โลกของเราเต็มไปด้วยความสุดขั้วมากมาย สถานที่ที่สุดขั้ว สัตว์ที่สุดขั้ว แต่สัตว์บางชนิดก็สุดขั้วเหนือไปกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 ฉลามที่อยู่จุดสูงสุด สำหรับความสามารถและพลังแห่งการล่าเหยื่อ
10. ฉลามวาฬ (Whale shark) - Rhincodon typus
เรามีเหตุผลที่ดีที่จะกลัวฉลาม, พวกมันมีการปรับตัวเพื่อการเป็นนักฆ่าใต้น้ำ โดยเฉพาะเมื่อมันมีความยาว 12 เมตรและมีฟัน 3,000 ซี่
แต่นักเสิร์ฟบอร์ดไม่ต้องกังวลอะไรกับสัตรหนัก 11 ตัน อย่าง ฉลามวาฬ
พวกมันสามารถกลืนคนเข้าไปทั้งตัวได้ง่ายๆ แต่ฟันขนาดใหญ่เหล่านั้นกลับชอบเหยื่อที่ขนาดเล็กกว่านั้นมาก
ฉลามวาฬ เป็นนักกินที่มีระบบแยกกรองพิเศษ ระหว่างว่ายน้ำมันก็ดูดน้ำปริมาณมหาศาลเพื่อหาแพลงค์ตอน

ด้วยความที่มันดูดน้ำเข้าไปประมาณ ล้านลิตร ใน 1 ชั่วโมง มันเลยเป็นสัตว์กรองอาหารกินที่มีพลังดูดสัตว์ชนิดอื่นได้ไกลที่สุด และนี่คือเหตุผลที่มันมาอยู่อันดับ 10
9. ฉลามนางฟ้า (Angel shark) - Genus Squatina
ฉลามนางฟ้า สามารถอยู่เฉยๆโดยไม่ขยับเลยได้เป็นวันๆ เพื่อรออะไรที่มีขนาดกัดได้ว่ายผ่าน

ฉลามนางฟ้าอยู่ที่อันดับ 9 เพราะความสามารถของมันก็คือเพียงการพรางตัว
มันมีสายตาที่ดี แต่มันก็กินไม่เลือกอยู่ดี แม้แต่ ปลายาง (Rubber fish)
แต่ถึงอย่างนั้น งูทะเล ซึ่งมีพิษมากกว่า งูบก ถึงร้อยเท่า ก็เป็นสิ่งที่ฉลามนางฟ้าเลี่ยงอยู่ดี

และนี่คือเหตุผลที่ ชาวประมงในเกาะของมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มักจะพรางตัวเป็นงูทะเล

แต่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะป้องกันฉลามได้ทุกประเภท เพราะ ผู้เข้าแข่งขันต่อๆไปของเรามีทักษะการแยกเหยื่อและศัตรู ออกจากกันโดยใช้มากกว่า สายตา
8. ฉลามเส้นไหม (Silky shark) - Carcharhinus falciformis
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่โด่งดัง, ลึกลงไปในห้วงทะเลนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เงียบสงบ
นักวิทยาศาสตร์ได้ลองหย่อนไมโครโฟนลงไปแล้วก็ประหลาดใจว่าใต้ทะเลนั้นแท้จริงมันคือ วงซิมโฟนีของเสียงเล็กๆเต็มไปหมด
เป็นเสียงที่เหล่าปลาสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์มากมาย ตั้งแต่ เรียกหาคู่ ไปจนถึง สัญญาณเตือนภัย
แค่ขยับไปมาเร็วๆหน่อยก็สร้างเสียงที่ดังแล้ว และนั่นเป็นเหมือนกระดิ่งเรียกอาหาร สำหรับผู้แข่งขันอันดับ 8 ของเรา, ฉลามเส้นไหม
ก็เหมือนฉลามอื่นๆที่มีการได้ยินเสียงที่ดี แต่ ฉลามเส้นไหมนั้นเหนือกว่า เพราะมันสามารถได้ยินเสียงที่อยู่ไกลออกไปได้ถึง 400 เมตร และ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังระบุได้ด้วยว่าแหล่งกำเนิดเสียงมาจากจุดไหน
7. ฉลามเสือทราย (Sand tiger shark) - Carcharias taurus
ผู้แข่งขันต่อไปของเรา สามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าเราถึง 10 เท่า และ นั่นก็เป็นสายตาที่ดีกว่า เสือดาว นักล่ากลางคืนที่โด่งดังซะอีก
มันชัดเจน ว่าทำไมฉลามชนิดนี้ถึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฉลามฟันขาดรุ่งริ่ง (Ragged tooth shark)

ในตอนกลางวัน มันจะพักผ่อนในถ้ำ และออกหาเหยื่อตอนกลางคืน โดยใช้แสงเพียงจากดวงจันทร์และดวงดาว
เช่นเดียวกับเราที่ภายในตามีแผ่นจอเรตินา ที่อุดมไปด้วยเซลล์รับแสงสำหรับแปลงสิ่งที่เห็นเป็นภาพ
แต่ในฉลามเสือทราย มันยังมีแผ่นกระจกเล็กๆจำนวนมากอยู่หลังจอเรตินา ด้วย และนั่นทำให้มันเห็นสีได้ชัดกว่าเราถึง 90%
6. ฉลามกรีนแลนด์ (Greenland shark) - Somniosus microcephalus
ทะเลในบริเวณเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic circle) มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และนั่นก็ทำให้นักดำน้ำเจอภาวะอุณหภูมิต่ำเกินไป (Hypothermia) ได้ภายใน 5 นาที ถ้าไม่มีการป้องกันที่ดี
แต่ก็มีสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ที่นี่อย่างสบาย แถมโตได้ยาวถึง 6 เมตร นั่นก็คือ ฉลามกรีนแลนด์
ฉลามชนิดนี้เคลื่อนที่ช้ามาก มันเลยมีอีกชื่อคือ ฉลามนักนอนหลับ (Sleeper shark)
แต่เห็นช้าแบบนี้ มันก็ยังสามารถจับเหยื่อที่เร็วมากๆอย่าง แซลมอน ได้ และ ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ส่วนใหญ่ทำทั้งที่ตาบอด

ที่เห็นห้อยแกว่งอยู่ที่ลูกตาของฉลามนี่ แท้จริงแล้วคือ ปรสิต (Parasitic crustacean)
มันกินอาหารโดยการขูดกระจกตา (Cornea) ของฉลาม
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉลามได้รับความเดือดร้อนใดๆ เพราะมันมีการรับกลิ่นที่ดีมากๆ
5.
ฉลามครีบขาว (Oceanic whitetip shark) - Carcharhinus longimanus
ผู้แข่งขันอันดับต่อไปของเรานั้นน่ากลัวกว่าเครื่องบินที่จอดฉุกเฉินบนน้ำเสียอีก
การพยายามออกจากเครื่องบินนั้น เป็นเพียงปัญหาแรก เพราะมันใช้เวลาไม่นานเลยสำหรับฉลามครีบขาวที่จะปรากฏตัวออกมาจากฉากสีน้ำเงิน
มันเป็นอันดับ 5 เพราะมันมีความสามารถระดับน่าขนลุกสำหรับการดมกลิ่น, ที่ไม่ใช่เพียงในน้ำ แต่รวมถึงในอากาศ
มีการค้นพบว่า ซากวาฬที่กำลังจมสู่ก้นทะเล นั้นปล่อยสารบางอย่างออกมา ซึ่งสารนั้นระเหยได้ง่ายและเคลื่อนที่ผ่านอากาศได้ดีกว่า และ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ฉลามครีบขาวมักจะว่ายบริเวณผิวน้ำโดยยื่นจมูกขึ้นมาในอากาศ เพื่อที่จะได้ไปถึงซากศพนั่นก่อนใคร รวมถึงการเป็นที่ 1 ที่จะเข้าไปในฉากอุบัติเหตุในทะเลต่างๆ แต่ฉลามชนิดนี้ก็ยังไม่เร็วที่สุดในท้องทะเล
4. ฉลามเมโค่ (Mako shark) - Genus Isurus
ตลอดที่ผ่านมาเราได้เจอฉลามที่มีความสามารถแปลกๆ แต่ อะไรคือจุดที่สำคัญกันแน่ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถจับเหยื่อได้
และผู้แข่งขันเราชนิดนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการเป็น 1 ในปลาที่เร็วที่สุดในท้องทะเล นั่นก็คือ ฉลามเมโค่
ฉลามเมโค่ ว่าย้ำได้เร็วถึง 50 กม./ชม. ซึ่งเร็วกว่าการที่เราวิ่งบนบก
หางของมันสร้างแรงผลัก และ ลำตัวที่เพรียว (Steamlined) ก็ลดพื้นที่สำผัสกับน้ำที่ปะทะเข้ามา และนี่คือการลดแรงต้าน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบว่า ที่ผิวของฉลามเมโค่ มีเกล็ดที่เป็นลูกฟูก (Corrugate scales) เรียงกันอยู่

นั่นหมายความว่า เมื่อน้ำไหลผ่าน มันถูกับน้ำที่ถูกขังอยู่ในร่องของเกล็ด (Trapped layer of water) แทนที่จะเป็นผิวหนัง (ลดแรงต้าน)
และนั่นคือเหตุผลที่ ฉลามผิวเกล็ด ใช้แรงสำหรับการเคลื่อนที่ (Driving force) น้อยกว่า เรือดำน้ำผิวเรียบ ถึง 6 เท่าเลยทีเดียว
3. ฉลามเสือ (Tiger shark) - Galeocerdo cuvier
ลูกนกอัลบาทรอสจะมีชีวิตที่ปลอดภัย บน หมู่เกาะนอกสุดของ ฮาวาย (Hawaii)

ปัญหาก็คือ เมื่อเวลาที่มันจะต้องเปลี่ยนจากการนั่งอยู่เฉยๆ มาเป็น การออกไปหาอาหาร มาถึง
มันมีฉลามสุดฉลาดที่เฝ้ารอความผิดพลาดจากการออกขึ้นบิน

เข้ามาถึงอันดับ 3 ของเรา คือ ฉลามเสือ
การจะจับลูกนักอัลบาทรอส แท้จริงแล้วมันยาก แต่ฉลามเสือก็มีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำเทคนิคต่างๆ
นี่คือสัตว์ร้ายที่มีทั้ง มันสมอง และ พละกำลัง
ด้วยขนาดที่ยาวได้ถึง 5 เมตร ไม่มีอะไรที่มันจะไม่ลองงับ และ เขี้ยวของมันก็สามารถจัดการได้แม้กระทั่ง กระดองที่ดูจะทำลายไม่ได้ของ เต่าทะเล (Sea turtle)

และที่ทำได้อย่างงั้นเพราะฟันมันมีลักษณะเป็นเหมือนเลื่อย (Buzz saw)

และมันก็คมจนสามารถตัดได้แม้กระทั่ง โลหะ และ มันก็เป็นฉลามที่กินอาหารหลากหลายกว่าชนิดอื่นไหนๆ เพราะแบบนี้ มันเลยมีฉายา ว่า ถังขยะแห่งท้องทะเล (Garbage can of the sea) มีการพบว่า มันกินได้แม้กระทั่ง ป้ายทะเบียนรถ กระป๋องอลูมิเนียม ถ่านหินทั้งก้อน มะพร้าวทั้งลูก และ อีกมากมาย ซึ่งนี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยกับมัน เพราะเมื่อร่างกายมันตรวจเจอว่าสิ่งที่กินไปย่อยไม่ได้ ฉลามชนิดนี้ก็สามารถสำรอกสิ่งที่กินเข้าไปออกมาที่ปาก และ อาเจียนออก และ นี่คือเหตุผลที่มันมีความสุขกับการลองชิมทุกๆอย่างที่เจอ...
2. ฉลามขาว (Great white shark) - Carcharodon carcharias
ชีวิตในอาณานิคมแห่งการผสมพันธุ์ (Breeding colony) ของ แมวน้ำเฟอร์นิวซีแลนด์ (New Zealand fur seal) นั้นไม่ง่ายอย่างที่เห็น

มันมีบางอย่างที่คอยเฝ้าดู และ คอยรอ อยู่ตลอดเวลา
มันคืออสูรกายหนัก 3 ตัน ที่มีฟันอยู่มากกว่า 300 ซี่ และ มันก็ฉลาด
ด้วยสมองที่ยาวถึง 40 เซนติเมตร มันสามารถเรียนรู้ได้ไวกว่าแมวถึง 80 เท่าเสียอีก
มันคือฉลามที่โด่งดังที่สุดในโลก และ เป็น ปลานักล่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในท้องทะเล, ฉลามขาว
ฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่ มีจอเรตินาที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาฉลามทั้งหมด และ มันก็เป็นฉลามที่เห็นสีสันที่คมชัดที่สุด

และมันก็เป็นฉลามเพียงชนิดเดียวที่โผล่หัวขึ้นมาดูว่า เกิดอะไรขึ้นในโลกข้างบน ที่อยู่ไกลจากระยะสายตาใต้ทะเลของมัน
และมันก็เป็นฉลามที่ตรวจจับกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากเหยื่อได้ด้วย
1. ฉลามหัวค้อน (Hammerhead shark) - Family Sphyrnidae
เมื่อความมืดมิดมาถึง ปลาบางชนิดก็ซ่อนตัวเองจากสายตาที่หิวโหย ด้วยทราย

การลงไปอยู่ใต้พื้นเป็นผลกับทุกอย่าง ยกเว้น ฉลามที่เป็นอันดับ 1 ของเรา, ฉลามหัวค้อน
มันเป็นอันดับ 1 เพราะว่า หัวที่แปลกพิลึกของมันคือ ห้องสำหรับอุปกรณ์รับความรู้สึกที่ล้ำสมัยที่สุด ในบรรดาฉลาม

ตาของฉลามหัวค้อนห่างกัน 1 เมตร ทำมห้มันเห็นภาพแบบพาโนรามา (Panoramic view)
รูจมูก (Nostril) ของมันก็สามารถรับกลิ่นได้ดีมาก
และหัวค้อน ก็ทำให้มีพื้นที่ที่มากขึ้นสำหรับระบบตรวจหาไฟฟ้า นั่นหมายความว่า ฉลามสามารถตรวจตราพื้นทะเล สแกนหาสมบัตืที่ฝังอยู่ข้างใต้ จาก สัญญาณคลื่นไฟฟ้าที่สร้างโดยการเต้นของหัวใจปลาข้างล่าง
ยังมีการค้นพบอีกว่า พวกมันสามารถตรวจจับสนามแม่เหล็กโลกได้
จำตำแหน่งและมารวมตัวกันทุกปี
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ถ้าอยากให้ทำอีกก็บอกได้นะครับ
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ
https://www.youtube.com/watch?v=6JtYx4JYLuw
ปล. เมื่อวานทำตอนนึงไป 4 ชั่วโมงว่าจะเว้นซักพัก แต่วันนี้ว่างแทบทั้งวัน เลยจัดอีกซักตอนละกัน อิอิ
10 อันดับ ฉลามที่มีความสามารถน่าทึ่งที่สุด
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 ฉลามที่อยู่จุดสูงสุด สำหรับความสามารถและพลังแห่งการล่าเหยื่อ
10. ฉลามวาฬ (Whale shark) - Rhincodon typus
เรามีเหตุผลที่ดีที่จะกลัวฉลาม, พวกมันมีการปรับตัวเพื่อการเป็นนักฆ่าใต้น้ำ โดยเฉพาะเมื่อมันมีความยาว 12 เมตรและมีฟัน 3,000 ซี่
แต่นักเสิร์ฟบอร์ดไม่ต้องกังวลอะไรกับสัตรหนัก 11 ตัน อย่าง ฉลามวาฬ
พวกมันสามารถกลืนคนเข้าไปทั้งตัวได้ง่ายๆ แต่ฟันขนาดใหญ่เหล่านั้นกลับชอบเหยื่อที่ขนาดเล็กกว่านั้นมาก
ฉลามวาฬ เป็นนักกินที่มีระบบแยกกรองพิเศษ ระหว่างว่ายน้ำมันก็ดูดน้ำปริมาณมหาศาลเพื่อหาแพลงค์ตอน
ด้วยความที่มันดูดน้ำเข้าไปประมาณ ล้านลิตร ใน 1 ชั่วโมง มันเลยเป็นสัตว์กรองอาหารกินที่มีพลังดูดสัตว์ชนิดอื่นได้ไกลที่สุด และนี่คือเหตุผลที่มันมาอยู่อันดับ 10
9. ฉลามนางฟ้า (Angel shark) - Genus Squatina
ฉลามนางฟ้า สามารถอยู่เฉยๆโดยไม่ขยับเลยได้เป็นวันๆ เพื่อรออะไรที่มีขนาดกัดได้ว่ายผ่าน
ฉลามนางฟ้าอยู่ที่อันดับ 9 เพราะความสามารถของมันก็คือเพียงการพรางตัว
มันมีสายตาที่ดี แต่มันก็กินไม่เลือกอยู่ดี แม้แต่ ปลายาง (Rubber fish)
แต่ถึงอย่างนั้น งูทะเล ซึ่งมีพิษมากกว่า งูบก ถึงร้อยเท่า ก็เป็นสิ่งที่ฉลามนางฟ้าเลี่ยงอยู่ดี
และนี่คือเหตุผลที่ ชาวประมงในเกาะของมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มักจะพรางตัวเป็นงูทะเล
แต่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะป้องกันฉลามได้ทุกประเภท เพราะ ผู้เข้าแข่งขันต่อๆไปของเรามีทักษะการแยกเหยื่อและศัตรู ออกจากกันโดยใช้มากกว่า สายตา
8. ฉลามเส้นไหม (Silky shark) - Carcharhinus falciformis
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่โด่งดัง, ลึกลงไปในห้วงทะเลนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เงียบสงบ
นักวิทยาศาสตร์ได้ลองหย่อนไมโครโฟนลงไปแล้วก็ประหลาดใจว่าใต้ทะเลนั้นแท้จริงมันคือ วงซิมโฟนีของเสียงเล็กๆเต็มไปหมด
เป็นเสียงที่เหล่าปลาสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์มากมาย ตั้งแต่ เรียกหาคู่ ไปจนถึง สัญญาณเตือนภัย
แค่ขยับไปมาเร็วๆหน่อยก็สร้างเสียงที่ดังแล้ว และนั่นเป็นเหมือนกระดิ่งเรียกอาหาร สำหรับผู้แข่งขันอันดับ 8 ของเรา, ฉลามเส้นไหม
ก็เหมือนฉลามอื่นๆที่มีการได้ยินเสียงที่ดี แต่ ฉลามเส้นไหมนั้นเหนือกว่า เพราะมันสามารถได้ยินเสียงที่อยู่ไกลออกไปได้ถึง 400 เมตร และ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังระบุได้ด้วยว่าแหล่งกำเนิดเสียงมาจากจุดไหน
7. ฉลามเสือทราย (Sand tiger shark) - Carcharias taurus
ผู้แข่งขันต่อไปของเรา สามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่าเราถึง 10 เท่า และ นั่นก็เป็นสายตาที่ดีกว่า เสือดาว นักล่ากลางคืนที่โด่งดังซะอีก
มันชัดเจน ว่าทำไมฉลามชนิดนี้ถึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฉลามฟันขาดรุ่งริ่ง (Ragged tooth shark)
ในตอนกลางวัน มันจะพักผ่อนในถ้ำ และออกหาเหยื่อตอนกลางคืน โดยใช้แสงเพียงจากดวงจันทร์และดวงดาว
เช่นเดียวกับเราที่ภายในตามีแผ่นจอเรตินา ที่อุดมไปด้วยเซลล์รับแสงสำหรับแปลงสิ่งที่เห็นเป็นภาพ
แต่ในฉลามเสือทราย มันยังมีแผ่นกระจกเล็กๆจำนวนมากอยู่หลังจอเรตินา ด้วย และนั่นทำให้มันเห็นสีได้ชัดกว่าเราถึง 90%
6. ฉลามกรีนแลนด์ (Greenland shark) - Somniosus microcephalus
ทะเลในบริเวณเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic circle) มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และนั่นก็ทำให้นักดำน้ำเจอภาวะอุณหภูมิต่ำเกินไป (Hypothermia) ได้ภายใน 5 นาที ถ้าไม่มีการป้องกันที่ดี
แต่ก็มีสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ที่นี่อย่างสบาย แถมโตได้ยาวถึง 6 เมตร นั่นก็คือ ฉลามกรีนแลนด์
ฉลามชนิดนี้เคลื่อนที่ช้ามาก มันเลยมีอีกชื่อคือ ฉลามนักนอนหลับ (Sleeper shark)
แต่เห็นช้าแบบนี้ มันก็ยังสามารถจับเหยื่อที่เร็วมากๆอย่าง แซลมอน ได้ และ ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ส่วนใหญ่ทำทั้งที่ตาบอด
ที่เห็นห้อยแกว่งอยู่ที่ลูกตาของฉลามนี่ แท้จริงแล้วคือ ปรสิต (Parasitic crustacean)
มันกินอาหารโดยการขูดกระจกตา (Cornea) ของฉลาม
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉลามได้รับความเดือดร้อนใดๆ เพราะมันมีการรับกลิ่นที่ดีมากๆ
5. ฉลามครีบขาว (Oceanic whitetip shark) - Carcharhinus longimanus
ผู้แข่งขันอันดับต่อไปของเรานั้นน่ากลัวกว่าเครื่องบินที่จอดฉุกเฉินบนน้ำเสียอีก
การพยายามออกจากเครื่องบินนั้น เป็นเพียงปัญหาแรก เพราะมันใช้เวลาไม่นานเลยสำหรับฉลามครีบขาวที่จะปรากฏตัวออกมาจากฉากสีน้ำเงิน
มันเป็นอันดับ 5 เพราะมันมีความสามารถระดับน่าขนลุกสำหรับการดมกลิ่น, ที่ไม่ใช่เพียงในน้ำ แต่รวมถึงในอากาศ
มีการค้นพบว่า ซากวาฬที่กำลังจมสู่ก้นทะเล นั้นปล่อยสารบางอย่างออกมา ซึ่งสารนั้นระเหยได้ง่ายและเคลื่อนที่ผ่านอากาศได้ดีกว่า และ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ฉลามครีบขาวมักจะว่ายบริเวณผิวน้ำโดยยื่นจมูกขึ้นมาในอากาศ เพื่อที่จะได้ไปถึงซากศพนั่นก่อนใคร รวมถึงการเป็นที่ 1 ที่จะเข้าไปในฉากอุบัติเหตุในทะเลต่างๆ แต่ฉลามชนิดนี้ก็ยังไม่เร็วที่สุดในท้องทะเล
4. ฉลามเมโค่ (Mako shark) - Genus Isurus
ตลอดที่ผ่านมาเราได้เจอฉลามที่มีความสามารถแปลกๆ แต่ อะไรคือจุดที่สำคัญกันแน่ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถจับเหยื่อได้
และผู้แข่งขันเราชนิดนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการเป็น 1 ในปลาที่เร็วที่สุดในท้องทะเล นั่นก็คือ ฉลามเมโค่
ฉลามเมโค่ ว่าย้ำได้เร็วถึง 50 กม./ชม. ซึ่งเร็วกว่าการที่เราวิ่งบนบก
หางของมันสร้างแรงผลัก และ ลำตัวที่เพรียว (Steamlined) ก็ลดพื้นที่สำผัสกับน้ำที่ปะทะเข้ามา และนี่คือการลดแรงต้าน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบว่า ที่ผิวของฉลามเมโค่ มีเกล็ดที่เป็นลูกฟูก (Corrugate scales) เรียงกันอยู่
นั่นหมายความว่า เมื่อน้ำไหลผ่าน มันถูกับน้ำที่ถูกขังอยู่ในร่องของเกล็ด (Trapped layer of water) แทนที่จะเป็นผิวหนัง (ลดแรงต้าน)
และนั่นคือเหตุผลที่ ฉลามผิวเกล็ด ใช้แรงสำหรับการเคลื่อนที่ (Driving force) น้อยกว่า เรือดำน้ำผิวเรียบ ถึง 6 เท่าเลยทีเดียว
3. ฉลามเสือ (Tiger shark) - Galeocerdo cuvier
ลูกนกอัลบาทรอสจะมีชีวิตที่ปลอดภัย บน หมู่เกาะนอกสุดของ ฮาวาย (Hawaii)
ปัญหาก็คือ เมื่อเวลาที่มันจะต้องเปลี่ยนจากการนั่งอยู่เฉยๆ มาเป็น การออกไปหาอาหาร มาถึง
มันมีฉลามสุดฉลาดที่เฝ้ารอความผิดพลาดจากการออกขึ้นบิน
เข้ามาถึงอันดับ 3 ของเรา คือ ฉลามเสือ
การจะจับลูกนักอัลบาทรอส แท้จริงแล้วมันยาก แต่ฉลามเสือก็มีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำเทคนิคต่างๆ
นี่คือสัตว์ร้ายที่มีทั้ง มันสมอง และ พละกำลัง
ด้วยขนาดที่ยาวได้ถึง 5 เมตร ไม่มีอะไรที่มันจะไม่ลองงับ และ เขี้ยวของมันก็สามารถจัดการได้แม้กระทั่ง กระดองที่ดูจะทำลายไม่ได้ของ เต่าทะเล (Sea turtle)
และที่ทำได้อย่างงั้นเพราะฟันมันมีลักษณะเป็นเหมือนเลื่อย (Buzz saw)
และมันก็คมจนสามารถตัดได้แม้กระทั่ง โลหะ และ มันก็เป็นฉลามที่กินอาหารหลากหลายกว่าชนิดอื่นไหนๆ เพราะแบบนี้ มันเลยมีฉายา ว่า ถังขยะแห่งท้องทะเล (Garbage can of the sea) มีการพบว่า มันกินได้แม้กระทั่ง ป้ายทะเบียนรถ กระป๋องอลูมิเนียม ถ่านหินทั้งก้อน มะพร้าวทั้งลูก และ อีกมากมาย ซึ่งนี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยกับมัน เพราะเมื่อร่างกายมันตรวจเจอว่าสิ่งที่กินไปย่อยไม่ได้ ฉลามชนิดนี้ก็สามารถสำรอกสิ่งที่กินเข้าไปออกมาที่ปาก และ อาเจียนออก และ นี่คือเหตุผลที่มันมีความสุขกับการลองชิมทุกๆอย่างที่เจอ...
2. ฉลามขาว (Great white shark) - Carcharodon carcharias
ชีวิตในอาณานิคมแห่งการผสมพันธุ์ (Breeding colony) ของ แมวน้ำเฟอร์นิวซีแลนด์ (New Zealand fur seal) นั้นไม่ง่ายอย่างที่เห็น
มันมีบางอย่างที่คอยเฝ้าดู และ คอยรอ อยู่ตลอดเวลา
มันคืออสูรกายหนัก 3 ตัน ที่มีฟันอยู่มากกว่า 300 ซี่ และ มันก็ฉลาด
ด้วยสมองที่ยาวถึง 40 เซนติเมตร มันสามารถเรียนรู้ได้ไวกว่าแมวถึง 80 เท่าเสียอีก
มันคือฉลามที่โด่งดังที่สุดในโลก และ เป็น ปลานักล่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในท้องทะเล, ฉลามขาว
ฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่ มีจอเรตินาที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาฉลามทั้งหมด และ มันก็เป็นฉลามที่เห็นสีสันที่คมชัดที่สุด
และมันก็เป็นฉลามเพียงชนิดเดียวที่โผล่หัวขึ้นมาดูว่า เกิดอะไรขึ้นในโลกข้างบน ที่อยู่ไกลจากระยะสายตาใต้ทะเลของมัน
และมันก็เป็นฉลามที่ตรวจจับกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากเหยื่อได้ด้วย
1. ฉลามหัวค้อน (Hammerhead shark) - Family Sphyrnidae
เมื่อความมืดมิดมาถึง ปลาบางชนิดก็ซ่อนตัวเองจากสายตาที่หิวโหย ด้วยทราย
การลงไปอยู่ใต้พื้นเป็นผลกับทุกอย่าง ยกเว้น ฉลามที่เป็นอันดับ 1 ของเรา, ฉลามหัวค้อน
มันเป็นอันดับ 1 เพราะว่า หัวที่แปลกพิลึกของมันคือ ห้องสำหรับอุปกรณ์รับความรู้สึกที่ล้ำสมัยที่สุด ในบรรดาฉลาม
ตาของฉลามหัวค้อนห่างกัน 1 เมตร ทำมห้มันเห็นภาพแบบพาโนรามา (Panoramic view)
รูจมูก (Nostril) ของมันก็สามารถรับกลิ่นได้ดีมาก
และหัวค้อน ก็ทำให้มีพื้นที่ที่มากขึ้นสำหรับระบบตรวจหาไฟฟ้า นั่นหมายความว่า ฉลามสามารถตรวจตราพื้นทะเล สแกนหาสมบัตืที่ฝังอยู่ข้างใต้ จาก สัญญาณคลื่นไฟฟ้าที่สร้างโดยการเต้นของหัวใจปลาข้างล่าง
ยังมีการค้นพบอีกว่า พวกมันสามารถตรวจจับสนามแม่เหล็กโลกได้
จำตำแหน่งและมารวมตัวกันทุกปี
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ถ้าอยากให้ทำอีกก็บอกได้นะครับ
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=6JtYx4JYLuw
ปล. เมื่อวานทำตอนนึงไป 4 ชั่วโมงว่าจะเว้นซักพัก แต่วันนี้ว่างแทบทั้งวัน เลยจัดอีกซักตอนละกัน อิอิ