หลายคนคงมีแรงบันดาลใจในการวิ่งหลากหลายเหตุผล บางคนเพื่อสุขภาพ บางคนเพื่อลดความอ้วน บางคนซ้อมเพื่อไปแข่ง หรือเข้าร่วมงานวิ่ง หรือเหตุผลน่ารักๆ เช่น วิ่งตามคนที่แอบชอบ แบบนี้ก็คงจะเหนื่อยหน่อย แต่ในส่วนของ จขกท.
ลองวิ่งก็คงเพราะ อยากเลิกกับแฟน...
ต้องบอกก่อนว่า จขกท. คบกับแฟนมา 3 ปี ความสัมพันธ์ก็ราบรื่นดี มีทะเลาะกันบ้างเหมือนคนเป็นแฟนกันทั่วไป แบบไม่มีประเด็นเรื่องมือที่3
เรื่องที่เก็บมาทะเลาะก็เล็กน้อย แต่เชื่อมั้ยว่าคนเราจะแพ้ความจำเจนี่แหละ เราผ่านการทะเลาะมาได้ทุกครั้ง ใช้เวลาไม่นานในการกลับมาคุยกัน เรื่องเล็กน้อยที่ว่าคือ การที่แฟน จขกท. ชอบไปไหนไม่บอก ผิดนัด ผิดเวลา แล้วทำให้ จขกท. งอน ซึ่งมันก็เป็นธรรมดา แต่การงอนมันฝังใจ เพราะเราไม่เคยได้รับการขอโทษ เราต้องงอนเองหายเอง จนมันเรียกได้ว่าสะสม
จขกท. เริ่มพิจารณาตัวเองว่าทำไมเราถึงใส่ใจประเด็นเรื่องเวลานักหนา จะบอกหรือไม่บอกเรามันก็ไม่ได้ทำให้เรารักเค้าน้อยลงนี่หน่า เหมือนที่ผ่านมาเราเอาเวลาที่เหลือจากการทำงาน หรือเวลาที่ให้ครอบครัว ไปโฟกัสที่เค้าจนเกินไป เหมือนโลกทั้งใบมีเพียงเรา2 ซึ่งแบบ....มันน้ำเน่าและดูไม่ใช่ความรักที่ดีอะ ยิ่งเราทะเลาะกันบ่อยเท่าไหร่มันยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ แต่เหมือนแฟน จขกท. จะไม่ได้คิดแบบนั้น เค้าไม่รู้หรอกว่าเราคิดจะไปจากเค้า ด้วยเรื่องที่เค้าคิดว่ามันเล็กน้อยเนี่ยแหละ
เราเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกายมาก จริงๆขี้เกียจกับทุกอย่าง ชื่นชมคนวิ่ง คนออกกำลังกายนะ แต่ไม่เคยรู้สึกอยากทำตามอะ จนวันนึง (ซึ่งก็คือวันนี้) ที่ทะเลาะกันอีกครั้ง เลยรู้สึกว่า เฮ้ย!! ทำไมเราถึงยังอยู่ตรงนี้วะ อยู่เพื่อให้คนคนนึงทำลายความรู้สึกเราอะ อีก10ปี 20ปี มันก็เป็นแบบนี้แหละ เราก็เหมือนกันเลิกคิดมากไม่ได้หรอก นอกจากจะเลิกโฟกัสว่าแฟนไปไหน ทำอะไร ทำไมไม่บอก เข้าบ้านก็ผิดเวลา ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่ VDO Call ตามที่นัด... ถึงเวลาแล้วว่ามั้ย
ที่ต้องจัดการกับเรื่องนี้ เอาตัวเองออกมาก่อน เลยคิดว่าต้อง “วิ่ง” เอาเวลาไปออกกำลังกาย เหมือนที่แฟนชอบอ้าง แต่เราจะไม่อ้างหว่ะ เราจะวิ่งจริงๆ วิ่งจนกว่าจะไม่มีเวลาสนใจแฟน
เราจะวิ่งจนกว่า เราจะสามารถอยู่ได้โดยไม่สนใจอีกแล้วว่าแฟนจะทำอะไร เราคงต้องลองดูซักที
บางคนที่ได้อ่านอาจจะคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเลิกกับแฟนเลย... ก็ใช่แหละ แต่เราต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ อย่างน้อยการวิ่งมันคงทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น ดีกว่าเราจะเอาความรู้สึกไปผูกไว้ที่ใคร เราหวังแค่ว่า เราอยากจะเห็นตัวเองแข็งแรงขึ้นซักครั้ง
อยากวิ่งเพื่อเลิกกับแฟน
ลองวิ่งก็คงเพราะ อยากเลิกกับแฟน...
ต้องบอกก่อนว่า จขกท. คบกับแฟนมา 3 ปี ความสัมพันธ์ก็ราบรื่นดี มีทะเลาะกันบ้างเหมือนคนเป็นแฟนกันทั่วไป แบบไม่มีประเด็นเรื่องมือที่3
เรื่องที่เก็บมาทะเลาะก็เล็กน้อย แต่เชื่อมั้ยว่าคนเราจะแพ้ความจำเจนี่แหละ เราผ่านการทะเลาะมาได้ทุกครั้ง ใช้เวลาไม่นานในการกลับมาคุยกัน เรื่องเล็กน้อยที่ว่าคือ การที่แฟน จขกท. ชอบไปไหนไม่บอก ผิดนัด ผิดเวลา แล้วทำให้ จขกท. งอน ซึ่งมันก็เป็นธรรมดา แต่การงอนมันฝังใจ เพราะเราไม่เคยได้รับการขอโทษ เราต้องงอนเองหายเอง จนมันเรียกได้ว่าสะสม
จขกท. เริ่มพิจารณาตัวเองว่าทำไมเราถึงใส่ใจประเด็นเรื่องเวลานักหนา จะบอกหรือไม่บอกเรามันก็ไม่ได้ทำให้เรารักเค้าน้อยลงนี่หน่า เหมือนที่ผ่านมาเราเอาเวลาที่เหลือจากการทำงาน หรือเวลาที่ให้ครอบครัว ไปโฟกัสที่เค้าจนเกินไป เหมือนโลกทั้งใบมีเพียงเรา2 ซึ่งแบบ....มันน้ำเน่าและดูไม่ใช่ความรักที่ดีอะ ยิ่งเราทะเลาะกันบ่อยเท่าไหร่มันยิ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ แต่เหมือนแฟน จขกท. จะไม่ได้คิดแบบนั้น เค้าไม่รู้หรอกว่าเราคิดจะไปจากเค้า ด้วยเรื่องที่เค้าคิดว่ามันเล็กน้อยเนี่ยแหละ
เราเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกายมาก จริงๆขี้เกียจกับทุกอย่าง ชื่นชมคนวิ่ง คนออกกำลังกายนะ แต่ไม่เคยรู้สึกอยากทำตามอะ จนวันนึง (ซึ่งก็คือวันนี้) ที่ทะเลาะกันอีกครั้ง เลยรู้สึกว่า เฮ้ย!! ทำไมเราถึงยังอยู่ตรงนี้วะ อยู่เพื่อให้คนคนนึงทำลายความรู้สึกเราอะ อีก10ปี 20ปี มันก็เป็นแบบนี้แหละ เราก็เหมือนกันเลิกคิดมากไม่ได้หรอก นอกจากจะเลิกโฟกัสว่าแฟนไปไหน ทำอะไร ทำไมไม่บอก เข้าบ้านก็ผิดเวลา ติดต่อก็ไม่ได้ ไม่ VDO Call ตามที่นัด... ถึงเวลาแล้วว่ามั้ย
ที่ต้องจัดการกับเรื่องนี้ เอาตัวเองออกมาก่อน เลยคิดว่าต้อง “วิ่ง” เอาเวลาไปออกกำลังกาย เหมือนที่แฟนชอบอ้าง แต่เราจะไม่อ้างหว่ะ เราจะวิ่งจริงๆ วิ่งจนกว่าจะไม่มีเวลาสนใจแฟน
เราจะวิ่งจนกว่า เราจะสามารถอยู่ได้โดยไม่สนใจอีกแล้วว่าแฟนจะทำอะไร เราคงต้องลองดูซักที
บางคนที่ได้อ่านอาจจะคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องเลิกกับแฟนเลย... ก็ใช่แหละ แต่เราต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ อย่างน้อยการวิ่งมันคงทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น ดีกว่าเราจะเอาความรู้สึกไปผูกไว้ที่ใคร เราหวังแค่ว่า เราอยากจะเห็นตัวเองแข็งแรงขึ้นซักครั้ง