.... เพิ่งคบกันได้เดือนกว่าครับ ต่างฝ่ายต่างอกหักแล้วเจอคนที่จริงใจ ไม่คุยซ้อน ก็เลยตกลงคบกัน
แต่ดูไปเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวมากที่สุดครับ มองแต่ความต้องการ ประโยชน์ตัวเองฝ่ายเดียว
เขาเป็นหมอ รพ.เอกชน ใน กทม . มีธุรกิจร้านกาแฟ เป็นติวเตอร์กวดวิชา รายได้หลักแสน
แต่ผมเป็นเพียง นศ. ธรรมดาคนนึง อาจจะเพราะภาพลักษณ์หน้าตาถูกใจเขา
ไม่มีรายได้ครับ ได้งบจากทางบ้าน 5 - 6 พันต่อเดือน เรื่องมีอยู่ว่า ..
เขาขึ้นมาหาผมถึงเชียงใหม่ ก่อนจะขึ้นมาเขาให้ผมช่วยแนะนำร้านอาหาร โรงแรม
รถเช่าให้เขา ผมเลือกสรรค์อย่างดีและราคาคุ้มที่สุด เขาคะยั้นคะยอให้ผมค้างด้วย แต่ยังไม่มีอะไรกัน
ทั้งที่ผมไม่ได้เอ่ยปากเลย แต่คราวนี้ เขาขอหารทุกอย่าง เบ็ดเสร็จเฉลี่ยรวมแล้วอยู่ที่ 6 พัน / คนได้
ผมบอกไม่ไหวหรอก เขาเลยขอคิดแค่ค่าอาหาร ผมบอกไปว่า ได้ครับ แต่ขอสิ้นเดือนนะ มื้อนั้นตกคนละ 500
เขาเล่าว่า แฟนเก่าเขายืมเงินไปเที่ยวด้วยกันเป็นแสน เลยเข็ดหลาบ ผมว่าไม่จริงหรอก คงกรณีคล้ายๆกัน
แถมยังมองว่าเสี่ยงเอดส์อีก ทั้งที่ผมไม่ใช่คน

แต่พูดจาไม่ให้เกียรติผมแบบนี้ ของบางอย่างสั่งมากินไม่หมด
ผมช่วยกินจะให้หาร มันเกินไปไหมอ่ะครับ ล่าสุด เขามาทวงผมครับ เหตุคือ ขอสมทบค่าไดร์เป่าผม 300
เพราะมันราคา 1600 ผมเพิ่งได้เงินจากที่บ้าน ไม่กล้าขอเพิ่มและมีปากเสียงกัน ( ข้ามก็ได้ครับ ยาวเลย )
ข้อความดังนี้ครับ
.... ผม : ที่รักครับ ไดร์ 1600 เงินไม่พอ ขอสมทบสัก 300 ได้ไหมครับ
เขา : ไม่ต้องเลย ค่ากินอันเก่ายังไม่มาจ่ายเลย อดไปก่อน [ พี่อาบน้ำเสร็จละครับ ( อีก 1 ชม. ) ]
ผม : ครับไม่เป็นไร แต่เหมือนอันเก่าไม่ได้ติดนะ เพราะ ร้าน XXX พี่บอกเลี้ยงตอนเห็นผมเครียดในรถ
นอกนั้นก็อาหารในโรงแรม จะมีก็แต่ไวน์ที่ซื้อให้ กาแฟสันกำแพงด้วยอ่ะครับ เผื่อเราเข้าใจผิด
ผมออกไปก่อนนะครับ ดึกกว่านี้รถไม่มี ( ไปซื้อไดร์ )
เขา : ค่าอาหารแต่ละมื้อ เราไม่ช่วยพี่เลยเนอะ ไม่เป็นไรเอาที่เราสบายใจ ค้าบ เราไม่อยากทานเลย พี่สั่งคนเดียวเอางั้นละกัน
ชาที่นั่น เข้าใจ ไวน์นั่นก็เข้าใจ ( จริงๆ ขอแค่ไวน์นะ 150 เอง ) พี่ขอโทษละกันนะ
พี่ขอโทษละกันนะ พี่นอนก่อนนะครับ ฝันดีครับ ( 1 ชม. ต่อมา )
ผม : ครับ แต่อยากบอกให้รู้นะครับ จากที่ผมเคยสมาคมคลุกคลีกับนายทหารตำรวจชั้นนายพันนายพล คุณหญิงคุณนาย
เขาไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเลี้ยงข้าวครับ มากกว่านี้เฉียดหมื่นก็ยังมี ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็น่าแปลก
ที่แฟนจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้ แต่ถ้ามองว่าผมเป็นแมงดาเกาะก็ขอบอกก่อนนะครับ ว่าคนเปย์เป็นหมื่น
ไม่ได้ตัวได้ใจก็มี ผมจะคบใครสักคนไม่คิดปลอกลอกหรอก แต่ที่ผ่านๆมา เขาก็ไม่เคยเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้
และสำหรับบางคนผมยังเคยจัดการเงินตัวเอง เพื่อไปเที่ยวทำกิจกรรมกับเขาทั้งที่เขาไม่ได้ให้อะไร
การที่ผมขอไปวันนี้คิดว่าไม่ใช่เรื่องเหลือบาปกว่าแรงหรือมากเกินไป แฟนในนิยามสำหรับผม คือคอยช่วยเหลือกันและกัน
ไม่ใช่คบเพื่อเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาหรือไว้คอยบำเรอความใคร่ ถ้าคำพูดผมสำคัญพอก็จะจำได้ว่าผมเคยบอกจะช่วยงาน
ร้านกาแฟช่วงปิดเทอม นั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมมอบให้นอกจากความซื่อสัตย์ที่มีอยู่ ผมมองถึงเรื่องน้ำใจ
ความละเอียดอ่อนมากว่าเงินตราสิ่งของผลกำไร คงเพราะเราเติบโตหรือมีพื้นฐานอุปนิสัยต่างกัน
พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจเลือดที่ รพ. XXX ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อลบคำสบประมาทที่มองผม ราตรีสวัสดิ์ึครับ ( 23.00)
เขา : ขอโทษนะที่มองแบบนั้น ก็เพราะพี่เคยเจอมาแบบนั้น ถ้า XX ไม่ทำให้พี่เชื่อใจได้อย่างเต็มร้อย มันก็จะยังเป็นแบบนี้
พี่จดจำมันทั้งสิ่งดีและไม่ดีนั่นแหละ วันนี้ตั้งใจสอบละกันนะครับ ไม่อยากให้เรามาเครียดเรื่องนี้ ( 5.00 )
ผม : ส่งผลเลือดไป .... ถ้ามองในมุมสัจธรรม มันคือความเห็นประโยชน์ฝ่ายเดียวครับ เพราะมูลค่าทั้งหมดถือว่าน้อยมากกว่าสายรหัสเลี้ยง
เสียอีก ตรวจแล้วนะครับ คงมองผมในแง่บวกขึ้น ( 15.00 )
........
เขาโทรมาครับ ทำทีถามสารทุกข์ว่าวันนี้สอบเป็นไง ผมเลยจัดเต็มแล้วฉายซ้ำจากเมื่อคืน เพิ่มเติมคือเรื่องกังวล HIV
ผมบอกไปว่า ผมไม่โอเคที่พูดกับผมแบบนี้ เขามองว่าผมชอบคนพูดตรง เลยพูดตรง ผมตอบไปว่า พูดตรงกับไม่มีมารยาทต่างกัน
มันมีวิธีอ้อมได้มากกว่านี้เยอะ และมันไม่มีคนทำงานที่ไหนหรอก มันเก็บมาหารกับ นศ ทั้งที่ถามเขายังว่าเต็มใจไหมในการยัดเยียด
เขาบอกขอโทษที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ผมตัดบท บอกไปว่าอยู่ รพ.คนเยอะค่อยคุย
เขากระแทกเสียงอยากคุยก็โทรมา ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องโทร แล้วแชตมาหาผมอีก
.........
เขา : อยากจะคุยก็โทรมา ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรครับ เดินทางกลับดีดีละกัน
ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
ผม : ประโยคที่พิมพ์จะสื่อถึงอะไรครับ ขอโทษที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี แต่พี่ก็รู้สึกไม่ดี แสดงว่าผมทำให้รู้สึกไม่ดี
อยากให้ขอโทษกลับหรือจะสื่อว่าตัวเองไม่ผิดครับ ตามนัยประโยคนะ
เขา : ไม่เข้าใจ ครับถ้าจะหาเรื่องตลอดก็พอเหอะปวดหัว พี่ไม่ได้คิดเป็นนัยอะไรแบบเรา ไม่ได้คิดซับซ้อนด้วย
ผม : ยังไม่จบหรอครับ ?
เขา : ถ้าจะคิดก็คิดไปเถอะ คิดเองละกันว่าพูดแล้วน่าจบไหม พี่ขอนอนพักก่อนนะครับ วันนี้ตรวจเยอะมาก
ยังต้องมาปวดหัวอีกครับ อ่อไม่ต้องกังวลนะ พี่ปวดหัวเพราะพี่เองละ เราไม่ต้องพูดอะไรให้คิดมากกว่านี้ก็พอละครับ
ผม : ผมหยุดประโยคละนะ
เขา : ครับ งั้นพี่ก็จบแค่นี้ครับ ไปอ่านหนังสือต่อนะครับ ( 18.00 ) จะสอบพรุ่งนี้ละ สู้ๆครับ พี่จะพยายามปรับความคิดนะ ( สติ๊กเกอร์หัวใจ )
พี่ไปทานขนมก่อนนะครับ
ผม : ครับผม
เขา : ขอโทษนะครับ รักนะ ( 18.04 ) ตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ นอนก่อนนะครับ ( สติ๊กเกอร์ Good Night ) 21.21
ผม GN. ครับ
มีใครเจอปัญหาแบบนี้ครับ คุณยังไปต่อกันไหม ผมมองว่าไม่สปอร์ตเลย มันมูลค่าไม่ได้มาก ไม่ให้ไม่เป็นไร ผมขอที่บ้านได้
แต่มาทวงเล็กทวงน้อย ทั้งที่คุณให้เอง มันน่าคิดเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าจบเกียรตินิยมแพทย์สถาบันชั้นนำ
ครอบครัวก็ต่างเป็นหมอทั้งบ้าน แต่เขาจะมีความคิดแคบๆ ไม่รู้จักให้ เห็นแต่ผลกำไร เถียงเอาชนะเหมือนเด็กแบบนี้
อายุก็ปา ไป 33 แล้ว ขอบคุณนะครับ สำหรับคำตอบ
แฟนไม่สปอร์ต เห็นแก่ตัว ปรึกษาครับ ( ชช )
แต่ดูไปเขาเป็นคนเห็นแก่ตัวมากที่สุดครับ มองแต่ความต้องการ ประโยชน์ตัวเองฝ่ายเดียว
เขาเป็นหมอ รพ.เอกชน ใน กทม . มีธุรกิจร้านกาแฟ เป็นติวเตอร์กวดวิชา รายได้หลักแสน
แต่ผมเป็นเพียง นศ. ธรรมดาคนนึง อาจจะเพราะภาพลักษณ์หน้าตาถูกใจเขา
ไม่มีรายได้ครับ ได้งบจากทางบ้าน 5 - 6 พันต่อเดือน เรื่องมีอยู่ว่า ..
เขาขึ้นมาหาผมถึงเชียงใหม่ ก่อนจะขึ้นมาเขาให้ผมช่วยแนะนำร้านอาหาร โรงแรม
รถเช่าให้เขา ผมเลือกสรรค์อย่างดีและราคาคุ้มที่สุด เขาคะยั้นคะยอให้ผมค้างด้วย แต่ยังไม่มีอะไรกัน
ทั้งที่ผมไม่ได้เอ่ยปากเลย แต่คราวนี้ เขาขอหารทุกอย่าง เบ็ดเสร็จเฉลี่ยรวมแล้วอยู่ที่ 6 พัน / คนได้
ผมบอกไม่ไหวหรอก เขาเลยขอคิดแค่ค่าอาหาร ผมบอกไปว่า ได้ครับ แต่ขอสิ้นเดือนนะ มื้อนั้นตกคนละ 500
เขาเล่าว่า แฟนเก่าเขายืมเงินไปเที่ยวด้วยกันเป็นแสน เลยเข็ดหลาบ ผมว่าไม่จริงหรอก คงกรณีคล้ายๆกัน
แถมยังมองว่าเสี่ยงเอดส์อีก ทั้งที่ผมไม่ใช่คน
ผมช่วยกินจะให้หาร มันเกินไปไหมอ่ะครับ ล่าสุด เขามาทวงผมครับ เหตุคือ ขอสมทบค่าไดร์เป่าผม 300
เพราะมันราคา 1600 ผมเพิ่งได้เงินจากที่บ้าน ไม่กล้าขอเพิ่มและมีปากเสียงกัน ( ข้ามก็ได้ครับ ยาวเลย )
ข้อความดังนี้ครับ
.... ผม : ที่รักครับ ไดร์ 1600 เงินไม่พอ ขอสมทบสัก 300 ได้ไหมครับ
เขา : ไม่ต้องเลย ค่ากินอันเก่ายังไม่มาจ่ายเลย อดไปก่อน [ พี่อาบน้ำเสร็จละครับ ( อีก 1 ชม. ) ]
ผม : ครับไม่เป็นไร แต่เหมือนอันเก่าไม่ได้ติดนะ เพราะ ร้าน XXX พี่บอกเลี้ยงตอนเห็นผมเครียดในรถ
นอกนั้นก็อาหารในโรงแรม จะมีก็แต่ไวน์ที่ซื้อให้ กาแฟสันกำแพงด้วยอ่ะครับ เผื่อเราเข้าใจผิด
ผมออกไปก่อนนะครับ ดึกกว่านี้รถไม่มี ( ไปซื้อไดร์ )
เขา : ค่าอาหารแต่ละมื้อ เราไม่ช่วยพี่เลยเนอะ ไม่เป็นไรเอาที่เราสบายใจ ค้าบ เราไม่อยากทานเลย พี่สั่งคนเดียวเอางั้นละกัน
ชาที่นั่น เข้าใจ ไวน์นั่นก็เข้าใจ ( จริงๆ ขอแค่ไวน์นะ 150 เอง ) พี่ขอโทษละกันนะ
พี่ขอโทษละกันนะ พี่นอนก่อนนะครับ ฝันดีครับ ( 1 ชม. ต่อมา )
ผม : ครับ แต่อยากบอกให้รู้นะครับ จากที่ผมเคยสมาคมคลุกคลีกับนายทหารตำรวจชั้นนายพันนายพล คุณหญิงคุณนาย
เขาไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเลี้ยงข้าวครับ มากกว่านี้เฉียดหมื่นก็ยังมี ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ก็น่าแปลก
ที่แฟนจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนี้ แต่ถ้ามองว่าผมเป็นแมงดาเกาะก็ขอบอกก่อนนะครับ ว่าคนเปย์เป็นหมื่น
ไม่ได้ตัวได้ใจก็มี ผมจะคบใครสักคนไม่คิดปลอกลอกหรอก แต่ที่ผ่านๆมา เขาก็ไม่เคยเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้
และสำหรับบางคนผมยังเคยจัดการเงินตัวเอง เพื่อไปเที่ยวทำกิจกรรมกับเขาทั้งที่เขาไม่ได้ให้อะไร
การที่ผมขอไปวันนี้คิดว่าไม่ใช่เรื่องเหลือบาปกว่าแรงหรือมากเกินไป แฟนในนิยามสำหรับผม คือคอยช่วยเหลือกันและกัน
ไม่ใช่คบเพื่อเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาหรือไว้คอยบำเรอความใคร่ ถ้าคำพูดผมสำคัญพอก็จะจำได้ว่าผมเคยบอกจะช่วยงาน
ร้านกาแฟช่วงปิดเทอม นั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมมอบให้นอกจากความซื่อสัตย์ที่มีอยู่ ผมมองถึงเรื่องน้ำใจ
ความละเอียดอ่อนมากว่าเงินตราสิ่งของผลกำไร คงเพราะเราเติบโตหรือมีพื้นฐานอุปนิสัยต่างกัน
พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจเลือดที่ รพ. XXX ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อลบคำสบประมาทที่มองผม ราตรีสวัสดิ์ึครับ ( 23.00)
เขา : ขอโทษนะที่มองแบบนั้น ก็เพราะพี่เคยเจอมาแบบนั้น ถ้า XX ไม่ทำให้พี่เชื่อใจได้อย่างเต็มร้อย มันก็จะยังเป็นแบบนี้
พี่จดจำมันทั้งสิ่งดีและไม่ดีนั่นแหละ วันนี้ตั้งใจสอบละกันนะครับ ไม่อยากให้เรามาเครียดเรื่องนี้ ( 5.00 )
ผม : ส่งผลเลือดไป .... ถ้ามองในมุมสัจธรรม มันคือความเห็นประโยชน์ฝ่ายเดียวครับ เพราะมูลค่าทั้งหมดถือว่าน้อยมากกว่าสายรหัสเลี้ยง
เสียอีก ตรวจแล้วนะครับ คงมองผมในแง่บวกขึ้น ( 15.00 )
........
เขาโทรมาครับ ทำทีถามสารทุกข์ว่าวันนี้สอบเป็นไง ผมเลยจัดเต็มแล้วฉายซ้ำจากเมื่อคืน เพิ่มเติมคือเรื่องกังวล HIV
ผมบอกไปว่า ผมไม่โอเคที่พูดกับผมแบบนี้ เขามองว่าผมชอบคนพูดตรง เลยพูดตรง ผมตอบไปว่า พูดตรงกับไม่มีมารยาทต่างกัน
มันมีวิธีอ้อมได้มากกว่านี้เยอะ และมันไม่มีคนทำงานที่ไหนหรอก มันเก็บมาหารกับ นศ ทั้งที่ถามเขายังว่าเต็มใจไหมในการยัดเยียด
เขาบอกขอโทษที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ผมตัดบท บอกไปว่าอยู่ รพ.คนเยอะค่อยคุย
เขากระแทกเสียงอยากคุยก็โทรมา ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องโทร แล้วแชตมาหาผมอีก
.........
เขา : อยากจะคุยก็โทรมา ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไรครับ เดินทางกลับดีดีละกัน
ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี แต่ก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
ผม : ประโยคที่พิมพ์จะสื่อถึงอะไรครับ ขอโทษที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดี แต่พี่ก็รู้สึกไม่ดี แสดงว่าผมทำให้รู้สึกไม่ดี
อยากให้ขอโทษกลับหรือจะสื่อว่าตัวเองไม่ผิดครับ ตามนัยประโยคนะ
เขา : ไม่เข้าใจ ครับถ้าจะหาเรื่องตลอดก็พอเหอะปวดหัว พี่ไม่ได้คิดเป็นนัยอะไรแบบเรา ไม่ได้คิดซับซ้อนด้วย
ผม : ยังไม่จบหรอครับ ?
เขา : ถ้าจะคิดก็คิดไปเถอะ คิดเองละกันว่าพูดแล้วน่าจบไหม พี่ขอนอนพักก่อนนะครับ วันนี้ตรวจเยอะมาก
ยังต้องมาปวดหัวอีกครับ อ่อไม่ต้องกังวลนะ พี่ปวดหัวเพราะพี่เองละ เราไม่ต้องพูดอะไรให้คิดมากกว่านี้ก็พอละครับ
ผม : ผมหยุดประโยคละนะ
เขา : ครับ งั้นพี่ก็จบแค่นี้ครับ ไปอ่านหนังสือต่อนะครับ ( 18.00 ) จะสอบพรุ่งนี้ละ สู้ๆครับ พี่จะพยายามปรับความคิดนะ ( สติ๊กเกอร์หัวใจ )
พี่ไปทานขนมก่อนนะครับ
ผม : ครับผม
เขา : ขอโทษนะครับ รักนะ ( 18.04 ) ตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ นอนก่อนนะครับ ( สติ๊กเกอร์ Good Night ) 21.21
ผม GN. ครับ
มีใครเจอปัญหาแบบนี้ครับ คุณยังไปต่อกันไหม ผมมองว่าไม่สปอร์ตเลย มันมูลค่าไม่ได้มาก ไม่ให้ไม่เป็นไร ผมขอที่บ้านได้
แต่มาทวงเล็กทวงน้อย ทั้งที่คุณให้เอง มันน่าคิดเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าจบเกียรตินิยมแพทย์สถาบันชั้นนำ
ครอบครัวก็ต่างเป็นหมอทั้งบ้าน แต่เขาจะมีความคิดแคบๆ ไม่รู้จักให้ เห็นแต่ผลกำไร เถียงเอาชนะเหมือนเด็กแบบนี้
อายุก็ปา ไป 33 แล้ว ขอบคุณนะครับ สำหรับคำตอบ