเป็นฝุ่นมากกว่า และโทมัส เวย์นก็คงไม่สนใจฝุ่นเหล่านี้เสียด้วย

แต่ฝุ่นเม็ดเล็กอย่าง PM 2.5 ถ้ารวมกันก็เป็นอันตรายต่อเมืองได้..

กอแธมเป็นเมืองที่ออกแบบมาเพื่อแบ่งแยกคน คนรวยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี คนจนอยู่ในอพาร์ทเมนต์โกโรโกโส ซอกหลืบต่างเป็นสเปซไร้คุณภาพที่พร้อมจะบ่มเพาะอาชญากรรมกระจายตัวทั่วเมือง แต่ชนชั้นสูงก็อยู่ในหอคอยงาช้างของพวกเขาและเฝ้าแต่บอกชนชั้นล่างว่า "ทำไมไม่แก้ที่ตัวเองก่อน" ทั้งที่จริงๆแล้วชนชั้น​สูงนั่นแหละควรแก้ก่อน แก้ทั้งระบบ

ต่อจากนี้สปอยล์นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประเด็นใน Joker แชร์ประเด็นเดียวกับ Parasite ของบงจุนโฮ แต่ด้วยทักษะการทำหนังของทอดด์ ฟิลลิป​ส์ ที่ดูยังไงก็ไม่เท่าชั้นครูแบบบงจุนโฮ ประเด็นชนชั้นที่ควรจะถูกเขียนอย่างซับซ้อนและมีชั้นเชิง ประเด็นทั้งหลายถูกเขียนอย่างโจ่งแจ้ง​
สิ่งที่ยกระดับหนังคือการแสดงอันท้าทายอีกครั้งของวาคีน ฟีนิกซ์​ เขาจมไปกับบทชนิดที่น่ากลัวทุกวินาทีที่อยู่บนจอหนัง การแสดงของเขาไม่ใช่แค่ความบ้า โรคจิต หัวเราะไม่หยุดเพราะมีปัญหา​ทางจิต แต่มันซับซ้อนและเต็มไปด้วยมิติของความวิกลจริต ความยากที่สุดคือแววตาที่เขาแสดงต้องขัดกับปากที่เขากำลังหัวเราะอยู่ ร่างกายที่ผ่ายผอมคือหลักฐานของการแสดงแบบเมธอดชั้นยอดที่พยายาม​ดข้าถึงตัวละครอย่างที่สุด ความซับซ้อนของบทอาร์เธอร์ปนเปไปทั้งความหวาดกลัว ความเกรี้ยวกราด​ โกรธแค้น และเห็นใจมนุษย์​ปนเปไปในคนเดียวกัน วาคีน ฟีนิกซ์ ปลดปล่อยมันบนหนังจนนึกว่าหนังมีชื่อเรื่องว่า "The Joaquin​ Phoenix's Show"
 
แต่ด้วยเหตุผลต่างๆ การมอบแบ็คกราวด์ให้กับโจ๊กเกอร์​เป็นสิ่งที่ขัดขาตัวละครตัวนี้เอง โจ๊กเกอร์​ใน The Dark Knight ของฮีธ เลดเจอร์ น่ากลัวมากๆเพราะเราไม่เข้าใจมัน มันเป็นเพียงตัวละครที่เป็นบุคลาธิษฐานของความโกลาหลล้วนๆ ไม่มีปูมหลัง ไม่มีอดีต ดังนั้นโจ๊กเกอร์​ของฮีธจึงน่ากลัวมากๆเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร มันไม่ต้องการเงิน มันไม่ต้องการฆ่าแบทแมน สิ่งที่มันต้องการทำคือก่อกวนระเบียบที่แบทแมนต้องการสร้าง​ให้ยุ่งเหยิงที่สุด
ดังนั้นอดีตต่างๆของอาร์เธอร์จึงไปลดทอนคอนเซปต์​ความโกลาหล​ที่คาดเดาไม่ได้ของโจ๊กเกอร์​ลงจนหมด แม้ต้องชมที่หนังกล้าหาญที่จะโยนความรุนแรงใส่หน้า และไม่ได้เข้าข้างมัน แต่โรคทางจิตของอาร์เธอร์ ปูมหลังแม่บ้า ความรันทดในชีวิตต่างๆ ทำให้แม้เราจะเข้าใจอาร์เธอร์ แต่โจ๊กเกอร์​ที่เข้าใจได้ย่อมไม่ใช่เรื่องดี..
 
อีกอย่างหนึ่งคือทอดด์ ฟิลลิป​ส์ ไม่ใช่ผู้กำกับที่คุมหนังได้ขนาดนั้น สิ่งที่เราเห็นในหนังคือ Refernce ที่หยิบยืมมาและลบเอกลักษณ์​ของหนังเรื่องนั้นๆออกไม่หมด ซึ่งจะขอเขียนอย่างละเอียด(สปอยล์)​ ดังนี้
 
- Taxi Driver ในฐานะมู้ดโทนของเมืองที่เป็นฉากหลัง
- The King of Comedy ในฐานะดาวตลก
- One Flew Over the Cuckoo's​ Nest กับโรงพยาบาลบ้า
- Network กับการถ่ายทอดสดความรุนแรง
- The Dark Knight กับการจับภาพหลายช็อตของอาร์เธอร์ที่แทบจะเหมือนของฮีธ เลดเจอร์
 
ขอย้ำอีกครั้งว่า แอนตัน ชิเกอร์ (ฆาเวียร์ บาร์เด็ม)​ ใน No Country for Old Men น่ากลัวเพราะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร โจ๊กเกอร์​ของฮีธ เลดเจอร์ก็เช่นกัน อาจรวมถึงผู้พันฮานส์ ลานดา ใน Inglourious Basterds ที่เราตามเกมมันไม่ทัน การรู้ว่าอาร์เธอร์คิดอะไรทำให้ความโกลาหลในกอแธมลดความทรงพลังลง และทำให้มันช่วยไม่ได้ที่หนังจะถูกมองว่าโปร "อนาธิปไตย" (Anarchism)​ ที่ปฏิเสธ​ลำดับชนชั้นและรัฐ แต่ไม่ปฏิเสธความรุนแรง เราในฐานะคนที่ไม่อยากให้รัฐมีอำนาจมากเกินไป แต่เชื่อในการจัดการและระบบที่ดีตามแบบประชาธิปไตย ดูแล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไร แม้หนังจะออกตัวอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ได้เห็นด้วยกับอาร์​เธอร์ก็ตาม
จบการสปอยล์

สรุป ถ้าได้ผู้กำกับที่เชี่ยวกว่านี้ ประเด็นของหนังอาจซับซ้อนและนำไปสู่ไคลแม็กซ์​พีคๆแบบ Parasite ก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เชื่อว่าวาคีน ฟีนิกซ์​ มีชื่อเข้าชิงในสาขานำชายแน่นอน

และสรุปอีกข้อ กรุงเทพฯ​นี่แหละคือกอแธมที่รอวันระเบิด ถ้าโทมัส เวย์นยังมองไม่เห็น​หัวเรา
 
ฝากติดตามเพจด้วยนะคร้าบบ https://www.facebook.com/TrustGuAndGoWatchIt/